บทที่ 863 ทั้งโลกต่างก็รับรู้
“จะไม่ตอบใช่ไหม” ฉินซียิ้มเยาะ “งั้นฉันจะโทรถามฉินหว่าน ว่าทำไมคู่หมั้นของเธอถึงขับรถตามฉันตอนกลางวันแสกๆ นายคิดว่าเธอจะตอบว่าอะไรล่ะ”
หซู่หนานเงยหน้าขึ้นทันที “อย่าบอกฉินหว่านมันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ”
จริงๆแล้ว ฉินซีไม่มีเบอร์ของฉินหว่าน การพูดแบบนี้เป็นการทำให้หซู่หนานรู้สึกกลัวก็เท่านั้น เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยเธอจึงเก็บโทรศัพท์และเล่นไปตามน้ำ
“งั้นนายก็บอกมาเองสิว่านายตามฉันมาทำไม” ฉินซีถามขึ้นอีกครั้ง
หซู่หนานที่เงียบอยู่นานเห็นว่าฉินซีกำลังจะหมดความอดทน ในที่สุดเขาก็พูดมา “ฉันแค่…อยากเห็นว่าเธอเป็นไงบ้าง”
ฉินซีหัวเราะเยาะ “ดูว่าฉันสบายดีไหมด้วยการไล่ตามรถฉันก็รู้แล้วงั้นเหรอ หซู่หนาน นายมันไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”
หซู่หนานมองเธออย่างใจจดใจจ่อ “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตามเธอ แต่แค่บังเอิญเจอรถขอเธอตอนออกมา ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ประชุมกรรมการผู้จัดการเมื่อเช้านี้ กลัวว่าจะมีคนมาทำร้ายเธอ ก็เลย…”
ฉินซีไม่รอให้เขาพูดจบก็พูดขัดจังหวะขึ้นมา “หซู่หนาน แม้ว่าสิ่งที่นายพูดจะเป็นความจริง แต่นายไม่จำเป็นต้องห่วงฉันแบบนี้ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
เธอหันตัวจะเดินกลับ แต่หซู่หนานคว้าแขนของเธอไว้ “ฉินซี เธอฟังฉันพูด…”
ฉินซีสะบัดมือออกทันที “อย่าแตะต้องฉัน!”
หซู่หนานตกใจกับการกระทำของเธอ เขาถอยหลังเล็กน้อย จ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ “ฉินซี ฉันไม่รู้ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันเชื่อมาตลอดว่าเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะตัดการติดต่อกับฉัน ตอนนี้เราได้พบกันอีกครั้ง มันหมายความว่า…”
“มันอธิบายอะไรไม่ได้เลย” ฉินซีตอบกลับอย่างเย็นชา “ตอนนั้นคือความผิดฉัน เป็นฉันเองที่ไม่ติดต่อกับนาย ฉันไม่อยากอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น นายแค่ทำเหมือนว่าฉันทำให้นายเสียใจเถอะ ตอนนี้นายเองก็อยู่กับฉินหว่านแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับฉันอีก”
ฉินซีคิดว่าตัวเองพูดชัดเจนแล้วพลางเธอถอยเท้าออกมา
แต่หซู่หนานกลับก้าวเท้าตาม “ไม่จริง ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้น!ฉินซี ตอนนั้นฉันอยู่กับฉินหว่านก็เพราะว่าฉันต้องการถามเรื่องของเธอ ไม่ใช่เพราะว่าชอบฉินหว่าน ถ้าเธอไม่สบายใจ ให้ฉันเลิกกับฉินหว่านตอนนี้เลยก็ได้”
เมื่อพูดถึง ฉินหว่านจู่ๆฉินซีก็นึกถึง ฉินซึ่งเทียน แผลบนใบหน้าที่จากเดิมไม่มีความรู้สึก จู่ๆก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย
จากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน “เลิกกับฉินหว่าน?หซู่หนาน นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ปีนี้นายเข้าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในตำแหน่งที่สูง เราทุกคนต่างก็รู้เหตุผล นายไม่จำเป็นต้องเสียสละอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของนายเพื่อพิสูจน์ให้ฉันเห็นหรอก”
“เธอไม่เชื่อฉันใช่ไหม” หซู่หนานที่สุภาพมาโดยตลอด ตอนนี้กลับรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เขาหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วกดโทรออก “ฉันจะโทรไปบอกเลิกฉินหว่านเดี๋ยวนี้!”
ฉินซีที่ห่างจากเขาไม่กี่เมตรยืนกอดอก เฝ้าดูการกระทำของเขาอย่างเย็นชา ไม่ได้ห้ามเขาแต่อย่างใด “นายกับฉินหว่านจะเลิกหรือว่าไม่เลิกกันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน หซู่หนาน ฉันแต่งงานแล้วนะ ทั้งโลกต่างก็รับรู้ ฉันแต่งงานไปแล้ว”
การกระทำของหซู่หนานหยุดชะงัก
ฉินซีลดแขนลงข้างกาย “ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย หซู่หนาน เราสองคนเลิกกันมาเป็นปีแล้วนะ ฉันทำให้นายเสียใจ นายไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีก ตอนนี้เราสองคนต่างก็มีคนอื่นแล้ว ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับอดีตอีกต่อไป ”
พูดจบ เธอก็หันกลับและจากไปอย่างไม่แยแส
คราวนี้หซู่หนานยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิม ไม่ได้ตามเธอไป เพียงแค่เฝ้าดูแผ่นหลังของฉินซีที่ไกลออกไปเรื่อยๆ และในที่สุดก็หายลับไปในมุมตึก
นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่มองดูแผ่นหลังของฉินซีเดินจากไป
ปีที่แล้วตอนที่พวกเขาแยกจากกัน เขามองแผ่นหลังของฉินซีที่ไกลออกไป ภายในใจรู้สึกเศร้าแต่กลับไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ต่อมาเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรู้สึกเศร้านั้นว่ามันเป็นลางสังหรณ์ของการพรากจากกันที่กำลังจะมาถึง
พวกเขาพบกันอีกครั้งในปีต่อมา เขามองดูฉินซีจากไปอีกครั้ง ในหัวใจก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเศร้านั้นอีกครั้ง
ครั้งนี้…ต้องแยกจากกันจริงๆอย่างนั้นเหรอ
หซู่หนานกำหมัดแน่น
……
สิ่งที่หซู่หนานพูดกับฉินซีเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว
อันที่จริงตอนที่ทำงานในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เขาได้ยินข่าวว่าฉินซีแต่งงานแล้วเมื่อวานนี้
เมื่อเห็นประกาศภายในบริษัท เขารู้สึกว่าในหัวของเขาว่างเปล่าไปชั่วขณะ
แม้ว่าเขาจะเห็นท่าทีของฉินซีและลู่เซิ่นในร้านอาหารด้วยตาของตัวเอง ในตอนนั้นความใกล้ชิดของทั้งสองก็คลุมเครือเกินกว่าจะคาดเดาได้ แต่…เขาคิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนจะแต่งงานกันแล้ว!
เขายอมรับว่าตัวเองยังไม่ลืมฉินซี แต่ก็ไม่ได้คาดหวัง หลังจากที่รู้ว่าฉินซีแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว ความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเธอมันกลับรุนแรงมากขึ้น
แต่เมื่อนึกถึงท่าทีระหว่างฉินซีและลู่เซิ่นในร้านอาหาร หซู่หนานก็เกิดมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย
บางทีเขา…อาจพอมีโอกาสอยู่บ้าง
เขาไม่สามารถโทรหาฉินซีได้ อาจเพราะโดนบล็อก ดังนั้นการจะได้พบเธอ คือเขาต้องไปหาเธอเอง
ดังนั้นตลอดการถ่ายทอดสดการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเช้านี้ หซู่หนานรอเพียงให้ถึงตอนจบแล้วออกไปขวางฉินซีไว้เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเมื่อตอนใกล้จบในแผนกจะแจ้งว่ามีประชุมอีก แน่นอนว่าเค้าไม่เต็มใจนักแต่ก็ทำได้แค่ล้มเลิกแผนที่จะเจอฉินซีในบริษัท
ประชุมไปทั้งๆที่เหม่อลอย ในหัวเขาเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะได้ไปเจอฉินซี ในขณะที่กำลังจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่นั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากฉินหว่านว่าให้ทานอาหาร
แม้ว่าเขาจะรับปาก แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะออกไปหาเธอในทันที
การโทรมาของฉินหว่านทำให้เขาได้คำใบ้อย่างหนึ่ง——บ้าน
หซู่หนานรู้ว่าที่อยู่ของคฤหาสน์เก่าตระกูลฉินอยู่ที่ไหน เนื่องจากตอนนี้ฉินซีไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านตระกูลฉิน เธอจะกลับไปที่คฤหาสน์เก่าตระกูลฉินหรือไม่กันนะ
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกลายเป็นคนหุนหันพลันแล่นตั้งแต่เมื่อไหร่ คว้ากุญแจรถและมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์เก่าตระกูลฉิน
แต่เมื่อรถใกล้จะถึงแล้วจู่ๆเขาก็จำได้
บ้านตระกูลฉินหลังนี้ถูกซื้อโดยเศรษฐีลึกลับเมื่อนานมาแล้ว
เป็นไปไม่ได้…ที่ฉินซีจะกลับมาที่นี่
เลือดอันร้อนรุ่มที่สูบฉีดเมื่อครู่นี้ถูกเททับด้วยถังน้ำเย็น หซู่หนานรู้สึกสับสนในเวลานี้ ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไรต่อไป
แต่วินาทีต่อมา เขาสังเกตเห็นรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งที่ดูคุ้นตา
เขารีบตามเธอไปอย่างไม่ทันได้คิดอะไร
หซู่หนานไม่เคยขับรถตามแบบนี้มาก่อนและรู้สึกประหม่ามาตลอดทาง ไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องการตามฉินซีไป ดังนั้นเมื่อเธอตั้งคำถาม เขาทำได้เพียงแค่หาข้ออ้างที่งุ่มง่ามแบบนั้นเพื่อมาตอบ
แต่จนกระทั่งเขามองดูตอนที่ฉินซีจากไป เขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที
เขาไม่สามารถบอกตัวเองให้ยอมแพ้เรื่องฉินซีได้
และตอนนี้ที่อยู่ระหว่างฉินซีและตัวเขา นอกจากลู่เซิ่นแล้วยังมีฉินหว่านอีกด้วย
หลังจากที่เขาเข้าใจเรื่องทั้งหมด หซู่หนานก็มาถึงบ้านตระกูลฉินแต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงไม่สู้ดี
ฉินหว่านทักทายเขาที่ประตูด้วยท่าทีที่มีความสุข แต่เมื่อเห็นการแสดงออกที่แข็งกระด้างของเขาเธอกลับดูไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย “หซู่หนาน นายคิดอะไรอยู่กันแน่!พ่อแม่ฉันอยู่ข้างในแล้วนะ นายยังจะทำหน้าแบบนี้อีก ทำหน้าบูดให้ใครดูกัน!