Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 887

ตอนที่ 887

บทที่ 887 ไม่ควรติดต่อกับเขาอีก

ลู่เซิ่นไม่ได้บังคับเธอ แต่เพียงแค่ยักไหล่ “ผมแค่เสนอวิธีทางอื่นเท่านั้น ส่วนจะเลือกทำอะไรนั้น อยู่ที่ตัวคุณจะตัดสิน”

ฉินซีพยักหน้าแล้วเงียบ

อาหารมาเสิร์ฟในไม่นาน ฉินซีกลับไม่มีอารมณ์กินเลย

เธอเข้าใจความหมายของลู่เซิ่น

ตามสถานการณ์ทางธุรกิจในปัจจุบันของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป แม้จะได้มาอยู่ในกำมือแต่ก็ช่วยไม่ได้แล้ว แต่ถ้าจะทำลายกลับง่ายกว่าเยอะ เอาแค่เรื่องไม่คาดฝันเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาทำให้สำเร็จ ก็สามารถทำให้เครือข่ายทุนของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปพังได้

นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้วก็จริง แต่……เธอกลับไม่สามารถตัดสินใจได้

เพราะอย่างไรก็ตามบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็เป็นความพยายามของปู่ของเธอ แม้ว่าความรู้สึกระหว่างเธอกับพ่อของเธอจะไม่มีอีกแล้ว แต่เธอก็ยังจำได้ว่าปู่เป็นคนใจดีกับเธอมาเสมอ

เธอไม่สามารถโหดร้ายไปเป็นคนร้ายนี่ได้

ทั้งสมองเต็มไปด้วยความคิดที่สับสนไปหมด ฉินซีเพียงแค่กินไปสองสามคำก็รู้สึกกินไม่ลงแล้ว วางตะเกียบลงและหันหน้าไปดื่ม และดวงตาก็กวาดออกไปนอกหน้าต่างพอดี

หซู่หนานกำลังเดินออกจากประตูของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เส้นทางเป็นกลาง ดูเหมือนว่ามุ่งหน้ามายังภัตตาคารแห่งนี้

ฉินซีขมวดคิ้ว

เธอไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับหซู่หนานแบบตัวต่อตัว แต่เธอรู้สึกรำคาญเล็กน้อย

เธอไม่มีความรู้สึกกับหซู่หนานมานานแล้ว แต่หซู่หนานดูเหมือนจะไม่เชื่อ พูดยังไงก็ไม่รู้เรื่อง ตามตื้อตัวเองอยู่เรื่อย

นอกจากนี้เธอยังจำได้ว่าเธอเคยสัญญากับลู่เซิ่นไว้ว่าเธอจะเจอกับหซู่หนานอีก แต่ทั้งสองคนได้พบกันหลายครั้งตั้งแต่นั้นมา

ลู่เซิ่นดูเหมือนจะใส่ใจตัวเธอเกี่ยวกับการติดต่อกับหซู่หนานมาก ถ้าพวกเขาพบกันอีกครั้ง คาดว่าฉากนี้คงไม่น่าดูสักเท่าไหร่

เธอเบ้ปาก เก็บสายตาหันมา และภาวนาในใจให้หซู่หนานไปทานข้าวกลางวันที่อื่น

แต่การภาวนาของฉินซีนั้นไม่มีผลอย่างเห็นได้ชัด

เพราะหลังจากนั้นไม่นาน จู่ๆลู่เซิ่นก็เงยหน้าขึ้น

ฉินซีมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจ เธอค่อยๆหันหน้ากลับไปพร้อมกับสายตาที่จ้องมองของลู่เซิ่น

สีหน้าของหซู่หนานก็ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่นัก สายตาของเขาวนเวียนระหว่างฉินซีและลู่เซิ่น ท่าทีว่าอยากจะทักแต่ก็ไม่กล้าทักเพราะศักดิ์ศรีของตน

ฉินซีหันหน้ากลับอย่างเรียบเฉย ไม่มองเขาอีก

ลู่เซิ่นก็หันหน้ากลับมา

หซู่หนานยังคงยืนอยู่ที่เดิม

นี่คือร้านอาหารที่อยู่ใกล้กับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป พนักงานเสิร์ฟอาจคุ้นเคยกับหซู่หนานบ้าง เมื่อเห็นว่าเขาหยุดไม่ขยับเลยจึงเดินไปข้างหน้าและถามว่า “คุณหซู่ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

หซู่หนานไม่กล้ามีเรื่องที่นี่ ทำได้เพียงกลั้นไว้ แล้วส่ายหัว “ไม่มีอะไรครับ”

พนักงานเสิร์ฟสีหน้างุนงง แต่ก็นำทางไปตำแหน่งที่เขาจองต่อ

เมื่อฟังเสียงฝีเท้าของหซู่หนานที่ลอยออกไปไกล ฉินซีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอกำลังจะดื่ม แต่กลับได้ยินลู่เซิ่นพูดขึ้นช้าๆว่า “วันนี้คุณไปที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เพื่อหาเขา?”

แม้ว่าลู่เซิ่นจะไม่ได้ระบุว่า “เขา”คือใคร แต่การอ้างอิงก็ชัดเจนอยู่แล้ว

ฉินซีไม่มีเจตนาที่จะโกหกเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ดังนั้นจึงพยักหน้าตอบอย่างเรียบง่าย “ใช่”

ท่าทีที่ไม่ปิดบังของเธอทำให้ลู่เซิ่นเลิกคิ้ว แต่มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ดังนั้นน้ำเสียงของเขายังฟังดูเย็นชา “ผมจำได้ว่าเคยบอกคุณ ไม่ควรติดต่อกับเขาอีก”

ฉินซีทำอะไรไม่ถูก

เธอรู้ว่าลู่เซิ่นจะถามเรื่องนี้

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะติดต่อกับเขา แต่แค่ฉันไปบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เจอเขาพอดีแค่นั้น”

ฉินซีพูดตามความจริงก็จริง แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องราวที่หซู่หนานมาขวางรถเธอเมื่อวานนี้เท่านั้น ท่าทีใจกว้างมาก

ลู่เซิ่นก็หาคำที่จะตำหนิในขณะนั้นไม่ได้ เงียบไปสักพัก พูดอย่างเย็นชาว่า “คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพบกับเขาได้ก็จริงๆถ้าคุณไปที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป หรือว่า เป็นเพราะเหตุผลนี้คุณเลยจะกลับไป?”

เขาพูดแบบนี้มากเกินไปแล้ว ฉินซีขมวดคิ้วทันที “นายหมายความว่าไง? ทำไมฉันถึงกลับไปที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป นายยังไม่รู้หรือไง?”

ลู่เซิ่นเลิกคิ้ว ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าตัวเองเข้าใจผิด แต่กลับไม่ยอมง่ายๆ “แน่นอนผมรู้ว่าคุณต้องการล้างแค้นให้แม่ของคุณเลยกลับไป แต่ยังสามารถพอเจอกับหซู่หนาน สำหรับคุณแล้วคงเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ?”

ฉินซีแสยะยิ้ม “แล้วแต่ละกัน ถ้านายจะคิดอย่างนั้น ฉันก็ช่วยไม่ได้”

เดิมทีถ้าฉินซียอมพูดคำที่อ่อนข้อให้หน่อย ลู่เซิ่นก็สามารถหายโกรธได้ แต่ฉินซีวันนี้ดันอารมณ์ไม่ดี สมองก็สับสนไปหมด ดังนั้นจึงไม่ยอมอ่อนข้อให้ลู่เซิ่น

แน่นอนว่าลู่เซิ่นจะไม่ขอโทษก่อน ดังนั้นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็อึดอัดขึ้นมา

ยังดีที่ฉินซีทานจะหมดแล้ว รอลู่เซิ่นทานอาหารในถ้วยเขาเสร็จ ทั้งสองก็เดินออกจากภัตตาคารไปตามลำดับ

ระยะห่างราวกับว่าเป็นคนไม่รู้จักกัน

หลินหยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา แต่เมื่อเห็นสีหน้าของลู่เซิ่นไม่ดี ก็สามารถเดาได้ว่าทั้งสองคนน่าจะทะเลาะกันอีกแล้ว เลยถามฉินซีเสียงเบา “ หลังจากส่งประธานลู่กลับไปที่บริษัทลู่ซื่อแล้ว คุณนายจะกลับไปที่บริษัทลู่ซื่อด้วยกัน รอประธานลู่เลิกงานเลยไหมครับ?”

ฉินซีมองไปที่แผ่นหลังที่ปฏิเสธคนเข้าหาเป็นกิโลของลู่เซิ่น จึงส่ายหัว “ส่งฉันกลับไปที่รีสอร์ทชิงหยวน”

หลินหยังพยักหน้า ช่วยลู่เซิ่นและเธอเปิดประตูรถ

ร้านอาหารอยู่ไม่ไกลจากบริษัทลู่ซื่อมากนัก ฉินซีว่าจะอดทนรอสักครู่ก็จะอิสระแล้ว แต่โทรศัพท์กลับดังขึ้นกลางทาง

สายโทรเข้าคืออานหยัน

อานหยันไม่ค่อยโทรหาตัวเองก่อน นอกจากว่ามีเรื่องธุระด่วนอะไร……

ฉินซีกลัวว่าอานหยันจะมีธุระด่วนอะไรติดต่อตัวเอง ก็ไม่สนว่าตัวเองอยู่บนรถ รับโทรศัพท์ขึ้นมา “อานหยัน?”

น้ำเสียงของอานหยันเร่งรีบ ดูท่าจะกังวลมาก “ฉินซี ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”

ในรถเงียบเกินไป เสียงในโทรศัพท์ก็ฟังได้อย่างชัดเจน ฉินซีเหลือบมองไปที่ลู่เซิ่นทีหนึ่ง เมื่อเห็นว่าคนหลังไม่ได้แสดงสีหน้าว่าถูกรบกวน เลยตอบไปอย่างลวกๆ “ฉันอยู่ตรงใจกลางเมือง มีอะไรเหรอ?”

อานหยันกระวนกระวาย “นิตยสารมาถ่ายปก ช่างภาพติดธุระมาไม่ได้ แต่ดาราเขามารออยู่ที่นี่แล้ว เวลากะทันหันไป ฉันไม่สามารถติดต่อช่างภาพฝีมือดีได้ในเวลาสั้น เธอแวะมาถ่ายให้หน่อยได้ไหม?”

ฉินซีขมวดคิ้วด้วยความลำบากใจ “ฉัน……แต่เธอรู้ใช่ไหม ฉันไม่ใช่ช่างภาพบุคคลมืออาชีพ ถ้าให้ฉันถ่าย ไม่ค่อยดีมั้ง……

อานหยันปฏิเสธทันที “ฉินซี ถึงแม้ว่าปกติเธอจะไม่ได้ถ่ายภาพบุคคล แต่ภาพที่เธอถ่ายเป็นครั้งคราวก็ดีไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ฉันคนที่เหมาะสมไม่ได้แล้วจริงๆ งานด่วนช่วยฉันหน่อยนะ……ช่วยฉันนะ……”

น้ำเสียงของอานหยันดูจริงจังมาก ฉินซีจะปฏิเสธก็รู้สึกไม่ดี “งั้นฉันจะลองดู……เธออย่าคาดหวังมากเกินไปนะ”

น้ำเสียงของอานหยันดูผ่อนคลายขึ้นเยอะในทันที “ฉันรู้ว่าเธอเชื่อถือได้! ถึงเวลาสำคัญมีเธออยู่ดีที่สุด! เดี๋ยวฉันส่งที่อยู่ไปให้เธอ เธอไปเองได้ไหม หรือว่าจะให้ฉันไปรับ?”

ฉินซีมองคนขับรถของลู่เซิ่นไปทีหนึ่ง “ฉันไปเองได้”

อานหยันตอบเสร็จว่าจะวางสาย ฉินซีเหมือนนึกเรื่องสำคัญได้ขึ้นมาทันที “ดาราที่มาถ่ายปก คือใคร?”

อานหยันชะงักไปสักพัก ตอบอย่างลังเลว่า “คือ……หซู่เป่ย”

ท่านั่งของฉินซีเกรงไปทีหนึ่ง

แต่ลู่เซิ่นที่นั่งอยู่ข้างเธอดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท