Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 899

ตอนที่ 899

บทที่ 899 การเปลี่ยนแปลง​

ลู่เจิ้นรออยู่ตั้งนานสองนาน ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ขณะที่​กำลังผิดหวังและเบะปากจะออกไป โทรศัพท์​ในห้องทำงานของลู่เซิ่นจู่ๆก็ดังขึ้น​มา​อย่างกะทันหัน​

ลู่เจิ้นเต็มไปด้วยสีหน้าที่​อยู่​ในความคาดหมาย รับโทรศัพท์​ขึ้น​มา​

เซ้นส์ของลู่เจิ้นบอกว่า​จะได้ดูละครดีๆแล้ว หันหลังอีกที​และยืนอยู่นิ่งๆ

เพิ่งรับโทรศัพท์​ขึ้นมา เสียงของฝ่ายตรงข้ามก็เต็มไปด้วย​ความโมโห​และดังไปทั่วห้องทำงาน “ประธาน​ลู่ คุณ​ไม่พอใจผมตรงไหนสามารถ​พูดออกมา​ตรงๆได้เลยนะ เรื่องที่สกัดกั้น​เงินกู้ธนาคาร​ของเรามันยังไง​กัน”

คิ้วของลู่เซิ่นไม่ขยับด้วยซ้ำ ตอบไปอย่างใจเย็น​ว่า “ประธาน​ฉิน ผมไม่รู้​ว่า​คุณ​กำลังพูดอะไรอยู่”

ชัดเจนมากฉินซึ่งเทียนทางโน้น​ใจร้อนน่าดู” ลู่เซิ่น คุณ​นับว่าเป็นลูกเขยฉันนะ? ทำเรื่องที่ไม่ซื่อสัตย์​สุจริต​แบบนี้ นับว่าเป็นความสามารถ​ภาษาอะไรฮะ​”

ชัดเจนมากเขากำลังถลำลึกลงไปในความโกรธ​ จึงฟังคำพูดคนอื่นไม่เข้าหู ลู่เซิ่นก็ขี้เกียจ​เสียเวลากับเขา ยื่นโทรศัพท์​ให้กับหลินหยังไปซะเลย

ฉินซึ่งเทียนตะโกน​ออกมา​เสียงดังอยู่ตั้งนานสองนาน​ ในที่สุดตอนที่พักหายใจ ก็ได้ได้ยินเสียงที่เกรงอกเกรงใจแต่ว่าเย็น​ชาเช่นเดียวกัน​ของหลินหยังดังออกมาจากโทรศัพท์​ “ขอโทษ​ด้วย​ครับ​ประธาน​ฉิน ประธาน​ลู่มีธุระเร่ง​ด่วน ผมเป็นผู้ช่วยของประธาน​ลู่ ท่านมีธุระ​อะไร พูดกับผมโดยตรงได้เลยครับ”

ฉินซึ่งเทียนคนนี้เอาหน้าที่สุด เขาโทรศัพท์​ให้กับลู่เซิ่น กลับให้ผู้ช่วยมารับสาย สำหรับเขา ไม่ต้องสงสัย​เลยเป็นการดูถูก​อย่างนึง

เขาโมโห​จัด เสียงตะโกนยิ่ง​ดังขึ้นเรื่อยๆ​” อย่าหาข้ออ้าง​ ให้ประธาน​ลู่ของนายมารับสาย”

” ลู่เซิ่นฟังอยู่ข้างๆแท้ๆ กลับไม่มีท่าทีที่จะรับสายเลย”

หลินหยังใช้น้ำเสียงที่เย็นชาตอบกลับ​ไปให้เขาต่อ “ต้องขอโทษ​ด้วย​นะ​ครับ​ ประธาน​ฉิน ประธาน​ลู่มีธุระ​จริงๆ แต่ว่าเรื่องที่ท่านพูดเมื่อสักครู่​ ผมให้คำอธิบาย​กับท่านได้นะครับ”

ฉินซึ่งเทียนหยุดชะงักสักครู่​จริงๆซะด้วย พูดอย่างรำคาญว่า “ถ้างั้นนายพูด”

“ตามคำพูดที่ท่านพูดมาเมื่อสักครู่ บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเหมือนได้สูญเสีย​เงินกู้ธนาคาร​ที่สำคัญไป แต่ว่าธนาคาร​ที่ท่านพูดอยู่นั้นไม่อยู่​ใต้อำนาจการควบคุมดูแล​ของบริษัทลู่ซื่อ และไม่มีธุรกิจการค้าขายโดยตรงกับบริษัทลู่ซื่อ ผมไม่ทราบว่าทำไมท่านถึงเอาต้นเหตุ​ของเรื่องที่เกิดขึ้นมาโยนให้กับเรา อีกอย่าง ตามที่ท่านพูด ประธาน​ลู่กับท่านเหมือนมีความสัมพันธ์​ทางญาติ​ ถ้างั้น​ประธาน​ลู่ยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องสกัดกั้น​เงินกู้​ของท่าน ท่านว่าถูกต้อง​หรือไม่? ”

ลู่เจิ้นอยู่หน้าประตู​ได้ยินจนอ้าปากตาค้าง​ แทบจะอยากปรบมือ​ให้​กับ​สองคนนี้​

ลู่เซิ่นมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วย​ความน่ารำคาญ

เขาไม่ใจร้อนที่จะถอนตัว​ออกจากการร่วมงานของบริษัทลู่ซื่อและบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปโดยตรง แต่ว่าเลือกธนาคาร​นึงสกัดกั้น​เงินกู้ก้อนนึง ก็แค่เพื่อต้องการ​ทดลอง​ฉินซึ่งเทียนดูสักหน่อย​

ถ้าหาก​เรื่องนี้ไม่เกี่ยว​ข้อง​กับ​ฉินซึ่งเทียน ถ้างั้นผู้ค้าขายทุกคนที่ปกติล้วนต้องตรวจสอบ​ธุรกิจ​ของตัวเองว่าปัญหา​ที่เกี่ยวข้อง​มันเกิดขึ้น​จากตรงไหน ต่อให้​เงินกู้ขาดไปอย่างไม่รู้​ต้นสายปลายเหตุ​ ก็เป็นไปไม่ได้​ที่แป๊บเดียว​เองก็​คิดว่าถูก​คนอื่น โดยเฉพาะ​ถูกลู่เซิ่นสกัดกั้น​ไปแล้ว​

แต่ว่าตอนนี้เขาโมโห​อย่างกับฟ้าผ่าแบบนี้ โทรศัพท์​มาโต้แย้ง​และถามหาความผิดโดยไม่ให้คนอื่น​ได้อธิบาย​ ไม่ต่างจากการรนหาที่​ตาย บอกกับลู่เซิ่นอย่างเปิดเผย​ว่า​ เขารู้ว่าเมื่อวานฉินซีเกิดเรื่อง​อะไรขึ้น​ ส่วนเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้อง​กับ​เขาแน่นอน​

เขาให้หลินหยังไปรับสาย ก็เพื่อกระตุ้น​เขา ทำให้เขาพูดออกมา​โดยไม่ได้ไตร่ตรอง​ และพูดเรื่องออกมาอย่างมากมาย​

แต่ว่าคำตอบของหลินหยัง เขาก็ได้พูดให้หลินหยังเข้าใจตั้งนานแล้ว

เป็นจริงซะด้วย​ ฉินซึ่งเทียนฟังคำพูดของหลินหยังแล้ว เหมือนกับรู้ว่าตัวเองกำลังทำเรื่องโง่เขลาอยู่​ บ่นๆอย่างเสียงดังไปตั้งหลายคำ แล้วก็วางสายไปทีเดียว​เลย

เสียงยิ่งดังเท่าไหร่​ ก็ยิ่งกินปูนร้อน​ท้อง​เท่านั้น

หลินหยังช่วยลู่เซิ่นวางสายไป และหันหน้าไปมองลู่เซิ่น “ประธาน​ลู่ เรื่องที่ท่านมอบหมาย​ไว้ ยังทำตามแผนการที่วางเอาไว้รึเปล่า?”

ลู่เซิ่นพยักหน้า​

หลินหยังจึงถือเอกสารไว้ และออกไปจากประตู​

เหลือแต่ลู่เจิ้นที่ยืนอยู่หน้าประตู​อดที่จะซึ้งใจไม่ได้

เป็นลู่เซิ่นที่จำความแค้นซึ่งไม่มีใครเทียบได้เลยจริงๆ ไม่เปลี่ยนแปลง​เลยสักนิด​

เมื่อสักครู่​สมองของเขาหมุนไปแล้วรอบนึง คาดเดาว่า”ประธาน​ฉิน”ที่โทรศัพท์​มาเมื่อสักครู่​ต้องเกี่ยวข้อง​กับฉินซีแน่นอน​ แต่ว่าเรื่องนี้ถือว่า​เป็นเรื่องภายในครอบครัว​ของฉินซี เขาไม่คิดจะถามให้มากความ เพียงแต่ว่าสนใจกับเรื่องอื่นมากกว่า​

เขาเดินหลายก้าวและเดินไปที่หน้าโต๊ะ​ทำงานของลู่เซิ่น ถามอย่างประหลาดใจ​ว่า “พี่ ต่อไป พี่กะจะแก้แค้นยังไง​ครับ?”

ยังไง​ซะหลังจาก​พวกเขาโต ลู่เจิ้นได้เห็นหน้าตาของลู่เซิ่นที่แก้แค้นใครอย่างโหดเหี้ยม​น้อยมาก จึงยังรำลึก​อยู่​บ้าง

ลู่เซิ่นทำตัวสบายๆและผ่อนคลาย ​”ยังไม่กระทำการเคลื่อนไหว” ​

ไม่รู้​ว่า​ไม้เรียว​จะลงไปเมื่อไหร่ ความหวาดกลัว​แบบนี้ ถึงจะทรมาน​คนที่​สุด

……

ฉินซึ่งเทียนวางสายไป ทีนี้ถึงได้พบว่ามือของตัวเอง​เหงื่อ​เต็ม​ไปหมดแล้ว

เมื่อสักครู่​เขาเพิ่งได้รับโทรศัพท์​จากธนาคาร​ พูด​ว่าโครงการสำคัญของกระบวนการเงินกู้ธนาคาร​มีปัญหา​ถูกระงับชั่วคราว​ไป​แล้ว​ สมองหยุดชะงักไปตั้งหลายวินาที​

โครงการ​นั้นเป็นโครงการ​ที่​สำคัญตั้งครึ่งปีเต็มๆของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ถ้าหาก​ไม่มีเงินคงคลัง​สนับสนุน……….ไม่กล้าคาดคิด​สถานการณ์​ในอนาคต​

เขาทั้งโกรธ​ทั้งใจร้อน แทบจะไม่ได้​คิดและทบทวน​ดู​ก็โทรศัพท์​ไปให้กับลู่เซิ่นทีเดียว​

ถึงว่าลู่เซิ่นอดทน​ไว้ตั้งนานก็ไม่มีการเคลื่อนไหว​ใดๆ ที่แท้กำลังวางแผนการ​อยู่​นี่เอง

แต่ว่าโทรศัพท์​เสร็จ​สิ้นไปเรียบร้อย​แล้ว​ เขาถึงได้รู้​ว่า​ ตัวเองโทรศัพท์​ไปโต้แย้ง​และถามว่าความผิด มันคือกับดัก​ของลู่เซิ่นเอง

เขากำลังทดสอบอยู่ ทดสอบตัวเองอยู่ว่าเกี่ยวข้อง​กับอุบัติเหตุ​ทาง​รถยนต์​ของเมื่อคืนรึเปล่า​

แต่ว่าความโกรธ​ที่ครอบงำจิตใจของตัวเอง ถึงกับ​กระโดด​ลง​ไป​ที่กับดัก​นี้

ฉินซึ่งเทียนเช็ดเหงื่อ​ที่ไหลออกมา​บนหน้าผาก​

เขาได้ตรวจสอบ​ไปแล้ว​แท้ๆ ธนาคาร​นี้ไม่มีธุรกิจไปมาหาสู่​กับบริษัทลู่ซื่อโดยตรง แต่ว่าอยู่ใน​เวลาที่คับขัน​เช่นนี้จู่ๆก็ตัดเงินกู้​ไปเลย เป็นไปไม่ได้​ที่เป็นแค่เรื่อง​บังเอิญ​เท่านั้น

เขาคิดออกเยอะ​มากวิธีที่ลู่เซิ่นจะไปให้ถึงเป้าหมาย​

เพียงแค่​ใช้เงิน บริษัทลู่ซื่อมีทรัพย์สินตั้งมากมาย​ขนาดนั้น มีเรื่อง​อะไรที่ทำไม่ได้​

เขานั่งอยู่บนเก้าอี้​ทำงานของตัวเองอย่าง​อ่อนแรง​

ดูๆไปแบบนี้ สิ้นเปลือง​เวลาของตัวเองเมื่อหลายวันมานี้

ธุรกิจ​ที่เกี่ยวข้อง​กับบริษัทลู่ซื่อ หรือว่าไม่เกี่ยว​ข้อง​กับ​บริษัทลู่ซื่อ เหมือน​จะไม่สำคัญนัก

เพียงแค่ลู่เซิ่นเต็ม​ใจ สัญญา​ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปของเขา ไม่มีบริษัท​ไหนที่มั่นคงแข็งแรง​ไปตลอดโดยไม่เจ๊ง​

คิดถึง​ตรงนี้ จู่ๆฉินซึ่งเทียนก็เกิดมีอารมณ์​ที่สิ้นหวัง​

เขากัดฟัน ยื่นมือไปโทรศัพท์​อีกสายนึง

ยังไง​ซะฉินซีเป็นลูกสาวของตัวเอง พูดทุกอย่าง​กับเธอดูสิ ฉินซีจะเข้าใจรึเปล่า​

ขอแค่ฉินซีเข้าใจ ถ้างั้นลู่เซิ่นก็จะไม่ทำอะไรแน่นอน……….

ฉินซึ่งเทียนภาวนาในใจกลับไปกลับมา​ แต่ว่ามือถือ​ของฉินซีกลับสายไม่ว่างตลอด

เขาโง่แค่ไหนก็เข้าใจดี ตัวเองถูกฉินซีลบทิ้ง​ไป​แล้ว

มือถือ​ของฉินซึ่งเทียนลื่นไหล​ลงไปอยู่บนพื้น

……

ฉินซีที่อยู่​ใน​โรงพยาบาลไม่รู้​อยู่​แล้วว่าลู่เซิ่นใช้วิธี​มากถึงเพียงนี้ เธอกับอานหยันถกเถียง​เรื่องที่เกิดอุบัติเหตุ​ทาง​รถยนต์​ได้สักพัก ก็อยากนอนอีกแล้ว​

อานหยันดูสีหน้า​ท่าทางเธอออก พูดอย่างอ่อนโยน​ว่า “คุณ​นอนเถอะ​ ฉันปิดผ้าม่าน​ให้เอง”

ฉินซีง่วงนอนแบบเบลอๆแล้ว แต่ว่าพออานหยันปิดผ้าม่าน​และเดินผ่าน​มา ก็ได้ยินเธอกำลังเอ่ยปากพูดแบบครึ่งหลับครึ่ง​ตื่น

“อานหยัน คุณ​ใช้รายงานทางอินเทอร์เน็ต​ สามารถ​สืบพบเรื่องของแม่ฉันรึเปล่า?”

อานหยันเสียใจเล็ก​น้อย แต่ว่าเธอรู้ดีนี่ถือเป็นแค่คำพูดที่ละเมอ​ของฉินซีเท่านั้น แต่​ว่า เขาก็ยังมีความรู้สึก​ที่เหมือนกับ​ว่า​ไร้ความสามารถ​อยู่​ดี​

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท