Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 819

ตอนที่ 819

บทที่ 819 ตอนนี้คุณอย่ามารบกวนผม

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ใบหน้าที่จิ้มลิ้มยังคงยิ้มจางๆ “ฉันไม่เป็นไร คุณอย่าได้เป็นห่วงเลย”

ทันใดนั้น เหมือนเธอคิดอะไรบางอย่างได้ จึงถามอย่างเป็นห่วงว่า “ซินซินล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง เธอปลอดภัยใช่ไหม”

“ไม่ต้องเป็นห่วง เธอปลอดภัยดี…..”

มู่วี่สิงยังไม่ทันพูดจบ ก็มีคนมาเคาะประตูห้อง

ชายหนุ่มรูปงามขายาวก้าวเข้ามา มีหญิงสาวนิ่งสงบอ่อนโยนเดินตามหลัง

เวินซินถูกกอดไว้ในอ้อมแขนดวงตาสดใสกะพริบไปมา ที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นอะไร

เวินจิ้งมองคนทั้งสองที่เข้ามาหาอย่างกะทันหัน “พี่กับพี่สะใภ้ พวกพี่กลับมาแล้วหรอ”

เวยอานเดินไปที่ข้างเตียง ขมวดคิ้วขึ้น แล้วโน้มตัวไปดูบาดแผลบนร่างกายของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและเป็นห่วง “พี่เธอรู้ว่าเธอเกิดอุบัติเหตุจึงรีบกลับมาดู เป็นยังไงบ้าง โอเคหรือเปล่า”

เวินจิ้งยิ้มขึ้นพูดว่า “หนูไม่เป็นไรค่ะ แค่รู้สึกหิวนิดหน่อย”

เวยอานจึงพูดขึ้นทันที “อย่างนั้นพี่จะไปซื้อโจ๊กร้อนๆมาให้เธอ”

หลินยี่วางเวินซินลงข้างๆเตียงผู้ป่วยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แววตาเป็นห่วง “เสี่ยวจิ้ง เกิดอะไรขึ้น”

เวินจิ้งยังไม่ทันได้ตอบ หลินยี่ก็ละสายตาไปทางอื่น แววตาเชือดเฉือนมองไปทางชายหนุ่มที่อยู่ข้างเตียง “มู่วี่สิง คุณปกป้องน้องสาวของผมแบบนี้เหรอ เธอเกิดอุบัติเหตุในอาณาเขตของคุณ คุณยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า

บรรยากาศรอบข้างอึมครึมขึ้นทันที ยังไม่เคยมีใครกล้าพูดกับมู่วี่สิงแบบนี้มาก่อน เวินจิ้งจึงอ้าปากพูดขึ้นทันใด “พี่คะ ไม่เกี่ยวกับเขาเลยค่ะ”

เวยอานก็ค่อยๆดึงชายเสื้อหลินยี่เบาๆ ให้เขาสงบสติอารมณ์โกรธลง

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ความจำที่เลือนรางค่อยๆกลับคืนมาทีละนิดๆ “หนูรู้สึกว่าคนที่ชนหนูคือหลิงเหยา”

เธอจำได้ตอนที่รถคันสีขาวคันนั้นพุ่งชนเข้ามา เธอมองเห็นรางๆ

แม้ว่าหลิงเหยาจะใส่แว่นกันแดดผูกผ้าพันคอ แต่ว่าเขาทั้งสองเคยพักหอเดียวกัน สนิทกันอย่างพี่น้อง แวบแรกก็ดูออกได้ทันที

หลิงเหยา

สายตาหลินยี่เหยียดหยามด้วยความเยือกเย็น แววตาจ้องมองมู่วี่สิงอย่างเย็นชา “เธอยังติดอยู่ในคุกไม่ใช่เหรอ”

มู่วี่สิงเฉยชาต่อการกล่าวโทษและอารมณ์โกรธของหลินยี่ ทำเพียงก้มหน้าลงจูบหน้าผากเวินจิ้งอย่างอ่อนโยน ถามด้วยเสียงแหบพร่า “อยากทานอะไรเดี๋ยวผมไปซื้อให้”

เวินจิ้งเหลือบมองพี่ชายที่ยังคงโกรธ พูดเสียงเบาๆ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้พี่สะใภ้ซื้อโจ๊กให้ก็พอ”

เวยอานหันหลังลุกขึ้นเพื่อจะออกไป แต่เธอก็โอ๋เวินซินก่อนที่จะออกไป

เวินจิ้งมองเวยอานแวบหนึ่ง และก็หันมามองพี่ชาย ไม่ทราบว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาสองคน เวยอานดูเหมือนจะเอ็นดูเวินซินมากกว่าเดิม

มู่วี่สิงลุกยืนขึ้นแล้วมองหลินยี่เบาๆ แล้วก็เดินออกไปก่อน สายตาคู่นั้นสื่อความหมายให้อย่างชัดเจน

หลินยี่กำชับเวยอาน “พวกเรามีเรื่องที่ต้องจัดการ คุณอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวจิ้งก่อนนะ”

เวยอานยิ้มรับ “ได้สิ ไม่ต้องเป็นห่วง”

สายตามองพี่ชายที่ออกไปแล้ว สีหน้าเวินจิ้งดูไม่ค่อยดี พูดด้วยความเป็นห่วง “พี่สะใภ้คะ พวกเขาคงไม่ทะเลาะกันใช่ไหม”

สองคนนี้ดูไม่ลงรอยกันมาไหนแต่ไร ยังเคยถึงขึ้นเอาชีวิตกันเลย

เวยอานกลับไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เนื่องด้วยมีเวินจิ้งคั่นอยู่ระหว่างตรงกลาง เธอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “อย่าได้เป็นห่วงเลย พี่เธอรู้ว่าอะไรควรไม่ควร”

เวินจิ้งมุ่ยปาก การขยับบางครั้งก็ส่งผลให้บาดแผลได้รับความเจ็บปวด เธอจ้องมองไปที่ประตูห้องผู้ป่วยตลอดเวลา แล้วพูดขึ้นด้วยความพะวงว่า “เมื่อกี้หนูเพิ่งบอกกับเขาไปว่า ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไรก็จะไปจดทะเบียนสมรสทันที ถ้าหากหนูหายดีแล้ว แต่มู่วี่สิงกลับต้องได้รับบาดเจ็บมีบาดแผล ทีนี้จะทำยังไงดี”

เวยอานชะงัก สักพักก็ยิ้มออกมา “อย่างนั้นพี่จะออกไปหาพี่ชายเธอ บอกให้เขาออมมือหน่อยดีไหม”

เวินจิ้งกัดริมฝีปากตัวเอง แล้วส่ายหน้าทันที “ช่างเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่ก็ต้องหาว่าหนูนั้นลำเอียงอีก”

“พี่จะไปซื้อโจ๊กมาให้เธอ เธออยากกินโจ๊กอะไร”

“หนูหิวจะตายแล้ว โจ๊กอะไรก็ได้ค่ะ” เวินจิ้งที่หน้าตาน่าสงสาร “ขอบคุณพี่สะใภ้นะคะ”

ชายหนุ่มรูปงามทั้งสองคนยืนอยู่ที่ระเบียงทางเดิน คนหนึ่งดูมีออร่าแต่เย็นชา อีกคนใบหน้าอ่อนโยนแต่น่ากลัว ภายใต้รอยยิ้มที่แอบแฝงด้วยความเยือกเย็น

ทันใดนั้น เสียงสั่นของโทรศัพท์ได้ดังขึ้น หลินยี่เหลือบมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเปิดอ่านข้อความล่าสุด : เสี่ยวจิ้งบอกไม่อยากไปจดทะเบียนสมรสโดยที่มู่วี่สิงมีบาดแผลบนตัว คุณคิดเองว่าควรทำอย่างไรต่อดี

เสียงฮึอุทานขึ้นอย่างเย็นชา หลินยี่ทั้งขำทั้งโกรธ น้องสาวคนนี้ช่างแน่นัก เขาโกรธขนาดนี้ก็เพราะเป็นห่วงเธอไม่ใช่หรือ แต่ไฉนเธอยังกล้าคิดถึงแต่มู่วี่สิง

เมื่อวางโทรศัพท์ลง เขาจึงพูดขึ้นช้าๆ “คุณต้องให้คำตอบเรื่องนี้กับผม”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว พูดเบาๆ “ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ได้”

ความหมายก็คือไม่ต้องการให้หลินยี่เข้ามาแทรกแซง

มู่วี่สิงพูดต่ออย่างสีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ “เธอตอบตกลงจะแต่งงานใหม่กับผมอีกครั้ง เมื่อเธอออกจากโรงพยาบาลพวกเราก็จะจดทะเบียนสมรสแล้วจัดพิธีแต่งงาน ต่อไปผมจะรับผิดชอบชีวิตเธอ คุณแค่ดูแลลูกสาวตัวเองให้ดีๆแล้วมาเข้าร่วมพิธีงานแต่งของพวกเราก็พอ”

เมื่อพูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินจากไป ราวกับว่าที่เรียกเขาออกมาก็เพื่อจะพูดเรื่องนี้เท่านั้น

หลินยี่ยิ้มเยาะขึ้น “มู่วี่สิง คนที่คุณจะแต่งงานด้วยคือน้องสาวของผมนะ”

หยิบไฟแช็กออกมาจากร่างกาย แล้วจุดบุหรี่ ใบหน้าหล่อเหลาถูกปกคลุมด้วยควันบุหรี่ หลินยี่พูดอย่างช้าๆ “คุณเชื่อไหมว่าถ้าไม่ได้รับการเห็นด้วยจากผม เธอไม่มีวันจะแต่งงานกับคุณ”

มู่วี่สิงชะงักหยุดเดิน แล้วหมุนตัวกลับด้วยสายตาเย็นชามากถึงมากที่สุด

หลินยี่พ่นควันบุหรี่ออกมา ยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สา มุมปากเต็มไปด้วยความแดกดันประชดประชัน “คุณน่าจะรู้ว่าเคยได้ทำร้ายเธอมาแล้วกี่ครั้ง ผมไม่สนด้วยข้ออ้างหรือเหตุผลอะไร เพียงเธอได้รับความเจ็บปวดผมจะถือว่าเป็นความผิดของคุณ คุณไร้ซึ่งความสามารถ ตั้งแต่เล็กผมไม่ได้อยู่เคียงข้างน้องสาวคนนี้ ต่อไปในวันข้างหน้า ผมจะไม่มีวันให้เธอต้องเผชิญกับเรื่องร้ายๆและไปแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้เรื่อง”

มู่วี่สิงที่ยังคงมองเขาด้วยความเย็นชา ใบหน้ายังคงนิ่งไม่มีการขยับใดๆ ราวกับว่าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของหลินยี่

“เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณอย่ามารบกวนผม”

แววตาลุ่มลึกของเขาราวกับสระน้ำลึก “ถ้าคุณว่างขนาดนั้นก็จัดการเรื่องผู้หญิงของลู่เซิ่นให้เรียบร้อยดีกว่า หรือคุยเป็นเพื่อนเวินจิ้งเพื่อฆ่าเวลา สำหรับเรื่องอื่น คุณไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง”

เรื่องของเวินจิ้งเป็นเรื่องของเขาเพียงคนเดียว ถึงแม้จะเป็นพี่ชาย ก็ไม่จำเป็นต้องมาแทรกแซง

หลินยี่ยิ้มอย่างดูแคลน ทิ้งเพียงคำพูด “มู่วี่สิง เรื่องแบบนี้ เกิดได้แค่ครั้งเดียว ไม่อย่างนั้นผมจะไม่รับประกันว่าผมจะทำอะไรลงไป”

…..

“มู่วี่สิง ฉันไม่นั่งรถเข็นได้ไหม” เวินจิ้งกะพริบตา มองดูชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ตรงหน้าที่กำลังผูกผ้าพันคอให้เธอ “อีกทั้ง เรื่องที่ฉันออกจากโรงพยาบาลก่อนคุณไม่ได้บอกพี่ชายของฉันใช่ไหม”

พี่ชายและพี่สะใภ้ยังอยู่ที่เมืองหนาน หากเธอออกจากโรงพยาบาลพวกเขาจะต้องมาแน่นอน

“พี่ชายเธอมีธุระถูกลู่เซิ่นเรียกไป ส่วนพี่สะใภ้เธอผมให้เธอกลับไปแล้ว”

มู่วี่สิงโค้งตัวลง แล้วอุ้มเวินจิ้งวางลงเก้าอี้เข็นอย่างระมัดระวัง ใบหน้าหล่อเหลาแนบใกล้ชิดเธอ จากนั้นพูดขึ้นเบาๆ “วันนี้พวกเราไปจดทะเบียนสมรสกัน ไม่จำเป็นต้องมีพวกเขา”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท