บทที่ 904 ไม่มีความรู้สึกผิด
ฉินซีขมวดคิ้ว “งั้น … คุณแม่เซ็นแล้วเหรอคะ”
เหยาหมิ่นเงียบไปหลายวินาที
ฉินซีหลับตา
นั่นก็คือเซ็นแล้ว
เธอนึกถึงเมื่อคืนเธอเจอฉินซึ่งเทียนตอนที่กลับมา ท่าทางกำลังจะออกไปจริงๆ แต่เธอไม่คิดเลยว่า เขาจะทำเรื่องเลวๆแบบนี้
เมื่อวานตอนเช้าถึงเกิดเรื่อง ตอนกลางคืนก็รีบขู่คุณแม่ให้หย่ากับเขาแล้ว
ทำไมถึงต้องรีบขนาดนี้ล่ะ
ฉินซียิ่งไม่เข้าใจไปอีก
“คุณแม่ใจเย็นๆ แม่รู้จักทนายคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ แม่เก็บข้อตกลงไปก่อน เราจะเอาไปให้ทนายดูหน่อย”
เหยาหมิ่นตกลง เธอก็วางสายไปเลย
เป็นไข้มาทั้งคืน ตอนนี้ฉินซีลุกขึ้นยืนยังลำบากเลย แต่ก็กัดฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เดินลงไปข้างล่างแล้วออกจากบ้าน
เมื่อเธอมาถึงที่พักของแม่เธอ ทนายความจ้าวก็มาถึงแล้ว
ทนายจ้าว บริการให้ตระกูลเหยามาโดยตลอด และเป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนของเหยาหมิ่น
หลังจากทั้งสามคนนั่งลง เหยาหมิ่นก็ยื่นข้อตกลงการหย่าร้างออกมา และสรุปสั้นๆว่าเกิดอะไรขึ้น ทนายจ้าวหยิบข้อตกลงขึ้นมาและอ่านอย่างระมัดระวังสักพัก แต่สีหน้าของเขาไม่ค่อยดีมาก
“มีอะไรเหรอคะ” ฉินซีรู้สึกผิดปกติ ก็เลยถาม
น้ำเสียงของทนายจ้าวฟังดูเครียดมาก และเขาหันไปมองเหยาหมิ่น”หลายปีที่ผ่านมา คุณเคยกู้เงินอะไรหรือเปล่า”
เหยาหมิ่นส่ายหัวอย่างงงมาก
ทนายจ้าวชี้ไปที่รายการในข้อตกลง “ที่นี่ ส่วนของการแบ่งทรัพย์สิน เขียนได้ชัดเจนมากกว่า หนี้ระหว่างการแต่งงานของบุคคลทั้งสอง จะตกเป็นภาระของทั้งสองคนเหมือนกัน จริงๆแล้วตามสถานการณ์ของคุณ ไม่จำเป็นต้องมีข้อตกลงนี้เลย”
เหยาหมิ่นส่ายหัว “ฉันอยู่บ้านตลอด ต้องกู้เงินอะไรล่ะ… ”
ทนายจ้าวโล่งใจเบาๆ “งั้นก็ดี อาจเป็นเพราะทนายความจากตระกูลฉินเพิ่มข้อตกลงให้สมบูรณ์กว่ามั้ง โดยรวมๆแล้วไม่มีปัญหาอะไร สำหรับส่วนการแบ่งทรัพย์สิน … คุณเสียหายเยอะมาก คุณไม่น่าเซ็นสัญญาง่ายแบบนี้เลย อย่างน้อยก็ให้ฉันดูก่อนสิ”
ฉินซีเห็นเงื่อนไขในข้อตกลงการหย่าร้างและหัวเราะเยาะ
ฉินซึ่งเทียนโหดร้ายจริงๆ ไม่ให้แม่เธอเอาเงินไปสักบาทเลย
เหยาหมิ่นแค่ส่ายหัว “เมื่อวานเขาขู่ฉันว่า ถ้าฉันไม่รีบเซ็นตอนนั้น เขาจะปล่อยรูปออกไป ถึงแม้ว่าเราจะไปศาล แต่เขามีรูปภาพอยู่ในมือ ฉันก็ไม่มีทางได้รับเงินแน่นอน”
ทนายจ้าวและฉินซีขมวดคิ้วพร้อมกัน
ท่าทางฉินซึ่งเทียนที่ใจร้อน ทำให้คำพูดของแม่ของเธอในเมื่อวานน่าเชื่อถือมากขึ้น
เขาอยากจะให้เหยาหมิ่นไปจากเขาอย่างเร็วที่สุดจริงๆ
แต่ฉินซียังเข้าใจว่าทำไมเขาถึงใช้วิธีนี้ อีกอย่าง ถ้าเขาเลี้ยงผู้หญิงอยู่ข้างนอกมานานแล้ว ทำไมตอนนี้เขาถึงรีบหย่ากับแม่เธอล่ะ
สายตาของเธอตกลงในส่วนที่การแบ่งหนี้ และใจมีความกลัวเบาๆขึ้นมา
หวังว่า … ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด
ทั้งสามคุยไปอีกสักพัก ฉินซีและทนายจ้าวก็กลับไปแล้ว
สมองของฉินซีเต็มไปด้วยความสงสัย สุดท้ายก็ทนไม่ไหว กลับบ้านก็เลยไปหาฉินซึ่งเทียนที่ห้องหนังสือโดยตรง
“คุณพ่อ หนูมีอะไรอยากถามคุณพ่อ”
ฉินซึ่งเทียนดูเหมือนจะไม่แปลกใจที่เธอจะมา แค่ยกคางขึ้นและให้เธอนั่งลง
ฉินซีแค่ยืนที่ข้างโต๊ะทำงาน และจ้องมองฉินซึ่งเทียน “ทำไมคุณถึงต้องรีบหย่ากับคุณแม่ล่ะ”
ฉินซึ่งเทียนเย้ยหยัน “แม่ของหนูทำให้พ่อเสียหน้าขนาดนี้ พ่ออยากรีบหย่ากับเธอ มันผิดตรงไหนเหรอ”
ฉินซีไม่ได้รับคำอธิบายของเขา แต่ส่ายหัวว่า “เมื่อเช้าเกิดเรื่อง เมื่อคืนพ่อก็ทำข้อตกลงการหย่าเรียบร้อยให้คุณแม่เซ็นแล้ว จะมีทนายความคนไหนเก่งขนาดนี้ล่ะ แค่ใช้เวลาบ่ายเดียวก็แบ่งทรัพย์สินของพวกคุณได้ชัดเจนแล้วเหรอ”
เห็นได้ชัดว่าการแสดงออกของฉินซึ่งเทียนเย็นชาขึ้น “แกไปหาเธอแล้วเหรอ”
ฉินซีพยักหน้าอย่างไม่กลัว
ฉินซึ่งเทียนเย้ยหยัน “สมเป็นแม่ลูกกันจริงๆ เธอพูดอะไร แกก็เชื่อหมด”
ฉินซีขมวดคิ้ว “ข้อตกลงของคุณพ่อเขียนได้ชัดเจนมาก หนูมีตาสามารถอ่านเองได้”
ฉินซึ่งเทียนยักไหล่ “ก็ดี ในเมื่อแกถาม งั้นฉันก็จะพูดให้ชัดเจนขึ้นก็แล้วกัน แม่แกไม่ได้มีชู้เป็นครั้งแรก หลายสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อนของฉันเคยเจอเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นในโรงแรม ตอนนั้นฉันทำเป็นไม่สนใจ แต่เมื่อเรื่องเหล่านี้มากขึ้น ฉันก็เตรียมพร้อมสิ เลยเตรียมข้อตกลงการหย่าร้างไว้ วันนี้ถูกฉันจับได้อีก ฉันต้องรีบหย่ากับเธอทันทีเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองง มันผิดตรงไหนเหรอ”
ท่าทางเขาดูไม่สำนึกผิดเลย แต่ฉินซีก็นึกถึงคำพูดของคุณแม่ขึ้นมา
หลายสัปดาห์ที่แล้ว เธอก็เริ่มถูกหลอกให้ไปที่โรงแรม …
ตกลงใครพูดความจริงใครพูดโกหกกันแน่
ฉินซีไม่ได้พักผ่อนดีตลอดทั้งคืน ในขณะนี้ดวงตาของเธอบวมมาก ร่างกายก็อ่อนแอมาก ปัญหาที่ซับซ้อนแบบนี้คิดแล้วก็ปวดหัวขึ้นมา
ฉินซึ่งเทียนตบหลังมือของเธออย่างเข้าใจ “ฉินซี แกไปพักผ่อนเถอะนะ พ่อรู้เจอเรื่องแบบนี้แกก็ลำบากใจเมื่อแกสงบลง แกก็จะเข้าใจพ่อเองนะ”
ฉินซีพยักหน้าและกลับไปที่ห้องตัวเอง
ความสงสัยของเธอยังวนอยู่ในสมองตลอด แต่ในที่สุดเธอก็ไม่ไหว นอนหลับไปแล้ว
ฉินซียังไม่หายดี นอนอยู่บนเตียงอย่างครึ้มอกครึ้มใจเป็นหลายวัน ไข้ถึงจะหายดี
แต่เธอก็ยังขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ได้ออกข้างนอก พ่อบ้านมาส่งอาหารที่ห้องให้เธอกิน
เพราะทันทีที่เธอออกไป เธอก็ต้องเจอหน้าฉินซึ่งเทียนแน่นอน
ฉินซีรู้สึกว่ายังคิดอะไรไม่ออก เพราะฉะนั้นเลยไม่อยากเจอหน้าใคร
ถ้าไม่ใช่อานหยันโทรหาเธอ เธออาจจะขังตัวเองอยู่คนเดียวต่อไป
น้ำเสียงของอานหยันเป็นกังวลมาก “ฉินซี ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับคุณแม่ล่ะ”
ฉินซีคิดว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องที่เหยาหมิ่นถูกถ่ายภาพว่ามีชู้ เบื่อที่จะอธิบายในตอนนี้ จึงส่ายหัวและพูดว่า”มันเป็นแค่เรื่องครอบครัวเอง… ”
อานหยันงงไปเบาๆ “เรื่องครอบครัวอะไรล่ะ คุณไม่ได้ดูข่าวเหรอ”
ฉินซีหยุดสักพัก หลายวันนี้เธออยู่แต่ในห้องอย่างเดียว ไม่รู้จะทำอะไร และไม่ได้ดูอะไรเลย”ไม่ได้ดู”
อานหยันก็เป็นคนที่ใจร้อน “งั้นฉันจะส่งข่าวให้ คุณอ่านก่อนแล้วกัน”
ฉินซีแอบมีความรู้สึกไม่ดีในใจ เธอวางสายและค่อยๆเปิดทีวี
นอกจากอานหยันแล้ว ยังมีหลายคนส่งข้อความมาถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉินซีข้ามไปหมด และเปิดดูข่าวที่อานหยันแชร์มาโดยตรง
เธอแค่อ่านชื่อเรื่อง ก็รู้สึกว่าหัวใจเหมือนถูกกระแทกลงไปในน้ำเย็น
“หนีของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมากมาย”ประธานชี้แจงข่าวลือว่า ‘มันเป็นหนี้ส่วนบุคคล’”
เธอพึมพำอีกครั้ง และนึกถึงข้อตกลงที่ทนายจ้าวชี้ให้เห็นในวันนั้นทันที
หนี้ … หนี้ส่วนบุคคล …
สมองของเธอว่างเปล่า แต่มือของเธอกดอ่านต่อโดยไม่สมัครใจ
หลังจากอ่านไป เธอก็หน้าซีดมากขึ้นเรื่อยๆ
“บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปพบว่ามีช่องโหว่ของเงินทุนจำนวนมาก ทันทีที่ตลาดหุ้นเปิดทำในเมื่อวาน หุ้นก็ร่วงลงอย่างรวดเร็ว ประธานได้ออกแถลงการณ์เร่งด่วนระบุว่า มีการอุดช่องโหว่ของเงินทุนเรียบร้อยแล้ว หนี้จำนวนมากอย่างที่ข่าวในอินเทอร์เน็ต เกิดโดยการกู้จากอดีตภรรยาของเขา ตอนนี้สองคนหย่าร้างกันแล้ว หนี้นี้จะไม่ส่งผลต่อพัฒนาการของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ทันทีที่ข่าวออกมา หุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็หยุดตกทันที …