Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 962

ตอนที่ 962

บทที่ 962 กลายเป็นเถ้าเธอก็จำได้

คืนนั้น สโมสรหนึ่งภายใต้บริษัทลู่ซื่อ

ในวันปกติมันจะเป็นสถานที่สำหรับเหล่าสุภาพสตรีในการเล่นไพ่และพูดคุยนินทา จุดนี้ควรเต็มไปด้วยคน แต่ตอนนี้กลับเงียบสงบ

เมื่อมองอย่างรอบคอบถึงจะเห็น ที่ประตูมีป้ายแขวนว่าคืนนี้ปิดบริการ

และห้องส่วนตัวหนึ่งในนั้น มีสูหยิงนั่งอยู่

สูหยิงทำผมสูงมาก ต่างหูมุกสองอันข้างหูทำให้เธอไม่มีความอ่อนโยน เธอสวมโค้ตตัวใหญ่ มีแรงจูงใจจ้องมองไปที่ประตูตลอดเวลา

เสียงฝีเท้าเดินเข้ามา สูหวั่นเปิดประตูก่อน

“คุณนาย” เธอก้มศีรษะทักทาย

สูหยิงพยักหน้าเบาๆ ถือว่าเป็นการตอบ จากนั้นความสนใจทั้งหมดก็อยู่ที่คนคนนั้นที่เดินตามหลังสูหวั่นเข้ามา

ฉินซึ่งเทียน

พวกเขาก็ไม่ถือว่าไม่คุ้นเคยกัน เคยพบกันเป็นครั้งคราวในงานเลี้ยงค็อกเทลปาร์ตี้ และเป็นคนที่รู้จักกันอย่างตื้นเขิน

แต่สูหยิงไม่เคยคิดเลยว่า พวกเขาจะมาเจอกันในโอกาสแบบนี้

ฉินซึ่งเทียนมีผมหงอกที่มุมหน้าผากนิดหน่อย รูปลักษณ์ดูแล้วค่อนข้างมีความทุกข์ทางจิตใจ พยักหน้าเอ่ยทักทายสูหยิง “คุณนายลู่”

สูหยิงยังคงไม่เอ่ยปาก พยักหน้าอย่างเย็นชา

สูหวั่นมีไหวพริบที่สุด ปิดประตูออกไปแล้ว

“คุณหมายถึงสิ่งของอะไร” สูหยิงไม่ทักทายแม้แต่ประโยคเดียว ถามใส่หน้าโครมๆ

ฉินซึ่งเทียนดูเหมือนจะคาดไว้แล้วว่าเธอจะใจร้อน ไม่มีการเสแสร้งแกล้งทำ ควักรูปถ่ายสองสามใบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

“บางที คุณอาจจะรู้เรื่องของอดีตภรรยาผม? ” เขาพูดไม่รีบร้อน กระตุ้นให้สูหยิงขมวดคิ้ว

“รู้อยู่แล้ว จุลสารปีที่แล้วเป็นข่าวของเธอทั้งหมด” สูหยิงขมวดคิ้ว ราวกับกำลังมองอะไรบางอย่างที่ไม่เหมาะสม “ถูกคุณจับได้ว่าเธอมีชู้ จากนั้นก็กระโดดตึกฆ่าตัวตาย”

เธอพูดโดยไม่ใช้คำที่สละสลวยเลยสักนิด พูดขึ้นมาต่อหน้าฉินซึ่งเทียนอย่างไม่สนใจเลยสักนิด

แต่ฉินซึ่งเทียนก็ไม่ได้ใส่ใจเช่นกัน เขาแค่พลิกสิ่งของที่อยู่ในมือแล้วกดลงบนโต๊ะ พูดขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “แล้วคุณรู้ไหม……เธอไปมีชู้กับใครจนถูกผมจับได้?”

“ไม่รู้น่ะสิ” สูหยิงเบ้ปากด้วยความรังเกียจ “ในหนังสือพิมพ์พูดแต่งเรื่องเธอ ไม่ได้พูดถึงคนรักของเธอ……”

สูหยิงพูด จู่ๆ ก็เห็นสีหน้าของฉินซึ่งเทียน

มียิ้มเรียบๆ บนใบหน้าเขา มันลุ่มลึกและเยาะเย้ย

สูหยิงหยุดปากทันที ลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ

“คุณหมายความว่าไง!” เธอเสียงแหลมทันที “คุณจะบอกว่า ชู้ของเธอคือสามีฉัน?”

รอยยิ้มน่าสงสารเวทนานิดๆ บนใบหน้าฉินซึ่งเทียนนั้นหนักขึ้น เขาไม่ตอบ เพียงแค่ดันกองภาพถ่ายบนโต๊ะนั้นมา

สายตาสูหยิงมองตามภาพทั้งหมด ขมวดคิ้วแน่น หยุดหลายวินาที ก่อนจะเอื้อมมือออกไปยังภาพถ่ายกองนั้น

ฝ่ามือเธอเย็นและมีเหงื่อ แขนสั่นเล็กน้อย

นานหลายปีแล้วที่เธอไม่ได้ประหม่าแบบนี้มาก่อน

และฉินซึ่งเทียนแค่นั่งอยู่อีกด้าน มีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า กำลังมองทุกสิ่งทุกอย่างนี้

สุดท้ายสูหยิงก็หยิบรูปขึ้นมา สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพลิกมัน

ทุกอย่างที่เห็นตรงหน้าทำให้ลมหายใจเธอติดที่หน้าอก

เธอเคยเจอเหยาหมิ่น รู้ว่าคนที่นอนหงายอยู่บนเตียงคือเหยาหมิ่นโดยธรรมชาติ แต่คนนั้นข้างๆ เธอ……

ทันใดนั้นสูหยิงก็หลับตา

กลายเป็นเถ้าเธอก็ยังจำได้

นั่นคือคนที่นอนข้างหมอนเธอมาหลายสิบปี

ลู่เหวย

ฉินซึ่งเทียนเห็นสีหน้าเธอค่อยๆ ไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆ ถึงได้พูดขึ้นช้าๆ “ตอนคุณแต่งงานกับลู่เหวย รู้ไหมว่าตระกูลลู่มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับตระกูลเหยา? ”

สูหยิงเอามือกุมหน้าอก ไม่ได้ตอบ

ฉินซึ่งเทียนก้มหน้าก้มตาพูดต่อไป “เหยาหมิ่นและลู่เหวยรู้จักกันนานแล้ว ถือว่าเป็นหวานใจกันในวัยเด็ก แต่ตอนนั้นตระกูลลู่ล้มลง ตระกูลเหยาอยากผูกสัมพันธ์กับคนที่มีฐานะดี จึงบังคับเธอให้แต่งงานกับผม และคุณก็แต่งงานกับลู่เหวยในช่วงเวลานี้”

“การแต่งงานนี้มันไม่ยุติธรรมกับเราทั้งสี่คน ผมก็มีคนรักของตัวเอง และคุณ……ก็ถูกปิดบังไว้อย่างสิ้นเชิง”

“สองปีที่ผ่านมาพวกเขาติดต่อกันตลอดไม่ขาดสาย แต่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่เสมอเท่านั้น ผมเองก็หลับตาข้างหนึ่ง แต่เมื่อต้นปีที่แล้ว มีคนบอกกับผมว่าพวกเขาทั้งคู่คบกัน ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ พอหลายครั้งเข้าก็ต้องเกิดความสงสัยนิดหน่อย”

“และเมื่อผมมาที่โรงแรมด้วยตัวเอง หลังจากถ่ายภาพนี้ ผมก็ต้องเชื่อแล้ว ที่แท้พวกเขาทั้งคู่ก็——”

“คุณไม่ต้องพูดแล้ว! ” ทันใดนั้นสูหยิงก็ร้องเสียงแหลมขึ้น “คุณหุบปาก หุบปาก……”

เธอหยิบรูปภาพบนโต๊ะขึ้นมา ฉีกแต่ละใบเป็นชิ้นๆ อย่างดุเดือด

บนใบหน้าฉินซึ่งเทียนยังคงมีสีหน้าน่าสงสารเวทนานั้น

“แต่ตอนนี้คุณก็ไม่สามารถแก้แค้นอีกฝ่ายได้แล้ว เหยาหมิ่นถูกผมจับชู้ได้บนเตียง หลังจากหย่าร้างด้วยความอับอาย กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ส่วนสามีของคุณ……” ฉินซึ่งเทียนชะงักไปสองสามวินาที “เขาควรทำยังไง ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะตัดสินใจได้”

“เขากล้าได้ยังไง……กล้าได้ยังไง……” สูหยิงจับหน้าอกตัวเอง พึมพำไม่กี่ประโยค จู่ๆ ก็จ้องมองฉินซึ่งเทียนอย่างดุเดือด “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ารูปนี้ของคุณเป็นของจริงหรือของปลอม! รูปภาพมัน P ได้ และคุณยังใส่ร้ายการตายของอดีตภรรยาคุณให้กับลู่เหวยได้ง่ายๆ”

สีหน้าฉินซึ่งเทียนกลับสงบนิ่งมาก เขาลุกขึ้น เก็บรูปภาพที่เป็นชิ้นๆ ตรงหน้าสูหยิงให้เรียบร้อย ใส่ไว้ในซองที่ตัวเองนำมา ก้มศีรษะลงโทรศัพท์

ห้องส่วนตัวนี้กันเสียงดีมาก สูหวั่นที่เฝ้าประตูไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใดๆ เลย จนกระทั่งได้รับสายจากฉินซึ่งเทียน ถึงได้เปิดประตูเข้ามา

พอเปิดประตูก็เห็นสูหยิงสีหน้าแดงก่ำ สภาพจิตใจไม่ดีแล้ว พุ่งเข้าไปข้างกายสูหยิง “คุณนาย! คุณยังโอเคไหม!”

เธอรู้ว่าไม่กี่วันนี้สูหยิงหัวใจย่ำแย่ ไม่สามารถทนต่อการกระตุ้นได้

ถูกกระตุ้นโดยข้อมูลของฉินซึ่งเทียนจนกลายเป็นแบบนี้ มันต้องเป็นข้อมูลที่คาดไม่ถึงแน่ๆ

ฉินซึ่งเทียนไม่ได้สนใจสีหน้าสูหยิง แค่พูดกับสูหวั่น “เธอเอาของในมือเธอให้เธอดูสิ”

สูหวั่นหันศีรษะไปเห็นสีหน้าสูหยิง ค่อนข้างลังเล “ตอนนี้……”

“เดี๋ยวนี้! ” ตอนนี้คนที่เอ่ยปากคือสูหยิง “เธอเอามาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้ จะมีอะไรได้!”

สูหวั่นควักโทรศัพท์ออกมาอย่างลังเล “ไม่กี่วันก่อนตอนฉันไปสุสานกับลู่เซิ่นและฉินซี ไม่ระวังไปถ่ายเข้า……”

สูหยิงรับโทรศัพท์มามองดูอย่างตั้งใจ

คนในรูปภาพ ก็คือลู่เหวย

เขาสวมสูทเป็นทางการ ทรงผมก็ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน

และเขากำลังนั่งยองๆ อยู่หน้าหลุมฝังศพ วางช่อดอกไม้อย่างเคร่งขรึม

รูปภาพมันชัดมาก ชื่อบนหลุมฝังศพมองแวบเดียวก็เห็นได้

“หลุมศพเหยาหมิ่น”

ดอกไฮแดรนเยีย ดอกไม้หมายถึง “ความจงรักภักดี ความชั่วนิรันดร เต็มไปด้วยความสุขชื่นมื่น อยู่พร้อมหน้ากัน”

เมื่อมีปัจจัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สูหยิงรู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบากขึ้น เธอจับหน้าอกตัวเอง พยายามเค้นไม่กี่คำออกมา “หา……พวกเขา……มา……ให้ฉัน……ทั้งหมด……”

พูดประโยคนี้จบ การหายใจของเธอก็ยากลำบากขึ้นมา

เสียงร้องไห้ของสูหวั่นข้างหูค่อยๆ ห่างไกลออกไป เธอค่อยๆ จมลงสู่ความมืดมิด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท