Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1045

ตอนที่ 1045

บทที่ 1045 จำกัดการขยับของเธอ

พี่หลิวดูเหมือนจะเห็นความลังเลของฉินซีในขณะนี้

เขายิ้มอย่างน่ากลัว ปล่อยมือจากการแย่งพวงมาลัย ก้มลงแล้วใช้มือกดคันเร่ง

เสียงรถดังขึ้น –

ของที่บนร่างกายของเธอคลายออก ฉินซีเข้าใจทันทีว่า ที่พี่หลิวแย่งพวงมาลัยมาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่อยากควบคุมรถ แต่ยังอยากจะควบคุมการขยับของเธอด้วย

แต่ด้วยการกระทำของเขาในตอนนี้ ไม่สามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของเธอได้แล้ว

ในขณะนั้น เธอรีบเปิดประตูด้านข้างและกระโดดออกจากที่นั่งคนขับเมื่อรถเร่งความเร็วและขับตรงไปยังสถานที่ก่อสร้าง

รถคันนั้นคำรามไปในอากาศ จากนั้นหัวรถก็พุ่งลงไปยังสถานที่ก่อสร้างโดยมีแท่งเหล็กจำนวนมาก

ฉินซีไม่มีทันตอบสนอง อยู่กับที่มองรถที่พลิกคว่ำ แท่งเหล็กแข็งทะลุหลังคาและทะลุรถเข้าไปในรถ

“ฉินซี”เมื่อเสียงคำรามของรถดังขึ้น ลู่เซิ่นก็หยุดอยู่กับที่ชั่ววินาที จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่รถตามอย่างเสียอาการ

ถ้าไม่ได้เห็นมีคนกระโดดลงจากรถ เขาอยากจะรีบเข้าไปในสถานที่ก่อสร้างตามรถด้วยซ้ำ

เมื่อเขาวิ่งใกล้ไป และมองเห็นร่างของบุคคลนั้นได้อย่างชัดเจน เขาค่อยโล่งอกโล่งใจสักที

-คนที่กระโดดลงมาคือฉินซี

แต่เขาไม่หยุดและวิ่งไปข้างหน้าของคนนั้น

ลู่เซิ่นยื่นมืออย่างระมัดระวังยื่น กดไหล่ของฉินซีและกระซิบว่า”ฉินซี”

ฉินซีค่อยๆหันหัวไป เมื่อเงยหน้าเห็นลู่เซิ่น มีความสับสนอยู่ในดวงตา”ลู่เซิ่น”

ปรากฏว่าไม่ใช่ความหลอนทางหูเมื่อเธอกำลังตื่นเต้น

ลู่เซิ่นอยู่ข้างๆเธอจริงๆ

ลู่เซิ่นมองตามทิศทางที่เธอกำลังมองอยู่ และเห็นสภาพที่น่ากลัวของรถ

มีเลือดไหลออกมาจากหลังคารถที่พลิกคว่ำ ไม่ต้องคิดก็รู้เลยว่า เลือดมาจากไหน

เมื่อได้เห็นกับตาว่าคนๆหนึ่งเสียชีวิตที่น่าเศร้าขนาดนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าลู่เซิ่น มีความอ่อนแออยู่ในสายตาของฉินซีเบาๆ

หัวใจของลู่เซิ่นเหมือนจะถูกหยิบขึ้นมา

เขายื่นมือออกมาและกอดฉินซีไว้ในอ้อมแขนของเขา โอบเธอไว้แน่นด้วยแขนของตัวเอง และกระซิบอยู่ข้างหูของเธอว่า “ไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”

สายตาของฉินซีจ้องมองตรงไปข้างหน้า โดยไม่ได้ตอบ

เพราะว่าสถานที่ไม่เหมาะสม ลู่เซิ่นกอดฉินซีไว้สักพักก็ปล่อยแล้ว

มองเห็นสายตาที่สัมผัสของฉินซี ลู่เซิ่นแอบเจ็บปวดใจเบาๆ

เขายืนขึ้น ก้มตัวและกอดฉินซีไว้ในอ้อมแขนของเขา เดินกลับจากทางที่เดินมา

ฉินซึ่งเทียนยังยืนอยู่กับที่ ดูเหมือนจะตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขา”ไม่ใช่สิ… เป็นแบบนี้ได้ยังไง … ”

เขาแค่อยากจะให้ฉินซีออกมาเอง อยู่ดีๆรถคันนี้วิ่งเข้าไปสถานที่ก่อสร้างได้ยังไง ข้างในมีคนตายไปด้วยใช่ไหม

ฉินซึ่งเทียนไม่เคยทำให้ใครต้องตายโดยตรงเช่นนี้มาก่อน หน้าซีดไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงดี

เมื่อเห็นลู่เซิ่นเดินกลับมา เขาก็อยากจะก้าวหน้าไปโดยไม่รู้ตัว”ลู่เซิ่น คุณว่านี่ … ”

แต่ลู่เซิ่นไม่ได้หยุดเดิน เมื่อเดินผ่านเขา แค่พูดเบาๆว่า

“นี่คือปัญหาที่คุณก่อขึ้นมาเอง มีอะไร เดี๋ยวคุยกับตำรวจเองแล้วกัน”

ฉินซึ่งเทียนสีหน้าเริ่มแข็งกระด้าง

เสียงรถตำรวจดังมาจากทางไกล

เมื่อฉินซีลืมตาขึ้นอีกครั้ง ต่อหน้าเต็มไปด้วยสีขาวว่างเปล่า

แต่เธอนึกขึ้นได้ทันที ที่ไหลออกมาจากรถ เลือดเต็มพื้นเลย

ดังนั้นมือของเธอจึงสั่นโดยไม่รู้ตัว

เธอขยับ ถึงรู้ว่าเธอยังจับมือของคนอื่นอยู่

ฉินซีหันหน้า เธอกับลู่เซิ่นมองหน้ากันพอดี

มีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของลู่เซิ่น”คุณตื่นแล้วเหรอ”

“อืม”ฉินซีพยักหน้าเบาๆ เปิดปากถึงรู้ตัวว่าเสียงของเขาแหบเล็กน้อย”ทำไมฉันถึงเข้าโรงพยาบาลอีกแล้วละ”

ความทรงจำของเธอยังคงอยู่เธอถูกลู่เซิ่นอุ้มขึ้นไป และกลับไปที่รถของลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นกดกริ่งเรียกยายามนางที่ข้างเตียงและพูดเบาๆว่า”เมื่อวานหลังจากที่ฉันอุ้มคุณขึ้นรถ คุณก็หลับไปทันที ฉันกลัวว่าร่างกายของคุณจะไม่มีอะไร ก็เลยส่งคุณมาตรวจที่โรงพยาบาล”

“งั้น… ฉันนอนหลับนานแค่ไหนแล้ว”ฉินซี ถาม

“ไม่นานเท่าไหร่ เพิ่งจะมืดเอง”ลู่เซิ่นตอบ

ระหว่างที่คุยกัน หมอและนางพยาบาลก็มาถึงวอร์ดแล้ว

เขาถามฉินซีบ้างคำถามและตรวจอีกครั้ง ค่อยหันกลับมาพูดกับลู่เซิ่นว่า”ไม่มีปัญหาอะไรมาก พักผ่อนให้ดีๆก็จะหายแล้วค่ะ”

ลู่เซิ่นพยักหน้ากับหมอ หมอก็เดินออกจากวอร์ดแล้ว

“ฉันเป็นอะไร ทำไมถึงอยู่ดีๆเป็นลมละ”ฉินซีถาม

ลู่เซิ่นยื่นมือออกไปเขย่าเตียงในโรงพยาบาลขึ้น”ไม่มีอะไรมาก แค่เพราะอีเธอร์ในร่างกายของคุณยังไม่ถูกเผาผลาญ อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรง และเส้นประสาทตึงเครียด ดังนั้นเมื่อคุณผ่อนคลาย ก็เลยเป็นลมแค่พักผ่อนสักพัก ก็ไม่มีอะไรมากแล้ว”

ฉินซีพยักหน้า พยายามขยับร่างกาย แต่พบว่ามือซ้ายของเธอถูกปิดด้วยปูนปลาสเตอร์หนา

“นี่ …” เธองง”มือฉันเป็นอะไร”

ลู่เซิ่นดึงผมที่หน้าผากของเธอไปหลังหู พูดเบาๆว่า”เมื่อคุณกระโดดลงจากรถ คุณใช้มือซ้ายเป็นบัฟเฟอร์ซ้ายมือได้รับการกระทบอย่างแรง กระดูกแตก เลยต้องทาปูนปลาสเตอร์”

เสียงของเขาเบาเกินไป ฉินซีเงยหน้าขึ้นมองเขา ถึงรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ

ทัศนคติที่ลู่เซิ่นมีต่อเธอระมัดระวังเกินไป ราวกับว่าเธอเป็นตุ๊กตาที่แตกง่ายๆ

เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามเอื้อมมือไปจับมือของลู่เซิ่น

แต่มือซ้ายของเธอถูกปิดด้วยปูนปลาสเตอร์ มือขวาให้น้ำเกลืออยู่ ไม่มีมือว่างเลย

ลู่เซิ่นดูเหมือนจะรู้เธอจะทำอะไร เอามือขวาวางบนมือเธอ

“คุณ … ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้นะ”ฉินซีพูดอย่างลำบาก “ฉันมีอะไรอีก คุณบอกฉันตรงๆได้เลย”

ลู่เซิ่นอึ้งไป ถึงรู้ว่าท่าทีของเขาทำให้ฉินซีเข้าใจผิดแล้ว และยิ้มเบาๆว่า”ไม่มีอะไรหรอก นอกจากมือซ้ายของคุณกระดูกแตก ร่างกายส่วนอื่นไม่มีอะไรเลย หมอให้คุณนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลดูการณ์หนึ่งวัน พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว”

ฉินซีขมวดคิ้วเบาๆ”ลู่เซิ่น คุณมีอะไรยังไม่บอก”

รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่เซิ่นจางลงเล็กน้อย ลังเลสักพักถึงพูดเบาๆว่า “ฉินซี คุณรู้สึกไหมว่า ความทรงจำของคุณ … สูญเสียบางส่วนหรือเปล่า”

ฉินซีขมวดคิ้วแน่นๆ

ความจำเสื่อมเหรอ

เธออยากจะปฏิเสธ แต่ก็หยุดไปเมื่อเธอกำลังจะพูดออกมา

เธออยากจะบอกว่าเธอจำอดีตของตัวเองได้อย่างดี เพื่อนร่วมโต๊ะตอนประถม การแข่งขันกีฬาที่เธอเข้าร่วมด้วยในโรงเรียนมัธยม เพื่อนที่รู้จัดในวิทยาลัย หน้าตาของเพื่อนร่วมงานที่หลายปีที่ผ่านมา เธอจำได้หมด ฉินซึ่งเทียน เหยาหมิ่น หลี่เหวย ฉินหว่าน ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลฉิน อยู่ในสมองของเธอตลอด

เรื่องการเติบโตที่ชัดเจน นั้นไม่เรียกว่าสมบูรณ์เหรอ

แต่แอบมีเสียงเบาๆในจิตใต้สำนึกว่า

ตัวเองจำได้ทุกอย่างจริงๆเหรอ

ใบหน้าของฉินซีมีความสับสนขึ้นมาอีกแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท