Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1022

ตอนที่ 1022

บทที่ 1022 เต็มไปด้วยเรื่องกลุ้มใจ

เห็นฉินซีพยักหน้า จ้าวจิ้งก็ยิ้มอยู่ครู่หนึ่ง ตามมารยาทของประเทศ M ก็ต้องมากอดฉินซี

ฉินซีกับอานหยัน แทบไม่ได้มีท่าทีสนิทสนมเช่นนี้ ตอนนี้โดนจ้าวจิ้งกอด ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนนิดหน่อย

โชคดีที่จ้าวจิ้งกอดเธอสั้นๆ แล้วปล่อยมือ ถอยหลังไปไม่กี่ก้าว พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ฉันกลับไปศึกษาข้อมูลก่อน!”

ฉินซีเห็นท่าทางเธอมีความสุข ความกระอักกระอ่วนใจที่โดนกอดเมื่อครู่นี้ก็หายไปแล้ว

เธอยิ้มโบกมือให้กับจ้าวจิ้ง “สู้ๆ”

จ้าวจิ้งออกจากประตูไปแล้ว ฉินซีก้มศีรษะอ่านข่าวในเวยโป๋อีกครั้ง ทันใดนั้นก็รู้สึกมัวหมองนิดหน่อยอีกครั้ง

หนึ่งปีก่อน ตอนที่เหยาหมิ่นเพิ่งเกิดเรื่อง อานหยันโน้มน้าวเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เธออย่าหมกมุ่นกับความเกลียดชังมากเกินไป ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง เผชิญกับชีวิตใหม่

ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าคำพูดของอานหยันมันมหัศจรรย์ยากที่จะเข้าใจมากๆ

ฉินซึ่งเทียนทำเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ ตัวเองจะปล่อยไปได้อย่างไร?

แต่พอถึงตอนนี้ จู่ๆ เธอก็เข้าใจความตั้งใจของอานหยันนิดหน่อยแล้ว

ถ้าเธอหมกมุ่นอยู่กับความเกลียดชัง ชีวิตก็จะเต็มไปด้วยความมัวหมองแน่ๆ ถูกความเกลียดชังบังตา มองไม่เห็นความงามตรงหน้า

เมื่อก่อนเธอทำแบบนี้แน่ๆ ไม่เห็นการปกป้องจากลู่เซิ่น ไม่เห็นการดูแลจากพ่อบ้าน มักรู้สึกว่าตัวเองเหงาและโดดเดี่ยว นอกจากอานหยันก็ไม่รู้จักเพื่อนใหม่เลย

แค่เรียนรู้ที่จะเบี่ยงเบนความสนใจออกมาจากเรื่องราวน่าเกลียดเหล่านั้น เพื่อเห็นสิ่งงดงามเหล่านั้นในชีวิต ที่ล้อมรอบอยู่เคียงข้างตน

ฉินซีถอนหายใจเบาๆ

ถึงเธอจะยังไม่ได้เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความเกลียดชังออกมา บางทีก่อนถึงวันที่ฉินซึ่งเทียนและหลี่เหวยได้รับผลกรรม เธอก็ยังทำไม่ได้

แต่โชคดีที่ทุกอย่างเกือบจบลงแล้ว เธอค่อยๆ เรียนรู้ที่จะแบ่งสายตานิดหน่อยไปให้ความสดใสในชีวิต

เห็นความงดงามแล้ว แล้วมามองดูคนเลวพวกนั้นสิ รู้สึกน่าเบื่อโดยธรรมชาติ

ฉินซีออกมาจากเวยโป๋ ลุกขึ้นไปห้องรับแขก ให้เสี่ยวเฉินและเสี่ยวหลี่ที่ว่างจนแข่งไม้กระดานกันในห้องรับแขกสั่งอาหารเย็น

จ้าวจิ้งอยู่ในห้องตัวเองจนกระทั่งอาหารเย็นส่งมา ถึงออกไปนอกห้อง

เธอนวดขมับ เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างเหนื่อยล้า แต่จิตวิญญาณมีพลังมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นอาหารหอมกรุ่นวางบนโต๊ะอาหาร ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย

ฉินซีเห็นก็รู้สึกขำ รีบทักให้เธอนั่งลงมาทาน

ตอนนี้จ้าวจิ้งเห็นฉินซีเป็นเพื่อนตัวเองแล้วจริงๆ มักมีอะไรมากมายแบ่งปันเธอเสมอ ประสบการณ์ในอดีตตอนที่เธอเรียนที่ประเทศ M สิ่งที่เธอเห็นและได้ยินมาในบริษัทลู่ซื่อและอื่นๆ และฉินซีก็พูดคล้อยตามเธออย่างกระตือรือร้น พูดหนึ่งถึงสองประโยคเป็นบางครั้ง

เทียบกับตอนแรกที่ทั้งคู่มองกันอย่างเงียบๆ ไม่พูดไม่จา ตอนนี้แตกต่างเหมือนเป็นคนละคนกัน

แม้แต่เสี่ยวหลี่และเสี่ยวเฉินก็ค่อนข้างประหลาดใจ แอบมองกันอย่างลับๆ ไม่เข้าใจว่าแค่ผ่านไปตอนบ่าย ความรู้สึกของฉินซีและจ้าวจิ้งทำไมพุ่งทะยานขึ้นมากขนาดนี้

ฉินซีก็เห็น รู้สึกว่าตลก และสุขใจที่ไม่ได้อธิบาย

เธอรู้ จ้าวจิ้งคือลูกสาวคนเดียวของทนายจ้าวและคุณนาย ทนายจ้าวและคุณนายรักกันมาก ลูกสาวคนนี้คืออัญมณีในฝ่ามือ จ้าวจิ้งเดินทางอย่างราบรื่น เผชิญหน้ากับเพื่อนที่ตัวเองยอมรับ จึงนำมาซึ่งความเป็นเด็กน้อยโดยธรรมชาติ

แต่ฉินซีหวงแหนความบริสุทธิ์เหมือนเด็กน้อยแบบนี้มาก

นั่นคือสิ่งที่เธอมีอยู่ ก่อนที่เหยาหมิ่นจะจากไป

ดังนั้นเธอจึงรู้ การรักษาความบริสุทธิ์แบบนี้ต้องพยายามปกป้องอย่างมาก แต่การทำลายมันนั้นสามารถทำได้ในพริบตาเดียว

หลังจากอาหารเย็นจบลง ฉินซีก็กลับไปห้องตัวเองอีกครั้ง

ตอนทานอาหารไม่ได้นำโทรศัพท์มาด้วย ตอนนี้เธอพบว่า ลู่เซิ่นส่งข้อความมาสองสามข้อความ

ขณะที่ฉินซีสงสัยว่าทำไมวันนี้เขาไม่วิดีโอคอลมา ก็เปิดวีแชตไปด้วย

——เมื่อวานฉันดื่มเยอะไปหน่อย

——ตอนเช้ามีประชุม เลยไม่วิดีโอคอลกับคุณ

——พ่อบ้านเอายาแก้แฮงค์มาให้ แต่ยานี้มันต้องกินก่อนดื่ม หลินหยังลืมเตือนฉัน ฉันจะหักเงินเดือนเขา

ฉินซีอ่านทีละข้อความ โค้งที่มุมปากกว้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เห็นได้ชัดมาก ถึงเมื่อวานลู่เซิ่นจะดื่มไปเยอะ แต่เขาจำสิ่งที่ตัวเองพูดได้อย่างชัดเจน ตอนเช้าตื่นมารู้สึกอายนิดหน่อย เลยไม่ได้วิดีโอคอล เปลี่ยนเป็นการส่งข้อความแทน

โดยเฉพาะการอธิบายข้อความที่สอง มันคือการพยายามปกปิด

แต่ฉินซีสุขใจเกินไปที่จะทำลายเขา และตอบกลับด้วยข้อความเช่นกัน “อืม หักเงินเขาเลย”

ลู่เซิ่นไม่ได้ตอบกลับทันที คงกำลังประชุมอยู่จริงๆ ฉินซีวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ แต่จู่ๆ นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

ครั้งนั้นอานหยันต้องการฉลองที่เธอกลับมาโสดอีกครั้ง ลากเธอไปดื่มเหล้าเยอะมาก จากนั้นลู่เซิ่นก็มาด้วยตัวเอง รับเธอที่เมาเหล้ากลับไปที่รีสอร์ทชิงหยวน

จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ ตอนวันนั้นที่ลู่เซิ่นมารับตน เขาพูดอะไรบ้าง สามารถทำให้อานหยันที่เมื่อก่อนพูดสาบานตนว่าลู่เซิ่นมีความรู้สึกกับเธอ ต่อมากลายเป็นลังเลที่จะพูด ไม่อยากอธิบาย

ฉินซีคิดสองสามวินาที แล้วส่งข้อความหนึ่งไป

“คุณจำได้ไหม คราวที่แล้วที่ฉันเมาเหล้า คุณพูดอะไรกับฉัน?”

เธอไม่ได้อ้อมค้อม ถามไปตรงๆ

นี่คือแรงบันดาลใจที่ได้รับมาจากจ้าวจิ้ง

การสื่อสารระหว่างทั้งคู่ ไม่ได้ทำกันง่ายๆ ถ้ายังจะซ่อนมัน ก็จะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจความหมายตัวเองยากขึ้น

อธิบายตรงๆ ดีกว่า หลีกเลี่ยงการพูดอ้อมค้อม

เธอมักรู้สึกว่าระหว่างตัวเองกับลู่เซิ่น เพราะทั้งคู่อ้อมค้อมกันมากเกินไป จึงกลายเป็นความสัมพันธ์ที่คลุมเครือและไม่สามารถกำหนดมันได้แบบในตอนนี้

คราวนี้ลู่เซิ่นตอบข้อความเร็วมาก

“ฉันจำได้ แต่พูดอะไรไปบ้าง คราวหน้าฉันจะบอกคุณ”

ฉินซีเปิดมาเห็นคำตอบเขา สีหน้าค่อยๆ จมลง

พูดว่าอะไรกันแน่ ทำไมต้องลึกลับขนาดนี้ด้วย?

ฉินซีกลั้นหายใจ และไม่ถามอีก ตอบ “อืม” กลับเรียบๆ จากนั้นก็ออกจากหน้าแชต

เธอพยายามที่จะตรงไปตรงมา แต่ลู่เซิ่นไม่คิดจะทำเหมือนกัน

สุดท้ายแล้ว……ตัวเองกระตือรือร้นแต่อีกฝ่ายไม่แยแส?

ฉินซีเริ่มลังเลอีกครั้ง

……

เคยชินกับเตียงเดิม บวกกับเต็มไปด้วยเรื่องกลุ้มใจ คืนที่สองในโรงแรม ฉินซีก็นอนหลับไม่สนิท

ดังนั้นเธอตื่นขึ้นมาพบกับจ้าวจิ้ง อีกฝ่ายกระต่ายตื่นตูมนิดหน่อย “ฉินซี! ทำไมเธอขอบตาดำ? นอนหลับไม่สนิทเหรอ?”

ฉินซีไม่ค่อยอยากบ่นเรื่องครอบครัวตัวเอง แค่พยักหน้าอย่างคลุมเครือ “ใช่ ฉันชินเตียงเดิมน่ะ”

จ้าวจิ้งดูแล้วค่อนข้างประหลาดใจ แต่เธอต้องรีบออกไป เลยไม่ได้ซักถามต่อ แค่โบกมือพูดขึ้น “งั้นเธอนอนเพิ่มตอนกลางวันสักหน่อยแล้วกัน! สีหน้าเธอไม่ค่อยดีเลย ฉันคิดว่าเธอป่วยแล้ว!”

ฉินซียิ้มโบกมือ “รู้แล้ว เธอไม่ต้องเป็นห่วง รีบไปเถอะ เดี๋ยวสาย”

จ้าวจิ้งโบกมืออีกครั้ง แล้วพาเสี่ยวเฉินออกไป

วันนี้คนที่อยู่บ้าน กลายเป็นเสี่ยวหลี่

เสี่ยวหลี่ดูสงบกว่าเสี่ยวเฉินนิดหน่อย แต่เขาซื้อมาแล้ว และเป็นอาหารเช้าแบบจีนของโรงแรม

ฉินซีกินได้ไม่กี่คำ ก็วางตะเกียบลง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท