Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 877

ตอนที่ 877

บทที่ 877 เป็นการปลอบใจเธอ

ฉินซีรู้ว่าเขาจะทำจริงๆ และจะไม่หยุด จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย แล้วก็รีบพูดในทันที“คุณดูไม่ออกเหรอ ว่าแม่ของคุณไม่ชอบฉัน?ในตอนนั้น ฉันแค่ต้องทำตามความหมายของคุณ ไม่อย่างนั้นสูหวั่นไปเป็นผู้ช่วยของคุณ แม่คุณก็จะยิ่งเกลียดฉันน่ะสิ”

ลู่เซิ่นไม่เข้าใจ“คุณไม่ได้แต่งงานกับแม่ของผม คุณจะเอาใจเธอทำไม?”

ฉินซีไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เขาเข้าใจได้ยังไง ถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ หลังจากที่คิดอยู่พักหนึ่ง“ถ้าหากว่าในตอนนั้นฉันอยู่ข้างคุณ แม่คุณอาจจะเตะฉันออกไปทันที”

ลู่เซิ่นมองไปที่ฉินซีอย่างสงสัย

เขารู้ว่าตามอารมณ์ของสูหยิง ไม่ใช่ว่าเขาจะทำแบบนี้ไม่ได้ เพียงแค่……

“แต่คุณก็แค่เชื่อฟังเธอบ้าง แค่นี้คงไม่รู้สึกไม่สบายใจหรอกมั้ง?”ลู่เซิ่นก้มลงมองเธอใกล้ๆ

ฉินซียักไหล่

เธอเป็นคนพูดเอง ว่าให้สูหวั่นไปเป็นผู้ช่วยของลู่เซิ่น ในใจของเธอก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เพียงแค่เธอยังไม่เข้าใจว่า ทำไมในหัวใจของตัวเองถึงตะปุ่มตะป่ำแบบนี้ และไม่พร้อมที่จะให้ลู่เซิ่นรับรู้

ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างคลุมเครือออกไปว่า“ยังไงก็ต้องยอมรับอยู่ดี”

เธอไม่ได้ยอมรับ และก็ไม่ได้ปฏิเสธ ลู่เซิ่นดูไม่ค่อยจะพอใจกับคำตอบของเธอมากนัก แล้วก็ก้มหน้าลง และเมื่อทั้งสองคนกำลังจะเข้าใกล้กัน——

ประตูก็ถูกเคาะอย่างกะทันหัน

“ใคร?”ลู่เซิ่นลุกขึ้นยืนอย่างหงุดหงิด และมองไปทางประตู

ประตูถูกเปิดออกอย่างเบามือ ที่ยืนอยู่ด้านนอกก็คือ คนที่พวกเขาเพิ่งจะพูดถึง——สูหวั่น

ในมือของสูหวั่นถือถาดอาหารไว้ เธอยิ้มอย่างเอาใจไปให้ลู่เซิ่น“ฉันเพิ่งจะได้ยินที่ฉินซีบอกว่า คุณจะดื่มนมร้อนก่อนนอน เพื่อช่วยให้นอนหลับได้ง่าย ดังนั้นจึงให้ห้องครัวอุ่นนมร้อนมาให้ ฉัน……ไม่ได้รบกวนพวกคุณใช่ไหม?”

เธอเดินเข้ามา ถึงได้เห็นลู่เซิ่นนั่งอยู่บนโซฟา และฉินซีก็นั่งอยู่ใกล้ๆ ดวงตาของเขานั้นเย็นชา ราวกับว่าถูกขัดจังหวะจากเหตุการณ์ดีๆ

ลู่เซิ่นไม่เคยทำอารมณ์เสียใส่เด็กผู้หญิง จึงทำได้เพียงพูดอย่างเย็นชา“ไม่ต้อง เธอเอามันไปเถอะ”

สูหวั่นกลับรู้สึกกังวล แล้วก้าวเข้ามาในห้องอีก“ฉินซีบอกอะไรผิดหรือเปล่าคะ?คุณไม่ได้ชอบดื่มนมเหรอคะ?งั้นคุณอยากดื่มอะไรคะ เดี๋ยวฉันจะให้ห้องครัวไปเตรียมให้!”

สายตาของลู่เซิ่นเย็นชาเพิ่มขึ้นอีกเขา เขาลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้าไปอยู่ตรงหน้าของสูหวั่น“สูหวั่น นี่เป็นบ้านของฉัน ฉันอยากดื่มอะไร จะไปที่ห้องครัวเอง ดังนั้นเธอไม่ต้องกังวล”

เดิมทีสูหวั่นที่เป็นคนตัวเล็ก และเขาที่ตัวสูง เมื่อเขามาอยู่ตรงหน้า ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนถูกกดขี่อย่างรุนแรง

เธออ้าปากราวกับอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกลู่เซิ่นขัดจังหวะ

เขาเอื้อมมือไปหยิบนมบนถาดอาหาร ส่ายไปมาตรงหน้าสูหวั่น แล้วกดหนักๆ วางกลับไปในถาดอาหารอีกครั้ง“ฉินซีไม่ได้พูดอะไรผิด ผมชอบดื่มนมก่อนนอนจริงๆ แต่เธอไม่ได้พูดว่า ผมจะดื่มนมร้อนจากคนเฉพาะเท่านั้น”

เขาไม่ได้บอกชัดเจนว่า“คนเฉพาะ”คนนั้นคือใคร แต่การที่เขาตั้งใจวางนมโดยไม่สนใจความรู้สึกเธอ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะบอกกับสูหวั่น ว่าเธอไม่ได้เป็น“คนเฉพาะ”คนนั้น

สูหวั่นที่สุดแล้วก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ถูกทำให้อับอายขนาดนี้ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง และแทบจะมุดเข้าไปอยู่ใต้พื้นดินแล้ว

ในที่สุดฉินซีก็หาโอกาสที่จะพูดได้“ลู่เซิ่น อย่ารักแกคนอื่นสิ”

ลู่เซิ่นไม่พูดอะไรอีก

ฉินซีขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปอยู่ข้างๆสูหวั่น“ลู่เซิ่นเขา……พูดเล่นน่ะ เธออย่าเอามาใส่ใจเลย”

แต่เห็นได้ชัดว่า สูหวั่นเก็บเอาไปคิดมากแล้ว เธอไม่สามารถควบคุมการแสดงออกทางสีหน้าได้ แล้วมองฉินซีด้วยความโกรธ จากนั้นก็เดินออกจากห้องพร้อมกับถาดอาหาร

“ลู่เซิ่น เธอทำอะไรอีกเนี่ย”ฉินซีฟังเสียงฝีเท้าที่ยุ่งเหยิง เดินห่างออกไปจากตรงทางเดิน ก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ“ต้องปฏิเสธ และก็ไม่จำเป็นต้องไร้หัวใจขนาดนี้ก็ได้ มันทำให้หัวใจของเด็กสาวแตกสลาย”

ลู่เซิ่นยิ้มเยาะ“นี่ถือว่าไร้หัวใจแล้วเหรอ?”

ฉินซีรู้ว่ายังไงก็พูดกับเขาไม่ได้ ส่ายหัว แล้วกลับไปที่โซฟา ลู่เซิ่นก็นั่งลงข้างๆ เธอ

แต่บรรยากาศที่ชวนฝันเมื่อกี้นี้ ได้พลันสลายหายไปแล้ว

“ลู่เซิ่น แม่ของคุณ ท่าน……ไม่ชอบฉันจริงๆ นะ”ฉินซีลังเลอยู่พักหนึ่ง เพื่อจัดการคำพูดให้มันชัดเจนที่สุด

ลู่เซิ่นไม่ปฏิเสธ

คืนนี้ท่าทางของสูหยิงนั้นชัดเจน เธอเกือบจะพูดว่า“หย่ากับฉินซี แล้วแต่งงานกับสูหวั่น”แล้ว

“คืนวันนี้ เธอ……ถามเกี่ยวกับเรื่องแม่ของฉัน”ฉินซีก้มหน้าลง

ลู่เซิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย“อะไรนะ?”

“เรื่องที่แม่ของฉันกระโดดตึกฆ่าตัวตาย มันก็ไม่ใช่ความลับอะไร”ฉินซีหายใจเข้าลึกๆ“แม่คุณจะถามขึ้นมา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

จริงๆ แล้วเธอไม่อยากที่จะพูดเรื่องนี้ แต่บางทีแสงไฟในห้องของลู่เซิ่น ก็ดูอบอุ่นเกินไป ความกังวลในดวงตาของลู่เซิ่นนั้นชัดเจนมาก ทำให้เธออดไม่ได้ ที่จะแสดงด้านที่เปราะบางของเธอออกมา

แต่เพียงชั่วคราว ที่เธอได้สัมผัสกับความเปราะบางของตัวเอง เธอก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย

เธอเงยหน้าขึ้นมองลู่เซิ่น ราวกับต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง และก็รีบพูดออกไปว่า“สรุปก็คือ แม่ของคุณไม่พอใจกับภูมิหลังของครอบครัวฉัน ดังนั้นจึงจัดหาคนใหม่ เพื่อที่จะมาแทนฉัน”

ลู่เซิ่นกลับส่ายหัว“ไม่หยุด”

ฉินซีไม่เข้าใจ“อะไรคือไม่หยุด?”

ลู่เซิ่นมองไปที่ประตู“คุณรู้ว่าสูหวั่นคือใครไหม?”

ฉินซีส่ายหัว

“เธอเป็นลูกสาวของลูกพี่ลูกน้องของแม่ผม แล้วครอบครัวนั้นได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในต้นปี แม่จึงพาเธอเข้ามาอยู่ตระกูลสู”ลู่เซิ่นค่อยๆ พูด

ฉินซีขมวดคิ้ว แล้วคิดอยู่พักหนึ่ง“ถ้าอย่างงั้น……เธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของแม่คุณเหรอคะ?”

ลู่เซิ่นยิ้มออกมา“ขนาดผม แม่ยังเลี้ยงได้ไม่ค่อยดี แล้วจะมาลูกสาวบุญธรรมอีก เธอจึงพาไปอยู่ตระกูลสู แล้วโยนไปให้ญาติห่างๆ เลี้ยงดูเธอให้เติบโตแทน”

ฉินซีมองไปที่ลู่เซิ่นอย่างสับสน ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงพูดกับเธอด้วยเรื่องแบบนี้

“เมื่อเธอพาสูหวั่นกลับมา ก็ถึงเวลาที่จะถือโอกาสแสดงน้ำใจ เกือบลืมไปว่า ได้ทิ้งสูหวั่นไว้กับญาติห่างๆ ไว้ จนในปีนั้นเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เกรดดี แม่ของผมรู้เข้า ถึงได้ติดต่อเธอไปอีกครั้ง ออกเงินเพื่อให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศM เมื่อเธอต้องการจะซื้อใจคน เธอจะมีวิธีการ หลังจากนั้นเป็นต้นมา สูหวั่นแทบจะเชื่อและปฏิบัติตามทุกอย่าง คิดว่าสิ่งที่เธอพูด เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าแม่สั่งให้เธอทำอะไร เธอก็ทำอย่างนั้น”

ฉินซีเมื่อได้ฟัง ก็ตกตะลึง เธอแทบจะไม่เคยได้ยิน ลู่เซิ่นพูดยาวมากขนาดนี้มาก่อนเลย และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่า เบื้องหลังของสูหยิงและสูหวั่นยังมีเรื่องราวอีกมากมาย

“สรุปก็คือ แม่ผมก็เป็นคนแบบนี้ เธอจะปฏิบัติเฉพาะกับคนที่มีประโยชน์กับเธอเท่านั้น”ลู่เซิ่นพูด พร้อมกับมองไปที่ฉินซี

ฉินซีหลังจากผ่านไปไม่นาน ถึงมีการตอบสนองกลับมาอย่างรู้ซึ้ง

ที่ลู่เซิ่นพูดมาเยอะขนาดนี้……หรือเป็นการปลอบใจเธอ?

ราวกับว่ามองทะลุความคิดของฉินซี ลู่เซิ่นก็ขมวดคิ้วขึ้น แต่ก็ไม่ได้เปิดโปงความคิดของเธอ ทำได้เพียงพูดต่อว่า“สูหวั่นที่เอาแต่ตามติดผม ไม่แน่ว่าจะชอบผมมาก หรือบางที……เป็นแม่ของผมที่ให้เธอทำแบบนี้”

เดิมที……ที่ลู่เซิ่นอธิบายสิ่งต่างๆ ที่สูหวั่นได้ทำ ไม่ใช่เพียงแค่พยายามจะปลอบใจเธอ

ฉินซีวูบหนึ่งก็คิดเข้าข้างตัวเอง อีกวูบหนึ่งก็รู้สึกสับสน

หรือว่าสูหวั่นจะชอบเขาจริงๆ……ที่จริงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องพูดกับเธอใช่ไหม?

แต่ในไม่ช้า ความสนใจของเธอก็เปลี่ยนไป

“คุณบอกว่า……เธอทำตามที่แม่ของคุณบอก เพื่ออยู่ใกล้ๆ คุณเหรอ?”ฉินซีขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท