Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1003

ตอนที่ 1003

บทที่ 1003 เธอยังมีบ้าน

ลู่เหวยคิดไม่ถึงว่าฉินซีจะไม่พูดออกมาตรงๆ จึงมองประเมินเธอขึ้นๆลงๆ มุมปากก็เผยรอยยิ้มเจื่อนๆออกมา “ฉินซี หนูยังไม่สามารถมองฉันเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของหนูได้เลยใช่ไหม?”

ฉินซีไม่สามารถต้านทานสายตาแบบนี้ของเขาได้เลย แต่เธอก็ไม่อยากดึงลู่เหวยลงน้ำมาด้วย เธอจึงเงียบ แล้วส่ายหน้า

เมื่อลู่เหวยเห็นว่าเธอไม่ยอมเอ่ยปากพูด ก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็พูดขึ้นมาเองว่า

“ที่หนูโอนสิทธิ์ถือหุ้นออกไป จริงๆแล้วกำลังแลกออกมาเป็นเงินสด พอแลกเสร็จแล้ว หนูต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้ราคาหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปทรุดฮวบลง จนทำให้หุ้นในมือของฉินซึ่งเทียนไม่คุ้มค่าพอที่จะใช้เงินแลก ถึงจะสามารถเอาคืนเขาได้ ฉันพูดถูกไหม?”

ฉินซีตกใจ แต่ก็ยังคงรักษาสีหน้าให้นิ่งสงบ “กำลังพูดอะไรคะ…….”

สีหน้าของลู่เหวยเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “ฉันมองแค่ปราดเดียวก็ดูออกแล้ว หนูคิดว่าจะปิดฉินซึ่งเทียนได้นานแค่ไหน? วันนั้นหนูโกหกเขาเรื่องบอร์ดบริหาร แล้วถ้าเขารู้ตัว หนูคิดว่า แผนที่วางไว้มันจะยังสำเร็จไหม?”

แววตาของฉินซีวาวโรจน์ สุดท้ายก็ล้มเลิกการต่อต้าน พูดอธิบายเสียงต่ำว่า “ฉินซึ่งเทียนจะนำหุ้นส่วนนี้ให้หลี่เหวยและฉินหว่าน เขาไม่มีทางขายทิ้งได้ตามใจแน่”

ลู่เหวยไม่ค่อยรู้เรื่องสถานการณ์ของตระกูลฉินสักเท่าไหร่ เมื่อฉินซีพูดออกมาแบบนี้ ก็เลิกคิ้วขึ้น “แบบนี้นี่เอง….งั้นที่ฉันพูดมา ก็ตรงตามแผนที่หนูวางไว้ใช่ไหม?”

ฉินซีก้มหน้า พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

บนหน้าของลู่เหวยฉายแววจนปัญญาออกมา “หนูนี่นะ…..อย่าคิดจะแบกทุกเรื่องไว้กับตัวเองเลย พูดออกมาเถอะ หนูวางแผนจะทำลายหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปยังไง”

เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉินซีก็ไม่มีอะไรให้ปิดบังอีกต่อไป จึงพูดอธิบายออกไปว่า เธอมีหลักฐานการปลอมแปลงเอกสารการเงินของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอยู่ในมือ และวางแผนว่าจะให้สื่อเล่นข่าว เพื่อโจมตีหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

แต่เมื่อเธอพูดจบ ลู่เหวยก็ใช่ว่าจะมีสีหน้าอ่อนลง

“หนูคิดจะอาศัยสื่อเหรอ?” แววตาใจดีของเขาที่มีมาตลอด บัดนี้ก็พลันเปลี่ยนเป็นแววตาจับผิด

ฉินซีหลบสายตาของเขา ลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็พูดออกไปตรงๆว่า “ตอนแรกฉันว่าจะไปที่สำนักงานกำกับหลักทรัพย์เพื่อเปิดโปงบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปด้วยซ้ำ”

“หนูจะไปเอง?” ลู่เหวยเบิกตาเล็กน้อย ดูท่าทางไม่อยากจะเชื่อ “เรื่องแบบนี้ ทำไมต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงด้วยล่ะ?”

ฉินซีส่ายหน้า “ในเมื่อมันเสี่ยง ฉันเลยไม่อยากดึงคนอื่นมาเดือดร้อนด้วย อีกอย่าง……มันเป็นเรื่องที่ฉินซึ่งเทียนติดค้างแม่ของฉันเอาไว้ มันก็สมเหตุสมผลแล้วที่ฉันเป็นคนจัดการ”

“แล้วหลักฐานล่ะ?” จู่ๆลู่เหวยก็ยื่นมือออกมา

ฉินซีงุนงง “คะ?”

“ฉันอยากดู” น้ำเสียงของลู่เหวยเรียบนิ่ง

“อ่อ……..” ฉินซีล้วงหยิบแฟลชไดรฟ์ออกมาจากกระเป๋า แต่ในตอนที่นำไปวางไว้บนฝ่ามือที่แบออกมาของลู่เหวย ทันใดนั้นฉินซีก็รู้สึกทะแม่งๆ

เมื่อสักครู่ลู่เหวยยังบอกไม่ให้เธอไปเปิดโปงด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้เขากลับอยากได้หลักฐาน อย่าบอกนะว่า……เขาจะไปแทน?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินซีก็คิดจะเก็บมือกลับทันที

แต่ก็ช้าเกินไป เพราะแฟลชไดรฟ์ตกไปอยู่ในมือของลู่เหวยเสียแล้ว

“ถ้าอยากเปิดโปงเรื่องนี้ คุณไม่ต้องเปลืองแรงหรอก” ลู่เหวยเอ่ยพูดออกมาอย่างเรียบนิ่ง

ฉินซีนิ่งค้าง

จริงๆด้วย! ลู่เหวยคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆด้วย!

“ประธานลู่คะ!” ฉินซีรีบพูดออกมา “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะคะ ถ้าเปิดโปงสำเร็จ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะส่งผลกระทบต่อบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอย่างหนัก และฉันรู้จักนิสัยของคนในตระกูลฉินดี พวกเขาต้องหาทางเอาคืนแน่ๆ เรื่องอันตรายขนาดนี้ อย่าเข้ามามีส่วนร่วมเลยค่ะ!”

แต่ลู่เหวยกลับไม่ฟังที่เธอพูดเลยสักนิด เขากำของที่ถืออยู่ในมือแน่น “เรื่องอันตรายขนาดนี้ ถ้าฉันปล่อยให้หนูไปจัดการเอง แล้วหลังจากนี้ฉันจะกล้าเผชิญหน้าแม่ของหนูได้ยังไง? ถ้าวิญญาณของเธอรู้เรื่องแล้วเธอจะมองฉันยังไง?”

เหยาหมิ่นคือจุดอ่อนของฉินซี เมื่อลู่เหวยเอาเธอมาอ้างอย่างนี้ ฉินซีก็ไม่รู้ว่าควรโต้แย้งอย่างไรดี

แต่ท่าทางที่ฉินซีแสดงออก ก็ยังมีแต่ความไม่เห็นด้วย

“ฉันรู้ ว่าหนูจะพูดว่า หนูคือเป้านิ่ง ไม่ว่าคนที่เปิดโปงจะเป็นหนูหรือเป็นคนอื่น ยังไงคนตระกูลฉินก็ไม่มีทางปล่อยหนูไปแน่ แต่ถ้าฉันเบี่ยงเบนเป้าหมายของพวกเขามาที่ตระกูลลู่ คิดว่าตระกูลฉินยังจะสนใจหนูอยู่ไหม?” ลู่เหวยมีท่าทีสงบนิ่ง แต่คำที่พูดออกมากลับชวนตกใจ

“คุณลุง……..” ฉินซีกัดฟัน “แค่ดึงคุณลุงมาเดือดร้อนด้วย ฉันก็รู้สึกผิดมากแล้ว ถ้ายังต้องดึงทั้งตระกูลลู่มาเกี่ยวข้องอีก ฉันก็ไม่รู้เลยจริงๆว่าต้องทำยังไงดี”

ลู่เหวยหัวเราะออกมาเบาๆ “เด็กโง่ ถ้าหนูเป็นอะไรไปจริงๆ ต่อให้ไม่มีฉัน ยังไงลู่เซิ่นก็ต้องดึงทั้งตระกูลลู่มาใช้โจมตีบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปให้แหลกละเอียดอยู่ดี ไม่ว่าหนูจะอยู่ในฐานะไหน ยังไงหนูก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลลู่นะ อย่าเอาแต่คิดว่าต้องจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้พัวพันกับคนอื่นสิ ไม่ว่าหนูจะมีเรื่องอะไร มันก็พัวพันกับตระกูลลู่ทั้งนั้นแหละ”

คำพูดของเขา ราวกับเสียงฟ้าผ่าสะท้านเข้ามาในหูของฉินซี

เธอเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลลู่

เธอยังมีบ้าน ใช่ไหม?

เมื่อลู่เหวยเห็นว่าฉินซีเริ่มหวั่นไหว ก็พูดใส่ไฟต่อว่า “เรื่องนี้ให้ฉันจัดการเถอะ ฉันรับประกันได้ ว่าฉันและคนในตระกูลลู่ทุกคนจะไม่เป็นอะไร ฉินซี ฉันรับปากแม่หนูไว้แล้วว่าจะดูแลหนูให้ดีๆ หนูอย่าทำให้ฉันลำบากใจเลยนะ”

ลู่เหวยจับทางถูกว่าฉินซีไม่อาจปฏิเสธทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเหยาหมิ่นได้ จึงนำเอาชื่อของเธอมาอ้างอีกครั้ง

สุดท้ายป้อมปราการในหัวใจของฉินซีก็พังทลาย

เธอล้มเลิกความคิดที่จะแย่งแฟลชไดรฟ์ในมือของเขาคืนมา แล้วพูดเสียงอู้อี้ว่า “งั้น…..คุณลุงต้องระวังตัวดีๆนะคะ”

“ไม่ต้องห่วง” ลู่เหวยพยักหน้าให้อย่างจริงจัง

ในที่สุดทั้งสองก็ตกลงกันได้ จึงเดินกลับเข้าไปข้างในบ้าน

เมื่อเห็นว่าฉินซีเริ่มเหม่อลอย ลู่เหวยจึงพูดเรื่องใหม่ได้ทันท่วงที “พูดถึงแม่หนู เรื่องนั้น หนูสืบได้ว่ายังไงบ้าง?”

เขาเปลี่ยนเรื่องพูดทื่อๆ แต่กลับพูดตรงกับเรื่องในใจของฉินซีเข้าพอดี

เมื่อฉินซีนึกถึงข้อมูลที่ทนายจ้าวส่งมาให้เธอเมื่อเช้านี้ ก็พูดเสียงเบาว่า “จริงๆแล้วก็คืบหน้านิดหน่อยค่ะ”

“หือ?” ลู่เหวยแปลกใจ “คืบหน้ายังไง?”

ทั้งสองเดินกลับมาถึงทางเข้าตึกใหญ่พอดี ฉินซีก้าวเดินเข้าไปสองสามก้าว จากนั้นก็ล้วงหยิบเอาเอกสารของทนายจ้าวออกมาจากกระเป๋า แล้วส่งให้ลู่เหวย “ตอนนี้ก็ประมาณนี้ค่ะ”

หลังจากลู่เหวยเปิดดูเสร็จ ก็ยกมือขึ้นมาลูบปลายคาง แล้วพึมพำว่า “งั้นก็แปลว่า คนนี้เข้าคุกไปแล้ว และหนูก็กำลังหาทางสืบว่าประวัติการก่ออาชญากรรมของเขามีอะไรบ้าง และคิดจะใช้วิธีนี้ ล้วงลับข้อมูลจากเขาว่างั้น?”

ฉินซีพยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันคิดไว้อย่างนี้”

ลู่เหวยหันมามองเธอ “แต่ฉันคิดว่า หนูควรลองไปหยั่งเชิงดูเขาก่อนจะดีกว่านะ ไปดูว่าเขาเป็นคนยังไง แล้วค่อยตัดสินใจว่าควรใช้สิ่งหลอกล่อมากเท่าไหร่”

ฉินซีเลิกคิ้วขึ้น “ที่คุณพูด…….มีเหตุผลจริงๆด้วยค่ะ”

ก่อนหน้านี้เธอคิดแค่ว่าต้องสืบให้รู้เรื่องแล้วค่อยไปหาเขา แต่ไม่เคยคิดเลยว่าถ้าหากอีกฝ่ายเป็นไม่ได้ร้ายแรงอะไร อาจจะไม่ต้องยุ่งยากขนาดนี้ก็ได้

ลู่เหวยโบกมือ “เดี๋ยวทางนี้ฉันจะส่งคนไปตรวจสอบเอง ถ้าได้เรื่องอะไร จะบอกหนูทันที”

“รบกวนด้วยนะคะ” ฉินซีผงกหัว

ลู่เหวยยิ้ม “ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท