Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1030

ตอนที่ 1030

บทที่ 1030 หลักฐาน

เห้อเสียงยิ้ม “ฉันเป็นนักธุรกิจมาหลายปีแล้ว ต้องมีการตื่นตัวอยู่บ้าง ตอนที่เห็นว่าเหยาหมิ่นกระโดดตึกตายเขาเป็นหนี้ก้อนโต ฉันเกิดความรู้สึกแย่อยู่รางๆ มักรู้สึกว่านี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ฉินซึ่งเทียนทำเรื่องนี้”

ฉินซีเลิกคิ้ว ครั้งนี้เห้อเสียงเดาไม่ผิด

“และมาคิดอีกครั้ง ฉันก็นึกถึงข่าวที่ว่าฉินซึ่งเทียนหยุดพักเงินทุนในตอนนั้น ถ้าแค่อยากต้องการจะหย่ากับเหยาหมิ่นเพียงอย่างเดียว ให้คนรักตัวเองเข้ามา ทำไมต้องกังวลขนาดนี้ด้วยล่ะ?” เห้อเสียงพูดต่อ “ฉันเลยยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกมีปัญหา และนึกถึงโครงการนี้ที่เขามอบให้ฉัน มันก็มีปัญหาด้วยหรือเปล่า”

ครั้งนี้ฉินซีแปลกใจจริงๆ

สัญชาตญาณนี้ของเห้อเสียง……เรียกได้ว่าเฉียบแหลมจริงๆ

“คุณก็เลยระงับโครงการเหรอ?” จ้าวจิ้งถาม

เห้อเสียงส่ายศีรษะ “ได้ที่ไหนล่ะ เพราะว่ามีความสงสัย ถ้าสืบอย่างครึกโครมก็จะถูกจับได้ ฉันเลยทำได้แค่ให้คนของฉันแอบสืบลับๆ”

“แต่ฉินซึ่งเทียนก็จับได้อยู่ดี” จ้าวจิ้งพูด

เห้อเสียงหัวเราะอย่างขมขื่น “คนรอบตัวฉัน……ก็ไม่ใช่คนของฉันทั้งหมดไง”

ฉินซึ่งเทียนไม่แปลกใจเลย

การแนะนำคนให้อยู่ข้างๆ เป็นเคล็ดลับปกติที่ฉินซึ่งเทียนใช้จริงๆ

“ดังนั้นตอนที่ฉันคิดว่าตัวเองสืบลับๆ อยู่ ฉินซึ่งเทียนก็รู้ว่าฉันสงสัย ถ้าโครงการนี้สำเร็จลุล่วง ตามจำนวนโครงการเดิม ฉันก็สามารถอยู่ในสำนักงานได้ตลอดชีวิต แต่ฉันสงสัยเร็วเกินไป จำนวนเงินยังไม่พอ แม้แต่เงินก็มาจากฉินซึ่งเทียน ถ้าฉันแฉเรื่องนี้ออกมาจริงๆ เกรงว่าคนที่เกิดปัญหาก็คือเขา เขาก็เลยลงมือรายงานความผิดฉันก่อน”

เห้อเสียงพูดถึงตรงนี้ ก็เกิดความโมโหขึ้นมานิดหน่อย

“วันนั้นฉันกำลังหาวัสดุอยู่ ก็พบสิ่งผิดปกติพอดี จู่ๆ ตำรวจก็พุ่งเข้ามาจับฉันโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ ฉันเข้าไปอยู่ตั้งนาน หลังจากที่เจอทนายความของฉันถึงได้พบว่า ฉันถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน”

“ฉินซึ่งเทียนเป็นคนแจ้งใช่ไหม?” ฉินซีถาม

เห้อเสียงกัดฟัน “จะมีใครได้อีกล่ะ?”

แต่ฉินซึ่งเทียนไม่ได้ทำแค่แจ้งความง่ายๆ แบบนั้น

“ทนายความฉันบอกว่าเขาไม่เก่งการดำเนินคดีด้านนี้ แนะนำทนายความอีกคนให้ฉัน ฉันทำงานกับทนายความคนนี้มาหลายปีแล้ว เลยไม่ได้สงสัย ยอมรับทนายความคนใหม่ ไม่คิดเลยว่าทนายความคนนี้จะเป็นคนของฉินซึ่งเทียน”

เห้อเสียงพูดอย่างโกรธเคือง “ต่อมาฉันถึงได้รู้ว่าเขาซื้อคนที่อยู่รอบตัวฉันไปทั้งหมด”

ฉินซีเงียบ

แผนการครอบคลุมทุกด้านของฉินซึ่งเทียนนี้วางแผนมาตั้งแต่เริ่มต้นจริงๆ ไม่ได้วางแผนทิ้งทางหนีให้เห้อเสียงเลย

เรื่องราวหลังจากนี้ ก็ไม่ต่างกับสิ่งที่ฉินซีได้รับมา

ฉินซึ่งเทียนปลอมหลักฐาน รวมหัวกันกับทนายความที่ตัวเองส่งไปอยู่ข้างๆ เห้อเสียง ให้ข้อหาอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดกับเห้อเสียง

เพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด เขาไม่ลังเลที่จะทำลายชีวิตผู้อื่น

และหลังจากที่เห้อเสียงถูกตัดสินโทษแล้ว โรงแรมเขาก็ถูกขายต่อให้คนอื่นโดยธรรมชาติ แผนกต้อนรับที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นในตอนแรกก็ลาออกด้วยเช่นกัน บันทึกกล้องวงจรปิดของโรงแรมก็โดนทำลายอย่างสมบูรณ์แบบ

ฉินซึ่งเทียนเปลื้องผ้าตัวเองอย่างขาวสะอาด

พูดถึงตรงนี้ ความพัวพันในนี้ มันก็ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างสมบูรณ์

“หลักฐานที่คุณพูดถึง มันอยู่ที่ไหน?” จ้าวจิ้งก็ไม่อ้อมค้อม ถามอย่างตรงไปตรงมา

เห้อเสียงหรี่ตา “เธอคิดว่าฉันจะให้เธอง่ายๆ เหรอ?”

สีหน้าฉินซีสงบนิ่งมาก “คุณพูดเยอะขนาดนี้แล้ว ถ้าฉันให้บันทึกบทสนทนาในวันนี้กับฉินซึ่งเทียน คุณคิดว่าเขาจะปล่อยคุณไปไหม?”

เห้อเสียงหัวเราะ “สาวน้อย ตอนนี้ฉินซึ่งเทียนอยู่ในสภาพย่ำแย่เพราะเรื่องราวในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ทนายความของเธอบอกฉันแล้ว”

ฉินซียิ้มเรียบๆ “แต่เธอไม่ได้บอกคุณสินะว่าตอนนี้ตระกูลฉินต้องการปกต้องฉินซึ่งเทียน คุณมีหลักฐานที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขาอยู่ในมือ คุณคิดว่าคนของตระกูลฉินจะปล่อยคุณไปไหม?”

สีหน้าเห้อเสียงหนักอึ้งขึ้นมา “เอาล่ะ สมแล้วที่เธอเป็นลูกสาวของฉินซึ่งเทียน”

ฉินซีไม่ได้สนใจประโยคนี้ของเขา ถามอีกรอบหนึ่ง “หลักฐานของคุณ มันอยู่ที่ไหน?”

แต่จู่ๆ เห้อเสียงก็ถามขึ้นมา “คนของตระกูลฉินที่เธอพูดเมื่อกี้นี้ แต่เธอเองก็เป็นหนึ่งในคนของตระกูลฉิน ไม่ใช่เหรอ?”

ฉินซียิ้มเรียบๆ “ฉันก็แค่แซ่ฉิน แต่ฉันไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับตระกูลฉินแล้ว”

เห้อเสียงมองเธอด้วยใบหน้าครุ่นคิด “คำพูดนี้ของเธอมันน่าเชื่อเธอเท่าไร?”

ฉินซีหันศีรษะไปมองเขา “เหยาหมิ่นเป็นแม่ของฉัน เธอกระโดดลงมาจากตึกต่อหน้าฉัน คุณคิดว่าความเกลียดที่ฉันมีต่อฉินซึ่งเทียน มันน่าเชื่อถือแค่ไหน?”

เห้อเสียงตกใจ “เธอ……”

ฉินซีกระตุกมุมปากยกยิ้มอย่างเย็นชามาก “คุณคิดว่าหลักฐานในมือคุณมันมีค่าอะไร? คุณวางแผนที่จะเปิดโปงเขาด้วยตัวเองหลังจากที่คุณออกจากคุกเหรอ? แต่คุณในตอนนั้น คนที่เคยติดคุก และฉินซึ่งเทียนเป็นประธานบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ของที่อยู่ในมือคุณ จะมีคนดูกี่คน แล้วมีคนเชื่อกี่คน?”

บนใบหน้าเห้อเสียงมีความลังเลอย่างเห็นได้ชัด “แต่เธอจะพิสูจน์ยังไง ว่าหลักฐานมันจะมีประโยชน์ในมือเธอ?”

“ฉันตามหาหลักฐานที่สามารถทำให้เหยาหมิ่นบริสุทธิ์มาหนึ่งปีเต็ม” ฉินซีพูดอย่างเคร่งเครียด “คุณคิดว่าการล่มสลายของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เป็นอุบัติเหตุเหรอ?”

เห้อเสียงเงยศีรษะขึ้นมองเธอ “คือเธอ……”

หน้าฉินซีมีความเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัด พยักหน้าพูดขึ้น “ฉันเอง”

เห้อเสียงมั่นใจแล้ว เขาจะไม่เข้าใจผิดความเกลียดชังนี้

เพราะหนึ่งปีมานี้ ทุกครั้งที่เขาเงยศีรษะมองกระจก แววตาที่เห็นได้จากใบหน้าตัวเอง

เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ “วันนี้ฉันบอกทุกเรื่องให้เธอฟังแล้ว ถ้าให้หลักฐานเธออีก ฉันจะรับประกันได้ยังไงว่าที่เธอตกลงจะช่วยฉัน จะไม่ผิดสัญญา?”

จ้าวจิ้งเอ่ยปาก “ฉันสมัครการไต่สวนคดีใหม่ได้วันนี้เลย”

ฉินซีเคาะโต๊ะ “คุณเอาหลักฐานออกมา ทนายความของฉันเริ่มช่วยคุณได้ทันที ไม่งั้นรอให้ฉันไปเจอหลักฐานเอง ฉันถึงให้ทนายความเริ่มกระบวนการไต่สวนคดีใหม่ กลับไปกลับมาแบบนี้ คุณอยากเสียเวลามากมายอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?”

เห้อเสียงกัดฟัน “ได้ ฉันจะบอกเธอ”

……

เมื่อถึงเวลาเยี่ยม ฉินซีก็ได้รับข้อมูลที่เธอต้องรู้เป็นส่วนมากแล้ว

เห้อเสียงก็ยังมีสติ ไม่ได้เอาบันทึกเสียงใส่ลงไปในคอมพิวเตอร์ แต่ใช้ปากกาบันทึกเสียง แยกเก็บไว้คนละที่ และเอกสารการตรวจสอบยา ก็ใส่ไว้ในตู้เซฟของเขาเอง

ฉินซียืนขึ้นมา

ก่อนเดินออกไปจากห้อง จู่ๆ เธอก็หันศีรษะมาพูดกับเห้อเสียงหนึ่งประโยค

“ตอนฉินซึ่งเทียนถอดเสื้อผ้าเหยาหมิ่น ได้หลีกเลี่ยงคุณไหม?”

เห้อเสียงไม่คาดคิดว่าจู่ๆ เธอจะถามคำถามนี้ นึกย้อนกลับไปสองสามวินาที ก็ส่ายศีรษะ

“ถ้าฉันจำไม่ผิด……น่าจะไม่นะ”

สีหน้าฉินซีไม่ได้ผันผวน แค่พยักหน้าเรียบๆ หันตัวเดินออกไป

จ้าวจิ้งกลับเข้าใจความหมายที่ฉินซีถามประโยคนี้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท