Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 902

ตอนที่ 902

บนที่ 902 การวางแผน

ฉินซีคิดว่าเธอรู้จักแม่ของตัวเองดีพอ ถ้าแม่เป็นคนที่ทำผิดจริงๆ เธอไม่มีทางเผชิญหน้ากับฉินซึ่งเทียนด้วยความเกลียดชังแบบนั้น โดยไม่มีการขอโทษใดๆ หรอก

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเมื่อเธอถามแบบนั้น โดยไม่อธิบายอะไรเลย

ไม่ได้รู้สึกผิด …ราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด

แต่ฉินซึ่งเทียนบอกว่าเขาได้เห็นกับตา ฟังจากคำพูดของพ่อบ้านแล้ว เขาก็คงได้ถ่ายภาพอะไรไว้ถึงได้พูดแบบนั้น

เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ตกลงเป็นยังไง…

ฉินซียิ่งคิดยิ่งปวดหัว เธอยกมือขึ้นบีบนวดขมับของตัวเอง

พ่อบ้านเห็นแล้ว คิดว่าเธอเป็นหวัดและปวดหัว เลยตะโกนให้ทำซุปขิงให้เธอ

ฉินซีไม่มีแรงตอบเขา มีแต่พยักหน้า ลุกขึ้นคิดจะกลับห้องนอน

เธอยืนขึ้น มองกระเป๋าเดินทางของแม่ที่ทิ้งไว้ในสวน ลังเลสักพักแล้วบอกเบาๆว่า”ไปเก็บกระเป๋าของคุณแม่ให้เรียบร้อย แล้วเอาไปไว้ที่ห้องนอนของฉันด้วย”

พ่อบ้านมองออกไปข้างนอก สีหน้ามีความลังเลเบาๆ แต่ในที่สุดก็พยักหน้า

ฉินซีขอบคุณด้วยเสียงเบาและเดินขึ้นชั้นบน

พ่อบ้านทำงานเร็วมาก เมื่อฉินซีอาบน้ำเสร็จออกไป กระเป๋าของเหยาหมิ่นก็ถูกวางไว้อย่างเรียบร้อยในห้องของเธอแล้ว

สิ่งของเหยาหมิ่นไม่ค่อยเยอะ มีแค่กระเป๋าไม่กี่ใบเอง ฉินซีมองมันและลังเลสักพัก สุดท้ายก็ได้ตัดสินใจ

เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หลีกเลี่ยงคนรับใช้และวางกระเป๋าเดินทางสองใบไว้ที่เบาะหลังรถ และบอกพ่อบ้านว่าเธอจะไปหาเพื่อน แล้วออกจากตระกูลฉินเลย

เธอมีข้อสงสัยกับเรื่องนี้เยอะมาก ฉินซีไม่มีวันปล่อยมันไปอย่างไม่สนใจหรอก

ขับรถออกจากตระกูลฉิน ฉินซีก็จอดอยู่ริมถนนและโทรหาแม่ของเธอ

เธอคิดไว้แล้ว ถ้าแม่ของเธอไม่รับโทรศัพท์ เธอจะจ้างนักสืบส่วนตัวสืบหาที่อยู่ของเธอ

แต่ไม่คิดว่าแม่เธอรับสายแล้ว

“คุณแม่” ฉินซีพยายามทำให้ตัวเองสงบ “แม่อยู่ที่ไหน”

เมื่อเจอเหยาหมิ่นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ฉินซีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าใจเบาๆ

ตระกูลเหยาก็ถือเป็นตระกูลที่โดดเด่น เมื่อแต่งงานกับๆฉินซึ่งเทียน ก็ถือว่าตระกูลฉินได้ผลประโยชน์มากกว่า

คุณแม่เติบโตมาอย่างมีชีวิตที่สบาย บอกได้เลยว่าเป็นคุณหนูที่เติบโตมาด้วยความรักอย่างมากมาย หลังจากเธอแต่งงานกับฉินซึ่งเทียน ก็มีชีวิตที่สบายมาตลอด

ในความทรงจำของฉินซี คุณแม่วาดรูปเป็น และเล่นเปียโนได้ดีมากด้วย เป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนมาตลอด ดูแลผมอย่างดี เสื้อผ้าและเครื่องประดับก็ต้องคัดเลือกอย่างใส่ใจ ไม่จำเป็นต้องหรูหรา แต่ก็ยังมองออกคุณค่าของมันแน่

แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า มีความยากจนที่ไม่สามารถบรรยายได้

ห้องพักของโรงแรมนั้นแคบมาก และไม่มีหน้าต่างด้วย แสงสีขาวส่องไปที่ผนัง ทำให้สีผนังที่ลอกออกและโมลด์ไม่มีที่ซ่อน

เหยาหมิ่นน่าจะอาบน้ำแล้ว แต่ผมยังไม่แห้ง ปล่อยลงมาอย่างเปียกๆ น้ำไหลลงเต็มเลย เธอไม่ได้เอาเสื้อผ้ามา บนตัวเธอใส่ชุดที่ซื้อมาใส่ชั่วคราวจากร้านค้าที่ชั้นล่าง ไม่เหลือท่าทางของเมื่อก่อนเลยสักนิด

“คุณแม่ … ทำไมแม่ถึงพักอยู่ที่แบบนี้ล่ะคะ “ฉินซีทนอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็อดไม่ได้เลยถามออกมา

เหยาหมิ่นไม่ได้พูดอะไรมาก ได้แต่ส่ายหัวและยิ้ม “แม่มีเงินสดไม่เยอะ”

ฉินซีแค่คิดว่าเธอไม่สะดวกรูดบัตร เลยไม่ถามอะไรมาก แต่ผลักกระเป๋าเดินทางสองใบที่อยู่ข้างหลังเธอออก “คุณแม่ นี่คือกระเป๋าเดินทางของแม่ แม่… เก็บไว้จะดีกว่า”

เหยาหมิ่นจ้องกระเป๋าเดินทางอย่างงุนงงสักพัก ยิ้มอย่างเศร้าและพยักหน้า”ขอบใจนะ ลูกแม่”

ฉินซีเห็นว่าอารมณ์ของเธอสงบลงบ้างแล้ว เลยลองถามว่า “คุณแม่ วันนี้ตกลง …เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”

การแสดงออกบนใบหน้าของเหยาหมิ่นอึ้งไป

ฉินซีแอบรู้สึกไม่ดี กำลังจะพูดอะไร ก็ได้ยินเหยาหมิ่นพูดเบาๆ “มันเป็นแผนของฉินซึ่งเทียนที่วางไว้”

ฉินซีเงยหน้าขึ้นทันที “อะไรนะคะ”

เหยาหมิ่นค่อยๆส่ายหัว “แม่รู้ว่าสิ่งที่แม่พูดมันดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ แต่ … ”

ฉินซีอดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะเธอ “คุณแม่ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นเรื่องของหนู คุณแม่พูดมาเลยค่ะ”

เหยาหมิ่นเงยหน้าขึ้นมองลูกสาว หยุดไปสักพัก แล้วก็พูดว่า”ทุกอย่างที่ฉันทำในวันนี้ มันเป็นแค่แผนที่ฉินซึ่งเทียนวางไว้เฉยๆ”

สิ่งต่างๆต้องเริ่มจากเมื่อหลายสัปดาห์ที่แล้ว

วันนั้นเหยาหมิ่นอยู่บ้านเหมือนปกติ แต่จู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์จากฉินซึ่งเทียน บอกว่าเขามีประชุมด่วน และให้เธอส่งชุดไปที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง

เหยาหมิ่นไม่ได้สงสัยอะไร เลยไปที่นั่นโดยตรง

ตอนแรกเธอวางเสื้อผ้าลงก็จะกลับแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมประตูห้องถึงเปิดไม่ได้ เธอเลยนั่งอยู่ข้างในสักพัก พนักงานของโรงแรมถึงมาเปิดประตูให้เธอ

เธอรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดมากและจากไปเลย

ไม่คิดว่าผ่านไปไม่กี่วันเอง ฉินซึ่งเทียนให้เธอไปส่งของไปโรงแรมอีกแล้ว คราวนี้เหยาหมิ่นระวังมาก ฝากของที่แผนกต้อนรับเสร็จก็กลับเลย ตอนฉินซึ่งเทียนกลับบ้านโมโหมาก

เหยาหมิ่นไม่มีทางอื่น มีแต่เมื่อเขาโทรมาอีกครั้ง ก็ส่งของไปที่ห้องตามที่เขาสั่งไว้

ทุกคำพูดของเหยาหมิ่น ทำให้ฉินซีหนักใจมาก

“เมื่อเช้านี้ เขาโทรมาหาฉันอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ได้ให้แม่ส่งของ แต่แค่บอกว่ามีธุระกับแม่ แม่คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไร ก็เลยรีบออกไปทันที แต่เมื่อแม่ไปถึงโรงแรม แผนกต้อนรับก็บอกว่าเขายังมาไม่ถึง ให้แม่ดื่มน้ำแล้วพักก่อน แม่ก็เลยดื่มน้ำและนั่งพักที่ล็อบบี้ ตอนแม่ตื่นมาอีกที … ”

เหยาหมิ่นสำลักเบาๆ

ฉินซีอดไม่ได้จะยื่นมือออกไปโอบไหล่แม่ของเธอ

เหยาหมิ่นหายใจเข้าลึกๆและพูดต่อ “เสียงตะโกนของฉินซึ่งเทียนปลุกให้แม่ตื่น แม่เวียนหัวมาก ไม่ได้ยินอะไรเลย กำลังจะลุกขึ้นนั่งด้วยความงุนงง ถึงรู้ว่าไม่มีอะไรอยู่บนตัวเลยหรอ”

ฉินซีหยุดการหายใจ

เหยาหมิ่นส่ายหัว “แม่ก็ตกใจมาก รับหาเสื้อผ้ามาใส่ แต่ฉินซึ่งเทียนถือโทรศัพท์อยู่ และถ่ายรูปแม่ไปเรื่อยๆแม่หันหน้าไปและเห็นว่า ที่หน้าประตูนอกจากเขาแล้ว ยังมีคนอีกหลายคน และมีคนตะโกนว่า “อย่าให้ชู้หนีไปได้”

ฉินซีรู้สึกหายใจยากขึ้นเรื่อยๆ เธอค่อยๆพูดว่า “เพราะฉะนั้น คุณแม่ แม่รู้สึกว่าร่างกายมีตรงไหนผิดปกติหรือเปล่า… ”

เหยาหมิ่นเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร และส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ถ้ามีเกิดอะไรจริงๆ แม่ไม่มีทางไม่มีความรู้สึกใดๆเลย อาจจะเป็นแค่… ถูกถอดเสื้อและวางไว้บนเตียงเฉยๆ”

แต่ฉินซีไม่เข้าใจ “แต่ทำแบบนี้ เพื่ออะไรล่ะ”

เหยาหมิ่นยิ้มอย่างเย็นชาโดยไม่ตอบ

ฉินซีรู้สึกว่าเหยาหมิ่นเหมือนมีอะไรปิดบังเธออยู่

เธอหันไปมองแม่ของเธอ “คุณแม่ แม่มีอะไรที่ไม่ได้บอกหนูหรือเปล่าคะ”

เหยาหมิ่นจ้องมองเธอสักพักและถามว่า “เสี่ยวซี ลูกเชื่อแม่ไหม

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท