Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 911

ตอนที่ 911

บทที่ 911 ไม่ใช่ว่าเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น

ตอนที่ฉินซีตื่นขึ้นมาท้องฟ้าก็สว่างแล้ว

พ่อบ้านเคาะประตูห้องของเธอ บอกให้เธอลงมาทานอาหารเช้าอย่างสุภาพ ฉินซีแทบอยากจะตีเขาให้ตาย ทว่าเธอปฏิเสธเขาไม่ได้ จึงทำได้เพียงเดินตามเขาไป

พอเดินออกมาแล้วจึงได้รู้ว่าว่าแท้จริงแล้วเธออยู่ที่รีสอร์ทชิงหยวน

ทั้งยังพักอยู่บ้านใหญ่เสียด้วย

เพียงแต่เพราะว่าลู่เซิ่นตกแต่งบ้านหลังนี้ใหม่ทั้งหมด ตรงบริเวณพื้นที่ว่างจึงสว่างและปลอดโปร่งกว่าเมื่อก่อนมาก อารมณ์ของฉินซีจึงดีขึ้นไม่น้อย

ทั้งที่เห็นได้ชัดว่าสภาพอากาศไม่ต่างอะไรจากเมื่อวาน แต่ดูเหมือนว่าสภาพอารมณ์ของเธอกลับแตกต่างออกไป

ลู่เซิ่นนั่งรออยู่ที่โต๊ะแล้ว เขากำลังรอให้ฉินซีนั่งลง จากนั้นก็โบกมือเรียกให้คนรับใช้นำอาหารขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วทานข้าวโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

ฉินซีเองก็ทำได้เพียงก้มหน้าทานข้าว เมื่อวานนี้เธอไม่ได้ทานอะไรเลยทั้งวัน ดูเหมือนว่าพ่อครัวของตระกูลลู่ฝีมือไม่เลว ฉินซีจึงทานเข้าไปอย่างมีความสุขจนเต็มอิ่ม

ทั้งสองทานอาหารเช้าเสร็จโดยไม่พูดไม่จา แต่แล้วในที่สุดฉินซีก็พบโอกาสที่จะได้พูดคุยกับลู่เซิ่น

“ประธานลู่ เรื่องข้อเสนอของคุณเมื่อวาน…”

ลู่เซิ่นยกมือขึ้นหยุดคำพูดของเธอไว้ จากนั้นก็ยื่นเอกสารฉบับหนึ่งให้เธอ “เมื่อวานฉันด่วนพูดไปหน่อยข้างในนี้เป็นสัญญาฉบับสมบูรณ์ เธออ่านจบแล้วค่อยตกลงก็ยังไม่สาย”

ฉินซีมองสัญญาขนาดไม่บางที่อยู่ในมือ แล้วเปิดอ่านหน้าแรกอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ข้อตกลงที่เขียนอยู่ข้างในนี้เป็นทางการมาก

ฝ่าย ก. ลู่เซิ่น ฝ่าย ข. ฉินซี

หลังจากที่ฉินซีอ่านสัญญาอย่างละเอียดอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดเธอก็สามารถสรุปเนื้อหาสำคัญของสัญญาฉบับนี้ออกมาได้

“หมายความว่าคุณจะจ่ายหนี้แทนฉัน แล้วให้ฉันอยู่กับคุณอย่างนั้นเหรอคะ” ฉินซีเงยหน้ามองลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

ฉินซีส่งสัญญากลับไป “ฉันไม่ยอมรับข้อตกลงนี้ค่ะ”

ลู่เซิ่นขมวดคิ้วมุ่นทันที “ทำไม”

สีหน้าของเขาดำมืด ราวกับว่าความโกรธของเขามีออร่าที่ทำให้รู้สึกกดดัน

ทว่าฉินซีเป็นคนถูกกดดันได้ง่ายเสียที่ไหน เธอชี้ไปที่ข้อตกลงในสัญญา “ฉันต้องการยืมเงินจากคุณ”

ลู่เซิ่นหรี่ตาลง จากนั้นก็ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “ไม่อยากให้ฉันชดใช้หนี้แทนเธอฟรี ๆ อย่างนั้นเหรอ”

ฉินซีพยักหน้า “ฉันรู้ค่ะว่าครอบครัวของประธานลู่นั้นร่ำรวยมาก แต่เงินมากขนาดนี้ แม้ว่าจะเป็นคุณ ก็ใช่ว่าก็สามารถเอามันออกมาได้โดยสะดวก พวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เมื่อวานคุณช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ฉันก็ต้องขอบคุณคุณมากแล้ว ฉันไม่อยากทำเรื่องที่ละอายแก่ใจตัวเองโดยการเอาเปรียบคุณแบบนี้อีก”

ตอนที่ได้ยินฉินซีพูดว่า “ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน” ลู่เซิ่นก็ขมวดคิ้วแน่น เขารอให้ฉินซีพูดจบแล้วจึงพูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่ได้ไม่รับค่าตอบแทน ฉันมีเงื่อนไข”

ฉินซียิ้ม “ค่ะ นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฉันพูดว่าต้องการยืมเงินจากคุณ ให้ฉันอยู่ข้างกายคุณ ก็ไม่ต่างอะไรกับการขายร่างกายตัวเองไปเรื่อยๆ รอฉันคืนเงินคุณครบเมื่อไหร่ ฉันก็จะเป็นอิสระ แบบนี้เป็นยังไงคะ”

ดูเหมือนว่าลู่เซิ่นจะไม่ค่อยพอใจในข้อเสนอของเธอ สีหน้าของเขามืดครึ้มราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง

ฉินซียักไหล่ “คุณสามารถคิดดอกเบี้ยตามแบบธนาคารได้เลย ฉันจะจ่ายเงินคืนคุณพร้อมกับดอกเบี้ย”

ทันใดนั้นลู่เซิ่นที่เงียบอยู่นานก็พูดขึ้นมาว่า “เธอต้องการให้เรื่องนี้เป็นเรื่องธุรกิจจริง ๆ ใช่ไหม”

ฉินซีพยักหน้าอย่างใจเย็น “ทำแบบนี้ก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดีนี่คะ”

ไม่รู้ว่าทำไมลู่เซิ่นถึงได้หัวเราะออกมาเบา ๆ “ต่อให้เมื่อวานคนที่ช่วยชีวิตเธอไม่ใช่ฉันแต่เป็นคนที่ผ่านไปผ่านมา เธอก็ยังจะพอใจกับข้อเสนอแบบนี้ของเขาสินะ”

ฉินซีมองเขาอย่างแปลกใจ “สมมติฐานของคุณมีความหมายอะไรหรือเปล่า”

ลู่เซิ่นพูดขึ้นมาอย่างดึงดัน “ว่ามาสิ”

ฉินซีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ส่ายหน้า “ไม่ใช่ว่าเป็นใครก็ได้ทั้งนั้นหรอกค่ะ”

เห็นได้ชัดว่าคำตอบนี้ของเธอไม่ได้ทำให้ลู่เซิ่นพอใจอะไรขนาดนั้น ทว่าอย่างน้อยคิ้วที่ขมวดแน่นของเขาก็คลายลงนิดหน่อยแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่เธอว่า ฉันจะให้ทนายความร่างสัญญาใหม่อีกฉบับ”

เขาโบกมือให้ฉินซี

ฉินซีแปลกใจเล็กน้อย “คุณยอมตกลงอย่างนั้นเหรอคะ”

ลู่เซิ่นหันหน้ามองเธอ “ตอนนี้เธอเสียใจทีหลังแล้วอย่างนั้นเหรอ”

ฉินซีส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ฉันต้องแค่คิดไม่ถึงว่าคุณจะยอมตกลงเร็วขนาดนี้ ฉันคิดว่าอาจยังต้องเจรจาเงื่อนไขอื่น ๆ อีก… ”

ลู่เซิ่นหัวเราะออกมาโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วออกไปจากห้องอาหาร

ฉินซีเอียงศีรษะอย่างสับสน เธอไม่เข้าใจว่ารอยยิ้มของเขาหมายถึงอะไร

อาหารว่างแล้วเธอก็ลุกขึ้น ทว่าพ่อบ้านเดินเข้ามาหาเธออย่างเคารพ “คุณฉิน เมื่อวานนี้โทรศัพท์ของคุณแช่อยู่ในน้ำเลยได้รับความเสียหาย พวกเราจึงเตรียมโทรศัพท์เครื่องใหม่เอาไว้ให้คุณแล้ว แค่เปลี่ยนเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณต้องการก็ใช้ได้แล้ว”

เธอกำลังคิดจะบอกว่าไม่ต้อง แต่ทันใดนั้นก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีศพเมื่อวานจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาหนึ่งวันแล้ว

ไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน โทรศัพท์ก็ยังติดต่อไม่ได้อีก ไม่รู้ว่าอานหยันจะร้อนใจจนเป็นบ้าไปแล้วหรือยัง

ดังนั้นเธอจึงไม่ระวังอะไรมากอีก รีบพยักหน้าให้พ่อบ้าน “รบกวนคุณแล้ว”

พ่อบ้านยิ้มรับ จากนั้นก็โบกมือให้คนนำโทรศัพท์เครื่องใหม่มา

เธอใส่ซิมโทรศัพท์เข้าไป เพิ่งจะเปิดเครื่อง แต่โทรศัพท์กลับค้างเหมือนใกล้จะพัง

อานหยันโทรศัพท์และส่งข้อความมามากมายอย่างที่คิดไว้จริง ๆ

เธอไม่กล้าชักช้าอีก รีบโทรกลับไปทันที

อานหยันแทบจะกดรับสายในทันที น้ำเสียงเจือสะอื้น ตะโกนออกมาเสียงดัง “ฉินซี! เธออยู่ที่ไหน! ฉันตามหาเธอทั้งคืนเลยนะ!”

ฉินซีรู้สึกผิดเล็กน้อยและพูดพลางยิ้มว่า “ฉันไม่ได้ไปไหน ก็แค่โทรศัพท์ไม่มีแบตเฉย ๆ …”

อานหยันตะโกนขึ้นมาอย่างโมโห “คิดว่าโกหกใครอยู่ ตอนนี้ฉันอยู่หน้าประตูบ้านเธอ เคาะประตูห้องเธอจนเพื่อนบ้านออกมามองแล้ว!”

ฉินซีรู้สึกผิดเล็กน้อย “ตอนนี้ฉันไม่อยู่บ้านจริง ๆ เมื่อวานเองไม่ได้กลับบ้าน … ”

อานหยันตะลึง “แล้วเธอไปไหนมา”

ฉินซีมองไปรอบ ๆ แล้วกัดฟันพูดออกมา “ฉันอยู่ที่รีสอร์ทชิงหยวน”

อานหยันสงสัยขึ้นมาในทันที “รีสอร์ทชิงหยวนอย่างนั้นเหรอ”

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็มีการตอบสนอง

“แล้วทำไมเธอถึงไปอยู่ที่รีสอร์ทชิงหยวนได้”

เสียงของเธอดังมากจนพ่อบ้านที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าวก็หันมามองฉินซีอย่างแปลกใจเล็กน้อย

ฉินซีถือโทรศัพท์ไว้แล้วส่งยิ้มให้พ่อบ้าน จากนั้นก็เดินไปที่ระเบียง “เรื่องมันยาว ไว้เจอกันแล้วฉันจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้เธอเลิกเคาะประตูก่อน เดี๋ยวเพื่อนบ้านฉันจะคิดว่าเธอเป็นคนทวงหนี้”

เห็นเธอยังสามารถพูดล้อเล่นได้แบบนี้อานหยันก็วางใจ เธอบ่นอย่างโมโหสองคำ ก่อนจะวางสายไปหลังจากที่ฉินซีรับปากว่าครั้งหน้าจะไม่ขาดการติดต่ออีกแล้ว

ฉินซีหันกลับมาขณะที่ถือโทรศัพท์ เธอค่อนข้างที่จะสับสน

ลู่เซิ่นบอกว่าจะให้ทนายร่างเอกสารใหม่ แล้วต้องรออีกนานแค่ไหนกัน

เธอต้องอยู่ที่นี่ หรือว่าควรจะกลับบ้าน

ตอนนี้บ้านของเธอ…คือที่ไหนกันนะ

ตอนที่ฉินซีกำลังคิดอย่างสับสน พ่อบ้านเรียกชื่อของเธอจากข้างหลัง

“คุณฉิน คุณผู้ชายเชิญคุณไปที่ห้องหนังสือ”

ฉินซีพยักหน้าตอบรับอย่างเป็นธรรมชาติ

นี่เป็นครั้งที่สองที่ฉินซีเข้ามาในห้องหนังสือของลู่เซิ่น ครั้งก่อนตอนที่เธอมาก็ไม่ได้คิดว่าครั้งถัดไปที่กลับมาจะเป็นสถานการณ์แบบนี้

ลู่เซิ่นนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ มีผู้ชายใส่ชุดสูทกับรองเท้าหนังยืนอยู่ข้าง ๆ คิดว่าน่าจะเป็นทนายความของเขา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท