Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 931

ตอนที่ 931

บทที่ 931 ไม่ได้เรื่องจริงๆ

เสิ่นโหลวมาที่นี่อยู่หลายครั้ง ทั้งยังมากับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า จนบริกรต่างก็คุ้นหน้าเขาไปเสียแล้ว เพราะฉะนั้นมองแค่แว็บแรกบริกรก็จำเขาได้แล้ว

เขาไม่ได้โสดนี่นา…..

แต่เมียหลวงเขาก็สวยขนาดนี้ เสิ่นโหลวยังคิดนอกใจอีกเหรอ

ผู้ชายคนนี้ ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!

ได้มาเห็นเรื่องน่าเม้าท์แบบนี้ เขาตื่นเต้นสุดๆ เสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปด้วย แต่เขากะเอาไว้แล้วว่าจะเอากลับไปเม้าท์กับพวกเพื่อนๆ

ฉินซีคำนวณเวลาได้พอดี เมื่อเธอเดินไปถึงหน้าลิฟต์ เสิ่นโหลวก็ขึ้นลิฟต์ตัวนั้นไปก่อนแล้ว

เธอหันหน้าแล้วเดินไปหาพนักงานเคาน์เตอร์ แล้วถามด้วยน้ำเสียงร้ายๆว่า “คนเมื่อกี้จองห้องชั้นไหนไว้?”

พนักงานสะดุ้ง ส่ายหน้ารัวๆ “ขอโทษค่ะ ฉันบอกไม่ได้…..”

ฉินซีพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “ทำไมจะบอกไม่ได้!”

พนักงานทำได้แค่พูดขอโทษรัวๆ ให้ตายยังไงก็หลุดปากพูดออกไปไม่ได้เด็ดขาด

ฉินซีทำเป็นหอบหายใจด้วยความโกรธและร้อนใจ เดินถอยหลังออกมาไม่กี่ก้าว แล้วล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมา

ลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมามีไม่ค่อยเยอะ แต่พอเห็นท่าทางของเธอ ทุกคนก็ต่างมองมาที่เธอด้วยความสงสัย

นี่เป็นหนึ่งในแผนของฉินซีและอานหยัน ฉินซีตามเข้ามาในโรงแรมโดยใช้ข้ออ้างว่าจะมาจับชู้ มันไม่ใช่แผนแปลกใหม่อะไรหรอก ใช้วิธีนี้เพื่อให้คนอื่นเกิดภาพจำนิดๆหน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับให้สะดุดตามากเกินไป ทั้งยังช่วยปกปิดตัวตนของเธอได้ด้วย

ยังไงซะเสิ่นโหลวก็มีชู้ตั้งมากมาย มากถึงขนาดที่บางทีตัวเขาเองอาจจำชู้แต่ละคนไม่ได้ด้วยซ้ำ แม้ว่าเรื่องทุกอย่างจบลงแล้วคนของบริษัทจ้าวซื่อเกิดสงสัยอยากตรวจสอบ ก็คงตรวจสอบไม่ได้ง่ายๆ

อีกอย่างเธอยังจงใจใช้ผมอำพรางใบหน้าครึ่งหนึ่งของตัวเองไว้ กล้องวงจรปิดไม่มีทางจับหน้าเต็มๆของเธอได้

“เขาขึ้นไปแล้ว! พนักงานไม่ยอมบอกว่าเขาขึ้นไปชั้นไหน เขาเดินเข้าไปเอง! ชู้ก็น่าจะรออยู่ในโรงแรมนี่แหละ!”

เธอใช้มือกุมหูฟังพร้อมกับพูดกระซิบกระซาบ คนรอบๆไม่ได้สนใจเธอแล้ว ค่อยๆสลายตัวกันออกไปช้าๆ

คนในสายไม่ใช่ใครคนอื่น แต่เป็นอานหยัน

ฉินซีเล่นละครคนเดียวไปพลาง ใช้หางตาสังเกตรอบๆไปพลาง

จนเมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปแล้ว และก่อนที่คนข้างๆจะสงสัย ประตูหมุนอัตโนมัติก็ถูกผลักเข้ามา

เป้าหมายของเธอ ในที่สุดก็ปรากฏตัว

ข้างหลังเฉินยี้มีบอดี้การ์ดเดินตามอยู่สองคน รูปร่างใหญ่เทียบเท่าฉินซีสองคนรวมกัน

ดูท่าแล้วเฉินยี้จะเป็นที่ต้อนรับของที่นี่มากกว่าเสิ่นโหลว เมื่อพนักงานเคาน์เตอร์เห็นเขา ก็รีบลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้น จากนั้นก็หยิบคีย์การ์ดห้องที่เตรียมพร้อมเอาไว้แล้วให้กับเขา

เมื่อตั้งใจฟังก็ได้ยินพนักงานพูดออกมาว่า “ห้องที่ชั้นสิบจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ” ฉินซีเก็บสายตากลับมา แล้ววางสายโทรศัพท์ จากนั้นก็เดินตรงไปยังลิฟต์

เธออาศัยจังหวะช่วงที่พนักงานย้ายความสนใจไปจากเธอ และในตอนที่เฉินยี้ไม่ทันได้สังเกตเห็น เดินขึ้นลิฟต์ไปก่อน

และลิฟต์ตัวซ้ายสุดก็มาหยุดที่ชั้นหนึ่งพอดี เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ฉินซีก็รีบเดินเข้าไป แล้วรีบกดปิดลิฟต์ด้วยความรวดเร็ว

ประตูลิฟต์ค่อยๆปิดเข้าหากันช้าๆ มันช้าจนฉินซีเห็นร่างของเฉินยี้และบอดี้การ์ดสองคนผ่านระหว่างช่องประตูลิฟท์เข้ามาใกล้เรื่อยๆ

แต่จริงๆแล้วขึ้นลิฟต์ด้วยกันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอก เพียงแต่ว่า….ถ้าขึ้นไปยังชั้นเดียวกัน คงกลายเป็นจุดสังเกตของเฉินยี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ถ้าระวังตัวมากไป ก็ยิ่งกลายเป็นไม่ปลอดภัย

เมื่อเสียงฝีเท้าของทั้งสามเดินมาถึงหน้าประตู ช่องประตูลิฟต์ก็กำลังจะปิดเข้าหากัน

“นายครับ ทางนี้”

เสียงของบอดี้การ์ดดังขึ้นอยู่หน้าลิฟต์

หัวใจของฉินซีหล่นวูบ

“จะไปเบียดคนอื่นทำไม รอลิฟต์ตัวอื่นก็ได้!”

เสียงของเฉินยี้ดังขึ้นมาแว่วๆ เมื่อเสียงติ๊งดังขึ้นมา ประตูลิฟต์ก็ปิดลงสนิท

ฉินซีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

……

พนักงานเคาน์เตอร์ยื่นคีย์การ์ดให้กับเฉินยี้พร้อมกับมองซ้ายมองขวา จากนั้นก็พูดอย่างงงวยขึ้นมาว่า “แล้วเมียหลวงของคนนั้นล่ะ?”

เพื่อนร่วมงานส่ายหน้า “ไม่รู้สิ กลับไปแล้วเหรอ?”

พนักงานเบ้ปาก “คงไม่ใช่ว่าขึ้นไปข้างบนแล้วนะ?”

เพื่อนร่วมงานหัวเราะออกมา “ขึ้นไปแล้วยังไง เธอไม่รู้สักหน่อยว่าดาราคนนั้นอยู่ห้องไหน ไม่น่าจะก่อเรื่องอะไรได้หรอก”

ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา จากนั้นก็สลัดเรื่องนี้ทิ้งไม่ได้เก็บมาใส่ใจอีก

……

การรอลิฟต์เลื่อนขึ้นไปทีละชั้นๆเป็นอะไรที่ทรมานมาก

เพื่อความปลอดภัย เธอกดชั้นหกชั้นเจ็ดและชั้นสิบ เพื่อเลี่ยงไม่ให้เฉินยี้เกิดความสงสัย

แต่มันก็เสี่ยงเหมือนกัน ฉินซีไม่อาจรับประกันได้เลยว่าลิฟต์ของเธอจะถึงชั้นสิบก่อนลิฟต์ของเฉินยี้ไหม

สถานการณ์แย่สุดคงไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่เธอกับเฉินยี้ลงลิฟต์พร้อมกันหรอก แบบนั้นเธอคงทำได้แค่ดึงเสิ่นโหลวมาใช้ประโยชน์แล้ว

เธอและอานหยันรู้ตั้งแต่ตอนที่เตรียมวางแผนแล้ว ว่าเฉินยี้เป็นคนเจ้าเล่ห์และระแวงเก่งมากๆ ดังนั้นพวกเธอจึงต้องวางแผนให้รอบคอบมากกว่าเดิม ถึงจะทำให้เฉินยี้ไม่สงสัย

โชคดีที่พระเจ้าไม่ได้กลั่นแกล้งอะไรฉินซีนัก เพราะในตอนที่เธอเดินออกมาจากลิฟต์ ถึงได้พบว่าลิฟต์ตัวข้างๆเพิ่งถึงชั้นสาม

ฉินซีรู้ ประโยชน์ของเสิ่นโหลว มันจะสิ้นสุดลงที่นี่อย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับคนไม่เอาถ่านที่ใช้ชีวิตสนุกไปวันๆอย่างเขาแล้ว ฉินซีทำแบบนี้ ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร

ถึงเขาลงมาได้ยินที่คนพูด ก็คงแค่ยิ้มแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป

แบบนี้สำหรับฉินซี มันดีที่สุดแล้ว

ทางเดินมีกล้องวงจรปิด เธอจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าคุยสายกับใครอยู่ จากนั้นก็เดินตรงไปยังห้องในแผน

จากมุมของห้อง สามารถเก็บภาพเหตุการณ์ตรงบริเวณหน้าประตูห้องที่เฉินยี้จะเข้าไปได้ก็จริง

ทว่าเฉินยี้ฉลาดเลือกห้อง เพราะตรงนั้นเป็นมุมอับจากกล้องวงจรปิดตรงทางเดิน จึงไม่สามารถถ่ายภาพใบหน้าคนที่กำลังจะเข้าไปในห้องได้อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นเธอเลยต้องเสี่ยงออกมาถ่ายเองแบบนี้ไง

ฉินซีเสียบการ์ดเปิดประตู เมื่อหางตาเหลือบมองซ้ายขวาแล้วไม่เห็นใคร จึงเดินเข้าไปข้างใน

เมื่อเธอมองหามุมพอเหมาะพอเจาะในห้องตามภาพในหัวเจอ ก็นำเอากล้องรูเข็มไปวางไว้ตรงนั้น

เธอต้องรออยู่ที่นี่จนกว่าพวกเฉินยี้จะออกมา จากนั้นก็นำเอาวิดีโอจากกล้องตรงทางเดินก่อนหน้านี้กลับไปด้วย

ส่วนกล้องตัวที่ติดตั้งไว้ในห้อง อานหยันบอกแค่ว่าจะให้คนอื่นจัดการ ฉินซีจึงไม่ได้ถามอะไรอีก

ตามที่อานหยันพูดมา พวกเขาทำงานเป็นสายลับ ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกันเสียเท่าไหร่ แม้ว่าจะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนในสายข่าวไหน

คนอย่างพวกเขาทำงานร่วมกันได้ ไม่ใช่ว่าจะเห็นได้ง่ายๆ

เมื่อฉินซีตั้งกล้องเสร็จ ก็มายืนอยู่ข้างๆประตูอย่างระวังตัว เฝ้ารอความเคลื่อนไหวของเฉินยี้ในห้องตรงข้าม

ทางเดินมีพรมหนาปูยาวตลอดทาง จึงเก็บเสียงคนเดินได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีประตูกั้น ฉินซีจึงทำได้แค่ใช้สมาธิที่มีทั้งหมดพยายามจับเสียง ไม่กี่นาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูพอรางๆ

ฉินซีเกาะติดตาแมวตรงประตูแล้วเริ่มมองทุกอย่างให้ถี่ถ้วน

“มีคนลงทุกชั้นเลย ผิดปกติมาก” เสียงของเฉินยี้ดังขึ้นมาแว่วๆ “เสียเวลาอยู่ตั้งนาน”

“คนฝั่งนั้นยังไม่มาครับ” เป็นเสียงของบอดี้การ์ดดังขึ้นมา

“อืม เข้าไปก่อนแล้วกัน”

เฉินยี้พยักพเยิดหน้าให้บอดี้การ์ด แต่จู่ๆบอดี้การ์ดกลับหมุนตัว แล้วเดินมาทางห้องที่ฉินซีอยู่

ห่างกันแค่ตาแมวกั้น ฉินซีแทบจะสบตาตรงๆกับบอดี้การ์ดคนนั้น

แผ่นหลังของเธอเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาช้าๆ

ทำไมบอดี้การ์ดถึง…..เขารู้เหรอ?

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท