Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 960

ตอนที่ 960

บทที่ 960 ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน

เมื่อออกมาจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ฉินซีก็รู้สึกสบายอกสบายใจ แต่ก็รู้สึกวิตกกังวลอยู่รางๆ

เนื่องจากเธอตัดสินใจทิ้งบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไปขอร้องให้ลู่เซิ่นทำอะไรโง่ๆ อย่างซื้อสินค้าค้างสต๊อก ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่มีความสามารถในการมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของลู่เซิ่นจริงๆ

เธอจงใจยั่วโมโหฉินซึ่งเทียน ดังนั้นความโกรธของฉินซึ่งเทียนในตอนแรกเป็นสิ่งที่เธอคิดไว้

แต่ตอนที่เธอออกจากประตูมา ฉินซึ่งเทียนก็ดูเหมือนจะสงบลงแล้ว

มันไม่ใช่เรื่องปกติเลย

ฉินซีคุ้นเคยกับอารมณ์ของฉินซึ่งเทียน เขาเป็นคนที่แค้นนิดๆ หน่อยก็ต้องแก้แค้น ความโกรธอยู่ได้นานมากๆ

แต่วันนี้เขาค่อนข้างมีอารมณ์ที่ผิดปกติ และหน้าซีดเผือดของหซู่หนาน มันก็ค่อนข้างเกินความคาดหมายของเธอ

……หรือมีแผนร้ายอะไรในนี้?

ฉินซีเดินไปด้วยคิดไปด้วย ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้ามาสักพักแล้ว เกือบชนร่างคนที่เดินมา

พอเบนสายตาขึ้น ก็พบว่าคนที่เดินมาไม่ใช่คนอื่น คือลู่เซิ่น

เขาทำหน้าเย็นชา เอามือโอบเอวฉินซี เชิดคางไปที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป “วันนี้คุณไปบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเหรอ?”

ฉินซีรู้ว่าหลังจากที่ตนโดนถามเรื่องที่อยู่โรงพยาบาล ลู่เซิ่นก็ไม่ค่อยพอใจเรื่องที่ตนไปที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

ดังนั้นเช้าวันนี้ตอนเธอออกมาก็ได้บอกพ่อบ้านไป ไม่คิดว่าลู่เซิ่นจะมาถึงตอนเที่ยงจริงๆ

ฉินซีไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองเจอมา แค่พยักหน้า “ใช่ แค่การประชุมปกติเท่านั้น”

ลู่เซิ่นก้มศีรษะลงมองดวงตาเธอ ดูเหมือนจะอยากดูว่าเธอโกหกหรือเปล่า

ฉินซีพยายามทำให้แววตาตัวเองสงบลงหน่อย

ลู่เซิ่นเหมือนไม่เห็นอะไรผิดปกติ ก็ปล่อยฉินซี จับแขนเธอแล้วเดินไปที่รถตัวเอง

ฉินซีอยากผลักเขาออกแล้วเดินเอง หางตาดูเหมือนจะเห็นร่างหนึ่งเดินเข้าไปในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

เธอหันศีรษะไปมองทันที แต่ห้องโถงบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่สว่าง หลังจากที่คนคนนั้นเดินเข้าไปก็มองไม่ชัดเจนแล้ว

“ลู่เซิ่น วันนี้ผู้ช่วยคนไหนมากับคุณ?” จู่ๆ เธอก็เปล่งเสียงถาม

“ฉันมีผู้ช่วยคนเดียว จะมีใครอีก?” ลู่เซิ่นเหมือนรู้สึกว่าคำถามเธอแปลกประหลาดมหัศจรรย์

เขามีแค่สูหวั่นที่เป็นผู้ช่วยเพียงหนึ่งเดียวของเขาไม่ใช่เหรอ

ฉินซีก็เห็นหลินหยังที่ยืนข้างรถโดยธรรมชาติ สับสนอยู่พักหนึ่ง

หรือเมื่อครู่นี้ตัวเองมองผิดไป?

เมื่อครู่นี้คนที่เข้าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไป ไม่ใช่สูหวั่นเหรอ?

ก็จริง สูหวั่นจะมาทำอะไรที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปล่ะ……

“ไปกันเถอะ กลับบริษัทลู่ซื่อไปกินข้าว” ลู่เซิ่นยัดเธอเข้าไปในเบาะหลัง

ฉินซีกลับมาจากความคิดของตัวเอง “อาหารส่งไปที่บ้านแล้วเหรอ?”

น้ำเสียงลู่เซิ่นยังคงเย็นชา “คนรับใช้ส่งอาหารคุณมาที่ฉันแล้ว บอกว่าคุณมาประชุมที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ไม่ไกลจากบริษัทลู่ซื่อ กินข้าวด้วยกันได้”

ฉินซีเบ้ปาก

อย่างนี้นี่เอง……

แต่ว่าทั้งๆ ที่ลู่เซิ่นโทรมาให้ตนไปเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมารับด้วยตัวเองเลยอ่ะ

ฉินซีก้มศีรษะมองโทรศัพท์ของตัวเอง บันทึกเดียวก็ไม่มี

ลู่เซิ่นเห็นทุกการกระทำของเธอในสายตา แต่ดูเหมือนไม่คิดจะอธิบาย

ทั้งคู่กลับมาถึงบริษัทลู่ซื่ออย่างเงียบๆ

……

อีกด้านหนึ่ง บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

ยังคงเป็นห้องประชุมเมื่อครู่นี้ ตำแหน่งที่ฉินซีนั่งกลายเป็นคนอื่นแล้ว

อีกข้างของหซู่หนาน ก็มีหลี่เหวยและฉินหว่านที่อยู่ในห้องประชุมเมื่อครู่นี้นั่งอยู่ด้วย

สูหวั่นนั่งตัวตรงในที่นั่ง สองมือซ้อนกัน ใบหน้าเธออ่อนโยน ถ้าสายตาของฉินซึ่งเทียนและหซู่หนานไม่ได้มีความกลัวนิดหน่อย แวบแรกดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่เปราะบางที่สุดในคนเหล่านี้

“ผู้ช่วยสู ฉินซีปฏิเสธข้อเสนอของเราจริงๆ” ฉินซึ่งเทียนพูด “ข้อเสนอก่อนหน้านี้ของคุณ ยังมีผลไหม?”

สูหวั่นหัวเราะเบาๆ “แน่นอน”

สูหวั่นรู้ ภารกิจของตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบก็คือทำให้ลู่เซิ่นกับฉินซีเลิกกันตามความต้องการของคุณนายลู่ ตราบใดที่ตัวเองยังทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ สักวันก็จะถูกมัดข้างๆ ลู่เซิ่น

ดังนั้นเธอจึงวิตกกังวลมากกว่าใครๆ

ถึงเธอจะถูกคุณนายลู่ส่งมาอยู่กับลู่เซิ่น แต่เห็นได้ชัดว่าวิธีนี้ไม่มีประโยชน์ใดๆ

ฉินซีไม่ค่อยปรากฏตัวที่บริษัทลู่ซื่อ และไม่ใส่ใจกับงานของลู่เซิ่น และลู่เซิ่นเองก็มองเธอเป็นแค่มวลเมฆในอากาศ

สูหวั่นค่อนข้างทำอะไรไม่ได้ แค่ทำความคุ้นเคยกับสิ่งที่คุณนายลู่ยัดให้เธอ สืบหาภูมิหลังของฉินซี พยายามหาช่องโหว่อะไรในนั้น

เธอรอมานานมาก ไม่มีโอกาสใดๆ จนกระทั่งล่าสุดที่ออกไปทำงานนอกสถานที่กับลู่เซิ่น

หลี่เหวยก็ตามฉินซึ่งเทียนออกไปทำงานนอกสถานที่ด้วย ถึงแม้แผนการเดินทางของฉินซึ่งเทียนและลู่เซิ่นจะต่างกัน แต่ก็อาศัยอยู่ในโรงแรมเดียวกัน

ลู่เซิ่นไม่คิดจะพาสูหวั่นไปด้วย การประชุมทั้งหมดไม่ได้เตรียมใบอนุญาตทำงานให้สูหวั่น เธอจึงทำได้แค่อยู่ที่โรงแรม ส่วนหลี่เหวยก็เสนอให้อยู่ในโรงแรม พาฉินหว่านคุ้นเคยกับขั้นตอน

ทั้งสามคนพบกันในร้านอาหารของโรงแรม

สูหวั่นมองแวบเดียวก็จำได้ว่าคนตรงหน้าคือใคร

แม่เลี้ยงและพี่สาวของฉินซี

โดยธรรมชาติแล้ว เธอนั่งโต๊ะด้านหลังพวกหลี่เหวย บังเอิญได้ยินพวกหลี่เหวยคุยกัน ไม่ถึงขนาดทำให้ตำแหน่งของตัวเองสูงส่งจนเกินไป

สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ เธอเพิ่งนั่งลงไปก็ได้ยินชื่อฉินซีทันที

“……ฉินซีเธอมีสิทธิ์อะไร!” เสียงฉินหว่านค่อนข้างน้อยใจนิดหน่อย “มีสิทธิ์อะไรให้บริษัทลู่ซื่อถอนใบสั่งซื้อหมดเลย คุณพ่อต้องมาที่นี่เพื่อคุยกับบริษัทเล็กๆ ด้วยตัวเอง!”

“เบาหน่อย” หลี่เหวยลูบหลังมือเธอ “เธอคิดว่าไงล่ะ ตอนนี้เธอเป็นคุณนายของบริษัทลู่ซื่อ เธออยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้น”

ฉินหว่านพูดอย่างขุ่นเคือง “ทำไมเธอถึงจับคนใหญ่คนโตอย่างลู่เซิ่นได้ แม่ เธอมีคนหนุนหลังแบบนี้ เรายิ่งจัดการกับเธอยากขึ้นไม่ใช่เหรอ!”

หลี่เหวยพูดเสียงทุ้ม “ลูกไม่ต้องรีบร้อน เรามีโอกาสเสมอ ฉินซีกับลู่เซิ่นยังแต่งงานกันได้ไม่นาน ต้องมีช่องโหว่อะไรให้เราเจาะได้อยู่แล้ว”

สูหวั่นกำลังเลิกคิ้วอยู่ทางนี้

ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน

นอกจากนี้พวกเขายังมีเป้าหมายเดียวกัน——ทำให้ลู่เซิ่นกับฉินซีเลิกกัน

คิดแบบนี้แล้ว สูหวั่นก็วางอุปกรณ์รับประทานอาหารของตัวเองลง หยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปข้างๆ โต๊ะพวกหลี่เหวย ในขณะเดียวกันก็ทำท่าว่าคุยโทรศัพท์

“ประธานลู่เขาไม่ได้พาฉันไปด้วย” เสียงของสูหวั่นค่อนข้างทุ้มต่ำ “เขาพาแค่หลินหยังไป บอกว่าฉันไม่จำเป็น”

หลี่เหวยทางนี้พอได้ยินคำว่า “ประธานลู่” ก็หูผึ่งอย่างอ่อนไหว ตบหลังมือฉินหว่านบ่งบอกให้เธอเงียบ

เมื่อเธอได้ยินชื่อหลินหยัง ก็มั่นใจอย่างมาก

ประธานลู่คนนี้ ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือลู่เซิ่น

ดังนั้นเธอจึงเบนสายตาขึ้น มองสำรวจคนคนนี้ที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่

เป็นเด็กผู้หญิง ใบหน้าค่อนข้างอ่อนเยาว์อย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

หลี่เหวยจึงได้ยินเธอพูดอีกครั้ง “คุณนาย ไม่งั้นคุณอย่าให้ฉันอยู่บริษัทลู่ซื่อเลย ฉันคิดว่าฉันอยู่กับลู่เซิ่น ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันอาจจะไม่มีทางทำให้ฉินซีล้มเลิกความตั้งใจกับประธานลู่……”

คุณนาย?

ศีรษะของหลี่เหวยหันไปอย่างรวดเร็ว

คนที่สามารถแทรกบริษัทลู่ซื่อได้คงไม่ใช่ฉินซีโดยธรรมชาติ ถ้าอย่างนั้นคนที่ถูกเรียกว่าคุณนาย มีแค่คนเดียว

คุณนายลู่เหวย คุณแม่ของลู่เซิ่น สูหยิง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท