Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 895

ตอนที่ 895

บทที่ 895 อยู่​เป็นเพื่อนทั้งคืน

คนรับใช้ในบ้านเห็นเธอตื่นนอน​แล้ว​ ผ้าม่านจึงถูก​เปิดออกมา​ แสงแดดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ฉินซีมองดูรอบๆ

ห้องผู้ป่วยใหญ่กว่าที่เธอจินตนาการเอา​ไว้เล็กน้อย ไม่รู้​ว่า​ลู่เซิ่นพาคนรับใช้มาจากที่บ้านตั้ง​หลายคน ฉินซีมองไป ทุกที่มีแต่คน มีคนยุ่งๆอยู่ข้างเตียง เปิดข้าวของเครื่องใช้​ออกมา​ทีละกล่อง วางไว้บนโต๊ะเตียงผู้ป่วย​ มีคนเห็นว่าเธอจะลงจากเตียง ยังคิดจะเข้ามาพยุงเธอด้วยซ้ำ แต่ถูกฉินซีผายมือปฏิเสธ​ไปเรียบร้อย​

แค่สมองกระทบกระเทือน​เล็กน้อย ไม่ใช่พิกลพิการสักหน่อย​ ทำซะจนยุ่งยาก​ซับซ้อน​………..

ส่วนผู้บงการ​ตัวดีลู่เซิ่นนั่งอยู่บนโซฟาข้างๆแบบสบายๆและผ่อนคลาย​ เหมือนชินกับภาพเหตุการณ์​แบบนี้จนไม่มีอะไรน่าแปลกใจ​

ไม่รู้​ว่า​เมื่อคืนเขาอยู่​ที่นี่​ตลอด หรือว่าเพิ่งมาเมื่อเช้า

คนรับใช้​ได้จัดเก็บ​ห้องน้ำจนเรียบร้อย​ไม่ต่างจากที่บ้าน ข้าวของเครื่องใช้​ที่ฉินซีใช้ยังคงวางอยู่ในที่ที่คุ้นเค​ย เธอยื่นมือไปเอาแปรงสีฟัน​ตัวเอง ถึงพบว่าที่วางอยู่ไม่เพียงมีแต่แปรงสีฟัน​ของตัวเองเท่านั้น

ด้ามข้างๆนั้น………เป็นของลู่เซิ่น

เธอมองดูห้องน้ำรอบๆอย่างละเอียด​อีกครั้ง ในที่สุดก็พบว่าความรู้สึก​ที่​คุ้นเคย​ไม่ใช่แค่มาจากตำแหน่งในการจัดวางข้าวของเครื่อง​ใช้เท่านั้น ยังมาจากข้าวของเกือบ​เหมือนทุกอย่างในบ้านอย่างกับพิมพ์​เดียวกัน​——มีของใช้สำหรับสองคนทั้งเธอและลู่เซิ่น ไม่เพียงแค่ข้าวของ​เครื่อง​ใช้ของฉินซีเท่านั้น

ทำไมลู่เซิ่นพกของมาตั้งมากมาย​เช่นนี้? ถ้าหาก​ให้คนนอกมาเห็น คาดว่าแยกไม่ออกว่าคนที่นอนโรงพยาบาลเป็นตัวเองหรือลู่เซิ่น

หรือว่า……… ลู่เซิ่นก็จะพักอยู่ที่นี่?

ฉินซีเม้มปากอยู่ในใจ พักอีกแค่หนึ่งวันเธอก็สามารถ​ออกจาก​โรงพยาบาลแล้วแท้ๆ มีแต่ลู่เซิ่นเท่านั้นแหละที่ทำเรื่องให้มันยุ่งยาก​ซับซ้อน​เช่นนี้

แต่ว่าจะนินทาอยู่​ในใจยังไงก็​ตาม​ ฉินซีไม่ยอมรับ​ไม่ได้​แล้ว ถูกคนจัดเก็บ​รอบนึงไปแล้ว ข้าวของเครื่องใช้​ตัวเอง หยิบคล่องมือ​มากเลยทีเดี​ยว

พอเธอล้างหน้าล้างตา​เสร็จ​เรียบร้อย​ออกมา​จาก​ห้องน้ำ คนรับใช้​ได้จัดเก็บ​ห้องผู้ป่วยจนสะอาดเรียบร้อย​แล้ว​ ความจริงห้องผู้​ป่วยก็สะอาด​อยู่​แล้ว ทีนี้ได้กวาดอย่างทุกซอกทุกมุม​อีกรอบ สะอาดจนสามารถ​สะท้อนแสงได้เลย

อาหารเช้าของ​ฉินซีวางอยู่บนโต๊ะ สูดดมกลิ่นก็จะเป็นฝีมือ​พ่อครัวของ​ที่บ้านเลย ส่วนตรงหน้า​ลู่เซิ่นมีของสิ่งนึงวางอยู่

ฉินซีมองหน้าลู่เซิ่น ความไม่เข้าใจเพิ่มขึ้น​มา​​อีกนิด

ลู่เซิ่นสวมใส่เสื้อผ้า​เหมือนเมื่อวานเป๊ะๆเลย​

หรือว่า…….. เมื่อคืนลู่เซิ่นอยู่เป็นเพื่อนตัวเองที่นี่ทั้งคืนจริงๆ?

คำถามแบบนี้ต่อให้ฉินซีแปลกใจ​แค่ไหน​ ก็ไม่อาจเอ่ยปากถาม ทำได้แค่พยักหน้า​แบบงงๆ และเดินไปทางเตียงผู้ป่วย​

แต่ว่าเธอรู้จากจิตใต้สำนึก นอกจากตัวเองไม่เข้าใจแล้ว และจะไม่ถามด้วย แต่ว่าซาบซึ้งใจ​มากมาย​อย่างชัดเจน​

มีคนสามารถ​อยู่​เป็นเพื่อนตัวเองข้างๆเรื่องแบบนี้ ต่อให้เป็นแค่การคาดเดา​ของตัวเองก็ตาม พอที่จะทำให้เธอรู้สึก​ซาบซึ้งใจ​แล้ว​

ส่วนลู่เซิ่นเหมือนไม่สังเกต​เห็น​อารมณ์​ที่เปลี่ยนไป​ในตัวฉินซี ก็แค่หลังจาก​ได้ยินเสียงเท้าเดิน เงยหน้าขึ้น​มา​มองเธออย่างนิ่งๆ “ล้างเสร็จ​แล้ว? ถ้างั้นก็ทานข้าวเถอะ”

ทานข้าวแบบสงบๆเรียบร้อยเเล้ว​ ฉินซีก็หวีเรื่องราวของเมื่อคืนไปรอบนึง

เธอถูกสะกดรอยตาม เกิดอุบัติเหตุ​ทางรถยนต์​ ตื่นมาที่โรงพยาบาล จับตัวลู่เซิ่นถามผู้ก่อเหตุ​ สุดท้ายกลับไม่ได้ให้คำตอบ

ฉินซีจำได้ว่าเมื่อคืนเขาพูดเองว่าวันนี้จะเอาหลักฐานมา​ให้ได้ และจะเล่าให้กับตัวเองอย่างชัดเจน​

ฉินซีก็เลยทานข้าวเรียบร้อย​และ​นั่งอยู่บนเตียง จ้องหน้าลู่เซิ่นอย่างไม่ให้คลาด​สายตา​

ลู่เซิ่นไม่น่าจะไม่รู้​ว่า​ฉินซีกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่าเขาค่อยๆทานข้าวเสร็จ​เรียบร้อย​ กลับไม่พูดอะไรเลย ลุกขึ้น​มา​เดินออกไปจากห้องผู้ป่วย​

หัวสมองฉินซีเต็ม​ไปด้วยคำถาม

เธอรู้สึก​ว่า​ถ้าตัวเอง​สามารถ​พ่นควันออกมาได้ คาดว่าน่าจะ​โกรธ​จนพ่นควันออกมาทีเดียว​เชียว​

ดีนะไม่นานลู่เซิ่นก็กลับมาแล้ว ยังมีคนตามหลังนึงคน ฉินซีเห็นชายเสื้อสีขาว​ เข้าใจว่าคุณ​หมอมาตรวจห้อง จึงหันหน้าไปแบบเซ็งๆ แต่ว่าพอทั้งสองคนยืนอยู่ตรงหน้าแบบ​นิ่งๆ ฉินซีมองหน้าคุณ​หมออย่างละเอียด​ ตื่นตกใจ​อย่างกะทันหัน​

หมอที่มาไม่ใช่คนที่ตรวจเช็ก​ร่างกาย​ให้กับตัวเองคนนั้น แต่กลับเป็นหมอที่ฉินซีไม่เคยเห็นมาก่อน

…………. หมอคนนี้หล่อจังเลย

โครงหน้าที่เข้มๆเช่นเดียวกัน​ แต่อาจจะเป็นเสื้อคลุม​สีขาวที่เสริมให้ดูดี บุคลิก​ของ​เขาทั้งคนอบอุ่น​มากยิ่งขึ้น​ ทำให้คนรู้สึก​อบอุ่น​มากมาย​

ฉินซียังอยากดูให้ละเอียด กลับถูกลู่เซิ่นบังไว้แล้ว​

สีหน้าของลู่เซิ่นดูไม่ดีนัก หันหน้าไปเร่งหมอ “มู่วี่สิง นายรีบตรวจเช็ก​ให้เรียบร้อย​ ตรวจเสร็จ​รีบไปซะ”

น้ำเสียงของคุณหมอผู้ที่หน้าตาหล่อเหลา​กลับมีรอยยิ้ม​ “นายให้ฉันมาเอง ฉันมาแล้วนายก็ให้ฉันรีบๆตรวจ หาเรื่อง?”

ฉินซียักคิ้ว​ ดูๆไปทั้งคนดูสนิทสนม​กัน​พอสมควร​ อย่างน้อยเธอเห็นคนที่สามารถ​ใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับ ลู่เซิ่นมีน้อยมาก

ลู่เซิ่นยิ้มแย้ม​แบบดูถูก​ “ความจริงฉันไม่ได้เรียกนายมา ฉันแค่อยากเรียกเวินจิ้งมา”

มู่วี่สิงได้ยินชื่อของเวินจิ้ง จู่ๆสีหน้าก็นิ่งๆ

ส่วนสีหน้าที่เปลี่ยนไป​พร้อมกัน​ ยังมีฉินซีด้วย

เวินจิ้ง……

เธอยังจำได้ หลายวันก่อนตอนที่หน้าตัวเองถูกกรีดจนได้รับบาดเจ็บ ลู่เซิ่นพาตัวเองมาที่โรงพยาบาล ยังอุตส่าห์​หาเวินจิ้งมาตรวจให้​

คราวนี้​สมองเธอกระทบกระเทือน​ ก็ยังหาเวินจิ้งมาดูให้อีก

ลู่เซิ่นกับเวินจิ้ง………. มีความสัมพันธ์​อะไรกันแน่?

ตอนนั้นตัวเองถามแบบแซวเล่นๆกับลู่เซิ่นว่าชอบเวินจิ้งใช่รึเปล่า​ เจ้าตัวกลับไม่ได้ปฏิเสธ​อย่างชัดเจน​

เรื่องเมื่อหลาย​วันก่อนแท้ๆ ทำไมนึกย้อน​กลับไปกลับเหมือนเกิดเรื่อง​ขึ้น​มาไม่นาน

ส่วนที่เปลี่ยนไป​พร้อมกัน​ ยังมีจิตใจ​ของ​ตัวเองอีก

ตอนนั้นลู่เซิ่นไม่ได้ปฏิเสธ​ ฉินซีแค่รู้สึก​ตลก แต่ว่าตอนนี้นึกขึ้น​มา​ลู่เซิ่นอาจมีใจให้กับเวินจิ้งจริงๆ​ ในใจฉินซีทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ

เธอพูดไม่ถูก​ว่านี่เป็นความรู้สึก​แบบไหน เหมือนอย่างเช่นตอนเด็กๆคุณ​ครูรับปากให้รางวัล​กับเธอแต่กลับเขียนชื่อของคนอื่น​

เธอก้มหน้าแบบทำตัวไม่ถูก มู่วี่สิงกลับปรับสีหน้า​เรียบร้อย​ไป​แล้ว​ ก้มหน้ามองเธอ “รู้​สึกเวียนหัว​รึเปล่า?”

เสียงของมู่วี่สิงมีผลลัพธ์​ที่แฝงด้วยความปลอบใจ​คน ฉินซีถูก​เสียงของเขาเข้ามาขัดความคิดของตัวเอง จึงทำตามข้อเรียกร้อง​ของเขาและพยักหน้า​เบาๆ ตอบไปอย่างซื่อสัตย์​ “เวียนหัว​ไม่มาก”

มู่วี่สิงถามต่ออีกหลายคำถาม​จากนั้นยกมือขึ้น​มาเขียนประวัติผู้​ป่วย อีกสักครู่​ให้ฉินซีไปตรวจเช็ค

เขาก้มหน้าเขียนบางอย่างในประวัติผู้​ป่วยไปด้วย และพูดไปด้วยว่า “ไม่มีปัญหา​ใหญ่​แล้วตรวจเช็ค​ให้แน่ใจ​อีกสักหน่อย​ ให้น้ำเกลือ​ในวันนี้เรียบร้อย​ พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาล​ได้เลย”

ฉินซีพยักหน้า​ ขอบคุณ​อย่างมีมารยาท​ “รบกวน​คุณ​หมอแล้ว”

สีหน้าลู่เซิ่นยังคงดูไม่ดี พอมู่วี่สิงเขียนเสร็จ​เรียบร้อย ​ก็รอไม่ไหวรีบส่งคนออกไปจากห้องผู้​ป่วย

คนรับใช้​เก็บโต๊ะอาหาร​ให้เรียบร้อย​ จึงออกไปทีละคนสองคน ตอนลู่เซิ่นกลับมาถึง​ ในห้องผู้ป่วย​ก็เหลือแต่ฉินซีกับเขาแค่สองคน

ฉินซีเห็นเขา จึงคิดถึง​เมื่อสักครู่​ที่ทำตัวไม่ถูก เธอไม่อยากคิดมาก จึงเอ่ยปากถามขึ้น​มาเอง “เมื่อวานคุณ​พูดกับฉันเองว่าจะบอกกับฉันผลการสืบหา​”

ลู่เซิ่นเงียบไปหลายวินาที เดินไปข้างๆ เดินไปข้างเตียงเธอ “คุณ​หมอพูดว่าตอนนี้คุณ​ต้องการการพักผ่อน”

น้ำเสียงของฉินซีกลับยืนยันหนักแน่น​มาก “ถ้าหากสืบหา​​ไม่​ได้ว่าใครเป็นผู้บงการ​เบื้องหลัง​ ฉันพักผ่อน​ดีๆไม่ได้ คุณ​ไม่บอกฉัน ฉันก็จะไปสืบหาเอง”

ลู่เซิ่นมองดูสายตา​ของ​เธอ จู่ๆก็รู้สึกซาบซึ้งใจ​

หนึ่งปีก่อน เธอตื่นมาในห้องผู้ป่วย​ ตอนที่มองดูตัวเองและพูด​ว่าจะแก้แค้นให้กับแม่ ก็คือสายตาแบบนี้​

เพียงแต่​ว่าฉินซีในตอนนี้ดูขึ้นไป​แข็งแกร่ง​กว่าตอนนั้นมาก ความหนักแน่น​ในสายตา​แบบนั้นก็กระพริบมากยิ่งขึ้น​

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท