Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1024

ตอนที่ 1024

บทที่ 1024 จะไม่ทำอะไรโง่ๆ

จ้าวจิ้งพยักหน้า ทำหน้ารู้แจ้งทันที “แบบนี้……”

ในบริษัทลู่ซื่อเธอเป็นทนายความที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาทีมทนายความ ปกติในทีมทนายความบริษัทลู่ซื่อบรรดาคนที่คบค้าสมาคมด้วย จะไม่ค่อยมีคนคิดร้ายแบบนี้ ดังนั้นทุกประโยคที่ฉินซีพูด จ้าวจิ้งจำไว้ในสมองอย่างมั่นคง

“แต่ให้เวลาเขาคิดสองวัน เขาจะตกลงใช่ไหม? ” จ้าวจิ้งรู้สึกค่อนข้างกังวล “ถ้าเขากลับไปคิด และตัดสินใจไม่แลกเปลี่ยนข้อมูล จะทำยังไง?”

ฉินซีมีน้ำเสียงหนักแน่น “เขาจะไม่ทำแบบนั้น”

จ้าวจิ้งสงสัย “ทำไมแน่ใจขนาดนี้?”

ปลายนิ้วฉินซีเคาะโต๊ะโดยไม่รู้ตัว “เธอก็พูดเองว่า สิ่งที่เขาจ่ายกับสิ่งที่เขาได้รับเมื่อเทียบกันแล้วมันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับเขา เขาแค่อยากได้อะไรจากเรามากขึ้นอีก ไม่ใช่อยากทิ้งโอกาสที่จะได้รับบางอย่างจากเรา”

จ้าวจิ้งพยักหน้า

อาหารโรงแรมมาถึงแล้ว ทั้งสี่คนทานอาหารจนหมดจด ฉินซีประกาศว่า “วันนี้ตอนบ่ายและวันพรุ่งนี้ไม่มีธุระอะไรแล้ว ถ้าพวกเธออยากออกไปเที่ยว ก็ออกไปได้นะ”

แน่นอนว่าประโยคนี้หลักๆ คือบอกจ้าวจิ้ง ส่วนเสี่ยวเฉินและเสี่ยวหลี่ ต้องมีใครสักคนที่อยู่เป็นเพื่อนฉินซี

เมืองหลินถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสองสามแห่ง

ไม่คิดว่าจ้าวจิ้งจะโบกมือปฏิเสธ “ไม่ดีกว่า มีเวลาออกไปเที่ยวที่ไหนล่ะ! ฉันยังมีเอกสารราชการอีกสองสามอย่างที่ต้องอ่าน ลูกค้าบางคนมาไม่ได้ ทำได้แค่โทรคุยกัน”

ฉินซียิ้ม ลืมไปว่าจ้าวจิ้งก็เป็นคนที่บ้างานคนหนึ่ง

ฉินซีเองก็ไม่คิดจะออกไป ภาพที่ถ่ายในจุดชมวิวก่อนออกมา เธอยังเลือกไม่เสร็จเลย ก็ต้องสื่อสารกับผู้รับผิดชอบ ยุ่งยากมากๆ ไม่มีโอกาสออกไปไหนมาไหนโดยธรรมชาติ

เมื่อเป็นแบบนี้ จึงลำบากเสี่ยวเฉินและเสี่ยวหลี่ ต้องอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาสองคนที่โรงแรม

แต่พวกเขาสองคนกลับโบกมือ “กว่าเราจะได้หยุดพักผ่อนสองสามวัน ได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่บนเตียงสบายๆ ในโรงแรม มันช่างดีเหลือเกิน”

ฉินซีไม่รู้ว่านี่พวกเขาแกล้งพูดหรือเปล่า แต่ในเมื่อพูดแบบนี้แล้ว เธอก็ไม่สามารถบังคับอะไรได้อีก

……

ครึ่งวันถัดมา ฉินซีใช้ชีวิตสบายๆ ถ้าไม่ต้องทำงานในคอมพิวเตอร์และนอนหลับไม่สนิท ฉินซีเกือบจะมโนว่าตัวเองกำลังออกมาพักร้อน

ในที่สุดเสี่ยวเฉินและเสี่ยวหลี่ก็ได้ลองทานอาหารเช้าแบบตะวันตกของโรงแรมสักครั้ง ฉินซีลองทานหนึ่งคำ สุดท้ายก็ทานอาหารเช้าเต็มรูปแบบอย่างพึงพอใจ

นอกจากทานอาหารแล้ว เธอกับจ้าวจิ้งก็ทำงานในห้องตัวเองเป็นปกติ ออกมาดื่มน้ำเป็นบางครั้ง เห็นเสี่ยวหลี่และเสี่ยวเฉินกำลังเทียบรายการออกกำลังกายในห้องรับแขก บางครั้งก็ได้ยินเสียงจ้าวจิ้งคุยโทรศัพท์ในห้องดังผ่านเข้ามา

เหมือนกับเธอ เสียงจ้าวจิ้งไม่ตรงกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธอเลย เสียงเธอฟังแล้วสงบทุ้มต่ำ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าของเสียงนั้นหน้าเด็กจริงๆ

ถึงลู่เซิ่นและฉินซีจะเวลาต่างกันสิบสองชั่วโมงเต็ม แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่กลับสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งสองคนโทรหากันทั้งตอนเช้าและตอนเย็น คุยกันเรื่องเล็กน้อย ไม่คุยเรื่องสำคัญ และคุยกันได้นานมาก

แต่ช่วงเวลาสบายๆ แบบนี้มักสั้นเป็นพิเศษ

แทบพริบตาเดียว ก็ถึงเวลาที่ตกลงกับเห้อเสียงแล้ว

ครั้งนี้ ฉินซีไม่ปล่อยให้จ้าวจิ้งไปคนเดียว แต่ไปคุกด้วยกัน

“พอเขาตอบตกลง เธอก็ยื่นคำร้องตรวจสอบให้ฉันได้เลยนะ” ฉินซีตอบอย่างสงบนิ่งมาก ราวกับมั่นใจว่าเห้อเสียงไม่มีทางปฏิเสธ

จ้าวจิ้งมีความมั่นใจเล็กน้อยจากเธอ ตอนเข้าไปพบเห้อเสียง รอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าสายเกินไปที่จะหุบลง

เห้อเสียงเห็นมันอย่างไว

“สาวน้อย อารมณ์ดีมากเหรอ? ” เห้อเสียงยิ้มพูดขึ้น

จ้าวจิ้งส่ายศีรษะ ไม่ได้ตอบ แต่ถามตรงๆ “คุณพิจารณาเสร็จหรือยัง? ฉันมาเพื่อฟังคำตอบของคุณโดยตรง”

เห้อเสียงชี้ขึ้นมา “ในเมื่อเธอเดินมามีความสุขแบบนี้ ต้องมั่นใจว่าฉันจะตอบตกลง”

จ้าวจิ้งยิ้ม “คุณคิดผิดแล้ว ฉันไม่ได้มีความสุขเพราะแน่ใจว่าคุณจะตกลง จริงๆ แล้วฉันจะไม่จำเป็นต้องดีใจกับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะฉันแน่ใจว่าคุณจะตกลง ข้อตกลงระหว่างพวกเรา คุณแค่จ่ายนิดเดียว แต่ได้รับเยอะมาก ไม่มีคนฉลาดคนไหนยอมทิ้งโอกาสนี้หรอก คุณเป็นคนฉลาด คงไม่ทำอะไรโง่ๆ”

เห้อเสียงหัวเราะทุ้มต่ำขึ้นมา “ไม่เลว ฉันชอบประโยคนี้ของเธอ ฉันไม่ใช่คนโง่ จะไม่ทำอะไรโง่ๆ ฉันก็เลยไม่ตอบตกลงกับเธอเร็วๆ ยังไงล่ะ”

สีหน้าท่าทางจ้าวจิ้งค่อยๆ เย็นชาลง “คุณต้องการปฏิเสธข้อตกลงครั้งนี้ใช่ไหม?”

เห้อเสียงเล่นนิ้วของตัวเอง ส่ายศีรษะ “ฉันจะกลับไปคิดดีๆ สักหน่อย เมื่อฉันบอกไปว่าอยากลดโทษสามปี เธอตอบตกลงเร็วขนาดนั้น แปลว่าต้องมีหนทางจริงๆ นั่นแหละ ในเมื่อเธอมีปัญญาลดโทษให้ฉันได้สามปี ถ้าอีกสักนิด จะมีอะไรที่ทำไม่ได้อีก?”

สีหน้าจ้าวจิ้งแย่ลงโดยสมบูรณ์

เธอรู้ตัวในภายหลัง เหตุผลที่ฉินซีอยากให้เธอพูดแค่ลดโทษก่อน เกรงว่าเป็นสิ่งที่ต้องการ เพราะเห้อเสียงเป็นคนที่ได้คืบเอาศอกแบบนี้

ลดโทษสามปียังต่อรอง ถ้าบอกว่าจะพลิกคดีไปตรงๆ เกรงว่าเห้อเสียงมันอาจจะพูดขอเงินก็ได้

“คุณอยากได้นานเท่าไร? ” จ้าวจิ้งพูดอย่างเย็นชา

เห้อเสียงเห็นสีหน้าเธอแย่แล้ว แต่ใบหน้ากลับยิ้มเหมือนเดิม

เขาโบกสี่นิ้วให้กับจ้าวจิ้ง “สี่ปี เธอว่าไง?”

จ้าวจิ้งหรี่ตา

ในเมื่อเธอหลงกลที่ตอบรวดเร็วเกินไปเมื่อคราวก่อน ครั้งนี้เธอจะไม่โดนหลอกอีกแน่นอน

“สามปีครึ่ง” เธอพูดเรียบๆ

เห้อเสียงยังอยากพูดอะไรอีก แต่เธอเพิ่มเสียงสูงขัดจังหวะ “เห้อเสียง นี่คือจุดสิ้นสุดของการต่อรองครั้งนี้ ครั้งที่แล้วฉันก็พูดไปแล้ว วันนี้ฉันมาฟังคำตอบของคุณ ไม่ใช่พูดเรื่องไร้สาระกับคุณ คุณคิดมาสองวันแล้ว ลดโทษสามปีครึ่ง ปกป้องข้อมูลของคุณ ให้คำตอบกับฉัน ตอนนี้ เดี๋ยวนี้”

เห้อเสียงยิ้ม “สาวน้อยรีบอะไรขนาดนั้น? อารมณ์ร้ายเชียวนะ! ได้ๆ ฉันไม่ใช่คนโง่ ฉันเลือกที่จะลดโทษ”

คิ้วที่จ้าวจิ้งขมวดแน่นตอนนี้คลายลงนิดหน่อย

แต่เห้อเสียงพูดขึ้นทันที “แต่ลูกค้าของเธอเป็นใคร ตอนนี้ฉันยังรู้ไม่ได้เหรอ? ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้นะว่าตัวเองจะให้หลักฐานกับใคร?”

จ้าวจิ้งโบกมือ พูดประโยคเดิมกลับไป “คุณรีบอะไรขนาดนั้น?”

เธอลุกขึ้นโทรหาฉินซี

เวลาเยี่ยมพอแล้ว ขั้นตอนก็ทำเสร็จแล้ว ตอนนี้ฉินซีเข้ามาก็ยังไม่ถือว่าสาย

……

เป็นครั้งแรกของฉินซีที่เข้ามาในคุกสถานที่แบบนี้

คุกนี้สร้างขึ้นครึ่งหนึ่งของใต้ดิน แสงแดดภายนอกสามารถส่องเข้ามาในหน้าต่างได้ แต่พอเดินเข้าไปข้างใน กลับรู้สึกถึงความอับชื้นและเศร้าหมองที่ไม่สามารถสลัดออกไปได้

เธอเปิดประตู ตอนเห็นเห้อเสียงนั่งอยู่ตรงข้าม ก็รู้สึกเหมือนกัน

หนึ่งปีในคุก เปลี่ยนคนคนนี้ให้กลายเป็นหนูตัวหนึ่ง บนหน้ามีความเจ้าเล่ห์ที่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท