Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 824

ตอนที่ 824

บทที่ 824 ความทรงจำที่ไม่มีความเสียดาย

เวินจิ้งกระพริบตาและรู้สึกท้อแท้ขึ้นมา

“คุณรู้อยู่แล้วจริงๆด้วย”

วันนั้นพวกเขาสามคนตื่นตระหนกและพูดไม่ตรงกัน ก็เพราะกังวลเรื่องนี้เหรอ

ร่างสูงของมู่วี่สิงสั่นสะท้านและใบหน้าก็บึ้งตึงทันที เขามีหลายอย่างที่อยากจะพูดกับเธอ แต่ก็ติดอยู่ในลำคอไปหมด

สมองวุ่นวายไปหมด เขาได้ยินหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาพูดว่า “ฉันยังคิดจะให้เซอร์ไพรส์คุณเลย”

คิดไปอีกรอบ เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ทำไมคุณรู้แล้วแต่ไม่บอกฉันล่ะ”

มู่วี่สิงหยุดฝีเท้าที่อุ้มเธออยู่ ดวงตาสีดำมองเธออย่างลึกซึ้ง ผ่านไปสักพักถึงถามด้วยเสียงต่ำว่า “คุณยอมจะเก็บเขาไว้เหรอ”

เวินจิ้งถามกลับ “ทำไมถึงจะไม่เก็บเขาไว้ล่ะ”

ที่เอวมีอาการปวดอย่างรุนแรงอย่างกะทันหัน เวินจิ้งเจ็บจนหน้ายู่ย่น เธอตบหน้าอกของชายหนุ่มด้วยความโกรธและถามว่า “มู่วี่สิง คุณจงใจทำใช่มั้ย ฉันเจ็บมาก”

เมื่อได้ยิน ดูเหมือนว่าสติของผู้ชายค่อยฟื้นขึ้นมา รีบเบาลงทันที เขาก้มหัวลงและจูบเธอเบาๆ ปากติดกับแก้มของเธอว่า “ขอโทษ”

เขาพึมพำและพูดสามคำนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก สักพักค่อยพูดว่า “ฉันคิดว่าคุณจะไม่อยากได้เขา”

เวินจิ้งตกตะลึงและเธอเข้าใจทุกอย่างทันที

มู่วี่สิงอุ้มเธอเดินต่อ มือแข็งแกร่งมาก เขาโอบกอดเธอไว้แน่นตลอด

เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม สักพักถึงค่อยๆพูดว่า “ที่ฉันมาที่นี่ ก็เพื่ออธิษฐานต่อพระโพธิสัตว์ หวังว่าพวกเขาจะไม่โชคร้ายที่กลับชาติมาเกิดอีก เพราะฉันตัดสินใจที่จะลืมพวกเขาแล้ว… ”

เวินจิ้งพิงไหล่ของเขาอย่างเงียบๆ และยิ้มอย่างแผ่วเบา “ไม่รู้ว่าคุณคิดได้ยังไง ฉันเคยฆ่าลูกตัวเองด้วยมือของฉันเอง แล้วฉันจะทำแบบนั้นอีกได้ยังไงล่ะ”

มู่วี่สิงวางเธอไว้ที่เบาะผู้โดยสารอย่างระมัดระวัง แล้วเดินไปที่นั่งคนขับ เวินจิ้งยิ้มอยู่ตลอด รอให้มู่วี่สิงคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ

ทันทีที่ชายหนุ่มโน้มตัวเข้ามา เวินจิ้งก็ยกคางขึ้นและจูบเขา ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มจูบริมฝีปากบางๆของเขา มู่วี่สิงแข็งตัวเพียงครึ่งวินาที และหันกลับจับด้านหลังหัวเธอจูบให้ลึกซึ้งขึ้นทันที

เวินจิ้งกดหน้าผากของเขาและถามอย่างงุนงง “เมื่อกี้ตอนที่รอรถอยู่ ฉันดูฤกษ์งามยามดีเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นเราจัดงานแต่งงานในสัปดาห์หน้าแล้วกัน”

“ไม่ได้” มู่วี่สิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด

ขอแต่งงานครั้งแรกก็ถูกปฏิเสธแล้ว เวินจิ้งโกรธขึ้นมาเบาๆทันที “โอ้ คุณหมายถึงว่ายังไง ขึ้นรถแล้วก็คิดว่าซื้อตั๋วแล้วเหรอ”

มู่วี่สิง…

จูบริมฝีปากที่เปล่งประกายของเธอ และพูดด้วยเสียงเบาว่า “คนดีของฉัน ชุดแต่งงานที่สั่งทำยังทำไม่เสร็จ ขอเวลาฉันอีกสักหน่อยนะ”

เวินจิ้ง: … ที่แท้ก็แอบสั่งทำชุดแต่งงานโดยไม่บอกเธอนี่เอง

เวินจิ้งยังส่ายหัวอย่างมั่งคง “ไม่เอา อีกสักพักท้องของฉันก็จะโตแล้ว ถึงตอนนั้นใส่ชุดแต่งงานจะไม่สวย

ก็สัปดาห์หน้าแหละ”

มู่วี่สิงก้มลงมองท้องที่ยังมองไม่ออกของเธอ “ไม่หรอก คุณผอมขนาดนี้ ท้องจะไม่โตได้เร็วขนาดนี้หรอก”

กลับไปถึงการ์เด้นมู่เจียวาย เมื่อเวยอานเห็นพวกเขาค่อยโล่งใจ รีบเข้าไปหาเวินจิ้งนที “จิ้งจิ้ง คุณไปไหนมา ฉันโทรหาพี่ชายของคุณแล้วด้วย”

เวินจิ้งกระพริบตาและพูดอย่างน่าสงสารว่า “ฉันเดินเล่นไปรอบๆ … แล้วโทรศัพท์ก็แบตหมด ขอโทษนะคะ ครั้งหน้าฉันจะบอกพวกคุณก่อนแน่นอน”

เวยอานกอดเธอ “ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว”

เวินจิ้งยิ้ม วางกระเป๋าของเธอไว้บนโซฟาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่โทรหาพี่ชายว่า ให้เขาพรุ่งนี้มากินข้าวนะ สามีของฉันจะทำอาหารเองเพื่อฉลองเขามีลูกแล้ว”

รอยยิ้มของเวินสดชื่นและอ่อนหวานมาก โดยไม่มีความไม่ดีใจใดๆเลย

เวยอานเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ และรีบยิ้มอย่างมีความสุขทันที “จริงเหรอ… เสี่ยวจิ้ง ขอแสดงความยินดีกับพวกคุณด้วยนะ… ”

“น่าเสียดายจังที่พี่สะใภ้ไม่ได้ไปเป็นนักแสดง ฉันรู้ว่าคุณรู้ตั้งนานแล้ว … ชิ … ”

เวยอาน……

..

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

คริสตจักรย้อนยุคมีบรรยากาศที่เงียบสงบ และดนตรีไพเราะและผ่อนคลายค่อยๆดังขึ้น

พรมแดงทอดยาวจากประตูไปถึงเท้าของนักบวชผู้เป็นมิตรยิ้มอย่างแจ่มใส

พร้อมเสียงเพลงงานแต่งงาน ชายหนุ่มหล่อผู้มีเสน่ห์ที่จูงมือเวินจิ้งที่ใส่ชุดแต่งงานสีขาวค่อยๆเดินจากปลายพรมแดง

กลีบกุหลาบสีแดงและสีขาวกระพือปีกไปทั่ว กระจัดกระจายอยู่บนพรม

เวินจิ้งเงยหน้ามองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม้กางเขนแล้ว ทันใดนั้นเสียงเต้นของหัวใจก็ชัดเจนมาก

“พี่ชาย ฉันตื่นเต้นมาก”

ทั้งๆที่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองคนจัดงานแต่งงานแล้ว แต่ครั้งนี้มีแต่ญาติเพื่อนสนิทเท่านั้น จัดงานแต่งงานนี้เพราะความรักเท่านั้น

เธออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองแขกที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ คุณแม่และโจวเซิ่งวันนี้เพิ่งกลับมาถึง ลู่เซิ่นจับมือฉินซีมองเธอด้วยความยินดี ดวงตาของเวยอานแดงไปเบาๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ลึกซึ้ง ลี่หนานเฉิงและซูยิงนั่งเคียงข้างกันในแถวหน้า ลี่หนานเฉิงมองเธอด้วยสายตาที่ดุดัน ราวกับจะบอกว่าถ้าคุณกล้าทำร้ายจิตใจเพื่อนรักฉันอีก

เวินจิ้งอยากร้องไห้ขึ้นมา

“เข้มแข็งหน่อย น้องสาวของฉัน” เมื่อสังเกตความฟุ้งซ่านของเวินจิ้ง เสียงต่ำของหลินยี่ก็ดังอยู่เข้าหูเธอ

จริงๆแล้ว เวินจิ้งรู้สึกเสมอว่างานแต่งงานเป็นแค่พิธีเฉยๆ เราสองคนแต่งงานกันมานานแล้ว และพิธีนี้ก็แค่เป็นความทรงจำที่ไม่มีความเสียดายเฉยๆ

แต่ในวินาทีนี้ เมื่อเธอเหยียบพรมและค่อยๆเดินไป ก็รู้สึกหวั่นไหวเหมือนกัน

เธอกำลังจะแต่งงานกับคนนั้นจริงๆ … ผู้ชายที่เธอรัก

เก็บสายตากลับมา เธอหายใจเข้าลึกๆ รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆสดใสขึ้นมา มองมู่วี่สิงผู้ชายที่หล่อเหลาและสมบูรณ์แบบโดยไม่กระพริบตา

หลินยี่ใส่ชุดสูทสีขาว มีความสง่างามและความลุ่มหลง เขามองมู่วี่สิงและค่อยๆส่งมือเล็กๆของเวินจิ้งให้เขา

เสียงต่ำพูดเน้นทีละคำ”มู่วี่สิง ฉันฝากน้องสาวของฉันให้คุณด้วย”

มู่วี่สิงก้มตาลง จับมือเวินจิ้งแน่นๆ และก็อ่อนโยนมาก

“ครับ”

เงยหน้าขึ้นมองดวงตาของชายหนุ่ม แก้มของเวินจิ้งร้อนมาก และอ่อนเพียงเล็กน้อยด้วย มีแต่จับมู่วี่สิงไว้แน่นๆ ฟังคำสัญญาของนักบวชและสัญญาซึ่งกันและกัน “ค่ะ/ครับ”

แหวนระยิบระยับสวมอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ เธอได้ยินเสียงต่ำและอ่อนโยนของมู่วี่สิงดังอยู่ข้างหูของเธอ “จิ้งจิ้ง ผมรักคุณ”

“ฉันก็รักคุณ”

……

สามปีก่อน

ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมว่านหาว เต็มไปด้วยไฟสว่างอย่างดวงดาว

ฉินซีเดินผ่านทางเดินที่ยาวมาก เมื่อกี้เห็นหซู่เป่ยและผู้หญิงเดินมาทางนี่อย่างชัดเจน แต่ตอนนี้หายไปได้ยังไง

ทันใดนั้น เสียงผู้หญิงตุ้งติ้งก็ดังมาจากระเบียงที่ห่างไม่กี่เมตร ดวงตาของฉินซีสว่างขึ้นและเดินไปอย่างเบา ๆ

เธอยกกล้องในมือขึ้นด้วย –

หซู่เป่ย คราวนี้ฉันถ่ายภาพเรื่องอื้อฉาวของคุณได้สักที

ในวินาทีต่อไป ฉินซีก็ตกตะลึงไปทั้งตัว ผู้ชายที่ถ่ายภาพได้ หน้าคุ้นๆแต่ไม่ใช่หซู่เป่ย

“คุณลู่… คุณป้าให้ฉันมากับคุณ… ” เสียงหวานของผู้หญิงทำให้ฉินซีขนลุกทันที

คุณลู่… … คุณลู่…… ลู่เซิ่นเหรอ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท