Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1068

ตอนที่ 1068

บทที่ 1068 ฐานะ​ที่​ต่างกัน​

แต่ว่าความประหลาด​ใจของฉินซีในคืนนี้ ไม่ได้​มีแค่โครงการ​นี้​เท่านั้น

ขณะที่​เธอรีบตอบอีเมล์​ให้กับสปอนเซอร์​ หลังจาก​แสดง​ท่าที​ของ​ตัวเอง​ว่าจะเข้าร่วมงานนิทรรศการ​ จู่ๆมือถือ​ก็ดังขึ้น​มา​

ผู้​ที่​โทรศัพท์​มา​กลับทำให้ฉินซีคาดไม่ถึง​

เป็นผู้รับผิดชอบ​จุดชมวิวคนนั้น​ที่เธอถ่ายภาพ​เมื่อก่อนหน้านี้​

เมื่อหลายวันก่อน​ฉินซีไปที่เมืองหลินซื่อใช้เวลาว่างเพื่อตกแต่ง​รูปภาพ​พวกนั้นจนเสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ก็ส่งไป ผู้รับผิดชอบ​ฝ่ายตรงข้าม​ตอบกลับ​มา​อย่างรวดเร็ว​รวดเร็ว​​ และแสดงท่าที​ที่พอใจมาก

เหตุการณ์​โดยปกติ​ การร่วมงาน​กัน​ครั้งนี้​ถือว่า​เสร็จสิ้น​อย่างสมบูรณ์​แล้ว น่าจะไม่มีการติดต่อแล้วถึง​จะ​ถูก

ทำไมจู่ๆถึงได้โทรศัพท์​มา​หล่ะ?

ฉินซีคอยระมัดระวัง​ แต่ก็รับสายขึ้น​มาจนได้

ฝ่ายตรงข้าม​ได้ยินว่ามีคนรับสายแล้ว รีบเอ่ยปากออกมา​อย่างเป็นกันเองว่า:” คุณ​หนูฉินใช่มั้ยคะ?

” ฉันเองค่ะ มีธุระ​อะไรรึเปล่า​คะ?” น้ำเสียงฉินซีเกรงอกเกรงใจ​มาก แต่ก็ไม่ได้ถือว่า​เป็นกันเอง

ผู้รับผิดชอบ​กลับไม่ได้ถูกความเย็นชาของเธอกระทบ​กระเทือน​ น้ำเสียงเป็นกันเอง​มากเลยทีเดีย​ว :” อย่าง​นี้นะคะ เจ้านายใหญ่​ของเราเห็นรูปถ่าย​โฆษณา​ที่​คุณ​ถ่ายให้กับเราที่จุดชมวิว สนใจรูปถ่าย​ผลงานของคุณมาก อยากสนับสนุน​คุณ​เปิดนิทรรศการ​ภาพถ่าย​”

ทีนี้ฉินซีประหลาดใจ​มาก​จริงๆ:” นิทรรศการ​ภาพ​ถ่าย?”

ผู้รับผิดชอบ​ยิ้มแย้ม​:” ใช่แล้วค่ะ นิทรรศการ​ภาพ​ถ่ายถึงแม้จะกะทัน​หัน​ไปหน่อย แต่ว่าเจ้านายของเราสนใจผลงานของคุณมาก เพราะฉะนั้น​จึงให้ฉันติดต่อ​คุณ​อย่างเร่งรีบ​”

ในชั่วขณะหนึ่ง​ฉินซีไม่รู้​จะ​ตอบกลับ​ยังไง​ดี

เปิดนิทรรศการ​ที่เป็นของตัวเอง​ ภาพถ่าย​ที่สำเร็จ สำหรับช่างภาพ​ทุกคนแล้ว ล้วนเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ​

ฉินซีก็ไม่ยกเว้น​

แต่ว่าเธอกลับไม่มีความคิด​แบบนี้อย่างจริงๆ​จัง​ๆในที่ผ่านมา​

แตกต่าง​จาก​ช่างภาพ​ทั่วไป​ เธอไม่ขาดสนเรื่อง​เงิน หากอยากได้จริงๆ เธอสามารถ​เปิดนิทรรศการ​หอศิลป์​ที่ดีที่สุดในประเทศ​F

ที่ขัดขวาง​เธอเปิดนิทรรศการ​ มีแค่เหตุผลเดียว​——เธอรู้สึก​ว่า​ตัวเองยังไม่มีสิทธิ์​

ตั้งแต่ต้นจนจบ​ฉินซียังรู้สึก​ว่า​ผลงานภาพถ่าย​ของตัวเองยังไม่มีความเป็นผู้ใหญ่​พอ ยังมีช่อง​ว่างต้องพัฒนา​อีก​เยอะ​

ตอนที่เธอหันหน้า​กลับมา​มองผลงานของตัวเองทุกครั้งก็จะเจอข้อเสีย​เยอะแยะ​มากมาย​

ตั้งแต่ต้นจนจบ​เธอรู้สึกว่าผลงานของตัวเองยังไม่เพอร์เฟค​พอ ถึงเอาความคิดที่จะเปิดนิทรรศเก็บเอาไว้ก่อน

เธอคิดไม่ถึง​ ถึงกับมีคนเสนอออกมา​ด้วยตัวเองอยากจะสปอนเซอร์​เธอเพื่อจัดนิทรรศการ​อย่างเสร็จสิ้น​เรียบร้อย

ฝ่ายตรงข้าม​ได้ยินเธอบ่นอยู่คนเดียวตั้งนานสองนาน​รู้​ว่า​เธอลำบากใจ จึงไม่ได้บีบบังคับ​เธอ แต่กลับพูดอย่างเกรงใจ​และยิ้มแย้ม​พูดกับเธอว่า​ให้เธอลองคิดดู​ดีๆ ถึงจะวางสายไป

ฉินซีจับมือถือเอาไว้ และละเมอ​อยู่​

ตัวเอง……..ถึงขั้นเปิดนิทรรศการ​เพียงลำพังได้แล้วหรือ?

แต่ว่าเธอยังไม่ได้ผลสรุป​ มือถือ​ก็ดังขึ้น​มา​อีกครั้งแล้ว

ผู้ที่โทรศัพท์​มาครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ประหลาด​ใจอะไรแล้ว——เป็นลู่เซิ่นเอง

ฉินซีรับสายวีดีโอ​คอลของเขาอย่างรวดเร็ว​

เธอยังไม่ทันได้เอ่ยปาก​ออกมา​:” คุณ​รู้​ได้​ไง?

ลู่เซิ่นยิ้มแย้ม​:” ตอนที่มีเรื่องกลุ้มใจ​ คุณ​จะ​ขมวดคิ้ว​โดยไม่รู้ตัว​”

ฉินซียักไหล่​ พูดอย่างตรงไปตรงมา​:” ความจริงก็ไม่ได้เป็นเรื่องกลุ้มใจอะไรหรอก………. ”

รอให้เธอพูดเรื่องมีคนจะสปอนเซอร์​เธอเปิดนิทรรศการ​ออกมา​ ลู่เซิ่นยิ้มแย้ม​:” นี่ไม่ใช่เรื่องดีหรอ? ทำไมถึงลังเล​หล่ะ? ”

ฉินซีเม้มปาก​:” ฉันไม่ได้​ลังเล​ว่า​จะ​รับการขอร้อง​ของ​เขารึเปล่า​ ฉันแค่เกิด​ความไม่แน่ใจในตัวเองนิดหน่อย​เมื่อก่อนฉันรู้สึกว่าตัวเองยังห่างไกลจากการเปิดนิทรรศการ​โดยลำพัง แต่ว่าถูกพูดแบบนี้ปุ๊บฉันก็รู้สึ​กว่า​ตัวเองมีสิทธิ์​มากพอแล้ว”

ลู่เซิ่นพูดแบบยิ้มแย้ม” คุณ​ยังเป็นแบบนี้อยู่เรื่อย​ เผชิญ​เรื่องภาพถ่าย ระมัดระวัง​เกินไปแล้ว”

ฉินซีขมวดคิ้ว​เบาๆ:” ใช่หรือ?”

ลู่เซิ่นพยักหน้า​:” ตอนที่เราเพิ่งเจอกัน คุณ​ก็เฝ้าอยู่​ตรงหน้า​ภาพ​ถ่าย​ของตัวเองและกลัวว่าจะไม่มีคนชื่นชอบ​ มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เชื่อตัวเองอีก”

ฉินซีก้มหน้าก้มตา​ ไม่รู้​ว่า​จะ​พูดอะไรดี

ที่แท้เธอ……..ไม่มีความมั่นใจ​ในตัวเองมาโดยตลอด​

“ฉินซี คุณ​ทำได้เยี่ยม​มาก​จริงๆ” น้ำเสียงลู่เซิ่นตระหนัก​” คุณ​แค่คิดๆดูสิ โฆษณา​ที่คุณ​ถ่ายให้กับบริษัท​ลู่ได้รับการยอมรับมามากเท่าไหร่​แล้ว​ คุณ​ก็​น่าจะเข้าใจได้แล้ว สิ่งที่คุณทำดีกว่าสิ่งที่คุณจินตนาการ​เอาไว้เสียอีกนะ”

ฉินซีฟังน้ำเสียงที่จริงจังของเขา ชั่วขณะหนึ่ง​เกิดเขินอายขึ้น​มา พูดแบบล้อเล่น​เพื่อปกปิด​ความเขินอาย​ของตัวเอง:” ทำไมคุณ​ต้องพูดคำพูดที่จริงจังขนาดนี้ด้วยนะ”

ลู่เซิ่นก็น่าจะดูความเขินอายของเธอออก​ ไม่ได้ล้อเล่นกับเธออีกต่อไป เปลี่ยน​เรื่อง​ด้วยตัวเอง:” ไม่​พูดเรื่องนี้ล่ะ วันนี้คุณ​ไปที่โรงพยาบาลเป็นไงบ้าง​?”

ฉินซีพยายาม​ตอบแบบสบายๆและง่ายๆ ลู่เซิ่นก็ยังก้มหน้า​ก้มตาอยู่​ดี​ บนใบหน้าแสดง​ความ​ขอโทษ​ด้วย​:” ผมควรจะ​อยู่​ข้างๆคุณ”

ฉินซีผายมือ:”พูดอะไรโง่ๆ คุณ​หล่ะ ธุระ​ทางโน้น​จัดการไปถึงไหนแล้ว?”

ทั้งคู่​แลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้เห็นมาในตลอดทั้งวัน​ จนกว่าหลินหยังตะโกน​เรียกลู่เซิ่นไปประชุม​ ทั้งคู่​ถึงโบกมือ​และ​พูด​คำลา จากนั้นก็วางสายวีดีโอ​คอลไป

แต่​ว่าฉินซีไม่ได้ทำงานของตัวเองต่อไป​ใน​ทันทีทันใด แต่เปิดคอมพิวเตอร์​ออกมา​ กดเข้าไปที่โฟลเดอร์​ซึ่งตัวเองบันทึก​ภาพ​ถ่ายเอาไว้​

เธอจะไม่รับการสปอนเซอร์​ของคนคนนั้น ยังไงซะเธอมีเงินเปิดนิทรรศการ​เอง ถ้าหาก​มี​สปอนเซอร์​จริงๆ การสื่อสาร​ระหว่าง​พวกเขาต้องเสียแรงกายและแรงใจ ฉินซีไม่อยากยุ่งยาก​ขนาดนี้

เรื่องที่เธอต้องการมั่นใจมีแค่สิ่งเดียว ก็คือตัวเองพอที่จะเปิดนิทรรศการสักครั้ง​จริงๆหรือไม่​

เรื่องแบบนี้​ ลังเล​ไปก็ไม่มีประโยชน์​ วิธี​เดียว ก็คือเปิดผลงานของตัวเองทั้งหมด​ และสำรวจอย่างจริงๆจัง​ๆ

เห็นภาพ​ถ่าย​ทุกรูป ฉินซีก็จะถามตัวเองหนึ่งคำถาม:” คุณ​กล้าแขวนภาพ​ถ่ายภาพนี้​เอาไว้ในนิทรรศการ​มั้ย?

วางอยู่ตรงหน้า​ทุกคน ให้พวกเขาชมอย่างเต็มที่​ และเผชิญ​กับ​นักวิจารณ์​ที่เข้มงวดกวดขัน​ ก็จะต้องทำให้พวกเขาพูดคำพูดที่เรื่องมากออกมา​ไม่ได้​

ดูแบบนี้ไปทีละรูป และเสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง​ ฉินซีถึงกับเลือกรูปภาพ​ออกมาตั้งหลายรูป​เรียบร้อยแล้ว​

เธอดูโฟลเดอร์​ของตัวเอง ในครึ่งชั่วโมง​นี้ เธอดูผลงานของตัวเองไปแค่เศษ​หนึ่งส่วนสิบเท่านั้น

ถ้าหากมีเวลาคัดเลือก​ทุกรูป เธอน่าจะสามารถ​คัดเลือกผลงานที่เพียงพอ​ออกมา​ได้

ในใจฉินซี​เหมือน​กับลูกโป่ง​ กลายเป็นแบบ​เบาๆและสบายๆ

นานมากเมื่อในอดีต​ ตอนที่คุณปู่ยังอยู่ เขาจูงมือฉินซีไปชมนิทรรศการ​เป็นบางครั้งบางครา​ว ชมนิทรรศการ​เสร็จ​ทุกครั้ง ยังไม่พอใจ​สักที ระหว่าง​ทางกลับบ้านบ่นกับฉินซี และพูดว่า​เขาไม่มีเวลาพอ และไม่มีโอกาส​จัดงานนิทรรศการ​ให้ทุกคนได้ชมกัน

ตอนนั้นฉินซียังเด็ก เงยหน้า​ขึ้น​มา​ดูสีหน้าที่เสียใจ​ของคุณปู่ ถึงแม้​ไม่เข้าใจ​ว่า​เพราะอะไร​ แต่กลับจำได้อย่างเดี​ยวในความคิดที่ดื้อรั้น​แบบนี้เอาไว้ได้อย่างชัดเจน

เพราะฉะนั้น​ ต่อให้ในแวดวงช่างภาพ​มีการเลือกรางวัล​ไม่น้อยเลยทีเดียว​ก็ตาม และยังมีสปอนเซอร์​นิทรรศการ​ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย แต่ว่าการจัดงานนิทรรศการ​ส่วนตัว​สักครั้ง ในใจฉินซี ตั้งแต่ต้นจนจบ​มีฐานะ​ที่ต่างกัน

เธอปิดคอมพ์ออกมา​ และพูดอยู่ในใจเงียบๆ

คุณ​ปู่คะ ไม่รู้​ว่า​ท่านสามารถ​มองเห็นรึเปล่า​คะ สิ่งที่ท่านเสียใจและไม่สามารถ​ทำเสร็จ​สมบูรณ์​ หนูกำลังจะทำเสร็จ​สมบูรณ์​แทนท่านแล้ว​นะ​คะ​

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท