Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 984

ตอนที่ 984

บทที่ 984 อย่าโง่ไปหน่อยเลย

แม้ว่าคนที่เข้าร่วมการประชุมจะไม่ใช่คนตระกูลฉินก็ตาม แต่ส่วนใหญ่จะมีความใกล้ชิดกับตระกูลฉิน ดังนั้นจึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับสถานะของตระกูลฉินเป็นอย่างดี

ตัวอย่างเช่น หซู่หนานที่เคยคบหากับฉินซีมาก่อน

แม้ว่าทุกคนจะมีสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างฉินซีและหซู่หนาน แต่ทุกคนต่างก็เป็นที่รู้กันว่าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

อย่างไรก็ตามพวกเขาอิงจากสายตาของหลี่เหวย ทุกคนต่างก็เห็นว่าเธอรักและเอ็นดูฉินหว่านมาก

หากพูดถึงคนรักของฉินหว่านหรือเรื่องของฉินซีขึ้นมาล่ะก็ แน่นอนว่ามีจุดจบที่ไม่สวยแน่

แต่ในตอนนี้ เมื่อเห็นว่าหซู่หนานคว้าแขนของฉินซีไว้ สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีนัก

ฉินซีไม่แคร์ปฏิกิริยาของคนอื่น แต่เธอเบื่อหน่ายกับการกระทำของหซู่หนาน เธอจึงสะบัดแขนออกจากเขาและพูดขึ้นอย่างเย็นชา “คุณผู้จัดการหซู่ มีธุระอะไรเชิญพูดตอนนี้ได้เลยค่ะ”

หซู่หนานมองไปรอบๆ เมื่อเห็นท่าทีแน่วแน่ของฉินซีก็ลดเสียงพูดลง “เรื่องสูหวั่นก่อนหน้านี้ ฉันผิดเองที่ไม่ได้บอกเธอก่อน ฉันรู้พวกเขาต้องการทำให้เธอกับลู่เซิ่นหย่ากัน วันนั้นที่ฉันไปหาเธอก็เพราะจะลองใจเธอเท่านั้น…”

“ค่ะ” ฉินซีพูดขัดจังหวะด้วยเสียงที่หนักแน่น “คุณไม่จะเป็นต้องขอโทษหรอกค่ะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ”

หซู่หนานรีบพูดตอบ “ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ ฉินซี ถ้าตอนนั้นฉันบอกกับเธอ อย่างน้อยๆเธอจะได้เตรียมตัว ไม่ต้องถูกหักหน้าแบบนั้น”

ฉินซีหัวเราะออกมาเบาๆ “เตรียมตัวแล้วมันมีประโยชน์อะไรเหรอคะ”

หซู่หนานยังอยากตอบกลับ แต่ฉินซึ่งเทียนขัดจังหวะเสียก่อน

“สองคนมัวยืนทำอะไรกันอยู่ จะเริ่มประชุมกันแล้ว!”

หซู่หนานไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่เดินกลับไปที่นั่ง

ฉินซีเองก็หันกลับไปนั่งที่ของตัวเอง

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เสียใจ

ครั้งแรกที่ได้รู้จักกับหซู่หนานนั้น เขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน

แต่เวลาผ่านไปได้ไม่นาน ทำไมเขาถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้

ใบหน้าซีดเซียว ก้มหัวลงและคดตัวอย่างคนไม่มั่นใจ เมื่อฉินซึ่งเทียนพูดอะไร เขาจะก้มหัวเพื่อเป็นการตอบสนองราวกับว่าเขากลัวการทำให้ฉินซึ่งเทียนไม่พอใจ

แต่มันคือสิ่งที่เขาเลือกเองหซู่หนานเลือกใช้ฉินหว่านเป็นทางลัดเพื่อปีนขึ้นไป อีกทั้งยังเลือกชีวิตที่ต้องคอยจับตาดูฉินซึ่งเทียน แน่นอนว่าเมื่อมีกำไรก็ต้องมีขาดทุนและนี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น

“เงียบหน่อย เตรียมเริ่มประชุม”

ฉินซึ่งเทียนนั่งลงบนที่นั่งของตนเองเขากระแอมออกมาพลางเปิดไมโครโฟน จากนั้นหันไปมองเลขาต่ง

เลขาต่งพยักหน้ารับ เขาหยิบต้นฉบับขึ้นมาและเริ่มกล่าวเปิดการะประชุม “อรุณสวัสดิ์ทุกท่าน…”

ฉินซีไม่ชอบฟังคำพูดที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ เธอมองไปรอบๆด้วยความรู้สึกเบื่อ

และแน่นอนว่าหลี่เหวยยังคงไม่ปรากฏตัว ฉินหว่านเองก็เช่นกัน

เธอเหลือบมองไปที่ประตูห้องรับรองเล็กๆที่อยู่ด้านหลังของห้องประชุม รอยยิ้มเย้ยหยันผุดขึ้นตรงมุมปาก

หลี่เหวยพยายามอย่างมากจนในที่สุดก็เข้าไปอยู่ในตระกูลฉินได้ แต่ในที่สุดก็ต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆซ่อนๆอย่างนั้นเหรอ

หลังจากที่รอยยิ้มของเธอปรากฏขึ้นได้ไม่นาน ความสนใจของเธอก็ถูกดึงกลับมาโดยคำพูดของเลขาต่ง

“เอาล่ะ จากนี้เราจะเข้าสู่วาระแรกของการประชุม นอกจากนี้ยังเป็นหัวข้อหลักของการประชุมคณะกรรมการอีกด้วย นั่นก็คือการเสนอถอดถอนตำแหน่งของท่านกรรมการผู้บริหารฉินซี”

ฉินซีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ระเบียบวาระการประชุมของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเป็นเหมือนกับบุคลิกของฉินซึ่งเทียน ที่ทั้งคร่ำครึและน่าเบื่อ เพราะอย่างนั้นจะต้องมีพูดเปิดที่ยาวนานและไร้ประโยชน์อยู่เสมอ จนเป็นเรื่องปกติที่จะใช้เวลาพูดเปิดถึง 10 นาที

แต่ตอนนี้กลับใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็รีบตัดเข้าวาระการประชุมเลย ทำให้เห็นว่าฉินซึ่งเทียนกังวลเกี่ยวกับการขับไล่ตัวเองออกจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมากแค่ไหน

เมื่อสิ้นเสียงของเลขาต่ง ฉินซึ่งเทียน ก็ลุกขึ้นและเดินไปโพเดียม

“ทุกท่าน” น้ำเสียงของเขายังคงฟังดูสง่าผ่าเผย “คงเป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาฉินซีได้รับช่วงต่อหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหาร ช่วงนี้ทางเราจึงจำเป็นต้องรบกวนทุกท่านเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการฉินซื่อกรุ๊ปหลายต่อหลายครั้ง ดังนั้นผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า วันนี้จะสามารถจบปัญหาเรื่องนี้ได้”

เขาไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆแก่ฉินซี ทันทีที่มาถึงก็โยนความรับผิดชอบทั้งหมดไปที่เธอ ทุกสายตาของกรรมการต่างจับจ้องมาที่เธอ

แต่ราวกับว่าฉินซีไม่สะทกสะท้านต่อสายตาที่ดูจะสับสนของคนอื่นๆ สีหน้าของเธอนิ่งสงบโดยการแสดงออกยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ฉินซึ่งเทียนดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการมาเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นจึงไม่ใช่คนไม่มีความสามารถ เขามีวิธีพูดที่ทำให้คนฟังคล้อยตามได้ “จากการประชุมครั้งก่อน ผมได้กล่าวไปแล้วว่าเพราะฉินซีมีความเกลียดชังส่วนตัวต่อตัวผม เธอใช้ประโยชน์จากการใช้บริษัทลู่ซื่อมากดดันบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป และหลังจากการประชุมครั้งล่าสุดก็ยังคงไม่กลับตัวกลับใจ มิหนำซ้ำกลับทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการเปิดเผยข้อมูลเรื่องที่ฉินซื่อกรุ๊ปจะประมูลโครงการตึกแฝดให้แก่บริษัทลู่ซื่อ เป็นผลให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปต้องสูญเสียโอกาสในครั้งนี้ กล่าวได้ว่าการที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตกต่ำนั้นเป็นผลมาจากความต้องแก้แค้นของฉินซี ดังนั้นผมจึงขอเสนอการถอนฉินซีออกจากตำแหน่ง เพราะคณะกรรมการของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่ต้อนรับกรรมการที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ อย่างแน่นอน และตอนนี้ก็ถึงเวลาโหวตแล้ว…”

“ดิฉันมีอะไรจะพูดสักเล็กน้อย” ทันใดนั้นฉินซีก็ค่อยๆยกมือขึ้นในระหว่างที่ฉินซึ่งเทียนกำลังพูดอยู่

ดูเหมือนว่าฉินซึ่งเทียนจะไม่แปลกใจกับการกระทำของเธอ เขามองเธออย่างเย็นชา “ฉินซี เธอยังจะเล่นลิ้นอะไรอีก”

ฉินซียิ้มมุมปาก “ประธานฉิน การที่กรรมการถูกถอดถอนไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่มีสิทธิ์พูดใช่ไหมคะ”

ฉินซึ่งเทียนขมวดคิ้วเป็นปม แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน

ตอนนี้ถือได้ว่าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่พายุโหมกระหน่ำ แม้จะมีความน่าเชื่อถือของเขาแต่เขาก็ค่อยๆได้รับคำถามต่างๆทีละนิด เขาต้องการใช้วิธีการถอดถอนตำแหน่งของคณะกรรมการเพื่อขับไล่ฉินซี เพราะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการกำจัดคนที่เห็นต่าง โดยการโยนความผิดทั้งหมดไปที่ฉินซี เพื่อรักษาตำแหน่งของเขาในบริษัท

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไร ฉินซีจึงลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปยังด้านหน้าอย่างไม่รีบร้อน เธอหันหน้าไปทางผู้ถือหุ้นด้วย พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสงบ “ทุกท่านไม่สงสัยอะไรเลยเหรอคะ หากสิ่งที่ประธานฉินพูดเป็นความจริง ที่ว่าฉันทุจริตและเผยแพร่ความลับทางธุรกิจ แล้วทำไมเขาไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตํารวจให้มาจับฉันเข้าคุกไปเลยล่ะคะ ทำไมต้องเสียเวลาจัดการประชุมเพื่อถอนตำแหน่งฉันด้วย”

“เธอ!” ฉินซึ่งเทียนอดไม่ได้ที่จะพูดแทรก “ฉินซี อย่าโง่ไปหน่อยเลย ฉันเห็นแก่ความเป็นพ่อลูกของเราเลยไม่อยากทำอะไรแบบนั้น เธอนี่มันรนหาที่จริงๆ ฉันปราณีเธอแล้วนะ!”

ฉินซีสีหน้าเรียบเฉย เธอหันหน้าไปมองฉินซึ่งเทียนด้วยสายตาเย้ยหยัน “ประธานฉินคิดว่า การครอบครองมรดกที่แม่ทิ้งไว้ให้ฉันไปจนหมด ไม่ให้เงินปันผลกับฉันแม้แต่น้อย จากนั้นยังถอนฉันออกจากตำแหน่งในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในที่สาธารณะอีก เป็นวิธีที่ปราณีแล้วเหรอคะ”

ใบหน้าของฉินซึ่งเทียนแดงก่ำ “ก็ใช่น่ะสิ!ฉันก็ไม่ได้โหดร้ายถึงขนาดส่งเธอไปกินข้าวแดงในคุก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท