Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1070

ตอนที่ 1070

บทที่ 1070 เป็นการถูกทำร้ายครั้ง​ที่​สอง

ฉินซียักคิ้ว​อย่างประหลาดใจ​ และหันไปข้างๆ

เธอรู้ดีเรื่องราวบานปลาย​ แต่​ว่าคิดไม่ถึงจะถึงขั้นที่เดินออกจาก​บ้าน​อย่างเรื่อย​เปื่อย​ก็มีคนจำได้แล้ว เพียงแต่ว่าเธอไม่ชอบถูกคนอื่น​มุมดู เพราะฉะนั้น​ตั้งเสื้อคอขึ้น​มา​ ปิดหน้าตัวเองเอาไว้

ดีนะผู้พิพากษา​อเมริกา​ได้ปรากฏ​ตัวออกมา​แล้ว ทุบค้อน:” สงบ”

คำพูดนินทาชาวบ้าน​ของคนพวกนั้นในที่สุดก็หยุดไปแล้ว

เพียงแต่​ว่ายังส่งสายตามาตั้งหลายครั้ง

แต่ว่าฉินซีกะจะไม่ไปสนใจแล้ว

ฝ่ายฟ้องร้อง​กับจ้าวจิ้งต่างกลับไปที่ที่นั่งของตัวเอง ก่อนอื่นฝ่ายฟ้องพูดปัญหา​ออกมา​ก่อน:” ทนายความ​ฝ่ายถูกฟ้องกำชับว่าฝ่ายถูกฟ้องไม่รู้​เรื่อง​สักอย่าง​ แต่ว่าแค่ใช้หลักฐาน​ทุกอย่าง​ที่ฝ่ายฟ้องร้องเสนอออกมา​ในตอนนี้ ไม่สามารถ​พิสูจน์​เรื่อง​นี้ได้ทั้งหมด​”

จ้าวจิ้งหันไปพูดกับผู้พิพากษา​อย่างนิ่งๆ:” และร้อง​ขอหลักฐาน”

ผู้พิพากษา​พยักหน้า​ตอบรับ

——หลักฐาน​คือเสียงที่เห้อเสียงแอบบันทึก​เอาไว้

ส่วนที่เปิดออกมา​ท่อนนี้ หลังจาก​ที่ฉินซึ่งเทียนบีบบังคับ​และข่มขู่​เห้อเสียงถ่ายรูป​ให้กับเหยาหมิ่น และการสนทนา​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ห้องทำงานของเห้อเสียง

รอให้เสียงบันทึก​เปิดออกมา​จนจบสิ้น​เรียบร้อย​ เหตุการณ์​ข้างล่างเกิดเสียงดังขึ้นมาอย่างชุลมุน​

แต่ว่าจ้าวจิ้งกลับยังนิ่งเฉย​ ไม่ได้​สนใจ​เสียงที่ถกเถียง​กัน​ไป​มาของเหตุการณ์​ข้างล่าง หันไปพูดกับผู้พิพากษา​:” ตามที่หลักฐาน​นี้ ฝ่ายดิฉันคิดว่า​ ความผิดฐานฟอกเงิน​ของเห้อเสียงถือว่า​โมฆะ”

ในชั่วขณะหนึ่ง​ฝ่ายฟ้องร้องก็ยังไม่มีปฏิกิริยา​และการตอบโต้​

มีแต่ฉินซีที่ยังถือว่า​นิ่งสงบดี

ก่อนหน้านี้​จ้าวจิ้งเคยพูดกับฉินซี คดีของเห้อเสียงสามารถ​แบ่งสู้คดี​เป็นหลายรอบ ก่อนอื่นสู้คดี​กับฝ่ายฟ้องร้อง สู้คดี​เป็นโทษ​ไม่ผิด ซึ่งก็คือรอบที่พวกเขากำลังต่อสู้​อยู่​ในตอนนี้

รอบนี้เพื่อเป็นการบริการให้กับเห้อเสียงทั้งหมด​ โดยพื้นฐาน​แล้วไม่เกี่ยว​ข้อง​กับ​ฉินซึ่งเทียน เพียงแค่เวลาที่​เสนอหลักฐาน​ล่วงหน้า​ถึงจะมอบตัวฉินซึ่งเทียนออกไป

ส่วนที่พวกเขาต้องทำก็มีแค่ในตอนนี้​มอบหลักฐาน​ที่ฉินซึ่งเทียนฟอกเงิน​ออกไป รอให้เห้อเสียงถูกตัดสิน​ไร้ความผิด​อย่างเป็นทางการ​ หน่วยงานกำกับดูแลจะไปตรวจสอบฉินซึ่งเทียนเอง

หลังจาก​นั้นหากฉินซึ่งเทียนมีความจำเป็น​ ยังสามารถ​อยู่​หลังจากที่เห้อเสียงพลิกคดี สู้คดีการฟ้องร้อง​ทางแพ่งถึงเวลานั้นเจาะจง​ว่าจะเอาเรื่อง​ไหนมาฟ้อง ค่อยปรึกษาหารือ​กันอย่างละเอียด

คิดไม่ถึง​เห้อเสียงทางนี้ถึงกับซ่อนหลักฐาน​สำคัญที่บิดเบือน​มากถึงขนาดนี้ ทนายความ​ฝ่ายฟ้องร้อง​พูดอะไรไม่ออกในชั่วขณะหนึ่ง​ หลังจากที่​เงียบกริบ​ตั้งนานถึงเอ่ยปากออกมา​อย่างฝืนใจ​:” วิธี​ที่​ได้หลักฐาน​มาของฝ่ายถูกฟ้องถูกกฎหมาย​หรือไม่​? เสียงบันทึก​ท่อนนี้ความจริงเป็นยังไง​กันแน่?”

ผู้พิพากษา​กระแอมคอ:” ก่อนเปิดศาลฝ่ายถูกฟ้องร้อง​ได้ยื่นหลักฐาน​ หลักฐาน​ความแน่แท้​สามารถ​รับรอง”

ต่อให้เป็น​ฉินซีที่ไม่ได้ทำอาชีพ​นี้​ ก็สามารถฟังออก​ ว่าอำนาจของฝ่ายฟ้องร้อง​ทีนี้ได้อ่อนตัว​ลง​ไป​แล้ว

หลักฐาน​ที่​ตัดสิน​ความแบบนี้ออกมา​ปุ๊บ ฝ่ายฟ้องร้อง​ทางนี้เริ่มพ่ายแพ้​ ส่วนจ้าวจิ้งซึ่งได้เปรียบ​กว่า ​จึงไม่สามารถปล่อยปละละเลย​ แต่กลับบีบคั้น​อย่างสู้ไม่​ถอย​

รอให้การเชื่อมต่อ​ทุกอย่าง​เสร็จ​สมบูรณ์​ ผู้พิพากษา​ทุบค้อนปุ๊บ:” พักศาลชั่วคราว​ เชิญ​นิติกรรมแสดงความคิดเห็น”

จ้าวจิ้งฉวยโอกาส​นี้สบตาให้กับฉินซี คนหลังให้สายตาที่แน่ใจและมั่นใจ​กับเธอ

ก่อนศาลพิจารณา​ จ้าวจิ้งได้ถามฉินซี เปิดเสียงบันทึก​ท่อนไหนดีกันแน่

เพราะยังไงซะในเสียงบันทึก​ของ​เห้อเสียงล้วนเกี่ยวข้อง​กับ​เหยาหมิ่นไม่น้อยเลยทีเดียว​ จ้าวจิ้งไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ลบส่วนที่เกี่ยวข้อง​กับ​เหยาหมิ่นออกไปรึเปล่า​

แต่ว่าฉินซีกลับเรียก​ร้องเธอเปิดเสียงบันทึกที่สมบูรณ์​ออกมา​ให้หมด

เธอรู้ดี ในเสียงบันทึก​ท่อนนี้ เหยาหมิ่นไม่มีความผิดแม้แต่นิดเดียว

ที่จ้าวจิ้งกังวล​ เมื่อก่อนเธอก็เคยมีมาแล้ว

เธอก็ไม่เคยคิด ยังไงซะเรื่องของเหยาหมิ่นได้ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว พลิกออกมา​อีกครั้ง ต่อให้สามารถ​พิสูจน์​ความบริสุทธิ์​ของเหยาหมิ่น จะมีคนฉวยโอกาสดำเนินการดูถูกเหยียดหยาม​เธอ เป็นครั้งที่สอง

แค่ว่าภายหลัง เธอก็เข้าใจแล้ว

คนอื่นต้องการยัดเยียด​ข้อหา ไม่ว่ายังไงก็ตามล้วนหนีไม่พ้น

ที่เธอต้องการ เริ่มตั้งแต่ต้นจนจบ​ล้วนไม่ได้​ต้องการจะลบล้างมลทินในตัวของเหยาหมิ่น ความคิดเห็นของประชาชนที่สุ่มสี่สุ่มห้า ทุกคนล้วนถูกปิดหูปิดตา​ ถูกชักจูง​ ก็จะมีอารมณ์​ที่สอดคล้อง​ตามกันไป ไม่สามารถ​เรียกร้อง​พวกเขาให้เปิดหูเปิดตาของตัวเอง​ซะ

เธอแค่ต้องการ​คืนความบริสุทธิ์​ให้กับเหยาหมิ่นเท่านั้น​

ที่เธอต้องการคือให้นิตยสารขอโทษ​ที่เคยถูกฉินซึ่งเทียนชี้นำและลง​บทความในนิตยสาร​ และนักข่าว​ที่ฉวยโอกาส​ใส่ร้ายเธอออกมา​ขอโทษ​ด้วย​ ทำให้คนส่วนใหญ่​รู้ว่าคนที่ใจดีเคยถูกใส่ร้าย​ และผู้ห​ญิงที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลยด้วยซ้ำ

แต่ว่าคนส่วนน้อยที่ยืนหยัด​ในปองร้าย​ของตัวเอง ฉินซีไม่สนใจ และไม่อยากสนใจด้วย

ส่วนที่เลือกเสียงบันทึก​ท่อนนี้ซึ่งอยู่​ใน​ห้องทำงานของเห้อเสียง ด้านนึงพิสูจน์​ได้ว่าไร้ความผิด​ อีกด้านก็คือพิสูจน์​และคืนความบริสุทธิ์​ให้กับเหยาหมิ่นไปอีกขั้น

เธอช่วยเห้อเสียงสู้คดีนี้ ไม่ใช่ทำการกุศล​ ที่เธอต้องการ​นอกจาก​หลักฐาน​ที่​เห้อเสียงเสนอให้กับเธอเหล่านั้น และยังมีโอกาส​ที่​อาจจะ​เป็นไปได้​ ทำให้ได้รับความสนใจ​ขึ้น​มา​อีกครั้ง ชักนำสายตาของฝูงชนมาที่เรื่อง​ของ​เหยาหมิ่นอีกครั้ง

เธอเข้าใจดี​ เมื่อเทียบ​กับ​เศรษฐกิจ​ที่แห้งเหี่ยว​และน่าเบื่อหน่าย​ ความสนใจของทุกคนต้องถูก​ “คำซุบซิบ​นินทาของพวกตระกูล​ไฮโซ” เหล่านี้ดึงดูดได้ง่ายกว่าแน่นอน​อยู่แล้ว

เป็นจริงซะด้วย​ หลังจาก​ผู้พิพากษา​ประกาศ​พักศาล เสียงถกเถียง​ที่อยู่​ลับหลัง​ฉินซีจู่ๆก็ดังขึ้น​มา​

ฝูงชนที่อยู่​ในเหตุการณ์​ต่างรู้เรื่อง​ราว​ที่เกิดขึ้น​ในตระกูล​ฉินนิดหน่อย​ ทีนี้จู่ๆก็ได้ยินเสียงบันทึก​เหล่านี้ แป๊บเดียว​ก็ได้รับความสนใจ​จากพวกสอดรู้สอดเห็น​

“โธ่เอ๊ย​ ในเสียงบันทึก​นั่น ฉินซึ่งเทียนได้พูดกับฝ่ายถูกฟ้องร้อง​คนนี้ว่า คุณ​ช่วยฉันทำงานงานนึงเรียบร้อย​แล้ว​ ฉันต้องให้ค่าเหนื่อย​กับคุณ​?”

“ความหมาย​ที่​ฉันได้ยินก็คือความหมาย​นี้ เรื่องอะไร ทำไมถึงมีชื่อเหยาหมิ่นด้วย? อะไรเรียกว่า​’เรื่องของเหยาหมิ่นเรื่องนี้คุณ​ทำได้ดีมาก’? ”

” เหยาหมิ่น? ”

” แม้แต่เหยาหมิ่นคุณ​ก็ยังไม่รู้​จัก​ ก็คืออดีต​ภรรยา​ของ​ฉินซึ่งเทียนและเป็นประธา​นบริษัท​ฉินด้วย นอกลู่นอกทางถูกฉินซึ่งเทียนจับได้คาหนังคาเขา​ และยังยืมเงินไม่น้อยเลยทีเดียว​เพื่อไปเลี้ยงต้อยผู้ชาย สุดท้ายไม่มีเงินใช้หนี้​จึงต้องกระโดดตึกฆ่าตัวตาย​

” อ้อ ฉันนึกออก​แล้ว​ แต่ว่าไม่ใช่สิ………. หากเสียงบันทึก​นี้เป็นของจริง ถ้างั้นเรื่องที่เหยาหมิ่นนอกลู่นอกทาง…….หรือว่าเป็นเรื่องเท็จ? ที่ฉินซึ่งเทียนพูดว่าช่วยเขาทำงาน​

” คุณ​อย่าว่านะ มีเหตุผล​แบบนี้จริงๆ​ด้วยนะ”

” เรื่องจริงหรือเนี้ย? แต่ว่าในเมื่อ​เธอไม่ได้นอกลู่นอกทาง​ ทำไมต้องหย่าร้าง​และ​กระโดด​ตึกหล่ะ?”

” รูปถ่าย​บนเตียง​ของคุณ​ถูกแพร่หลาย​ไปในทั่วโลก​ คุณ​จะ​ไม่เสียใจหรือ? อีกอย่าง ยังติดหนี้​สินไม่น้อยเลยทีเดียว”

” ถ้างั้น​เรื่องติดหนี้มันยังไง​กัน? ”

” โธ่เอ๊ย​ นี่คาดว่าน่าจะเป็นความลับบ้านคนรวย เราจะไปรู้ได้ไง​”

“เชอะเชอะ ก่อนหน้านี้​ฉันก็รู้สึ​กว่า​หน้าตาเหยาหมิ่นไม่เหมือนคนที่นอกลู่นอกทาง​แบบมั่วๆ ถ้าหาก​ถูกพิสูจน์​แล้วว่าฉินซึ่งเทียนเป็นคนทำ ถ้างั้นก็ไม่เสียแรง​ที่ตอนนั้นฉัน​ไม่ได้ด่าตามคนอื่นเค้า”

” พอทีเถ๊อะ​ ไม่ได้ด่างั้นเหรอ ใครเป็นคนลงที่กลุ่มเพื่อนๆ………..”

ฉินซีไม่ได้ฟังต่อไปอย่างละเอียด​

แต่ว่าเธอรู้ดี ตัวเองเลือกทำสิ่งนี้ มีผลอยู่

ผ่านไปไม่นาน นิติกรรม​และผู้พิพากษา​ต่างกลับมากันแล้ว

ผู้พิพากษา​ลุกขึ้น​ เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่เข้มขรึม​:” ต่อไปประกาศ​อ่านผลการตัดสินคดี​ฟอกเงินของเห้อเสียง…….. ”

น้ำเสียงของผู้พิพากษา​ไม่ช้าและไม่เร่งรีบ​ สีหน้าท่าทาง​ของ​จ้าวจิ้งดูสบายๆและผ่อนคลาย​ แต่ว่าสายตาไม่คลาดเคลื่อน​จากผู้พิพากษา​แม้แต่​วินาที​เดียว​

หลังจาก​ไม่กี่นาที​ ในที่สุด​ผู้พิพากษา​ก็พูดคำพูดที่สำคัญที่สุดออกมา​

” ฝ่ายถูกฟ้องร้อง​ ปล่อยตัว​ในศาล

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท