Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1025

ตอนที่ 1025

บทที่ 1025 คำโกหกที่น่าขยะแขยง

เห้อเสียงเห็นฉินซีเดินเข้ามา แววตาก็เป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด

จ้าวจิ้งรู้ว่านี่คือผลที่ตามมาของการที่ฉินซีหน้าตาสวย เลยยืนขึ้นอย่างไม่เกรงใจ บดบังสายตาที่ชัดเจนของเห้อเสียง

“เธอคือลูกค้าเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของเห้อเสียงทำให้คนฟังรู้สึกอึดอัด

ฉินซีแค่ทำเป็นไม่รู้สึก พยักหน้า ตอบกลับเสียงทุ้ม “ฉันเอง”

“ทำไม……เธออยากสืบว่าฉินซึ่งเทียนทำอะไรในโรงแรมเมื่อตอนนั้น?” เห้อเสียงชะโงกศีรษะ “เธอกับฉินซึ่งเทียน……หรือว่า……”

เขาพูดแค่ครึ่งเดียว ในช่องว่างนั้นมักใช้สายตาที่น่าอึดอัดกวาดมองฉินซี

พอจ้าวจิ้งได้ยินก็รู้ว่าเห้อเสียงนึกว่าฉินซีเป็นหนึ่งในคนรักของฉินซึ่งเทียน

ช่างเป็นเรื่องน่าตลกและเป็นการดูถูกมากจริงๆ

หน้าจ้าวจิ้งแดงก่ำ อยากจะเอ่ยปากด่ากลับไป แต่ถูกฉินซีลูบหลังมือ ปลอบประโลม

“ฉันเป็นลูกสาวเขา” ฉินซีพูดอย่างสงบนิ่ง

เคยเห็นสารเลวอย่างฉินซึ่งเทียนมาก่อน พอมาเห็นคนอย่างเห้อเสียง จึงสามารถเมินได้โดยธรรมชาติ และจะไม่โดนยั่วโมโห

“ลูกสาว?” เห้อเสียงประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด เลิกคิ้วขึ้นและมองสำรวจฉินซีดีๆ “ในเมื่อเธอเป็นลูกสาวเขา แล้วสืบเรื่องนี้ไปทำไม?”

ฉินซีหัวเราะเบาๆ “แล้วคุณจะรู้ไปทำไม? มา เราอย่าพูดอ้อมค้อมกันเลย ตอนแรกฉินซึ่งเทียนทำอะไรที่โรงแรม เล่าให้ฉันฟังตั้งแต่ต้นจนจบก็พอ”

แต่เห้อเสียงกลับกอดอกอย่างเกียจคร้าน เอนพิงพนักเก้าอี้ “ถ้าตอนนี้ฉันเล่าให้เธอฟัง จะรับประกันได้ไงว่าเธอสามารถลดโทษให้ฉันออกไปได้?”

ฉินซีจ้องมองเขา สายตาเหมือนมองขยะกองหนึ่ง “เห้อเสียง ฉันจะพูดอีกรอบนะ คุณไม่มีตัวเลือก ถ้าตอนนี้คุณไม่เล่าให้ชัดเจน ข้อตกลงเราก็จะล้มเหลว คุณก็สนุกกับชีวิตในคุกต่อไป เป็นไง?”

เห้อเสียงเห็นสีหน้าท่าทางเธอไม่ได้ล้อเล่น แค่ลุกขึ้นมาอย่างเสียใจนิดๆ “โอเคๆ ฉันจะพูด แค่พูดไม่เป็นไรใช่ไหม?”

……

ฉินซึ่งเทียนและเห้อเสียงถือว่าเป็นคนรู้จักเก่ากัน ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนมหาวิทยาลัย จากนั้นก็ทำธุรกิจด้วยกัน

เห้อเสียงเปิดโรงแรม ฉินซึ่งเทียนมักเลือกโรงแรมเขาเพื่อจัดประชุมหรืองานเลี้ยงอาหารเย็น ก็ค่อยๆ สนิทกันขึ้นทีละเล็กทีละน้อย

เห้อเสียงถือว่าเป็นคนที่เริ่มต้นจากศูนย์ ภูมิหลังครอบครัวเขาธรรมดา หลายปีที่ผ่านมานี้เกิดจากการดิ้นรนของตัวเอง

ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องคบค้าสมาคมกับคนที่มีภูมิหลังครอบครัวแบบฉินซึ่งเทียน พาเขาเข้าสู่วงสังคมที่เรียกว่า “เพื่อนที่เหมือนครอบครัว”

ฉินซึ่งเทียนกระตือรือร้นมาก ถ้ามีงานเลี้ยง มักจะถามเขาเสมอว่าอยากไปร่วมงานด้วยกันไหม เป็นแบบนี้หลายครั้ง เห้อเสียงจึงคิดว่าพวกเขาสองคนกลายเป็นพี่น้องที่สนิทกัน

แต่ผ่านไปได้ไม่นาน เขาพบว่าฉินซึ่งเทียนขมวดคิ้วบ่อยๆ ถามว่าเขาเป็นอะไร ก็แค่ถอนหายใจ และพูดไม่ชัดเจน

เห้อเสียงเป็นห่วง อย่างไรแล้วฉินซึ่งเทียนก็เป็นก้าวเดียวของเขา เขายังยืนไม่มั่นคงในแวดวงสังคมเลย ดังนั้นฉินซึ่งเทียนจะเป็นอะไรไม่ได้

คิดแบบนี้แล้ว เขาจึงหาโอกาสมอมเหล้าฉินซึ่งเทียน

ตอนนี้คิดแล้ว สิ่งที่เรียกว่า “เมา” อาจจะเป็นละครที่ฉินซึ่งเทียนแสดงขึ้นมาเท่านั้น

แต่เห้อเสียงในตอนนั้น กลับเชื่ออย่างสนิทใจ

เขาฟังความขมขื่นของฉินซึ่งเทียนที่ค่อยๆ ไหลออกมา การแสดงออกค่อยๆ กลายเป็นค่อนข้างซับซ้อน

……

“คุณว่าไงนะ?” จ้าวจิ้งรู้สึกทนไม่ไหว เอ่ยถามออกไป

“เขาบอกว่า การแต่งงานของเขากับเหยาหมิ่นเป็นการบีบบังคับ จริงๆ แล้วในใจเขารักคนอื่น ถึงขั้น……มีลูกสาวอีกคน แต่เหยาหมิ่นพัวพันเขาแน่นเกินไป เขาไม่รู้ว่าควรกำจัดเหยาหมิ่นยังไง” เห้อเสียงตอบ

สีหน้าฉินซีดูแล้วไม่มีอะไรแปลก แต่มือเธอที่วางใต้โต๊ะ ได้กำหมัดแน่นอยู่เงียบๆ

จริงๆ ด้วย ฉินซึ่งเทียนพูดโกหกที่น่าขยะแขยงออกมาได้จริงๆ

……

ตอนนั้นเห้อเสียงคิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนสนิทของฉินซึ่งเทียน ในฐานะผู้ชาย สำหรับความสับสนนี้เขาถือได้ว่าเข้าอกเข้าใจ แต่ก็ไม่มีทางอื่น ทำได้แค่พูดปลอบ “ต้องมีวิธีแน่นอน”

เขาคิดว่าฉินซึ่งเทียนพูดจบก็จบแล้ว ไม่คิดว่าหลังจากนั้นไม่กี่วัน ฉินซึ่งเทียนจะมาหาเขาที่ห้องทำงานเขาด้วยตัวเอง

“ครั้งที่แล้วที่ฉันเมาเหล้า เรื่องที่คุยกับนาย……นายยังจำได้ไหม?” ฉินซึ่งเทียนถาม

เห้อเสียงไม่รู้ว่าเขามีเจตนาอะไร แค่พยักหน้าพูดขึ้น “จำได้ ทำไมเหรอ?”

ฉินซึ่งเทียนเงียบไปสักพักหนึ่ง แล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “ฉันคิดวิธีให้เหยาหมิ่นเลิกกับฉันได้แล้ว”

เห้อเสียงค่อนข้างสงสัย “จริงเหรอ? วิธีอะไร?”

ฉินซึ่งเทียนไม่ได้ตอบทันที แต่จู่ๆ ก็หันศีรษะมามองเห้อเสียง “เห้อเสียง เราเป็นพี่น้องที่สนิทกัน นายจะช่วยฉันเก็บเป็นความลับ ใช่ไหม?”

เห้อเสียงรู้สึกมีบางอย่างแปลกๆ ด้วยสัญชาตญาณ แต่ฉินซึ่งเทียนพูดแบบนี้แล้ว เขาก็ทำได้เพียงพยักหน้ายอมรับ “แน่นอนอยู่แล้ว”

แล้วฉินซึ่งเทียนจึงเล่าเรื่องที่เขาได้ยินมา ทั้งหมดคือแผนร้ายบางอย่าง

“ฉันจะหาข้ออ้างให้เธอมาที่นี่ คิดวิธีทำให้เธอเดินเข้าไปในห้อง แผนกต้อนรับของโรงแรมเก็บบันทึกการเข้าห้องของเธอได้ก็พอ”

เห้อเสียงเข้าใจว่าฉินซึ่งเทียนมีเจตนาอะไรโดยทันที “นายอยากปลอมแปลงบันทึกการเปิดห้องเหรอ?”

จะเอาบันทึกการเปิดห้องไปทำอะไร?

แน่นอนว่ามันเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดของการมีชู้ของเหยาหมิ่น

มีหลักฐานว่าเหยาหมิ่นมีชู้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าเธอจะไม่เลิก

ฉินซึ่งเทียนส่ายศีรษะ “ไม่ได้ปลอมแปลง เธอเข้าห้องไปจริงๆ โอเคไหม?”

เห้อเสียงพูดไม่ออก ทำได้เพียงพยักหน้า

เขารู้สึกว่าแผนนี้แปลกไปหน่อย แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งการบีบบังคับของฉินซึ่งเทียนได้ สุดท้ายก็พยักหน้าตอบตกลง ช่วยฉินซึ่งเทียนดำเนินการแผนนี้

แต่ไม่กี่วัน ฉินซึ่งเทียนก็มาหาอีกครั้ง

“แผนการไม่ราบรื่น” ฉินซึ่งเทียนถอนหายใจ “เหยาหมิ่นรู้ตัวเกินไป เธอไม่ยอมเดินเข้าห้อง”

เห้อเสียงรู้ดี ถ้าเหยาหมิ่นไม่เข้าไปในห้อง ก็ไม่จำเป็นต้องไปเช็คอินที่แผนกต้อนรับ กล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินไม่สามารถถ่ายภาพเธอได้ ไม่มีสิ่งที่ฉินซึ่งเทียนต้องการโดยธรรมชาติ หลักฐานที่เหยาหมิ่น “มีชู้”

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ไม่งั้น นายเปลี่ยนวิธีไหม?”

ตอนแรกเขาพูดไปตามมารยาท ไม่คิดว่าฉินซึ่งเทียนจะพยักหน้าจริงๆ

“ใช่ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ดังนั้นฉันจะคิดวิธีอื่น”

……

พูดถึงตรงนี้ สีหน้าฉินซีก็ไม่สามารถสงบได้อีกต่อไป

เธอไม่ได้สังเกตตัวเองด้วยซ้ำ ว่าตัวเองกัดฟันแน่นมาก

ได้ยินคนอื่นพูดเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง เธอถึงได้พบว่า เผชิญกับเรื่องของเหยาหมิ่น เธอมักจะไม่สามารถสงบนิ่งได้อย่างที่คิดไว้

เห้อเสียงก็พบว่าเธอแปลกๆ หยุดบรรยายชั่วคราว หันศีรษะไปมองเธอ “นี่เธอเป็นอะไร? ไม่สบายเหรอ?”

ฉินซีส่ายศีรษะ พูดเค้นไม่กี่คำออกมา “ฉันไม่เป็นไร คุณพูดต่อเลย”

“ไม่เป็นไรจริงๆ นะ? ฉันเห็นสีหน้าเธอแปลกๆ อ่ะ……” เห้อเสียงยังอยากถามอีก แต่ได้รับแววตาโหดเหี้ยมจากจ้าวจิ้ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท