Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1031

ตอนที่ 1031

บทที่ 1031 ไม่เคยมีความคาดหวังใดๆ

แต่ก็ยังมีความเคารพเหยาหมิ่นอยู่ ฉินซึ่งเทียนคงไม่ถอดเสื้อผ้าคุณนายต่อหน้าชายแปลกหน้าหรอก

แต่เขาก็ไม่ทำ

ถึงจะอยู่ในฐานะผู้ชม ตอนนี้จ้าวจิ้งก็เกิดแรงกระตุ้นอยากแทงฉินซึ่งเทียนให้ตาย

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉินซีผู้ที่อยู่ในฐานะคนที่เกี่ยวข้อง

จ้าวจิ้งแค่รู้สึกค่อนข้างชื่นชมที่ตอนนี้ฉินซีสามารถสงบนิ่งได้แบบนี้ ถ้าทุกอย่างมันเกิดขึ้นกับตัวเธอ จ้าวจิ้งยากที่จะจินตนาการว่าตัวเองจะเกิดอารมณ์แบบไหน

ทั้งสองเดินออกมาจากห้องขัง เมื่อแสงอาทิตย์ส่องร่างกาย จู่ๆ ฉินซีก็สับสน

เธอพยายามค้นหาความจริงมานานมาก ตอนได้รับมันแล้ว ในทางกลับกันเธอรู้สึกไม่จริงเล็กน้อย

“เมื่อกี้สิ่งที่เห้อเสียงพูด เธอบันทึกไว้หมดใช่ไหม?” เธอบังคับให้ตัวเองสงบลง หันไปถามจ้าวจิ้ง

จ้าวจิ้งพยักหน้า “บันทึกไว้หมดแล้ว”

ฉินซีครุ่นคิดอยู่สองสามวินาที “แบบนี้ วันนี้ยังเช้าอยู่ เธอไปจัดการขั้นตอนไต่สวนคดีใหม่เลยเถอะ เอาบันทึกเสียงให้ฉัน ฉันจะกลับไปจัดการสักหน่อย และจัดเตรียมแผนต่อไป”

จ้าวจิ้งตอบตกลง ไม่ได้ทำในทันที แต่ยืนอยู่ที่เดิม มองฉินซีอย่างค่อนข้างลังเล ทำหน้าลังเลที่จะพูด

เธอรู้สึกเป็นห่วงฉินซีอยู่นิดหน่อย

ฉินซีรู้ว่าทำไมเธอถึงเป็นห่วง ตบบ่าเธอ มองไปด้านหน้า แต่ไม่รู้สายตาอยู่ที่ไหน “ฉันไม่เป็นไร ก็แค่……อยากอยู่คนเดียวสักพัก”

จ้าวจิ้งเข้าใจแล้ว

จริงๆ แล้ว เวลานี้สำหรับฉินซี สิ่งที่ต้องการมากที่สุดน่าจะเป็นพื้นที่ส่วนตัว

“โอเค งั้นฉันไปดำเนินขั้นตอนก่อน” จ้าวจิ้งถอยหลังหนึ่งก้าว “มันไม่ไกลจากที่นี่ ฉันเดินไปก็ได้”

เสี่ยวเฉินเดินตามไปด้วยจิตสำนึก

ฉินซีโบกมือให้เธอ หันตัวกลับขึ้นรถ

เสี่ยวหลี่เงียบกว่าเสี่ยวเฉินนิดหน่อย ขึ้นรถไปก็มีสมาธิในการขับรถ ไม่ได้พูดอะไร

ฉินซีก็ยินดีที่เงียบ

เธอไม่เคยมีความคาดหวังใดๆ กับฉินซึ่งเทียน

แต่ยิ่งรู้มาก ก็เลี่ยงยากที่จะเกิดอารมณ์บางอย่าง ความอัปลักษณ์ของมนุษย์มันไม่มีจุดสิ้นสุดจริงๆ

เสี่ยวหลี่เห็นว่าเธอมีเรื่องกังวลใจ ดังนั้นจึงเงียบตลอดทาง ทั้งคู่เงียบสงบแบบนี้ กลับไปถึงโรงแรม

ฉินซีอารมณ์ไม่ดี เดินตรงกลับไปที่ห้องตัวเอง

ทั้งๆ ที่สามารถให้ความยุติธรรมแก่เหยาหมิ่นได้แล้ว ควรเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เธอไม่ได้สุขใจเพียงอย่างเดียว

หนึ่งในนั้นยังมีความเกลียดชังที่มีต่อฉินซึ่งเทียน แม้ว่าจะไม่เข้าใจ

ไม่เข้าใจว่าในฐานะมนุษย์ ทำไมถึงทำสิ่งที่ต่ำต้อยกว่าสัตว์ได้

ฉินซีถอนหายใจเบาๆ ควักโทรศัพท์ออกมา เริ่มรับบันทึกเสียงที่จ้าวจิ้งส่งมา

โลกใบนี้ไม่สนใจว่าเธอรู้สึกอย่างไรในขณะนี้

ตอนนี้มันห่างไกลจากช่วงเวลาที่ดื่มด่ำความรู้สึกตัวเอง

ตอนที่ดาวน์โหลดบันทึกเสียงเพิ่งเสร็จ จู่ๆ ออดก็ดังขึ้นนอกประตู

ฉินซีขมวดคิ้ว

เวลานี้ จะมีใครมา?

ตอนเช้าพวกเขาใช้เวลามากมายในคุก แต่ในขณะนี้ ยังไม่ถึงเวลาทานอาหาร

จะเป็นใคร?

ฉินซีระแวดระวังในใจ ลุกขึ้นเปิดประตูห้องตัวเอง

เสี่ยวหลี่กำลังไปเปิดประตู ได้ยินการเคลื่อนไหวของฉินซี ก็หันไปมองเธอ

ฉินซีโบกมือให้เขา ตัวเองยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว ตั้งใจฟังการเคลื่อนไหวนอกประตู

เสี่ยวหลี่รู้แล้ว เดินไปยังทางเข้าประตูต่อ ไม่ได้รีบเปิดประตู และขึ้นเสียงถามว่า “ใคร?”

เสียงนอกประตูไพเราะอ่อนหวาน “รูมเซอร์วิส ทำความสะอาดค่ะ”

เสี่ยวหลี่พูดขึ้น “ไม่ต้องการ”

คนนอกประตูก็ไม่ได้วอแวมาก หันตัวเดินออกไป

เมื่อด้านนอกไม่มีเสียงแล้ว ฉินซีถึงได้เดินมาข้างๆ เสี่ยวหลี่

“รูมเซอร์วิสเหรอ? ” เธอพูดซ้ำอีกครั้งด้วยความสงสัย ลูบคางตัวเองโดยไม่รู้ตัว

เสี่ยวหลี่พยักหน้า รู้สึกสับสนเช่นกัน “ตอนเราเช็คอิน เคยบอกเป็นพิเศษแล้วว่าไม่ต้องการรูมเซอร์วิส ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครมา ทำไมจู่ๆ วันนี้มีคนมา?”

ฉินซีขมวดคิ้วครุ่นคิดสองสามวินาที

เธอมีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่รางๆ

เสี่ยวหลี่เห็นเธอสีหน้าเคร่งขรึม ก็ตอบสนองเช่นกัน “หรือ……มีคนตามหาเหรอ?”

ฉินซีเม้มปาก “เมื่อกี้เธอเห็นข้างนอกไหม?”

เสี่ยวหลี่พยักหน้า “เห็น เป็นพนักงานหญิงจริงๆ กำลังเข็นรถทำความสะอาด แต่มันมีจุดบอดในสายตาอยู่ ไม่แน่ใจว่ามีคนอื่นไหม”

คิ้วฉินซียังคงขมวดแน่น

จู่ๆ ก็มีรูมเซอร์วิสมา บอกว่าบังเอิญ มันก็เป็นเรื่องบังเอิญเกินไปหน่อย……

แต่จากการเคาะประตูแบบนี้เป็นคนของตระกูลฉินจริงๆ ดูเหมือนจะทำลวกๆ นิดหน่อย

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งปัญหา

“ถ้าเป็นพวกเขาจริงๆ ทำไมไล่ไปได้ง่ายๆ แบบนี้? ” ฉินซีสงสัย

เธอรู้ดีว่าถ้าเป็นสไตล์ของคนตระกูลฉิน ถ้ามาถึงที่จริงๆ เกรงว่าจะไม่สามารถไล่ไปได้ง่ายๆ แบบนี้

เสี่ยวหลี่ครุ่นคิดสักพักหนึ่ง พูดขึ้นอย่างลังเล “เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขามาสำรวจล่วงหน้า?”

“สำรวจเหรอ? ” ฉินซีเบนสายตาขึ้นมองเขา

เสี่ยวหลี่พยักหน้า “ใช่ อีกฝ่ายอาจจะไม่รู้หมายเลขห้องที่แน่นอนของเรา เลยให้คนมาทดสอบดูก่อน ถ้ามีคนบอกว่าไม่ต้องการรูมเซอร์วิสก็จะเกิดความสงสัย ด้วยวิธีนี้ก็จะง่ายกว่าในการระบุว่าเป็นห้องไหน”

ฉินซีเข้าใจทันที “แบบนี้……”

ถ้าอย่างนั้นเมื่อครู่นี้พวกเขา……ไม่ได้ตกอยู่ในขอบเขตข้อสงสัยของอีกฝ่ายแล้วเหรอ?

ฉินซีเครียดในใจ “งั้นเราเตรียมตัวสักหน่อย รีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”

เสี่ยวหลี่ยังคงค่อนข้างประหลาดใจ “จะไปแล้วเหรอ? เมื่อกี้ฉันแค่เดาเท่านั้น บางทีแผนกต้อนรับอาจจะไม่ได้บอกอย่างละเอียดก็ได้นะ?”

ฉินซีส่ายศีรษะ “ก็อาจจะ แต่เราเสี่ยงไม่ได้”

กว่าเธอจะได้หลักฐานที่แสดงความบริสุทธิ์ของเหยาหมิ่นมาได้ ถ้าตอนนี้ตกอยู่ในมือของคนตระกูลฉิน มันคือสิ่งที่สุดท้ายที่เธออยากเห็น

ฉินซีแน่วแน่มาก เสี่ยวหลี่ก็ไม่ถามอะไรมากอีก เดินเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว เริ่มเก็บสัมภาระของเขาและเสี่ยวเฉิน

ฉินซีก็หันตัวกลับไปที่ห้องของตัวเอง

แต่เธอไม่ได้รีบเร่งเก็บข้าวของ แต่โทรหาจ้าวจิ้งก่อน

จ้าวจิ้งรับเร็วมาก “มีอะไร? ฉันกำลังดำเนินขั้นตอนอยู่ อีกไม่นานก็เสร็จแล้ว”

ฉินซีพูดเสียงทุ้ม เอ่ยถามตรงๆ “ในโรงแรมเธอวางของสำคัญอะไรไว้ไหม?”

จ้าวจิ้งเงียบไปไม่กี่วินาที น่าจะกำลังนึกอยู่ ไม่กี่วินาทีต่อมาก็ตอบว่า “ไม่มีนะ เอกสารสำคัญฉันเอาติดตัวมาด้วย ในโรงแรมมีแค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุด”

ฉินซีพยักหน้า “งั้นก็ดี”

จ้าวจิ้งสงสัย “ทำไม? โรงแรมโดนขโมยขั้นเหรอ?”

ฉินซีส่ายศีรษะ “เปล่า เหมือนคนของตระกูลฉินจะมาหา”

จ้าวจิ้งพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ “เร็วขนาดนี้เลย?”

“ใช่ ตอนนี้ฉันเลยจะเช็คเอ้าท์ทันที อาจจะเก็บเสื้อผ้าเธอไม่ทัน” ฉินซีพูด

จ้าวจิ้งสงบลงอย่างรวดเร็ว “ไม่เป็นไร เสื้อผ้าไม่สำคัญ ความปลอดภัยของเธอสำคัญกว่า เมื่อกี้คนตระกูลฉินมาที่นี่เหรอ?”

ฉินซีส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ แต่มีคนมาสำรวจ ฉันสงสัยว่าเป็นคนของตระกูลฉิน”

จ้าวจิ้งตอบ “แบบนี้ เพื่อความปลอดภัย เธอกับเสี่ยวหลี่ควรออกไปให้เร็วที่สุด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท