Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 965

ตอนที่ 965

บทที่ 965 อย่าสำคัญกับตัวเองมากเกินไป

ตอนฉินซีเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย รู้สึกได้อย่างอ่อนไหวว่าบรรยากาศในห้องมันแปลกๆ

เพราะมันสงบเงียบเกินไป

จากรอยแผลบนตัวลู่เหวย ก่อนพวกเขาจะมา ที่นี่ควรจะเป็นฉากแห่งความวุ่นวายสิถึงจะถูก

แต่เมื่อฉินซีเข้ามา ในนี้เหมือนห้องผู้ป่วยธรรมดา เงียบสงบ

สูหยิงนอนบนเตียง สีหน้ายังคงซีดเซียวมาก แต่เห็นได้ชัดว่าจิตวิญญาณฟื้นตัวได้ไม่เลว อย่างน้อยตอนพวกเขาเข้าประตูมา แววตาที่มองลู่เหวยมีประกายอย่างมาก

สูหวั่นยังคงนั่งเก้าอี้ตัวเดียวข้างเตียง มือข้างๆ จับมือสูหยิงไว้ ถ้าข้างกายไม่มีลู่โยวโยวยืนอยู่ ฉินซีมองสีหน้าที่เป็นกังวลของเธอ เกือบจะคิดว่าเธอเป็นลูกสาวแท้ๆ ของสูหยิง

และลู่เซิ่นยืนข้างเตียง ฉินซีอยู่ห่างเขามากเกินไป แค่สีหน้าเขาอย่างเดียวมองไม่เห็นความผิดปกติอะไร

ฉินซีคิดไม่ออก แค่ยืนอยู่ด้านหลังสุดอย่างระมัดระวัง

ลู่เหวยดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ตนได้รับเมื่อครู่นี้เลยสักนิด เดินไปหน้าเตียงสูหยิงไม่กี่ก้าว “ตอนนี้คุณรู้สึกยังไง?”

ลู่โยวโยวไม่สามารถกลั้นได้อีกต่อไป พุ่งกระโจนเข้าไป “แม่! เกิดอะไรขึ้นกับแม่กันแน่!”

ตอนเธอมาถึง คือตอนที่ได้ยินลู่เหวยโดนสูหยิงเตะต่อยและด่าว่ามีชู้ เธอไม่ได้พูดกับสูหยิงแม้แต่ประโยคเดียว ก็ถูกแพทย์ไล่ออกมาข้างนอก

ลู่เจิ้นมีสติ เห็นพวกเขาเข้ามาก็ปิดประตูอยู่ด้านนอก ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเรื่องในครอบครัวพวกเขา

สูหยิงไม่ได้มองพวกเขาเลย สายตาจดจ้องไปที่ร่างฉินซี “เข้ามา”

ฉินซีค่อนข้างสับสน เงยศีรษะมองลู่เซิ่นโดยไม่รู้ตัว

ลู่เซิ่นจ้องเธอทันที ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรไปเกินความจำเป็น

ฉินซีทำได้แค่ก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว ยืนหน้าเตียงสูหยิง

เห็นสภาพย่ำแย่ของลู่เหวยแล้ว เธอสงสัยสภาพจิตใจของสูหยิงในตอนนี้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นจึงควรระวังให้มาก

สูหยิงพ่นหัวเราะออกมา โบกมือ “สูหวั่น เธอเอาสัญญาการหย่าออกมา ให้เธอเซ็นชื่อซะ”

ฉินซีเบิกตากว้างทันที “คุณนายลู่……”

สูหยิงขมวดคิ้วอย่างรำคาญ เงยศีรษะจ้องเธอ “เธอจะไม่เซ็น?”

ฉินซีไม่เข้าใจว่าทำไมโดนบังคับให้หย่า อารมณ์จึงขึ้นนิดหน่อยแล้ว “คุณนายลู่ ถึงลู่เซิ่นจะเป็นลูกชายคุณ แต่คุณควบคุมการแต่งงานของเขาไม่ได้นะคะ คุณทำแบบนี้ บังคับให้ฉันหย่าโดยไม่มีเหตุผลใดๆ ฉันทำไม่ได้”

สูหยิงหัวเราะอย่างไม่รู้ความหมาย “ไม่มีเหตุผลเหรอ? ฉินซี เธออย่าสำคัญกับตัวเองมากเกินไป เหตุผลฉันก็คือแม่เธอที่แรดไปทั่ว แค่นี้ยังไม่พอเหรอ?”

สีหน้าฉินซีหนักอึ้งทันที

เหยาหมิ่นคือเกล็ดมังกรของเธอตลอดเวลา คนอื่นพูดอะไรบางอย่างเธอก็ไม่พอใจทั้งนั้น นับประสาอะไรกับการที่สูหยิงดูถูกเธออย่างตรงไปตรงมาแบบนี้

“คุณนายลู่” น้ำเสียงเธอเข้มขึ้นนิดหน่อย “คุณจะมาตำหนิแม่ฉันซี้ซั้วแบบนี้ ฉัน……”

“เฮอะ!” สูหยิงขึ้นเสียงขัดจังหวะเธอ “ซี้ซั้ว! เธออยากได้หลักฐานไหมล่ะ? ลู่เซิ่น ลูกเอาหลักฐานให้เธอ!”

ฉินซีขมวดคิ้วทันที

หลักฐาน?

ทำไมหลักฐานอยู่ที่ลู่เซิ่น?

ลู่เซิ่นเอ่ยปากพูดประโยคแรกในตอนนี้ “แม่ ผมบอกแล้วไง ของพวกนี้มันอาจจะไม่ใช่ของจริง แม่……”

“ไม่ต้องเถียงแทนเธอ!” น้ำเสียงสูหยิงกลายเป็นแหลมมาก กระเด้งขึ้นมาจากเตียง แล้วนอนกลับลงไปอีกครั้ง “ไม่อยากให้เธอเห็นใช่ไหม? สูหวั่น เธอเอาให้เธอดูสิ!”

เธอเอื้อมมือมากุมหัวใจตัวเอง

ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ก็เลยไม่ได้ห้ามการกระทำของสูหวั่น

สูหวั่นยืนขึ้นมาจากที่นั่งตัวเอง เดินไปด้านหน้าฉินซี ควักโทรศัพท์ออกมา

สิ่งที่เธอเห็นตรงหน้าทำให้เธอเย็นไปทั้งตัว

มันคือรูปไม่กี่ใบ

ว่ากันว่าเป็นรูปภาพที่ถูกถ่ายตอนที่เหยาหมิ่นโดนจับได้ว่ามีชู้บนเตียง

ตอนนั้นเรื่องราวของเหยาหมิ่นทุกคนรู้กันทั่ว ฉินซีกลั้นความโกรธในใจกว้านซื้อหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์เรื่องอื้อฉาวของเหยาหมิ่นทั้งหมด เธอไม่ได้ทำเพื่อคนอื่น แต่หลังจากที่สืบรู้แล้วว่าเหยาหมิ่นโดนฉินซึ่งเทียนใส่ร้าย ใช้หลักฐานที่เก็บไว้เหล่านี้ บังคับให้หนังสือพิมพ์แต่ละที่ขอโทษและจ่ายค่าชดเชย

ดังนั้นรูปภาพที่หมุนเวียนในตลาด เธอเคยเห็นมาหมดแล้ว ไม่ใช่แค่ใบหน้าของเหยาหมิ่น แต่คนที่เรียกว่าชู้ของเธอ มีแค่แผ่นหลังที่คลุมเครือ

และเพราะมองหน้าชู้ไม่ชัดเจน เธอจึงไม่มีเบาะแสตลอดมา

แต่รูปภาพไม่กี่ใบตรงหน้านี้ ดูเหมือนจะไขข้อสงสัยตลอดมาของเธอได้แล้ว

เพราะคนที่นอนข้างๆ เหยาหมิ่น ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือคนที่ยืนข้างๆ เธอในตอนนี้ ลู่เหวย

เห็นได้ชัดว่าลู่เหวยก็เห็นรูปในมือเธอเช่นกัน เหมือนโดนเหยียบหาง ใบหน้าแดงก่ำไปด้วยความโกรธ “คนโกหก! รูปพวกนี้มันทำขึ้นมา! ฉันไม่เคยทำเรื่องแบบนี้กับเหยาหมิ่น!”

ราวกับคำว่า “เหยาหมิ่น” สองคำนี้จากปากเขากระทบประสาทบางส่วนของสูหยิง เธอเอ่ยปากขึ้นทันที “หุบปาก! ถึงตาที่แกจะพูดแล้วหรือไง!”

แต่ฉินซีที่ถือโทรศัพท์สูหวั่นไม่พูดอะไรสักคำ แค่จ้องรูปภาพในโทรศัพท์อย่างตกตะลึง

“ฉินซี รูปนี้มันเป็นของปลอม” ลู่เหวยพูดกับสูหยิงไม่น้อย หันร่างไปอธิบายกับฉินซี “ตอนนั้นฉันไปทำงานนอกสถานที่ที่ประเทศ M เป็นไปไม่ได้ที่จะมีโอกาส……”

“ฉันรู้” ฉินซีขัดจังหวะคำพูดเขาอย่างกะทันหัน “ฉันเชื่อค่ะว่าคุณไม่ได้ทำ”

สูหยิงอยู่บนเตียงได้ยินพวกเขาตอบกันไปมา สีหน้าก็ยิ่งไม่พอใจ เสียงแหลมพูดเยาะเย้ย “เธอเชื่อเหรอ? ฉินซี เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แม่เธอก็ทำเรื่องสกปรกแบบนี้ออกมาแล้ว! ทำลายครอบครัวคนอื่น! สมควรตกนรก!”

“แม่!” ครั้งนี้คนที่เอ่ยปากคือลู่เซิ่น เขาขมวดคิ้วจ้องมองสูหยิง “แม่อย่าพูดน่าเกลียดแบบนี้”

สูหยิงโกรธจนตกตะลึง “ฉันพูดน่าเกลียดเหรอ? ถ้าเหยาหมิ่นไม่ทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนี้ ฉันจะพูดแบบนี้ไหม? ถ้าคืนนี้ฉันไม่ได้ออกไปข้างนอกแล้วได้รูปถ่ายพวกนี้มา ก็ไม่รู้ว่าจะโดนปิดบังไปนานแค่ไหน!”

ฉินซีได้รับข้อมูลสำคัญนิดหน่อย ค่อยๆ เงยศีรษะขึ้นมา มองสูหยิง “คุณนายลู่ คืนนี้คุณออกไป……เจอฉินซึ่งเทียนมาใช่ไหม?”

สูหยิงมีความประหลาดใจแวบขึ้นมานิดหน่อยบนใบหน้า จากนั้นก็เชิดคางขึ้น “แล้วไง!”

“รูปภาพพวกนี้ เขาเป็นคนให้คุณใช่ไหม?” ฉินซีถามอีก

สูหยิงไม่อดทนแล้ว “ถ้าเป็นฉินซึ่งเทียนแล้วมันทำไม! แม่เธอกับลู่เหวยก็เป็นชู้กันอยู่ดี จะใครเป็นคนบอกมันก็มีข้อสรุปเหมือนกัน!”

“ไม่ ไม่เหมือนกัน” สีหน้าฉินซีแย่ลงอย่างสิ้นเชิง “ฉินซึ่งเทียนเป็นคนเลวที่สกปรก”

สีหน้าเธอไม่พอใจอย่างยิ่ง ราวกับว่าถ้าฉินซึ่งเทียนอยู่ที่นี่ ฉินซีอาจจะเอามีดปอกผลไม้แทงหัวใจเขายังไม่ลังเล

ท่าทางดุดันของเธอทำให้สูหยิงตกตะลึง “เธอกำลังพูดอะไร……”

“ตอนนั้นแม่ฉันไม่ได้มีชู้” ฉินซีเชิดคางขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงไม่ดังแต่หนักแน่นมาก “ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นแค่สิ่งที่ฉินซึ่งเทียนใส่ร้ายเธอ”

สูหยิงตอบโต้โดยไม่รู้ตัว “แต่ทุกอย่างในตอนนั้นมีหลักฐานยืนยัน!”

ฉินซีแค่นหัวเราะ “หลักฐาน ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ฉินซึ่งเทียนพูดเองเออเอง”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท