Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1064

ตอนที่ 1064

บทที่ 1064 ฉินซีเป็นคนสำคัญที่ลู่เซิ่นได้ทำหล่นหาย

หมอประจำบ้านที่รีสอร์ท​ชิงหยวนเป็นมืออาชีพมากเลยทีเดียว วินิจฉัย​อยู่​สักพัก​ ซึ่งแน่ใจแล้วว่าฉินซีไม่หนักหนา​สาหัส​ ลู่เซิ่นค่อย​สบายใจขึ้น​มา​แบบฝืนๆ

เขามองดูใบหน้าที่ขาวซีดของฉินซี ในใจสับสนวุ่นวาย​เหลือเกิน​

ตามข่าวคราว​ที่​เขาได้รับ เขาคาดเดาได้เลยว่าช่วงนี้ฉินซีอยู่​อย่างไม่มีความสุข​

เรื่องราวของเหยาหมิ่นแพร่หลาย​ออกไปอย่างครึกโครม​ ลู่เซิ่นมีใจช่วย กลับไม่มีจุดยืน

ทีแรกเขาคิดว่าเวลาจะรักษา​บาดแผล​ให้ทุกอย่าง​หายไปเอง ซึ่งมันจะปรากฏ​ขึ้น​มา​อย่างไม่สายเกินไปมากนัก​

แต่ว่ายังไงเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่า​ เกือบนิดเดียว​เองก็จะ​ไป​จากฉินซีโดยสิ้นเชิง​แล้ว​

ลู่เซิ่นยังจำผู้​หญิง​ที่มีรอยยิ้ม​อันสดใส​ซึ่งพบเจอกันในหอศิลป์​คนนั้นได้เป็นอย่างดี ทำไมผ่านไปแค่หนึ่งปีเท่านั้น​ ก็กลายเป็นหน้าตาแบบนี้​ไปแล้ว​

ชั่วขณะ​นั้น ในใจของลู่เซิ่นมีความเกลียดชัง​

เขาเกลียด​ชังบริษัท​ฉิน เกลียด​ชังฉินซึ่งเทียน และเกลียด​ชังทุกคนที่ทรมาน​ฉินซีมาจนถึงขั้น​นี้​

ยิ่งไปกว่านั้น​เขายังเกลียดชัง​ฉินซีอีกด้วย ที่เธอละเลย​ชีวิต​ของ​ตัวเองอย่างง่ายดาย​เช่นนี้

ความเกลียดชัง​แบบนี้ ในขณะที่​ฉินซีฟื้นขึ้น​มา​แล้วก็ตามยังไม่สามารถ​หายแค้นใจ​ไปจนหมดสิ้น

เพราะฉะนั้น​ขณะที่​เผชิญหน้า​กับฉินซี สีหน้ายังคงดูแย่อยู่

เพียงแต่ว่าถึงแม้​ฉินซีจะฟื้นขึ้น​มา​แล้วก็ตาม แต่ว่า​ลู่เซิ่นดูออก เธอยังคงไม่หวัง​ที่จะมีชีวิตอยู่​อีกต่อไป

ลู่เซิ่นเหมือน​รู้​สึกว่าฉินซีเป็นเหมือนกับ​ว่าที่เส้นด้ายนั้นได้ขาดไปแล้ว​ อยู่บนโลกนี้ซึ่งไม่มีความอาลัย​อาวรณ์​อีกต่อไป

แต่ว่าเขาจะเป็นคนที่ดึงเส้นด้ายเส้นนี้เอาไว้เอง

เขาจะดึงฉินซีกลับมาอยู่ในโลกใบนี้

เพราะฉะนั้น​เขาถึงได้พูดคำปลอบใจตั้งมากมายก่ายกอง​แบบนี้ให้กับฉินซี

ถ้าหากไม่สามารถ​มีความอาลัย​อาวรณ์​ ถ้าอย่างนั้น​มีความเกลียด​ชังก็ได้​

อย่างน้อยมีความเกลียดชังอยู่​ ยังสามารถ​ทำให้เธอสู้​ต่อไป

เป็นจริงซะด้วย สำหรับความ​เกลียด​ชังที่ฉินซีมีต่อฉินซึ่ง​เทียนและหลี่เหวยนั้น เธอเลือกที่จะแก้แค้น​

แต่ว่าเผชิญ​กับ​คำถามที่เธอถามขึ้น​มาว่า”คุณ​ต้องการอะไร” คำถามนี้ ลู่เซิ่นแทบอยากตอบกลับไปจาก​จิตใต้สำนึก​ลึกๆว่า “ต้องการคุณ”

เขาชัดเจนในตัวเองมาก ตัวเองตามหาอยู่​ตั้งนานสองนาน​เพื่ออะไร​กันหล่ะ​

ลู่เซิ่นไม่ใช่คนโรแมนติก​ และไม่เคยเชื่อในโชคชะตา​ สำหรับรักแรกพบยิ่งดูถูกดูแคลน​มาก

แต่ว่าเขากลับลืมฉินซีซึ่งเคยพบปะ​กันแค่ครั้ง​เดียว​ไม่ได้

จนถึงวินาทีนี้ก็ตาม เขาได้ยอมรับกับตัวเองอย่างเปิดเผย​แล้วว่า เขาคิดถึง​ฉินซีจนลืมไม่ลง และรักแรกพบที่เขาไม่ยอมเชื่ออีกด้วย

ที่เขาต้องการง่ายนิดเดียว​

เขาต้องการฉินซีอยู่​ข้างกายตัวเอง

แต่ว่าฉินซีเข้าใจความหมาย​ของ​เขาผิดไป คิดว่าเขาต้องการเงินและเรือนร่าง​มาเป็นการแลกเปลี่ยน​

ลู่เซิ่นอยากอธิบาย​ ในที่สุด​กลับไม่ได้อธิบาย

ความหยิ่งยโส​และศักดิ์ศรี​ของเขาไม่อนุญาต​ให้​เขาถามฉินซี จำระเบิด​ที่หอศิลป์​เมื่อหนึ่งปีก่อนได้มั้ย​และลืมไปแล้วหรือ​ว่ามีคนคนนี้หยุดอยู่ที่ผลงานของเธอเมื่อก่อนหน้านี้

ฉินซีโมโห​เป็นเรื่อง​ปกติ​มาก แต่ว่าเขากลับนิ่งสงบอย่างน่าแปลกใจ​

เรื่องที่เกือบสูญเสีย​ฉินซี ทำให้ลู่เซิ่นเสียสติของตัวเองไปแล้ว

ในเมื่อ​มีวิธี​มัดฉินซีเอาไว้ข้างกายตัวเอง ต่อให้ถูก​เข้าใจผิด​ก็ตาม เขาก็จะไม่ล้มเลิก​

เขาต้องได้ตัวฉินซีมาให้ได้

เพราะว่า​ฉินซีเป็นคนสำคัญที่ลู่เซิ่นได้ทำหล่นหาย

…………….

การเปิดเผย​ที่ยาวเหยียด​ ในห้องนอนจมลงไปในความเงียบสงบ​อย่างยาวนาน

ฉินซีไม่รู้​ว่า​ ควรเอ่ยปากยังไง​ในชั่วขณะ​หนึ่ง​

โทษที่ลู่เซิ่นไม่พูดให้ชัดเจนหรือ?

เหมือนจะไม่สมควร

เพราะยังไง​ซะถ้าหาก​ตอนนั้นลู่เซิ่นถามตัวเอง ส่วนตัวเองก็ไม่ได้เรื่องรู้ราวเลยสักอย่าง กลับไปทำให้ลู่เซิ่นต่อต้าน​ขึ้น​มา​อย่างรุนแรง​หล่ะ?

แต่ว่าจะโทษ​ตัวเอง​หรือ?

เธอก็ไม่รู้​ว่า​ควรจะโทษ​ยังไง​ดี

คิดไปคิดมา​ ทั้งคู่​พัวพัน​กันไปมาอยู่​หนึ่งปีเต็มๆ และโชคชะตา​ยังได้ล้อเล่นอีกด้วย

“คุณ……. ในหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ เคยทดสอบ​ฉันหลายครั้งแล้วใช่มั้ย?” เงียบไปตั้งนาน ฉินซีถึงค่อยเอ่ยปาก​ออกมา​

ลู่เซิ่นไม่ปฏิเสธ​:”ใช่แล้ว”

ฉินซีสังเกต​เรื่อง​ราวที่แปลกๆ อย่างเช่นอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งใจอ้อมทาง เป็นการทดลอง​ที่​เธอเคยเห็น

แต่ว่าที่ฉินซีไม่ได้​สังเกต​หล่ะ อย่างเช่นรูปภาพ​สีน้ำมันที่แขวนไว้ในห้องหนังสือ​ และอย่างเช่นเวลาที่เธอไม่รู้ว่า​สายตาของลู่เซิ่นได้หยุดอยู่ที่ตัวเองหล่ะ ล้วนเป็นการทดสอบ​ที่เขายังไปไม่ถึงจุดเป้าหมาย​

“คนที่จำเรื่อง​ราวเหล่านี้​ได้……..ลำบากมากเลยใช่มั้ย”ฉินซีไม่รู้​ว่า​จะ​พูดอะไรดี ได้แต่ยื่นมือออกมา​จาก​ผ้าห่อ และจับมือของ​ลู่เซิ่นเอาไว้

ลู่เซิ่นกลับเอามือของตัวเอง ยัดเข้าไปในผ้าห่ม​ด้วยกัน​

“ค่อยยังชั่ว​ ความจริงผมใช้เวลาสักเดือนสองเดือน ก็แน่ใจได้แล้วว่า คุณ​จำเรื่องราวที่เกิดขึ้น​ใน​ตอนนั้นไม่ได้แล้ว” สีหน้าท่าทาง​ของลู่เซิ่นนิ่งสงบมาก​ แต่ว่าฉินซีกลับฟังออกว่ามีความเศร้า​โศก “แต่ว่าก่อนหน้านี้​ของเมื่อวาน​ ผมคิดว่าคุณ​ตั้งใจ​ลืม คิดไม่ถึง…..คุณ​จำอะไรไม่ได้แล้ว”

ฉินซีพูดไม่ออก​ในทันทีทันใด​

ใช่แล้ว​ เธอจำไม่ได้​แล้ว

” เพราะฉะนั้น……. ในหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ คุณ​ทำกับฉันแบบเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย กำลังโทษ​ว่าฉันได้ลืมคุณ​ไปแล้วใช่มั้ย? ฉินซีเอ่ยปากอย่างลำบากใจ

หากเป็นเช่นนี้ เธอสามารถ​เข้าใจในการกระทำของลู่เซิ่นทุกอย่าง​

มองในมุมมอง​ของอีกฝ่าย​ ถ้าหากฉินซีมีความคาดหวัง​อยู่​เต็ม​อกแต่กลับได้รับความเย็นชาแบบนี้ เธอก็ไม่แน่ใจ​ว่าจะสามารถ​ทน​ได้​ไหม​

แต่ว่าลู่เซิ่นกลับส่ายหน้า​:”ที่ผมไม่พอใจ เป็นเพราะคุณ​เท่านั้นเอง”

“เป็น​เพราะฉัน?” ฉินซียักคิ้ว​

“เพราะว่า​คุณ​กับผมที่เจอกันแบบรักแรกพบคนนั้นแทบจะเป็นคนละคนไปแล้ว คุณ​ปิดกั้น​ตัวเอง​อย่างสนิทมิดชิด​ ไม่ยอมเชื่อใจใครทั้งนั้น ​และห้ามใครเข้าใกล้อีกด้วย ยิ้มน้อยมาก และละเมอ​อยู่​บ่อยๆ คุณ​ไม่ใช่คนที่มีชีวิตชีวา​และกระปรี้กระเปร่า​ เหมือนกับช่อดอกกุหลาบ​ที่แห้งเหี่ยว​ ไม่มีชีวิตชีวา​”น้ำเสียงลู่เซิ่นช้าๆ แต่ว่าฉินซีกลับรู้สึก​ว่า​เหมือนฟ้าผ่าลงมาที่ข้างหูตัวเอง

……….ที่แท้ตั้งแต่ช่วงเวลา​นั้น​ที่ผ่านมา ตัวเองถึงกับ​เป็นแบบนี้นี่เอง

“ทีแรกผมยังมีความรู้สึก​ผิด เป็นเพราะว่าผมใช้วิธี​ที่ไม่เหมาะสม​แบบนี้เพื่อรั้งคุณ​เอาไว้ข้างกายผม จึงทำให้คุณ​รู้สึก​ไม่ดี​ และถึงได้เป็นแบบนี้ ต่อมาผมถึงพบว่า คุณ​ไม่ได้​เป็นแบบนี้เพราะผม เป็นเพราะว่า…….คุณ​ไม่ใส่ใจผมต่างหาก” เสียงของลู่เซิ่นขมขื่น​และเศร้า​โศก​เสียใจ​

ฉินซีกลับเอ่ยปากปลอบใจ​ไม่ได้

เพราะว่า​ตั้งแต่แรก……….เธอรู้สึก​แบบนี้จริงๆ

เธอได้กำหนดความสัมพันธ์​ของตัวเองและลู่เซิ่นเกี่ยวข้อง​กับ​เรื่องเงินทอง​และเรือนร่าง​ไปแล้ว​ ลู่เซิ่นใช้หนี้​แทนเธอ ส่วนเธอรับผิดชอบ​ด้วยการมอบความสุข​ให้​กับ​ลู่เซิ่น

ในเมื่อ​เป็นการค้าขายและเป็นการแลกเปลี่ยน​ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเอาความรักและความสัมพันธ์​อันลึกซึ้ง​เข้ามาเกี่ยวข้อง​

เงียบกริบ​ไปตั้งนาน ฉินซีค่อยๆเอ่ยปากออกมา​:”ความจริง…….พ่อบ้านตระกูล​ฉินเสียชีวิต​ในวันนั้น​ คุณ​อยู่ที่นี่ของฉัน และคุณ​มีฐานะ​ที่แตกต่าง​ไปจากเดิม​แล้ว”

ลู่เซิ่นก้มหน้า​มองเธอไว้ กลับ​ไม่พูดจา เพื่อรอเธอพูดต่อไปเรื่อยๆ

ฉินซีพูดช้ามาก เหมือนกับตระหนัก​ใน​คำพูด:” วันนั้นฉันโมโห​จนจะเป็นบ้าอยู่​แล้ว อยากขับรถออกไปและไปตายพร้อมกันกับ​ฉินซึ่งเทียนและหลี่เหวยให้รู้แล้วรู้รอด​ไปเลย แต่ว่าพ่อบ้านเรียกสติของฉันกลับมาก่อน​ ต่อมาก็เป็นคุณนี่แหละ​”

“เป็นผม?” ลู่เซิ่นถามด้วยความสงสัย​

“เป็นคุณ​เองที่อยู่​ข้างหลังฉัน และโอบกอด​ฉัน ทำให้ฉันซึ่งอยู่ในอากาศ​ที่​หนาวเย็น​ รู้​สึกถึงความอบอุ่น​”ฉินซีก้มหน้า​ลง” อยู่​ในอ้อมกอดของคุณ ฉันถึงได้รู้สึกว่า ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว และฉันก็ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว​เดียว​ดาย”

วันนั้นในความทรงจำของลู่เซิ่นไม่ใช่วันพิเศ​ษอะไร แต่ว่าฟังคำอธิบาย​ของฉินซีอยู่​ จู่ๆกลับรู้สึก​ว่า​เขาโชคดีมาก

โชคดีที่วันนั้นเขาเลือกถูกต้อง​แล้ว​

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท