Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 852

ตอนที่ 852

บทที่ 852 เถียงข้างๆ คูๆ

ฉินซีแทบจะพ่นคำพูดที่น่าขยะแขยงออกมาในทันที

เธอปล่อยมือที่ดึงเสื้อของลู่เซิ่น

ฉินซึ่งเทียนทำตัวเองให้เป็นคนที่น่าขยะแขยง ท้ายที่สุดจะได้รับผลอะไร ก็เป็นเพราะตัวเขาเอง

ลู่เซิ่นรับรู้ถึงความหมายที่ฉินซีส่งมาให้ แล้วก้าวเข้าไปหาฉินซึ่งเทียน

“ประธานฉิน ลูกสาวของคุณ เกรงว่าคุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสอนเธอได้”

ฉินซึ่งเทียนพูดอย่างโกรธๆ ว่า“เธอรู้อะไรบ้าง!”

ลู่เซิ่นพูดเสริมอย่างเงียบๆ ว่า“หรือว่าบังเอิญ ผมไม่คิดว่าอย่างนั้น”

“เธอ……”ฉินซึ่งเทียนสำลักไปชั่วขณะ และหยุดไปสองสามวินาที ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“นี่เป็นเรื่องของครอบครัว ระหว่างผมกับลูกสาว ไม่เกี่ยวกับคนนอกอย่างเธอที่จะเข้ามาแทรกแซง”

ลู่เซิ่นหัวเราะเบาๆ และหันไปมองฉินซี“จริงเหรอ คุณบอกสิ ใครกันแน่ที่เป็นคนนอก?”

ฉินซีพูดไม่ออกเล็กน้อย เกี่ยวกับการกระทำของลู่เซิ่นในขณะนี้

ทำไมจู่ๆ เขาถึงถามคำถาม ที่ยากที่จะอธิบายแบบนี้?

แต่ลู่เซิ่นมองตัวเธอด้วยแววตาที่แผดเผา ฉินซีไม่สามารถหลบหนีได้ จึงทำได้เพียงพูดออกไป อย่างช่วยไม่ได้“นี่ยังต้องถามอีกเหรอ?”

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่สายตาของเธอก็ไม่ได้จ้องมองไปที่คนอื่นๆ เพียงแค่มองไปที่ลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นหันหน้าไปมองฉินซึ่งเทียนอย่างเฉยเมย“คุณดูสิ ผมกับฉินซีก็ไม่คิดว่าคุณจะมีคุณสมบัติพอที่จะลงโทษหรือสั่งสอนเธอ ดังนั้นคุณต้องขอโทษสำหรับสิ่งที่คุณทำไปเมื่อกี้”

“ขอโทษ?”ฉินซึ่งเทียนสงสัยว่าตัวเขาได้ยินผิด เขาจ้องไปที่ลู่เซิ่น แล้วพูดว่า“คุณรู้ไหมว่าเมื่อกี้เธอได้ทำอะไรลงไป?มันไม่ผิดเลยที่ฉันจะสั่งสอนด้วยบทเรียนแบบนี้ให้เธอ!”

ลู่เซิ่นหัวเราะเยาะ“ช่างน่าเสียใจกับประธานฉิน ที่ไม่ได้สนใจในสิ่งที่ผมทำอะไรให้กับฉินซี ผมเพิ่งเห็นใบหน้าของเธอมีรอบขีดข่วน จากนิตยสารที่คุณโยนไป และเกือบจะตบคุณ ในฐานะสามีของฉินซี ในสายตาของผม ดูเหมือนว่าคุณต้องขอโทษเธอ”

ฉินซึ่งเทียนดูเหมือนจะโกรธอีกครั้ง และหลี่เหวยที่เฝ้ามองอยู่เงียบๆ เป็นเวลานานแล้ว ในที่สุดก็ลุกขึ้น แล้วบ่นอยู่ในใจหลายๆ ประโยคอย่างเงียบๆ ฉินซึ่งเทียนนี่บ้าไปแล้ว หรือไม่มีสมองกันนะ ว่าฝั่งตรงข้ามคือลู่เซิ่น!

ไม่ว่าตัวตันของลู่เซิ่นจะเป็นอย่างไร ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะพูดกับคนอื่นแบบนี้

บริษัทลู่ซื่อเป็นบริษัทที่ บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่สามารถยั่วยุหรือแตะต้องได้ หลี่เหวยไม่ต้องการยั่วยุ คนที่ไม่สามารถโกรธเคืองได้ เพราะแรงกระตุ้นของฉินซึ่งเทียน

เธอเดินเข้าไปด้านหลังของฉินซึ่งเทียน แล้วตบหลังเขาเพื่อปลอบโยนเขา และพูดกับลู่เซิ่นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ประธานลู่ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ ซึ่งเทียนเขาไม่ได้ตั้งใจให้คุณฉุนเฉียว ก็แค่ฉินซีไม่เชื่อฟังนิดหน่อย เขาหวังว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดีในอนาคต จึงอดไม่ได้ที่จะสั่งสอนเธอ หวังว่าคุณจะให้อภัย”

น้ำเสียงของเธอนั้นอ่อนโยน ราวกับว่ากำลังอธิบายอย่างจริงใจ แต่เมื่อพูดถึงคำว่า“ไม่เชื่อฟัง”เธอก็เผยให้เห็นด้านข้างของใบหน้า ที่ถูกฉินซีตบโดยเจตนาหรือไม่เจตนาให้ดู

ฉินซีที่ฟาดมือลงไป ไม่ได้ออมแรงแม้แต่น้อย และหลี่เหวยที่ไม่ทันจะได้หลบ ทำให้ในตอนนี้ใบหน้าของเธอแดง และบวม ดูน่าอับอาย

หลี่เหวยรู้วิธีรับมือกับผู้ชายเป็นอย่างดี

ลู่เซิ่นที่มียศถาบรรดาศักดิ์แบบนี้ มันจะไม่เป็นผลดี ถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง เหมือนกับฉินซึ่งเทียน โดยเฉพาะเมื่อลดท่าทางลง อีกฝ่ายก็จะฟังสิ่งที่ตัวเองพูด

เธอสังเกตเห็นถึงความเย็นชาเมื่อครู่ และความตั้งใจของลู่เซิ่น ที่พร้อมจะปกป้องฉินซีอย่างเห็นได้ชัด ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่สมควรจะไปยั่วยุทั้งฉินซีและลู่เซิ่น สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือ แสดงถึงสิ่งที่ฉินซีได้ทำลงไป

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่า ทำไมลู่เซิ่นถึงแต่งงานกับฉินซี และเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉินซี ถึงคบกับคนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ แต่ผู้ชายลักษณะนี้ ส่วนใหญ่จะชอบคนที่อ่อนหวาน อ่อนโยน ไม่ว่าฉินซีจะใช้อะไรหลอกล่อเขา ตอนนี้ต้องทำให้เขาพบว่า ภรรยาของตัวเองเป็นผู้หญิงร้ายๆ ที่ลงมือกับคนอื่น และนั่นจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน ต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

ฉินซีไม่ได้สนใจเทคนิคของหลี่เหวย ที่ซ่อนเล่ห์เหลี่ยมไว้ใต้ความอ่อนโยน อดไม่ได้ที่จะกลอกตาไปมา แล้วลุกขึ้นยืน แต่กลับถูกลู่เซิ่นหยุดไว้ด้วยประโยคถัดไป

ลู่เซิ่นเพียงแค่เหลือบมองไปที่หลี่เหวย แล้วพูดเบาๆ ว่า“คุณเป็นใคร?”

คำง่ายๆ แค่เพียงสามคำ กลับเหมือนเครื่องจักรสังหาร ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

น้ำเสียงของลู่เซิ่นนิ่งเรียบ และตรงไปตรงมา ราวกับว่าเขาไม่รู้จริงๆ ว่าเธอเป็นใคร

แต่เขาได้แต่งงานกับฉินซีเรียบร้อยแล้ว และรู้จักฉินซึ่งเทียน แต่กลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลี่เหวยคือใคร ถ้าหากฐานะของหลี่เหวยไม่มีความชอบธรรม คำกล่าวก็จะไม่สมเหตุสมผล

ยิ่งไปกว่านั้นการแสดงออกของเขาในตอนแรก ที่ดูไม่แยแส ในตอนนี้ไม่เต็มใจที่จะมองไปที่หลี่เหวยด้วยซ้ำ ราวกับว่าเธอล่องลอย และไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพูดคุยกับตัวเอง

หลี่เหวยก็ไม่ได้คิดว่า ลู่เซิ่นจะไม่ได้รับผลจากคำพูดของเธอเลย แต่กลับได้รับความอับอายอย่างยิ่งใหญ่ หน้าแดงอยู่พักหนึ่ง และไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

ฉินซึ่งเทียนถึงคราวที่ต้องเข้ามา และกลัวว่าตัวเขาเอง จะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากลู่เซิ่น แล้วหันหน้าชี้นิ้วไปทางฉินซี“เธอ!มาขอโทษ!อย่าคิดว่าตัวเองหาคนหนุนหลัง แล้วจะไม่เกรงกลัวกฎหมาย เธอดูใบหน้าของป้าหลี่สิ บวมไปหมดแล้ว!”

ฉินซียังไม่ทันจะได้พูด ลู่เซิ่นก็พูดขึ้นอีกว่า“ประธานฉิน ต้องปรับกันนิดหน่อยแล้ว ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ คุณหน้าบวม ฉินซีที่ใช้ฝ่ามือของตัวเองตบ มือก็อาจจะบวมเหมือนกัน ทั้งสองคนก็ได้รับบาดเจ็บ ก็ถือว่าไม่เสียเปรียบแล้ว และคุณก็เพิ่งจะขว้างหนังสือ ทำให้หน้าของฉินซีได้รับบาดเจ็บ คุณไม่มีอะไรจะเสีย แล้วก็ขอโทษฉินซี ก็สมเหตุสมผลแล้ว”

ไม่ต้องพูดถึงฉินซึ่งเทียน แม้แต่ฉินซีก็ยังตกตะลึง

เธอได้ยินเกี่ยวกับท่าทางก้าวร้าวของลู่เซิ่น เมื่ออยู่บนโต๊ะเจรจา แต่เมื่อทั้งสองคนอยู่ด้วยกันในวันธรรมดา ลู่เซิ่นจะนิ่งเฉยมาก มันยากสำหรับเธอที่จะจินตนาการว่า ลู่เซิ่นเป็นอย่างไรในคำพูดของคนอื่น

แต่ในตอนนี้ที่ได้ฟังเขาวิเคราะห์ต่างๆ นาๆ จนแทบจะเรียกได้ว่า“เถียงข้างๆ คูๆ”ในหัวของเธอก็จินตนาการภาพขึ้นมาในทันที

ทำไมถึงรู้สึก……หล่อขึ้นมานะ……

ทางฉินซีชื่นชมอยู่ในใจอย่างเงียบๆ แต่ภายในใจของฉินซึ่งเทียนและหลี่เหวย กำลังก่อเกิดพลังอันมหาศาล

ลู่เซิ่นพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเห็นแก่ฉินซี คนโง่ก็สามารถฟังออกถึงการปกป้องนี้

เขาช่วยเหลือฉินซี?

หลังจากที่ลู่เซิ่นพูดแบบนี้ ฉินซีก็ไม่ได้โต้แย้งใดๆ ในที่สุดฉินซึ่งเทียนก็ตระหนักได้ว่า ตัวเองไม่ได้ประเมินความสำคัญของฉินซีที่มีต่อลู่เซิ่น แต่ดูเหมือนเขาจะประเมินความสำคัญของตัวเอง ในฐานะ“พ่อตา”มากเกินไป

ในตอนนี้ฉินซี ก็ปฏิบัติกับตัวเขาเองเหมือนเป็นศัตรู และลู่เซิ่นก็จะเกลียดชังและเคียดแค้นศัตรูเหมือนกัน

ลู่เซิ่นมองตรงไปที่เขา เหมือนไม่ยอมจะหยุด จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ฉินซึ่งเทียนที่อยู่ในแวดวงนี้มาหลายปี แต่กลับยังคงอยู่ภายใต้ การจ้องมองของลู่เซิ่น ที่อายุน้อยกว่าเขา แล้วหดคอลงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

และหลี่เหวยก็เห็นได้ชัดเจน ตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่า ถ้าไม่ทำตามคำขอของลู่เซิ่น เขาก็จะไม่ยอมวางมือ ยุติเรื่องราว

ตราบที่เป็นบุคคลที่มีอำนาจของบริษัทลู่ซื่อ ก็ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้

วันนี้ยอมถอยออกมาก่อน หลังจากนี้ถ้ามีโอกาสจะเอามันกลับมา

โดยไม่รอให้ฉินซึ่งเทียนได้พูดอะไร หลี่เหวยก็พูดออกมา“ฉินซี เมื่อกี้น้าตื่นเต้น ที่พูดไปไม่ได้คิดให้ดีๆ เธอก็อย่าใส่ใจเลย”

ฉินซีมองแต่ไม่ได้ใส่ใจมอง เพียงแค่หัวเราะเยาะออกไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท