Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1028

ตอนที่ 1028

บทที่ 1028 ไม่ว่าจะแก้ต่างอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น

ถอดเสื้อผ้า……ถ่ายรูป……

คำไม่กี่คำนี้เชื่อมกันในหัวสมองของเห้อเสียง ชี้ให้เห็นความเป็นไปได้ที่น่ากลัวมากอยู่รางๆ

เห้อเสียงก้มศีรษะลง

แต่ผ่านไปสักพักหนึ่ง ฉินซึ่งเทียนก็ถอดเสื้อของตัวเองออกจนหมดจด และเหยาหมิ่นก็ล่อนจ้อนแล้ว

เห้อเสียงไม่กล้าเงยศีรษะขึ้นมอง ทำได้แค่ถามขึ้น “นายอยากถ่ายรูปอะไรกันแน่……”

สีหน้าฉินซึ่งเทียนสงบกว่าเขามาก “นายเปิดโหมดกล้องถ่ายรูป เดินเข้ามาจากทางประตู ถ่ายมาตลอดทางก็พอ เดินให้เร็วหน่อย มือสั่นนิดๆ ก็ได้ ถ่ายเธอเข้าไปให้หมด ไม่ต้องถ่ายเห็นหน้าฉัน”

พอฉินซึ่งเทียนพูดจบ เห้อเสียงก็เข้าใจทั้งหมดว่าเขาต้องทำอะไร

……เขาต้องใช้วิธีนี้ ทำให้เหยาหมิ่นชื่อเสียงป่นปี้โดยสมบูรณ์ โดนกล่าวหาว่ามีชู้ จะได้ทำให้ฉินซึ่งเทียนหย่ากับเธอได้อย่างราบรื่น

“นายทำแบบนี้……” เห้อเสียงเอ่ยปากขึ้นมาอย่างยากที่จะเข้าใจ “เธอเป็นภรรยานายนะ……”

ฉินซึ่งเทียนหัวเราะ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจ “ภรรยา……ภรรยาก็เหมือนเสื้อผ้า เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนหรือทิ้ง มีคนเสียดายเสื้อผ้าหนึ่งตัวด้วยเหรอ?”

เห้อเสียงพูดไม่ออก แค่ถือโทรศัพท์แล้วก้มศีรษะลง

ฉินซึ่งเทียนค่อนข้างรำคาญนิดหน่อย “ตอนปลอบฉัน บอกว่าจะมีวิธี ตอนนี้ทำได้แล้วคิดจะถอยเหรอ? เห้อเสียง ตอนนี้เราทำความผิดด้วยกัน นายคิดว่านายไม่ถ่าย มันจะไม่เป็นอะไรงั้นเหรอ?”

เห้อเสียงตัวสั่น สุดท้ายก็ค่อยๆ เงยศีรษะขึ้นมองฉินซึ่งเทียน

เขาพูดถูก

ตัวเองตั้งแต่เริ่มวางยานอนหลับ ก็กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดโดยสมบูรณ์แล้ว

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เมื่อครู่นี้ฉินซึ่งเทียนตั้งใจให้เขาเดินนำหน้าตลอด ถ้ามีคนดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็ต้องคิดแน่ๆ ว่าเขาเป็นคนชี้แนะฉินซึ่งเทียนมา

เหมือนเขาเป็นผู้บงการเรื่องทั้งหมดนี้

ตอนนี้ใจอ่อน มันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว

ฉินซึ่งเทียนเห็นท่าทางเขาหวั่นไหว พูดขึ้นอีกครั้ง “นายก็แค่ถ่าย ถ่ายเสร็จแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นนาย ฉันจะจัดการสิ่งเหล่านี้ให้ดี ไม่ให้นายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ถ้านายคิดจะหนีตอนนี้……”

เขาไม่ได้พูดจบ แต่เห้อเสียงก็รู้อย่างชัดเจนว่าเขาหมายถึงอะไร

ถ้าตอนนี้ตัวเองออกไป หลักฐานในมือฉินซึ่งเทียน มันก็มากพอที่จะทำลายเขา

ตอนนี้เขาโดนบังคับให้ผูกติดกับฉินซึ่งเทียน ต้องการการช่วยเหลือจากฉินซึ่งเทียน

คิดถึงตรงนี้ เห้อเสียงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ สุดท้ายก็เงยศีรษะขึ้นมาอย่างเต็มที่ “อย่าลืมสิ่งที่นายพูดล่ะ ฉินซึ่งเทียน”

ฉินซึ่งเทียนยิ้ม “แน่นอน”

……

พูดถึงตรงนี้ เรื่องราวมันก็ชัดเจนอย่างมากแล้ว

อย่าว่าแต่ฉินซี แม้แต่จ้าวจิ้งก็รู้สึกว่ามันลวงโลก

ฉินซีมองเห้อเสียง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรบ้างไปชั่วขณะหนึ่ง

เธอตามหามานานมาก อยากตามหาร่องรอยการมีอยู่ของ “ชู้” นั้น สิ่งนี้ถือเป็นความคืบหน้า แต่หนึ่งปีเต็ม กลับไม่ประสบความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า

เธอมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเอง แต่ไม่คิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง

ไม่มีชู้อะไรนั่นเลย

ภาพเหล่านั้นที่เผยแพร่ออกมา ชายที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงกับเหยาหมิ่น ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นฉินซึ่งเทียนจริงๆ

กลเม็ดคนเลวแบบนี้ ไม่มีใครเก่งเท่าฉินซึ่งเทียนแล้ว

เขาเปิดโปงข่าวที่เหยาหมิ่นมีชู้ด้วยตัวเอง โดยธรรมชาติคงไม่มีใครสงสัยว่าข่าวนี้จริงหรือเท็จ เมื่อทุกคนบนโลกไปตามหา “ชู้” คนนี้แต่กลับหาไม่เจอ ก็ไม่มีใครไปสงสัยว่าคนข้างบนคือฉินซึ่งเทียนเอง

นอกจากนี้รูปภาพเหล่านั้นยังเน้นไปที่ใบหน้าของเหยาหมิ่น คนข้างๆ เผยแค่หน้าอกนิดเดียวเท่านั้น ไม่ว่าคนที่คุ้นเคยกับเขาแค่ไหน ก็ไม่สามารถจำเขาได้ด้วยวิธีนี้

ไม่มีอยู่จริงบนโลก แต่อยู่ในใจคนอื่นตลอดไป “ชู้รัก” ของเหยาหมิ่นก็คือเขาเอง

นี่มันละครไร้สาระชั้นสูง

ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเหยาหมิ่น ฉินซีแทบจะต้องยกย่องว่าฉินซึ่งเทียนผู้มีหัวใจบิดเบี้ยวนี้คืออัจฉริยะจริงๆ

ฉินซีไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองทำหน้าแบบไหน แต่ดูจากความกังวลบนใบหน้าจ้าวจิ้งแล้ว มันอาจจะบิดเบี้ยวน่าเกลียดที่เธอไม่สามารถควบคุมได้

จ้าวจิ้งเห็นสีหน้าเธอผิดปกติจริงๆ หันข้างไปถามเสียงทุ้มต่ำ “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ฉินซีผลุบตาลง ส่ายศีรษะ “ฉันไม่เป็นไร เธอถามต่อเถอะ”

จ้าวจิ้งช่วยไม่ได้ เวลาเยี่ยมมีจำกัด ถึงจะเป็นห่วงฉินซีแค่ไหน ก็ทำได้แค่ค่อยออกไปถาม ดังนั้นจึงทำได้แค่ลูบไหล่เธออย่างปลอบโยน แล้วหันศีรษะไปจ้องมองเห้อเสียง “คุณก็เลยทำตามคำแนะนำของฉินซึ่งเทียน ถ่ายวิดีโอใช่ไหม?”

เห้อเสียงพยักหน้า “ใช่ มันให้ฉันวิ่งเข้ามาจากประตูทางเข้า เข้าไปถ่ายใบหน้าเหยาหมิ่นใกล้ๆ ตอนแรกฉันถ่ายไม่ถนัด มันก็ให้ฉันถ่ายหลายรอบ จนสุดท้ายพอใจแล้วถึงหยุดทำ”

“จากนั้นล่ะ? ” จ้าวจิ้งขมวดคิ้วถามขึ้น

เห้อเสียงยักไหล่ “จากนั้นมันก็ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้า ใส่เสื้อผ้าให้เหยาหมิ่น แล้วออกไปจากห้องนั้นพร้อมกับฉัน”

“หลังจากที่พวกคุณไปแล้ว ก็เหลือแค่เหยาหมิ่นคนเดียว ใช่ไหม? ” จ้าวจิ้งพูดซ้ำ

เห้อเสียงพยักหน้า “แน่นอน ตอนนั้นเรามีทั้งหมดสามคน ออกไปแล้วสองคน ก็ต้องเหลือเธอคนเดียว”

ฉินซีเงียบ

นี่มันเหมือนสิ่งที่เหยาหมิ่นเหล่าให้เธอฟังตอนนั้นเลย

หลับไปในล็อบบี้ที่โรงแรมอย่างลึกลับ ตื่นมาอยู่คนเดียวในห้อง

เธอไม่มีโอกาสได้รู้ ภายในไม่กี่ชั่วโมงที่เธอหลับไป ฉินซึ่งเทียนได้ทำเรื่องเลวร้ายมากมาย

“หลังจากที่พวกคุณออกไปแล้ว ก็แยกทางทันทีเหรอ? ” จ้าวจิ้งยังคงถามขึ้น

เห้อเสียงส่ายศีรษะ “พวกเราไปที่ห้องทำงานของฉัน”

……

ช่วยถ่ายวิดีโอเสร็จ เห้อเสียงรู้สึกไร้ทางเลือกต้องยอมรับชะตากรรม เผชิญหน้ากับฉินซึ่งเทียนก็ไม่รู้สึกประหม่าอีกแล้ว

ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้อง เขาก็ถามขึ้นก่อน “นายจะไปไหน?”

ไม่คิดว่าฉินซึ่งเทียนจะยิ้ม “ไปนั่งที่ห้องทำงานนายสักหน่อย”

สีหน้าท่าทางของเห้อเสียงระแวดระวังขึ้นมาอีกครั้ง “นายจะทำอะไรอีก?”

ฉินซึ่งเทียนยิ้ม โบกมือให้เหล่าบอดี้การ์ดออกไป “แค่เพื่อนคุยกัน ไม่ต้องประหม่า”

แค่ความเชื่อใจของเห้อเสียงที่มีต่อเขามันหายไปหมดแล้ว แต่เห้อเสียงรู้ว่าถ้าตัวเองปฏิเสธฉินซึ่งเทียน เขาก็จะหาข้ออ้างอื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายตัวเอง เลยไม่อยากเสียเวลาอีก พาเขากลับไปที่ห้องทำงาน

ทั้งคู่นั่งลง เห้อเสียงก็ไม่เกรงใจแล้ว ไม่ให้แม้แต่ชาสักแก้ว ถามขึ้นโครมๆ “ฉินซึ่งเทียน นายวางแผนให้ฉันมาด้วยตั้งแต่แรกใช่ไหม?”

สีหน้าท่าทางฉินซึ่งเทียนกลับสงบนิ่งมาก เขาเงยศีรษะขึ้นมองเห้อเสียง “ใช่ เดิมทีฉันรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนกัน เรื่องเล็กๆ แค่นี้ นายคงไม่น่าจะปฏิเสธฉัน”

เห้อเสียงกัดฟันกรอด “เรื่องเล็กๆ เหรอ? ถ้าเรื่องนี้มันถูกเปิดเผย ไม่ว่าฉันจะแก้ต่างยังไงก็ฟังไม่ขึ้น!”

ฉินซึ่งเทียนหัวเราะเบาๆ “เห้อเสียง ทำไมนายยังไม่เข้าใจอีกล่ะ? ตอนที่นายตกลงจะช่วยฉันวางยา นายก็กำจัดอาชญากรรมของตัวเองไม่ได้แล้ว นอกจากฉัน จะมีใครสามารถพูดได้อย่างชัดเจนว่านายทำอะไรในห้องของโรงแรม? นายใส่อะไรลงไปในน้ำของเหยาหมิ่น?

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท