Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1078

ตอนที่ 1078

บทที่ 1078 เสงี่ยมเจียมตัว

ฉินซีไร้กะจิตกะใจสนใจฉินหว่าน สิ่งที่เธอควรพูดเธอได้พูดกับหลี่เหวยไปหมดแล้ว ตอนนี้ทุกสิ่งอยู่ในกำมือเธอ อย่าว่าแต่ หลี่เหวย หากคนที่มาหาเธอวันนี้เป็นฉินซึ่งเทียน เธอก็ไม่หวั่น

ส่วนการทะเลาะกับฉินหว่านและหซู่หนานที่ไร้ค่า เธอไม่สนใจเข้าร่วมด้วยหลอก

เธอหันหลังเตรียมเดินหนี ฉินหว่านกลับรั้งข้อมือเธอเอาไว้ : “จะรีบไปไหน! ฉินซี ฉันอยากรู้จริงๆ หัวใจของแกทำมาจากหินหรือไง! คุณพ่อล้มป่วยเพราะเรื่องที่เธอทำ แม่ฉันต้องล้างหน้าด้วยคาบน้ำตาทุกวัน แม่แกกระโดดตึก แกไม่พอใจ แต่แกแก้แค้นด้วยวิธีนี้ โหดร้ายไปหน่อยหรือเปล่า!”

ฉินซีสลัดหลุดออกจากพันธนาการ แต่ฉินหว่านจับเอาไว้แน่น เธอได้แต่หันหน้ากลับ จ้องมองฉินหว่าน : “เธอดูแม่เธอคุกเข่าต่อหน้าฉัน ฉันดูแม่ฉันกระโดดตึก ไม่ยอมให้ฉันแก้แค้นอย่างนั้นหรือ?”

ฉินหว่านถูกแดกดัน เธอพูดไม่ออก ฉินซีได้โอกาสสลัดแขนจนหลุดออก

“เธออาจจะไม่รู้ ฉินซึ่งเทียนกับแม่เธอทำอะไรไว้บ้าง ฉันจะถือว่าเธอไม่รู้ไม่ผิด ฉันไม่คิดจะทำอะไรเธอแต่แรกอยู่แล้ว แต่ว่าฉินหว่าน ถ้าเธอยังดื้อด้านต่อไป ฉันไม่รับรองว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

“บ้าไปแล้ว!แกมันบ้าไปแล้ว!” ฉินหว่านโมโหกระฟัดกระเฟียด ถลึงตาโต ชี้หน้าด่าฉินซี “ยังไงฉินซึ่งเทียนก็เป็นพ่อแก! แกพูดจาไร้หัวใจแบบนี้ได้ยังไง!”

ฉินซีหัวเราะออกมา : “เธอนี่มันลูกในไส้หลี่เหวยไม่ผิดเพี้ยน แม้คำพูดยังเหมือนกันเป๊ะได้ขนาดนี้”

ไม่รอให้ฉินหว่านได้มีโอกาสปริปาก เธอกล่าวเสริม : “ ฉันไม่ได้ผลักฉินซึ่งเทียนลงเหวก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่เขาทำให้ฉันเกิดมาแล้ว แน่นอน สิ่งที่เขาจะได้รับต้องเจ็บปวดกว่าการกระโดดตึกหลายเท่า”

ฉินหว่านต้องการตอบโต้ แต่กลับถูกหซู่หนานรั้งเอาไว้

หลี่เหวยผ่านศึกเมื่อครู่ เธอดูแก่ลงอย่างมาก เธอรั้งฉินหว่านเอาไว้ด้วยสภาพไร้เรี่ยวแรง

“ฉันมีคำถามสุดท้าย ฉินซี ทำไมนัดฉันที่นี่?” หลี่เหวยเอ่ยถามขึ้นกะทันหัน

ฉินซีที่กำลังเดินจากไป เมื่อได้ยินคำถาม เธอหัวเราะออกมา : “คุณ ไม่รู้หรือไง?”

หลี่เหวยปิดปากแน่น

รีสอร์ทชิงหยวน ไม่เพียงแต่เป็นที่ของลู่เซิ่นและเธอในตอนนี้ แถมยังเป็นที่ที่คุณท่านฉินเคยอาศัยอยู่ในอดีต

คุณท่านฉินทั้งชีวิตไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของหลี่เหวย ต่อให้เขาจากโลกนี้ไปแล้ว หลี่เหวยก็ห้ามเหยียบที่นี่เป็นอันขาด

หากฉินซีกลับหลังหันในตอนนี้ ก็จะเห็นนัยน์ตาของหซู่หนานยอมสยบต่อเธอ

แต่เธอไม่เคยกลับหลังเลยแม้สักครั้ง

…..

บอดี้การ์ดหวังหารถสักคันส่งเธอกลับไป หากแต่ถูกฉินซีปฏิเสธ

เธออยากเดินเพียงลำพัง บอดี้การ์ดจึงถอยออกไปอย่างเข้าใจ

ฉินซีย่างเท้าเพียงลำพังอย่างเหม่อลอย เธอเดินมายังสถานที่ที่พบกับลู่เซิ่นครั้งแรกโดยบังเอิญ

ไม่สิ ไม่นับว่าเป็นครั้งแรก

ฉินซีเผยรอยยิ้มออกมา พร้อมนั่งลงบนหินก้อนหนึ่ง

ฉินซึ่งเทียน หลี่เหวย ฉินหว่าน หซู่หนาน

ในที่สุดเธอจะได้ลบชื่อพวกนี้ออกจากชีวิตเธอสักที

แม้ความเจ็บปวดที่พวกเขาก่อจะอยู่ในใจเธอตลอดไป แต่พวกเขาก็ได้รับความเจ็บปวดอย่างสาสมเช่นเดียวกัน

ฉินซีไม่ใช่แม่พระ เธอเลือกที่จะแก้แค้น

แต่เธอก็ไม่ใช่คนเลวร้าย พวกเขาทำกับเหยาหมิ่นอย่างไร เธอจะคืนความเจ็บปวดนั้นเท่าตัวให้กับพวกเขา แค่นั้นเพียงพอแล้ว

จากนี้ เธอมีชีวิตของตัวเอง ไม่สมควรเสียเวลากับเรื่องพวกนี้อีก

…..

ฉินซีออกมาอย่างเร่งรีบ เธอไม่ได้พกโทรศัพท์ออกมาด้วย

เมื่อเธอกลับถึงบ้าน เปิดโทรศัพท์ มีสายเรียกเข้ามากมายที่เธอไม่ได้รับ เป็นสายของอานหยันทั้งหมด

คงเห็นข่าวในโลกออนไลน์ ถึงได้ติดต่อเธอ

ฉินซีไม่รอช้า เธอโทรกลับทันที

“ฉินซี!” อานหยันรับสายในทันที “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ฉินซีเข้าใจในความหมายของเธอ เธอส่ายหน้า “เปล่านี่”

อานหยันถอนหายใจอย่างโล่งอก : “ก็ดี…..แต่ว่า เรื่องแม่ของเธอกระจายไปทั่ว นี่มันไม่เหมือนกับที่เราได้คุยกันก่อนหน้านี้”

ฉินซีเม้มริมฝีปาก : “ใช่ มีการเปลี่ยนแปลง ฉันจะอธิบายให้เธอฟังเดี๋ยวนี้”

อานหยันพยักหน้า : “ได้”

มือข้างหนึ่งของฉินซีตบโต๊ะอย่างไม่ตั้งใจ “ในเมื่อนักข่าวเพ่งความสนใจไปที่เหยาหมิ่น งั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลา ไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้ เผยแพร่ข้อมูลที่ฉันให้เธอก่อนหน้านี้ได้เลย”

อานหยันตกใจ? “ไวขนาดนี้เลย?”

ฉินซีพยักหน้า : “พรุ่งนี้เที่ยง ฉันจะจัดงานแถลงข่าว ฉันจะเล่าให้นักข่าวได้รับรู้อย่างละเอียดเอง”

อานหยันลังเล : “เธอจะพูดเองหรือ? แต่ว่า…..เธอจะรู้ได้ยังไงว่าบริษัทฉินจะไม่มีแผนการอะไร? หากพวกเขาแว้งกัดเธอล่ะ?”

ฉินซีหัวเราะ : “เวลาของฉินซึ่งเทียนไม่มากแล้ว หลังจบการตัดสินเมื่อวัน ฉันได้ข่าวว่า วันนี้ช่วงบ่าย ตำรวจออกหมายจับฉินซึ่งเทียนแล้ว”

อานหยันตกใจ : “วันนี้ช่วงบ่าย? ไวขนาดนี้เลย?”

ฉินซีน้ำเสียงเรียบเฉย : “อานหยัน นี่เป็นข่าวที่ฉันให้แค่เธอคนเดียว เธอจะรอช้าอยู่ทำไม”

อานหยันรีบเร่ง : “ฉันวางก่อน! เดี๋ยวโทรกลับไป!”

ไม่ทันที่ฉินซีได้เอ่ยใดๆ โทรศัพท์ถูกตัดสายทิ้งไปเสียก่อน

ฉินซีจับจ้องโทรศัพท์ พร้อมเผยรอยยิ้ม

ตำรวจออกหมายเรียก ไม่ใช่เธอได้ยินจากศาล เธอรับรู้จากลู่เซิ่น

ต่อให้มีหลักฐานจาก เห้อเสียง ฉินซึ่งเทียนคอรัปชั่นเงินแถมยังส่ายร้ายผู้อื่น แต่หากเป็นไปตามขั้นตอนของศาล ไม่เร็วขนาดนี้หลอก

ตระกูลลู่มีอำนาจมากเพียงแค่สะบัดมือ เลื่อนคดีนี้ให้เร็วขึ้น ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

วันนี้ได้ยินจากหลี่เหวย ฉินซีรู้ได้ทันที ช่วงบ่ายตำรวจได้ดำเนินการแล้ว

แม้ตระกูลฉินพบเจออุปสรรคแต่ใช่ว่าไร้เส้นสาย มีคนคิดเล่นงานฉินซึ่งเทียน แม้หยุดไม่ได้ ก็สามารถเตือนล่วงหน้าได้

หลี่เหวยจึงมาขอความช่วยเหลือจากเธอ

คำแนะนำทั้งหมดของฉินซีก็คือ “ยอมรับชะตากรรมซะ”

เธอหวังว่าหลี่เหวยจะเข้าใจความหมายในประโยค

นิสัยของคนตระกูลฉิน หากทางนี้ไม่สำเร็จ หลบหนีใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

ตระกูลฉินธุรกิจใหญ่โตนำไปไม่ได้ แต่หากฉินซึ่งเทียนคิดหนี ก็แค่คนคนเดียว

แต่ฉินซีกับตระกูลลู่ จะปล่อยให้เขาได้ใจได้อย่างไร

หากฉินซึ่งเทียนเสงี่ยมเจียมตัว ยอมให้ตำรวจตรวจสอบแต่โดยดี ทางด้านนักข่าวก็จะเป็นไปได้ด้วยดี

ยังไงซะก่อนหน้านี้บริษัทฉินก็ถูกคณะกรรมการตรวจสอบ อย่างมากพวกเขาแค่คิดว่านี่เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่ง

หากเขาอยู่เฉยๆ ตำรวจก็จะมีความทรงจำที่ดีต่อเขา

แต่ถ้าเขาหลบหนี ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท