Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 867

ตอนที่ 867

บทที่ 867 เพราะเธออยากแต่งงาน ก็เลยแต่ง

บนหน้าจอโทรศัพท์มีชื่อสองพยางค์ที่คาดไม่ถึงได้ปรากฏขึ้น “ลู่เซิ่น”

ฉินซีรู้สึกสับสนเล็กน้อย ลู่เซิ่นไม่เคยโทรหาเธอเลยสักครั้ง โดยก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จะให้หลินหยังเป็นคนติดต่อ

แล้วทำไมตอนนี้จู่ๆถึงโทรมาเองล่ะ

ฉินซีรับโทรศัพท์ด้วยความสงสัย เสียงที่ดังออกมาคือเสียงของลู่เซิ่น “เธออยู่ที่ไหน”

“บ้านอานหยัน ”

ฉินซีเบ้ปาก ทำไมลู่เซิ่นต้องคอยเช็คด้วย!

น้ำเสียงของลู่เซิ่นราบเรียบ “กลับบ้านเดี๋ยวนี้ คืนนี้เราจะกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลลู่กัน”

พอพูดจบเขาก็วางสายทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบของเธอเลย

ฉินซีขมวดคิ้ว

….คฤหาสน์ตระกูลลู่อย่างนั้นเหรอ

เมื่อมาถึงรีสอร์ทชิงหยวน ก็พบลู่เซิ่นนั่งรออยู่ในห้องรับแขก

“ไปเปลี่ยนชุด”

ทันทีที่พบกัน เขาพูดเพียงแค่สี่คำ จากนั้นก็ถูกคนรับใช้พาตัวออกไป

ภายในห้องแต่งตัวมีชุดเดรสแขวนอยู่ ฉินซีรู้สไตล์ของลู่เซิ่น ชุดเดรสพวกนี้ดูผิวเผินไม่ได้มีความพิเศษอะไร ส่วนมากจะเป็นสไตล์ใหม่ที่ดูหรูหราระดับไฮเอนด์ แม้จะให้เวลานับเลขศูนย์ของราคาเป็นชั่วโมงก็ไม่อาจนับได้ครบถ้วน

ชุดเดรสสีขาวงาช้างเหมาะกับผิวขาวราวหิมะของฉินซี คนรับใช้รูดซิปขึ้นให้เธอและเมื่อเธอกำลังจะนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง จู่ๆประตูห้องแต่งตัวก็เปิดออก

“พวกเธอทำอะไรอยู่” ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว

“แต่ง…แต่งหน้าค่ะ…” คนรับใช้ตอบอย่างสั่นกลัว

“ไม่ต้องแต่ง” ลู่เซิ่นมองไปยังฉินซีแล้วโบกมือ “จะสายแล้ว ไปกันเถอะ”

ฉินซียกมือขึ้นมองดูนาฬิกาข้อมือ “ตอนนี้ยังไม่ถึงสี่โมงเลย จะสายได้ยังไง แต่งหน้าไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้นซะหน่อย”

สายตาของลู่เซิ่นมองไปยังรอยแผลบนใบหน้าของฉินซี เขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วตอบกลับ “สายแล้ว อาหารเย็นของตระกูลลู่เสิร์ฟเร็วมาก พวกเราต้องไปเดี๋ยวนี้”

ฉินซีไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงแค่ถอยออกมา “ฉันขอแค่เขียนคิ้วกับทาลิปสติกได้ไหม”

ลู่เซิ่นเหลือบมองไปยังใบหน้าของเธออีกครั้ง “ได้”

พอพูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องแต่งตัวไป

คนรับใช้พึมพำออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า “ตั้งแต่ที่กลับมาบ้านตระกูลลู่ ดิฉันไม่เคยเห็นคุณลู่รีบร้อนขนาดนี้มาก่อนเลยนะคะ…”

ฉินซียิ้มอย่างสบายใจ “ไม่เป็นไรหรอก ถึงจะแต่งหน้าไป แต่ถ้าออกมาไม่ดี มันก็ยังเห็นรอยแผลบนหน้าของฉันอยู่ดี แค่เขียนคิ้วกับทาลิปสติกก็พอแล้ว”

คนรับใช้พยักหน้า แล้วลงมือเขียนคิ้วตามที่เธอสั่ง

สี่โมงตรง ลู่เซิ่นและฉินซีขึ้นรถเดินทางจากรีสอร์ทชิงหยวน

ฉินซีสบโอกาสถามคำถามขึ้นมา

“ทำไม…จู่ๆต้องกลับไปที่บ้านตระกูลลู่ด้วยล่ะ”

ลู่เซิ่นมองเธอ “เธอคิดว่าคนในตระกูลลู่เป็นคนโง่อย่างนั้นเหรอ ทำไมพวกเขาจะไม่รู้ว่าฉันแต่งงานแล้ว”

ฉินซียักไหล่ เธอคิดว่าตราบใดที่ยังไม่บอกชื่อลู่เซิ่น ก็จะไม่มีใครรู้ว่าลู่เซิ่นกับเธอแต่งงานกันแล้ว

“นายสามารถอธิบายให้พวกเขาฟังตรงๆได้นะ ว่าการแต่งงานของพวกเราเป็นแค่การแต่งงานตามข้อตกลงไม่เห็นจำเป็นต้องพาชั้นกลับไปเลย ” ฉินซีมองลู่เซิ่นด้วยอย่างสงสัย

ลู่เซิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับว่าเขาไม่พอใจในคำพูดของเธอ

ลู่เซิ่นหันไปมองเธอ “เธออยากให้ฉันบอกแม่ฉันว่าเพราะฉินซีต้องการหุ้น ดังนั้นฉันจึงเต็มใจทำตามความต้องการของเธอและแต่งงานกับเธออย่างนั้นเหรอ”

“แล้ว…มันไม่ถูกตรงไหน” ฉินซีทำหน้าตานิ่งเฉย

ลู่เซิ่นดูเหมือนไม่อยากตอบโต้กับเธอ ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ตอบกลับ “แม้ว่าการแต่งงานของตระกูลลู่โดยส่วนใหญ่แล้วมักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหากำไร แต่ก็เห็นได้ชัดว่าฉันไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยจากข้อตกลงนี้ แล้วเธอคิดว่าแม่ของฉันจะเห็นด้วยกับฉันไหมล่ะ”

ฉินซีอึ้งแต่แล้วเธอก็ตอบกลับ“ถ้าเป็นอย่างนั้น…แล้วทำไมนายถึงยอมแต่งงานกับฉันล่ะ”

ลู่เซิ่นเคยถามคำถามนี้กับเธอและตอนนี้เป็นเธอเองที่ถามคำถามนี้กับเขา

แต่ลู่เซิ่นไม่ได้มีความรู้สึกผิดแบบเธอ เขามองไปที่ฉินซีด้วยท่าทีที่นิ่งเฉย “ไม่ใช่เพราะเธออยากแต่งงานรึไง”

ฉินซีขมวดคิ้ว “เพราะฉันอยากแต่งงานเลยแต่งงั้นเหรอ”

ลู่เซิ่นยักไหล่ “เพราะเธออยากแต่งงานก็เลยแต่ง”

ฉินซีพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำตอบของเขา เธอนิ่งอยู่นานกว่าจะตอบกลับ “หมายความว่าถ้ามีคนขอนายแต่งงานก่อนหน้านั้น นายก็จะแต่งกับคนคนนั้นใช่ไหม”

ลู่เซิ่นยักคิ้ว “แต่ตอนนี้ฉันแต่งงานกับเธอแล้ว ฉันไม่สามารถตอบข้อสันนิษฐานนี้ได้”

เขาปัดการตอบคำถามออกไปอย่างง่ายดาย จะตอบหรือไม่ตอบก็มีค่าเท่ากัน

ฉินซีรู้ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถได้ยินความจริงจากปากของเขาได้ จึงทำได้แค่ยอมแพ้และรออีกถามอีกครั้งเมื่อมีโอกาส

บ้านของตระกูลลู่อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทชิงหยวน หลังจากนั้นไม่นานเมื่อรถขับผ่านประตูทางเข้า ลู่เซิ่นก็พูดขึ้น“ฉินซี ถ้าเธอไม่อยากถูกแม่ของฉันไล่ออกจากบ้านต่อหน้าคนอื่นและบังคับให้เราหย่ากัน เธอรู้ไหมว่าต้องทำตัวยังไง”

ฉินซีคิด “นายอยากจะ… แกล้งทำเป็นว่าเรารักกันมากใช่ไหม”

ลู่เซิ่นไม่รู้ว่าเขาไม่พอใจกับคำพูดคำไหนของเธอ คิ้วของเขาขมวดขึ้น แต่เขาก็พยักหน้าในที่สุด “ใช่ ทำเหมือนกับว่าเรามีความรู้สึกดีๆต่อกัน”

ฉินซีหัวเราะ “มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”

ลู่เซิ่นมองเธอด้วยความสงสัย

เมื่อรถหยุด คนขับรถก็ลงมาเปิดประตู ฉินซีหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่สีหน้าเธอจะยิ้มออกมา

ลู่เซิ่นยืนรอเธออยู่ข้างประตู เธอจับมือของลู่เซิ่นพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มพลางกระซิบว่า “คุณสามีคะ”

รอยยิ้มของเธอปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่เซิ่น

……

คฤหาสน์ตระกูลฉิน

ฉินซึ่งเทียนและหลี่เหวยเดินออกมา เพราะเสียงที่ดังมากของฉินหว่าน

หลังจากที่หซู่หนานเดินจากไป ฉินหว่านหยุดร้องไห้ เธอค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นและเดินไปที่สวนหลังบ้านด้วยความสิ้นหวัง

ฉินซึ่งเทียน เดินไปข้างหน้าพลางหันมาถาม หลี่เหวย “เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้ ตอนกินข้าวเมื่อกี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลย แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ”

ฉินซึ่งเทียนไม่พอใจกับอารมณ์แปรปรวนของฉินหว่านที่เป็นอยู่ตอนนี้ แน่นอนว่าหลี่เหวยไม่อยากให้ฉินซึ่งเทียนตามไปด้วยจึงรีบคว้าตัวเขาไว้ “บางทีอาจจะทะเลาะกันตามประสาหนุ่มสาววัยรุ่น ก็เลยดูจะเสียงดังไปหน่อย”

ฉินซึ่งเทียนขมวดคิ้ว “หว่านหว่านเองก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ เจ้าหซู่หนานเองก็ด้วย…ไม่รู้จักวิธีรับมือหว่านหว่านรึไงกัน วันๆเอาแต่ทะเลาะกันเสียงดังอยู่ได้!”

หลี่เหวยยิ้มและปลอบใจเขา “ฉันจะเข้าไปดูเองค่ะ คุณไม่ต้องห่วงไปหรอกนะ คุณมีเรื่องให้คิดมามากพอแล้ว พวกเขาแค่ทะเลาะกันเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง ”

ฉินซึ่งเทียนหันหลังแล้วเดินกลับไป

รอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของหลี่เหวยหายไปทันที เธอเดินตรงไปหา ฉินหว่าน

บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำให้ ฉินซึ่งเทียนอารมณ์ไม่ดี ฉินหว่านเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก!

ในใจหลี่เหวยนึกถึงหุ้นที่ฉินซีได้ไป เธอไม่สบอารมณ์และหงุดหงิดกับการร้องไห้เสียงดังของฉินหว่าน เมื่อไม่มีใครอยู่แล้ว หลี่เหวยก็ไม่แสแสร้งแกล้งทำเป็นอ่อนโยนอีกต่อไป เธอเดินมาตรงหน้าแล้วดุฉินหว่าน “ฉินหว่าน!แกลืมทุกอย่างที่ฉันบอกไปแล้วเหรอ แกทำแบบนี้อยากให้ฉันโกรธนักใช่ไหม”

ตามปกติแล้วเมื่อถูกหลี่เหวยดุเช่นนี้ ฉินหว่านจะทนไม่ไหวและโต้ตอบกลับทันที

แต่ในตอนนี้ เธอกลับยังคงก้มหน้าและไม่พูดอะไร

ในที่สุด หลี่เหวยก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เธอย่อตัวลง พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลง “หว่านหว่าน บอกมาซิ เมื่อกี๊เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

ดวงตาของฉินหว่านว่างเปล่า เธอมองตรงไปข้างหน้าและไม่พูดอะไร

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท