Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1071

ตอนที่ 1071

บทที่ 1071 เป็นคนดี

ฉินซีดีใจ เธอเผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

แม้ทุกอย่างเป็นไปตามคาด แต่เมื่อฝันเป็นจริง เธออดตื่นเต้นไม่ได้

เหล่าบรรดาผู้ชมที่ส่งเสียงดังไร้ปฏิกิริยาแต่อย่างใด ผลลัพธ์นั้นต่างคนต่างคาดเดาได้อยู่แล้ว

จ้าวจิ้งยังคงสงบนิ่งเช่นเดิม เธอเพียงหันกลับไป ส่งสายตาให้กับฉินซี

เห้อเสียงราวถูกฟ้าผ่า นิ่งแข็งทื่ออยู่กับที่

หลังผู้พิพากษาตัดสิน การพิจารณาคดีสิ้นสุดลง บรรดาผู้ชมต่างเดินออกจากชั้นศาล เห้อเสียงยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ กระทั่งเจ้าหน้าที่เอ่ยเรียก : “ไปได้แล้ว ไปกันหมดแล้วยืนนิ่งอะไรอยู่ ไปดำเนินเอกสารซะ!”

เห้อเสียงหลุดออกจากพวัง พร้อมแหงนหน้าขึ้นอย่างงุนงง

เขาจับจ้องไปทางฉินซี พร้อมปริปากเบาๆ เสมือนต้องการเอ่ยอะไรสักอย่าง หากแต่เจ้าหน้าที่ไร้ความอดทน เร่งผลักเขาออกจากห้องด้วยมือข้างเดียว

ฉินซีเผยรอยยิ้มหวาน พร้อมเดินออกจากห้อง ด้านนอก จ้าวจิ้งยืนรอเธออยู่ก่อนแล้ว

ฉินซียกนิ้วหัวแม่มือไปทางจ้าวจิ้ง: “เก่งมาก!”

จ้าวจิ้งสับเปลี่ยนสีหน้าที่นิ่งสงบของทนาย พร้อมจับมือฉินซีขึ้นกุม : “อันที่จริงนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันว่าความด้วยตัวคนเดียว เมื่อก่อนฉันต้องมีทนายของบริษัทลู่ช่วยเหลือเสมอ! ยังดี ที่ชนะมาได้!”

ฉินซีฉีกยิ้มพร้อมตบบ่าเธอเบาๆ: “อย่างนั้นเธอก็เก่งกว่าเดิมสิ เดี๋ยวเราออกไปด้วยกัน ฉันเลี้ยงเธอเอง!”

จ้าวจิ้งพยักหน้า ด้วยความกันเอง : “ได้ แต่เรารอเห้อเสียงหน่อยเถอะ”

ฉินซีรับคำ

จ้าวจิ้งเอ่ยถามขึ้นกะทันหัน : “เมื่อกี้ที่เปิดเสียงที่อัดเอาไว้ คนนั้น…..มีปฏิกิริยาอะไรไหม?”

ฉินซีพยักหน้า : “อย่างที่ฉันเคยบอก เป็นไปตามคาด”

จ้าวจิ้งถอนหายใจอย่างโล่งอก : “ก็ดี! แล้วหลังจากนี้…..เธอเอาไงต่อ?”

ฉินซีหัวเราะออกมา : “รอผลการตัดสินคดีของเห้อเสียงออกมา ฉันจะปล่อยข่าว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคดีคือฉินซึ่งเทียน เมื่อทุกคนสนใจในคดีนี้ พวกเขาก็จะไปขุดหาสาเหตุของการเลือกเห้อเสียงเป็นแพะรับบาปเอง ถึงตอนนั้น ฉินซึ่งเทียนจะไม่เหลือชื่อเสียงอะไรอีก ไม่มีคนเชื่อในคำลวงของเขาอีก ถึงตอนนั้นค่อยเปิดเผยเรื่องของเหยาหมิ่น”

จ้าวจิ้งพยักหน้าด้วยความตะลึง : “เช่นนั้น…..”

ขณะที่ทั้งคู่หารือ เสียงฝีเท้าดังขึ้นในอีกทางหนึ่ง

เมื่อหันกลับไปมอง เป็นเห้อเสียงที่เดินเข้ามา

เจ้าหน้าที่จำจ้าวจิ้งที่เป็นที่ปรึกษาของเห้อเสียงได้ เมื่อเห็นพวกเขายืนรออยู่ เขารู้ได้ทันทีพวกเขามีเรื่องจะหาลือกัน เขาพยักหน้าเป็นการทักทาย ก่อนเดินจากไป

“พวกเธอ…..” น้ำเสียงเห้อเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “พวกเธอคิดจะให้ผมเป็นผู้บริสุทธิ์แต่แรก?”

จ้าวจิ้งที่คิดจะเอ่ย ถูกฉินซีห้ามปราม

“ก็แค่หลักฐานที่มีอยู่ชี้ว่าคุณเป็นผู้บริสุทธิ์เท่านั้น” ฉินซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หากคุณคิดถึงชีวิตในเรือนจำ พรุ่งนี้ฉันจะได้ใช้สิทธิ์การถูกละเมิดให้คุณเข้าไปอยู่ในนั้นอีกสักพัก”

เห้อเสียงเบิกตากว้าง : “อย่า!ไม่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น…..”

ฉินซียิ้มเยาะ : “คุณคิดจริงๆหรือ ว่าคุณเป็นผู้บริสุทธิ์?”

เห้อเสียงปิดปากเงียบด้วยความงุนงง

“คุณปิดบังอะไรไว้ อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้” ฉินซีหันขวับด้วยความเย็นชา “การให้คุณเป็นผู้บริสุทธิ์ง่ายกว่าลดโทษ ฉันถึงให้ทนายทำเช่นนั้น”

เห้อเสียงอดกลั้นอยู่นาน ด้วยความหวาดหวั่นกังวล : “ขอบคุณจริงๆ…..ผมแค่อยากจะมาขอบคุณ…..”

จ้าวจิ้งทำตาขาวใส่อย่างเยาะเย้ย

คนอย่างเห้อเสียงนี่มันตอแหลหน้าตาเฉยเสียจริง

ปฏิกิริยาที่เดินเข้ามาเมื่อครู่เขาต้องการว่ากล่าวถือโทษเห็นๆ เมื่อถูกฉินซีตักเตือนกลับลมเปลี่ยนทิศอย่างไว

หลังอ้ำอึ้งอยู่นานกว่าเอ่ยจบประโยค ฉินซีขัดขึ้นอย่างเบื่อหน่าย “เอาล่ะ ตอนนี้คุณไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเรา…..”

“รอเดี๋ยว!” เมื่อเห้อเสียงเห็นทีท่าเร่งรีบของเธอ เขาเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ “คุณ…..:รู้อะไรอีกไหม?”

เขากวาดสายตาไปทั่วอย่างกังวล

ในตอนแรกหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแม้แต่น้อย ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดใช้ทนาย เพียงแต่เขาเคยถูกหักหลังมาแล้วครั้งหนึ่ง ไร้ความเชื่อมั่นต่อทนายอีก จึงไม่กล้างัดหลักฐานของตนที่มีอยู่ เกรงว่าเป็นคนของฉินซึ่งเทียนอีก ฉะนั้นพยายามอยู่หลายหนแต่กลับไร้ผลลัพธ์ใดๆ

ในตอนนั้นเขาไม่เชื่อ ฉินซีและจ้าวจิ้งอ่านเกมส์ไม่ออก จะทำสำเร็จได้อย่างไร

แต่สถานการณ์ตรงหน้า ได้พิสูจน์แล้ว พวกเธอมีความสามารถ

เขาจึงไม่กล้าดูแคลนพวกเธออีก ไม่กล้าสงสัยในตัวฉินซีอีก

เธอบอกว่าเธอมีหลักฐาน หลักฐานอะไรกันแน่…..

เห้อเสียงที่ไร้ความเชื่อมั่นอยู่แล้ว เขารู้ดีธุรกิจตนนั้นไม่ถือว่าขาวสะอาดจริงๆนั่นแหละ หากตรวจสอบจริงจังขึ้นมา คงได้อะไรไม่น้อย

ในเวลานี้เขาอยากรู้ใจจะขาด ฉินซีกุมอะไรไว้ในมือกันแน่

แต่ชัดเจนนัก ฉินซีไม่ต้องการให้ตัวเขาได้ล่วงรู้

“คุณทำอะไรไว้บ้าง ไม่รู้หรือไง?” ฉินซีหัวเราะอย่างเย็นชา “คราวนี้คุณรอดมาได้ เป็นความโชคดีของคุณ คราวหน้าหากคุณยังทำแบบนั้นอีก ฉันไม่รับรองว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

เห้อเสียงยันตัวลุกขึ้นยืนตรง : “ผมสัญญา ต่อจากนี้ผมจะไม่หน้ามืดตามัวทำอะไรแบบนั้นอีก!”

ฉินซีไม่ตอบรับคำใดๆ เธอลากจ้าวจิ้งเดินหายลับตาไปอีกทาง!

ฉินซีเปลี่ยนสีหน้าเย็นชาเมื่อครู่ ส่งเสียงหัวเราะให้กับจ้าวจิ้ง : “ฉันไม่รู้อะไรเลย”

“อ้าว!” จ้าวจิ้งส่งเสียงอย่างตะลึง : “เพราะงั้นเมื่อกี้เธอแค่…..?”

“ฉันหลอกเขา” ฉินซีเอ่ยแทนเธอจนจบประโยค “คนอย่างเห้อเสียง เจ้าเล่ห์หลอกลวง ธุรกิจของเขาไม่มีทางขาวสะอาดอยู่แล้ว ดูก็รู้ การได้รู้จักฉินซึ่งเทียนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผู้ที่เดินริมน้ำรองเท้าจะไม่เปียกได้อย่างไร”

จ้าวจิ้งพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

ฉินซีเสริมต่อ : “แม้บทสนทนาในเทปดูเหมือนว่าเขาไม่รู้เรื่องกับแผนการของฉินซึ่งเทียน แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาเสแสร้งหรือไม่ ที่เขาทำเช่นนี้ เพราะสิ่งที่จะได้รับ จากคำมั่นสัญญาของฉินซึ่งเทียน”

จ้าวจิ้งประหลาดใจ : “ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงตัดสินใจให้เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”

ฉินซีหัวเราะ : “ฉันบอกไปแล้วนี่ เทียบกับแผนการเมื่อครู่ที่ตัดสินให้เขามีความผิด เธอลองคิดดู ให้เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ง่ายกว่าหรือ”

จ้าวจิ้งไตร่ตรอง ก่อนพยักหน้า

ฉินซีตบบ่าเธอ : “เช่นนั้น สู้แบบนี้ แม้เขาจะถูกปล่อยตัว แต่เขากลับรู้สึก มีมีดเล่มหนึ่งในมือฉันที่สามารถแทงเขาได้ตลอดเวลา สู้กับคนอย่างเขา ต้องใช้วิธีนี้ ให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยตลอดเวลา เขาถึงได้ยอมใช้ชีวิตอย่างสงบ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท