Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 816

ตอนที่ 816

บทที่ 816 ผู้หญิงก็ต้องอยากเก็บส่วนตัวไว้บ้าง

เวินจิ้งตื่นสายในวันรุ่งขึ้น หนำซ้ำตื่นด้วยเสียงร้องไห้ของเวินซิน

เธอนวดขมับเบาๆ ฤทธิ์เหล้านั้นช่างแรงจริงๆ

คนรับใช้อุ้มเวินซินยืนอยู่ที่หน้าประตู ถึงกับรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นเวินจิ้งเดินออกมา

“คุณเวิน คุณตื่นแล้วเหรอคะ”

เวินจิ้งยิ้มขึ้น แล้วรับตัวเวินซินมาอุ้มไว้ เด็กคนนี้ตั้งแต่เกิดมาก็ติดเธอหนักมาก ไม่ยอมเอาใครเลย ทำให้เธอถึงกับปวดหัวเล็กน้อย

อุ้มเวินซินแล้วออกจากห้องไป เป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว มู่วี่สิงยังคงอยู่ที่ห้องอาหาร สายตาจดจ่ออยู่กับแท็บเล็ตที่อยู่ตรงหน้า

เวินจิ้งนั่งลงและสนใจแต่ป้อนอาหารให้เวินซิน ไม่ได้สนใจมู่วี่สิงแต่อย่างใด ทำให้ใครบางคนถึงกับลนลาน

“จิ้งจิ้ง”

เวินจิ้งมองเขาด้วยรอยยิ้ม “มีอะไรเหรอคะ คุณหมอมู่”

ชายหนุ่มมองเธอที่ลักษณะท่าทางไม่รู้สึกรู้สา จึงพูดอย่างจนปัญญาว่า “ผมไม่ได้ไปทำงาน ก็เพื่อทำอาหารกลางวันให้คุณ คุณจะไม่ขอบคุณผมสักคำเหรอ”

เวินจิ้งก้มหน้าก้มตาทานซี่โครงหมู กะพริบตาแล้วพูดขึ้น “คุณรับของขวัญราคาแพงของฉัน คุณยังไม่ขอบคุณฉันเลย”

เพราะที่ปากยังเคี้ยวอาหารอยู่ เวลาเธอพูดจึงไม่ชัดถ้อยชัดคำ

สีหน้ามู่วี่สิงถึงกับถอดสี “จิ้งจิ้ง ของที่คุณจะให้ผมทำไมต้องบอกว่าให้ลู่เซิ่นด้วย คุณจะบอกให้ผมโดยตรงไม่ได้เหรอ เสื้อของผมเกือบถูกป้าหลี่บริจาคไปพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว”

ใบหน้าชายหนุ่มที่เห็นได้ชัดว่าอยู่ในความโกรธ ลูกตาดำของเวินจิ้งกลิ้งกลอกไปมา วางเวินซินลง เดินอ้อมมานั่งลงข้างๆเขา แล้วคีบซี่โครงหมูป้อนเข้าปากเขา “โถ อย่าอารมณ์เสียแต่เช้าสิ ไม่ดีต่อสุขภาพนะ ทานซี่โครงหมูหน่อยอารมณ์จะได้ดีขึ้น”

ความจริงมู่วี่สิงก็ไม่ได้โกรธจริงๆ เพียงแค่เวินจิ้งให้ความสนแต่เวินซินทำให้เขาน้อยใจก็เท่านั้นเอง

เขาก้มลงทานซี่โครงหมูอย่างเชื่อฟัง เวินจิ้งถึงกับยิ้มขึ้นแล้วกลับไปที่นั่งเดิม พูดช้าๆว่า “นี่จะโทษฉันไม่ได้นะ คุณนั่นแหละที่สมควรโดน”

ดวงตาชายหนุ่มที่ลุ่มลึกได้หรี่ขึ้น “เวินจิ้ง”

อะไรคือสมควรโดน

สีหน้าเวินจิ้งค่อยๆบึ้งตึงขึ้น “คุณยังกล้ามาพูดอีก ฉันก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น คุณยังใช้ความคิดอุบาทว์มาคาดเดาฉันเลย ถ้าคุณไม่คิดไปเองว่าฉันเป็นผู้หญิงหลายใจ คุณก็คงไม่ต้องนั่งงอนอยู่แบบนี้ นี่ฉันยังไม่โกรธคุณด้วยซ้ำนะ”

เวินจิ้งตำหนิอย่างไม่พอใจ มู่วี่สิงถึงกับตกใจ

ไม่พูดถึงก็ดีอยู่แล้ว พอพูดขึ้นมาเธอก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจ “ฉันใช้เงินของคุณซื้อเครื่องลายครามที่แพงขนาดนั้นให้อดีตสามีของฉัน สมองของฉันยังไม่เลอะเลือนนะ ฉันจะทำเรื่องที่ไร้หัวใจแบบนั้นได้อย่างไร อีกอย่างฉันจะพาผู้ชายอีกคนเพื่อไปเลือกซื้อเสื้อให้ผู้ชายอีกคนได้อย่างไร ฉันไม่ได้โง่นะ”

เธอกัดซี่โครงหมูอย่างดุเดือด ราวกับว่ากำลังระบายอารมณ์โกรธ ที่เขาโกรธเพียงนี้ก็เพราะหาเรื่องเองแท้ๆ ใครใช้ให้เขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดีเล่า

เวินซินที่นั่งกะพริบตาที่กลมโตอยู่ข้างๆมองพวกเขาสองคนด้วยสีหน้างุนงง

มู่วี่สิงมองดูหญิงสาวที่สีหน้าบึ้งตึง อะไรจะน่ารักสดใสเช่นนั้น ผมตรงยาวเงาสลวย แก้มขาวเนียน ความตุ้ยนุ้ยเมื่อหลายปีก่อนได้ลดลงไม่น้อย ทำให้รูปร่างเข้ารูปดูดีขึ้น

เขาจ้องมองเธอที่ท่าทีโมโห แล้วป้อนนมให้ เวินซินอย่างระมัดระวัง จิตใจจึงเย็นลงในทันใด

เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า เธออาจจะทำถูกที่ทิ้งเขาไปเมื่อปีก่อน และก็ไม่เสียแรงเปล่าที่เขารอเธอมาโดยตลอด

ตอนนั้นเธอมีบาดแผลเต็มตัว ถึงแม้จะฝืนอยู่ต่อเพราะความรู้สึกผิดที่มีต่อเขาหรือเพราะความรัก เธอก็คงไม่ใช่เวินจิ้งที่สดใสในตอนนี้

การแยกจากกันสองครั้งของพวกเขา ทำให้เกิดความเจ็บปวด ดังนั้นการเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้ พวกเขาจึงสามารถเข้ากันได้อย่างไม่มีข้อแม้ เหมือนกับว่าให้เรื่องราวที่ผ่านมาให้มันผ่านไป

บางทีตอนนี้อาจเป็นตอนจบที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา

ในตอนกลางวันเวินจิ้งอยากพาเวินซินออกไปเดินเล่น มู่วี่สิงเสนอให้ไปสวนสนุก ถึงแม้ว่าเวินซินจะยังเล็ก แต่ว่าเมื่อได้ยินมู่วี่สิงพูดถึงสวนสนุกแววตาเธอก็เปล่งประกายขึ้น เวินจิ้งก็เห็นด้วยเช่นกัน

เธอกลับห้องไปเปลี่ยนชุด มู่วี่สิงก็เดินตามเข้ามาด้วยเช่นกัน เขาหยิบผืนผ้าพันคอมาพันให้เวินจิ้ง แล้วจัดให้เข้าที่พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้างนอกมันหนาว เดี๋ยวจะไม่สบาย”

เวินจิ้งไม่ได้ใส่ใจคำพูดของมู่วี่สิงแต่อย่างใด “ทราบแล้ว”

มู่วี่สิงขับรถด้วยตัวเอง ขณะที่เวินจิ้งนั่งอุ้มเวินซินอยู่ที่เบาะที่นั่งข้างคนขับ วันนี้เวินซินเป็นเด็กดี ไม่งอแง ไม่ร้องไห้ ยิ้มตาหยีมองมู่วี่สิงตลอดทาง

แววตาเวินจิ้งเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู

แต่หลังจากที่ขับรถไปได้สักพัก เวินจิ้งสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง “สวนสนุกอยู่ทางนี้เหรอ ทำไมฉันรู้สึกว่าไม่ใช่เส้นทางนี้ล่ะ”

“ผมหนาวจัง” มู่วี่สิงพูดอย่างใจเย็น

เวินจิ้งที่ยังไม่รู้ตัว มองไปทางชายหนุ่มที่ใส่เพียงเสื้อเชิ้ตเพียงตัวเดียว ขมวดคิ้ว “ใครใช้ให้คุณอยากทำตัวเท่ใส่เสื้อเพียงตัวเดียวล่ะ สมน้ำหน้า”

ถึงแม้ว่าจะพูดเช่นนี้ออกไป แต่เธอก็หยิบกระเป๋าที่อยู่เบาะหลัง เธอจำได้ว่าในนั้นมีเสื้อกันหนาวอยู่หนึ่งตัว

“คุณจอดรถแล้วใส่เสื้อก่อน”

มู่วี่สิงเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง พูดด้วยสีหน้าขรึมว่า “คอผมหนาว”

“คอหนาวเหรอ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว หางตาเหลือบเห็นถนนที่คุ้นเคย ตกใจค้าง ในที่สุดถึงได้รู้ตัว

เธอยิ้มอย่างหงุดหงิด พูดด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “คุณไม่ชอบใส่ผ้าพันคอด้วยสิ ทำอย่างไรดีล่ะ”

ตอนที่เธอบอกว่าซื้อให้ลู่เซิ่นนั้น เขามีสีหน้าที่รังเกียจด้วยซ้ำ

หุหุ รับผลแห่งการกระทำไปละกัน

รถคาเยนน์ได้มาหยุดตรงร้านเสื้อผ้าผู้ชายร้านนั้น เวินจิ้งเข็นรถเข็นเด็กพร้อมกับเวินซินเดินตามอยู่ด้านหลัง

เมื่อเดินเข้ามา ผ้าพันคอสีข้าวโอ๊ตผืนนั้นยังคงแขวนห้อยอยู่ตรงนั้น

มู่วี่สิงจึงพูดขึ้นกับเธอว่า “ซื้อสิ”

เวินจิ้ง:…..

เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่มู่วี่สิงพูด จึงหันไปพูดกับพนักงานว่า “รบกวนหยิบผ้าพันคอผืนนั้นมาให้ดิฉันหน่อยค่ะ”

“ต้องการให้ใส่ถุงไหมคะ” พนักงานถามอย่างสุภาพ

เวินจิ้งส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ คุณหยิบมาให้ดิฉันก็พอ”

เมื่อรับผ้าพันคอมาแล้ว เธอก็หันกลับไปหาชายหนุ่มรูปงาม “มู่วี่สิง คุณจะอึ้งอยู่ทำไม ไปจ่ายตังค์สิ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “คุณจะซื้อผ้าพันคอให้ผม ทำไมต้องให้ผมจ่ายตังค์ล่ะ”

เวินจิ้งนิ่วหน้า ไม่เข้าใจความหมายของมู่วี่สิง ปกติเธอซื้อของทีไรเขาก็จะรีบแย่งจ่ายเงินให้ทุกที เธอหยิบป้ายราคาขึ้นมาดู ถึงกับยิ้มไม่ออก มีเลขศูนย์หลายตัวเลย!

เธอมุ่ยปากแล้วพูดอย่างออดอ้อนว่า “แพงจังเลย บัตรของฉันรูดจนจะหมดแล้ว”

เธอตอนนี้ไม่ได้ขอเงินพี่ชายกับทางบ้านแล้ว ใช้แต่เงินเดือนของตัวเอง ครั้งก่อนที่ซื้อเสื้อผ้าให้เขาชุดนั้น เงินออมของเธอแทบจะไม่เหลือแล้ว

“หมดก็หมดสิ รีบไปรูดเร็ว อย่าทำให้เวินซินต้องเสียเวลา”

เวินจิ้งยิ่งหน้านิ่วขึ้น อะไรคือหมดก็หมดสิ…..

ผู้ชายคนนี้นิ…..

“หรือคุณไม่ได้พกตังค์มา”

ผ้าพันคอผืนนี้สำหรับเขาขนหน้าแข้งคงไม่ร่วง แต่สำหรับเธอ…..ผู้หญิงก็ต้องอยากเก็บส่วนตัวไว้บ้างสิ!

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท