Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 864

ตอนที่ 864

บทที่ 864 ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของครอบครัว

หซู่หนานยิ้มเนือยๆ “ฉันเหนื่อยจากงานนิดหน่อย ขอโทษนะ ”

ฉินหว่านทำเสียงฮึดฮัด หันหน้าเดินกลับเข้าไปข้างในโดยที่ไม่รอเขา

คนรับใช้ยิ้มให้หซู่หนานอย่างเก้ๆกังๆ เดินนำเขาไปที่ห้องอาหาร

ฉินซึ่งเทียนและ หลี่เหวยอยู่ในห้องอาหารแล้ว

สีหน้าของฉินซึ่งเทียนและหลี่เหวยดูไม่ค่อยดีนัก เมื่อเห็นว่าหซู่หนานมาถึงก็แค่ทักทายเพียงเล็กน้อย

หซู่หนานนั่งลงข้างๆ ฉินหว่านแต่เธอกลับหันหน้าหนี

หากเป็นเมื่อก่อน หซู่หนานอาจโปรยคำหวานเพื่อประโลมเธอ แต่ตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำเรื่องแบบนั้น

อารมณ์ฉุนเฉียวของฉินหว่านนั้นเป็นเหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่วๆไป แค่หวังว่าแฟนหนุ่มจะแสดงให้เห็นว่าตัวเองสำคัญที่สุด มันไม่ร้ายแรงเพียงแค่คำปลอบโยนไม่กี่คำก็ทำให้ดีขึ้นแล้ว

แต่หซู่หนานเมินเฉยต่อความโกรธของฉินหว่าน

เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่!

ฉินหว่านคิดจะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้แผลงฤทธิ์ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาเป็นเชิงเตือนจาก หลี่เหวย

…อย่าทำให้พ่อของแกโกรธอีก

คำพูดหลี่เหวยดังขึ้นในหัวของเธอ

ฉันไม่ได้จะหาเรื่องให้พ่อสักหน่อย

ฉินหว่านบ่นในใจ แต่เพราะเห็นสีหน้าจริงจังของเแม่ ส่วนฉินซึ่งเทียนก็ขมวดคิ้วเป็นปมแน่น เธอจึงไม่กล้าสร้างปัญหา ทำได้เพียงลดศีรษะลงอย่างไม่เต็มใจนัก

“คนครบแล้วนี่ เสิร์ฟอาหารสิ” หลี่เหวยหันกลับไปสั่งคนรับใช้

อาหารค่อยๆเสิร์ฟทีละจาน แต่ละจานมีความละเอียดอ่อนและดูน่ารับประทาน

แต่ทั้งสี่คนที่อยู่ข้างโต๊ะอาหาร แต่ละคนกลับคิดเรื่องต่างๆของตัวเองอยู่

……

ฉินซีมาช้าเพราะหซู่หนานที่ทำให้เสียเวลา เมื่อเธอมาถึงสำนักงานกฎหมายก็เป็นเวลาพักทานอาหารพอดี

ทนายความจ้าวยังคงรอเธออยู่ที่สำนักงาน นั่นทำให้ฉินซียิ่งรู้สึกเกรงใจ “ฉันขอเชิญคุณทานอาหารด้วยกันสักมื้อ พวกเรากินไปคุยไปก็ได้ค่ะ”

ทั้งสองคนไปที่ร้านอาหารข้างสำนักงานกฎหมาย

แม้จะบอกว่ามาทานอาหาร แต่ในใจของทั้งสองคนกลับไม่ได้คิดถึงเรื่องอาหารอยู่เลย

ฉินซีก้มอ่านเอกสารที่ทนายความจ้าวนำมาให้อย่างละเอียด “นี่คือปัญหาที่คุณพูดถึงก่อนหน้านี้รึเปล่าคะ”

ทนายความจ้าวพยักหน้า “ตอนนี้คุณได้ถือหุ้น หากนับตามเวลาแล้วก็คือหลังจากแต่งงาน ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากการรับช่วงต่อหุ้นนี้จะต้องอยู่ในเงื่อนไขการแต่งงานของคุณ ดังนั้นจึงถือเป็นทรัพย์สินร่วมกันของสามีและภรรยา หากคุณและลู่เซิ่นจะหย่ากันในภายหลัง เขาสามารถยื่นเรื่องขอแบ่งหุ้นได้ ”

ฉินซีขมวดคิ้วเป็นปม

เธอรู้เรื่องธุรกิจครอบครัวของตระกูลลู่ในความเป็นจริงอาจจะดูถูกหุ้นตระกูลฉินที่เธอถืออยู่เลยก็ว่าได้

แต่…ตามบุคลิกที่คาดเดาไม่ได้ของลู่เซิ่นแล้ว เธอคาดการณ์ไม่ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ไม่มีทางแก้ปัญหานี้เลยเหรอคะ” ฉินซีพลิกดูเอกสาร สีหน้าของเธอดูจริงจัง

ทนายความจ้าวเม้มริมฝีปาก “คือนี่…ต้องดูข้อตกลงก่อนสมรสที่คุณสองคนลงนามตอนที่คุณแต่งงานกัน”

“ข้อตกลงก่อนสมรส?” นัยน์ตาของฉินซีสับสนอยู่ครู่หนึ่ง

“คุณสองคน…ไม่ได้ลงนามในข้อตกลง?” ทนายความจ้าวมองอย่างเหลือเชื่อ

ฉินซีขมวดคิ้วค่อยๆคิดทบทวน เธอส่ายหัวอย่างไม่แน่ใจ “อาจจะ…เซ็น แต่เป็นแค่กระดาษธรรมดา ไม่น่าจะสำคัญอะไร”

ท่าทีของทนายความจ้าวดูตกใจมากยิ่งขึ้น “จะเป็นไปได้ยังไงกัน สถานะของคนอย่างลู่เซิ่นแต่งงานทั้งที ไม่มีทางที่จะไม่ลงนามข้อตกลงก่อนแต่งงานนะครับ”

ฉินซีเลิกคิ้วพลางมองไปที่ทนายความจ้าวด้วยความสับสน “ถ้าไม่เซ็น…จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ ทำไมลู่เซิ่นถึงต้องเซ็นด้วย”

ทนายความจ้าวจิบน้ำ “การไม่ลงนามในข้อตกลงก่อนสมรสนั่นหมายความว่า หากคุณสองคนหย่าร้างกัน คุณสามารถแบ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่ของครอบครัวได้ครับ”

ดวงตาของฉินซีเบิกกว้าง

ตระกูลลู่…ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของครอบครัว?

แม้ว่าตระกูลฉินจะถือเป็นตระกูลที่ร่ำรวย แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ลู่เซิ่นมีแล้ว มันก็ยังไม่พออยู่ดี

ตระกูลลู่เริ่มต้นจากน้ำมันปิโตรเลียมและต่อมาได้เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากนั้นทุกอุตสาหกรรมในประเทศ F ล้วนแต่อยู่ใต้เงาของตระกูลลู่กันทั้งนั้น

ก่อนหน้านี้มีคนพยายามประเมินความมั่งคั่งของตระกูลลู่ซึ่งได้ตัวเลขที่น่าประหลาดใจ อีกทั้งยังบอกด้วยว่าอาจมีอุตสาหกรรมบางประเภทที่ยังไม่นับอีกต่างหาก

แต่ตัวเอง…สามารถแบ่งได้ครึ่งหนึ่งอย่างนั้นเหรอ

ฉินซีส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ “ถ้าอย่างนั้นอาจมีข้อตกลงบางอย่างที่ฉันไม่ทันได้สังเกต ในวันแต่งงานไม่มีการเซ็นเอกสารอะไร อีกทั้งก่อนหน้านี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ฉันอาจจะลืมก็ได้”

ทนายความจ้าวพยักหน้าตาม

สำหรับเรื่องทรัพย์สินครอบครัวของลู่เซิ่นแล้ว ต่อให้เขาจะไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ก็ตาม แต่ทีมทนายความของเขาก็คงไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน

หัวข้อสนทนาของทั้งสองคนกลับไปสู่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า

“แม้ว่าพูดแบบนี้อาจจะไม่เหมาะสมนัก แต่ตามทรัพย์สินครอบครัวของลู่เซิ่นแล้วเขาอาจไม่ขอแบ่งหุ้นส่วนนี้ของคุณในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ดังนั้นในขณะนี้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลมากจนกินไป แต่ถ้ามีโอกาสค่อยมองหาข้อตกลงที่ลงนามไว้ก่อนและมาดูกันว่าเราสามารถหาทางแก้ไขได้หรือไม่” การแสดงออกของทนายความจ้าวเต็มไปด้วยความจริงใจ

ฉินซีพยักหน้าเห็นด้วย

หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารและพูดคุยถึงเรื่องต่างๆเสร็จสิ้น ทนายความจ้าวก็กลับไปทำงาน ส่วนฉินซียังไม่อยากกลับบ้านไปเผชิญหน้ากับลู่เซิ่นเธอจึงขับรถไปหาอานหยัน

อานหยันเปิดประตู เมื่อเห็นว่าเป็นเธอก็เลิกคิ้วขึ้นพลางพูดแหย่ “ฉันเป็นใครกัน จริงๆแล้วฉันคือคุณนายลู่ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป!”

ฉินซียื่นถุงเกาลัดให้เธอ “เธอมีปากก็พูดได้สิ”

อานหยันยิ้ม ปล่อยให้เธอเข้ามาข้างใน “ทำไมวันนี้ถึงมีเวลาว่างมาได้ล่ะ ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเช้านี้ไม่เหนื่อยเหรอ”

ฉินซีถอดรองเท้าอย่างเคยชิน ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาของอานหยัน “เหนื่อยสิ ก็เพราะว่าเหนื่อยไงถึงได้มาหาเธอ”

อานหยันผลักเธอ “เธอเหนื่อยแล้วจะมาหาฉันทำไม กลับบ้านไปพักผ่อนไม่ดีกว่าเหรอ”

ฉินซีส่ายหัวไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

อานหยันจับที่คางของเธอ “หรือว่า…ลู่เซิ่นอยู่ที่บ้าน เพราะงั้นเธอเลย‘พักผ่อนไม่ได้’ ”

น้ำเสียงช่วงสี่คำสุดท้ายของเธอฟังดูแปลกๆ ฉินซีรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไรแต่ก็ขี้เกียจเกินกว่าจะทะเลาะกับเธอ ฉินซีพลิกตัวไปมา แต่เผลอไปถูกแผลที่หน้าเข้า “โอ้ย…”

อานหยันหันไปมองเธอ “เป็นอะไร”

ฉินซีพูดเปรียบบาดแผลบนใบหน้า “บาดแผลจากความกล้าหาญ”

เธอลุกขึ้นเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนเช้าอานหยันกลอกตาไปมาหลายครั้งด้วยความโกรธ “ ทำไมผู้หญิงที่ชื่อหลี่เหวยถึงเลวได้ขนาดนี้!ถ้าฉันอยู่ที่ด้วยยัยนั่นได้หน้าบวมแน่ แค่ตบยังน้อยเกินไป!แล้วไหนจะไอพ่อนั่นของเธออีก ไม่นึกเลยว่าเขาจะทำเรื่องแบบนั้นได้ ฉันน่ะ…

อานหยันตบหน้าอกตัวเองเบาๆ ถอนลมหายใจจากนั้นเธอก็พูดต่อ “โชคยังดีที่ลู่เซิ่นมารับเธอ”

เมื่อเห็นอานหยันขยิบตาให้ตัวเอง น้ำเสียงของฉินซีก็แผ่วเบาลง “เขาก็แค่…กลัวว่าฉันจะทำให้ตระกูลลู่ต้องอับอาย”

อานหยันเลิกคิ้วขึ้น “เธอว่างั้นเหรอ”

ฉินซีหยุดนิ่งไปชั่วครู่และก็พยักหน้า

อานหยันยิ้ม “แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เขาก็ช่วยเธอไว้นะ”

ฉินซีมองไปที่เธอด้วยความสับสน

รอยยิ้มของอานหยันมีนัยยะ “ตามนิสัยของเขาแล้วไม่ใช่คนที่จะคิดเล็กคิดน้อยใช่ไหมล่ะ”

ฉินซีหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

ใช่แล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขามักจะแก้ปัญหาด้วยตัวเองเสมอ แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกอึดอัดใจกันนะ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท