Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1090

ตอนที่ 1090

บทที่ 1090 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ในจิตใต้สำนึกของลู่เซิ่น เขามั่นใจว่าหลินยี่จะบอกความจริง

หลินยี่เติบโตมาในทีม และนี่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นบ้านของเขา

เขาจะนอกใจทหารได้อย่างไร โกหกทหารได้ยังไง

หลินยี่มองไปที่สีหน้าประหลาดใจของลู่เซิ่น และก็อดยิ้มไม่ได้ “นายคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดใช่มั้ย แต่ทำไมฉันต้องพูดล่ะ แม้ว่าคนเหล่านั้นจะมาหานายแล้วยังไง ยังไงทหารอย่างเราก็ต้องปกป้องผู้บริสุทธิ์อยู่แล้ว ถ้าให้พวกเขารู้ ก็จะต้องเกิดการหาผลประโยชน์มากมาย และหมอที่ช่วยฉันปิดบังก็จะเดือดร้อนไปด้วย ไม่ว่ายังไง การไม่พูดก็เป็นสิ่งดีที่สุด”

แม้ว่าหลินยี่จะพูดด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลาย แต่ลู่เซิ่นก็รู้ว่าเขาต้องแสร้งทำอยู่ไม่น้อย

“นายยังเก็บหมายเลขความปลอดภัยที่ฉันให้ไว้อยู่ไหม” ลู่เซิ่นพูดขึ้นมาทันที

หลินยี่คิดไม่ถึงว่าเขาจะเปลี่ยนหัวข้อกะทันหันอย่างนี้ แต่เขาก็พยักหน้าโดยไม่รู้ว่าทำไม “เก็บไว้อยู่”

“ถ้าอย่างนั้นก็เก็บไว้ดีๆล่ะ” ลู่เซิ่นพูดเสียงดัง “แม้ว่านายจะไม่ได้พูด แต่ยังไงนายจะช่วยชีวิตฉัน แถมยังเก็บความลับไว้ ดังนั้นครั้งนี้ถือว่าฉันเป็นหนี้บุญคุณนายแล้ว จากนี้ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร เพียงแค่นายโทรเบอร์นี้มา ฉันจะช่วยนายแน่นอน”

ในเวลานั้นเสียงของลู่เซิ่นยังคงแหบแห้งเพราะอยู่ในช่วงแตกหนุ่ม

แก้มบนใบหน้าของหลินยี่ยังคงไม่หายไป ยังคงมีเค้าโครงของเด็กอยู่

เด็กวัยหัวเลี้ยวหัวต่อสองคนให้คำสัญญากันภายในวอร์ดที่มืดมิด คำสัญญาแบบเด็กๆ รักษามิตรภาพของพวกเขามากว่าสิบปีโดยไม่น่าเชื่อ

ต่อมาชีวิตของหลินยี่ก็ไม่ราบรื่น และทรมานมาก แต่เขาก็ไม่เคยใช้คำสัญญาที่ให้ไว้ตอนเด็ก

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เขานั่งเครื่องบินของลู่เซิ่นไปที่เมืองหนาน ก่อนที่เขาจะพูดถึงเรื่องนี้อย่างกะทันหัน

“บอกฉันหน่อยว่าหมายเลขความปลอดภัยที่นายให้ฉันก่อนหน้านี้ยังมีประโยชน์อยู่มั้ย” น้ำเสียงของหลินยี่ดูเหมือนจะล้อเล่น แต่ลู่เซิ่นคิดว่าเขาเป็นคนจริงจังโดยสัญชาตญาณ

“แน่นอนว่าหมายเลขนั้นไม่มีประโยชน์แล้ว” ลู่เซิ่นกล่าว

โทรศัพท์ที่เหมือนของเล่น ที่สามารถส่งแค่ข้อความและโทรออกได้เท่านั้นเครื่องนั้น ได้พังไปตั้งแต่ที่เขาออกจากโรงพยาบาล และหมายเลขนั้นก็ติดต่อไม่ได้โดยปริยาย

แต่ลู่เซิ่นก็พูดต่อ “แต่ถ้านายต้องการ ฉันสามารถให้หมายเลขความปลอดภัยใหม่กับนายได้”

แน่นอนว่าลู่เซิ่นเดาไม่ผิด และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่หลินยี่พูดถึงเรื่องนี้

เขาขอหมายเลขรักษาความปลอดภัยใหม่จากลู่เซิ่น จากนั้นเขาก็กดหมายเลขนี้จริงๆ

และคำขอของเขาคือให้ลู่เซิ่นพาเวินจิ้งไป

นี่เป็นคำสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ของลู่เซิ่นเมื่อเขายังเด็ก และเป็นทดแทนบุญคุณหลินยี่ที่เคยช่วยตัวเอง

เขาไม่สามารถละทิ้งมิตรภาพก่อนหน้านี้ที่มีกับหลินยี่ได้ แต่เขาไม่สามารถละทิ้งฉินซีได้เช่นกัน

ลู่เซิ่นตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

วันรุ่งขึ้นฉินซีตื่นเช้ามาก

ดังนั้นเมื่อเธอลืมตา ลู่เซิ่นก็เพิ่งตื่นเช่นกัน

“อรุณสวัสดิ์”

เธอพูด และตระหนักได้ว่าเธอไม่ได้พูดคำนี้กับลู่เซิ่นมานานแล้ว

ลู่เซิ่นดูแปลกใจเล็กน้อย “วันนี้ตื่นเช้าจัง”

ฉินซีพยักหน้า และลุกขึ้นนั่ง “เมื่อวานนอนเร็วน่ะ”

อันที่จริงมันเป็นเพราะเธอนอนไม่หลับเมื่อคืนก่อน และเมื่อคืนฝืนไม่ไหว จึงได้หลับไปแต่หัวค่ำ

ลู่เซิ่นไม่ได้พูดอะไร และเอื้อมมือไปลูบผมของเธอ “นอนเร็วๆน่ะดีแล้ว”

หลังจากพูดเสร็จเขาก็ลุกไปอาบน้ำ

ความอบอุ่นของเขายังอยู่บนขมับของฉินซี แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังรู้สึกหนาวเล็กน้อย

ความเฉยเมยของลู่เซิ่นเกิดจากความเหินห่างของคนสองคนที่ไม่ได้เจอกันนาน หรือเป็นเพราะฉินซีรู้สึกไปเองคนเดียว

ฉินซีฟังเสียงน้ำในห้องน้ำอย่างไม่สามารถหาคำตอบได้

ความรู้สึกไม่เย็นชานี้ยังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่งลู่เซิ่นทานอาหารเช้า และออกไป

ฉินซีเกือบจะแน่ใจว่าบางครั้ง ลู่เซิ่นตั้งใจที่จะหลบสายตาเธอ

เพราะอะไร

ฉินซีรู้สึกงงงวยเล็กน้อย

สำหรับเธอมีเพียงกรณีศึกษาที่ล้มเหลวของฉินซึ่งเทียน และเหยาหมิ่นเท่านั้น ที่สามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับรูปแบบความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ และฉินซึ่งเทียนไม่เคยแสดงสีหน้าเช่นนี้บนใบหน้าของเขา

เธอส่ายหน้าคลายความสงสัยลงชั่วคราว แล้วเปิดคอมพิวเตอร์อีกครั้ง

เมื่อคืนเธอง่วงมาก และหลับไปโดยไม่ได้อ่านแผนการที่ถังย่าส่งมาอย่างจริงจังถังย่าจะส่งข้อความมาถามความคิดเห็นของเธอในเวลาแปดโมงครึ่งของเช้าวันนี้ ดังนั้นฉินซีต้องรีบอ่าน

หลังจากอ่านอย่างละเอียดแล้ว เธอก็ส่งไปให้จ้าวจิ้งเพื่อยืนยันว่าไม่มีปัญหาทางกฎหมาย ฉินซีพยักหน้าเมื่อถังย่าโทรมา “แผนดี มากฉันไม่เห็นจุดบอดเลย”

“คุณพอใจก็โอเคแล้ว”ถังย่าตอบอย่างสุภาพ “งั้นฉันจะเริ่มทำตามขั้นตอนแรกโดยการช่วยคุณติดต่อแกลลอรี่แล้วนะ”

เมื่อฉินซีตอบรับ เธอก็วางสายไป

ฉินซีกำลังจะเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเลือกรูปถ่าย แต่สายตาก็ไปเห็นรูปของลู่เซิ่นบนโต๊ะเสียก่อน

คนสองคนนอนบนเตียงเดียวกัน และตื่นพร้อมกัน แต่ไม่มีโอกาสจะถามเลยว่าสามารถโชว์ภาพถ่ายได้หรือไม่รอยยิ้มขมขื่นแสดงอยู่บนปากของฉินซี

เธอสูดลมหายใจ และซ่อนอารมณ์เชิงลบเหล่านี้ไว้

แต่ก็ยังมีความไม่แน่ใจอยู่ในใจ

ถ้าลู่เซิ่น… เปลี่ยนไป ความพยายามทั้งหมดของเธอจะไม่กลายเป็นเรื่องตลกหรือ

เมื่อความคิดดังกล่าวปรากฏออกมา มันก็เหมือนวัชพืช และไม่มีทางที่จะทำความสะอาดได้

ดังนั้นตลอดทั้งเช้าที่ผ่านมา ประสิทธิภาพของฉินซีต่ำมาก จนไม่สามารถหารูปที่ถูกใจได้เลย

เธอถอนหายใจ ปิดคอมพิวเตอร์ และลุกขึ้นเพื่อจะออกไปเดินเล่น แต่ก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามา

ฉินซีไม่อยากจะเชื่อ เธอจึงลุกขึ้น และมองออกไปนอกหน้าต่าง

มันคือรถของลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นกลับมาทานอาหารกลางวันหรือ

นี่หรือเปล่าที่เรียกว่า ข้าวใหม่ปลามัน

มันอาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่ลู่เซิ่นไม่ได้กินข้าวที่บ้านนานมากแล้ว เขาเพียงแค่ปรากฏตัวเพียงสั้นๆเท่านั้น ดังนั้นความรู้สึกนี้จึงทำให้เธอตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แค่เพียงประโยคเดียวก็สามารถอธิบายความรู้สึกของเธอได้

เธอลุกขึ้นแทบจะทันที และเดินลงไปชั้นล่าง

เมื่อไปถึงหัวบันได ประตูใหญ่ก็เปิดออก

เป็นลู่เซิ่นจริงๆที่เดินเข้ามา

แต่เพียงแค่เขาหันหน้าไปคุยกับพ่อบ้าน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นฉินซีที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“ไม่ ฉันจะไม่ทานอาหารกลางวันที่บ้าน” ลู่เซิ่นพูดอย่างรวดเร็ว ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แค่กลับมาแพ็คของ เดี๋ยวออกเดินทางทันที”

ฉินซีมองไปที่ใบหน้าสมบูรณ์แบบของเขา แต่ใจกลับรู้สึกราวกับว่าโดนอะไรจ้วงแทงอย่างหนัก

หลังจากที่ลู่เซิ่นบอกพ่อบ้านเสร็จ เขาก็เงยหน้าขึ้น และเห็นฉินซียืนอยู่

“ฉินซีฉัน…” เขาชะงักไป ก่อนจะพูดต่อ “ฉันจะไปทำธุรกิจที่เมืองหนาน”

“ไปเมืองหนานอีกแล้ว” ฉินซีพยายามแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สำเร็จ “จะนานมากไหม”

ลู่เซิ่นหยุดไปอีกหลายวิ ก่อนจะลดตาลง “เวลายังไม่แน่นอน ไม่น่าจะนาน”

“ไม่นานหรอก” ฉินซีย้ำตัวเองอีกครั้ง และพยายามยกมุมปากของเธอขึ้น “อืม ตอนคุณกลับมามือซ้ายของฉันคงจะหายดี แล้วพวกเราค่อยไปเที่ยวกั

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท