Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1151

ตอนที่ 1151

บทที่ 1151 เป็นเหยื่อ

ฟางฟางไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของฉินซี แต่กลับตกอยู่ในอารมณ์ของตัวเองอย่างสมบูรณ์

“วินาทีแรกที่จ้านเซินเกิดออกมา ก็โดนเขาแย่งไป หลังจากนั้นเพราะว่าฉันเข้าผ่าตัด ทำให้ไม่มีน้ำนม เขาก็ไม่ให้จ้านเซินอยู่กับฉัน แต่กลับไปหาแม่นมมาดูแลจ้านเซิน ฉันได้เจอหน้าลูกชายหลังจากรักษาตัวหายออกมาจากโรงพยาบาล1เดือน ” แววตาของฟางฟางซ่อนความเหงาไว้ไม่ได้ “เขาถูกอุ้มไว้ในอ้อมกอดของผู้หญิงอีกคน มองแววตาของเธอที่เต็มไปด้วยความผูกพัน ตั้งแต่เขาคลอดออกมา ใกล้ชิดและกินนมของเธอ จะเรียกว่าเป็นลูกแท้ของตัวเองก็ได้” ขณะที่พูดถึงพ่อของจ้านเซินมีท่าทีที่เกินไปมากมาย แต่น้ำเสียงของฟางฟางกลับนิ่งเฉย แต่ครั้งนี้น้ำเสียงไม่สามารถซ่อนความเจ็บปวดไว้ได้

ฉินซีลังเลอยู่สักครู่ จึงยื่นมือออกไปลูบหลังเธอ

“ตอนนั้นฉันรู้ว่าจ้านเซินเป็นลูกชายของเขา เขาต้องไม่ยอมวางมือแน่ ถ้าฉันอยากเจอเขาก็ต้องอยู่ในองค์กร ดังนั้นฉันเลยไม่ลังเลอะไรมากเลยตัดสินใจในอยู่ต่อในองค์กร และได้เป็นนักทดลองคนหนึ่ง ความผูกพันของจ้านเซินกับฉันไม่ลึกซึ้ง แต่ก็ให้อภัยกันได้ ตั้งแต่เกิดเขาถูกเลี้ยงมาโดยแม่นม จากนั้นก็โตมาข้างตัวพ่อ เพราะพ่อเลี้ยงดูเติบโตมาด้วยตัวเอง ฉันที่เป็นแม่แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย แม้แต่ความรักของแม่เขาอาจจะสัมผัสได้น้อยมาก” น้ำเสียงของฟางฟางตำหนิตัวเองเล็กน้อย

ทำให้ฉินซีต้องรีบแก้ : “แต่นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณน่ะ! เพราะเขาไม่ให้คุณเข้าใกล้จ้านเซิน”

ฟางฟางส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ และไม่ได้แก้ไขอะไร

“แค่พริบตาเดียว ฉันก็อยู่ในองค์กรมาหลายปีแล้ว” เสียงของฟางฟางฟังดูห่างไกล “จริงๆ แล้วฉันดูออก เขาไม่ได้ทำอะไรผิดต่อฉัน ไม่งั้นคงไม่ปล่อยให้คนแตกต่างอย่างฉันอยู่ที่นี่นานขนาดนี้ ตอนที่จ้านเซินยังเด็กเพราะถูกเขาอบรมสั่งสอนอย่างเข้มงวดจนร้องไห้โวยวาย ฉันแอบไปปลอบเขา เขาก็ปิดตาข้างเดียวทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ฉันไม่ผ่านเงื่อนไขขององค์กรตั้งแต่ต้นแต่เขาก็ไม่เคยบังคับให้ฉันไปเรียนเสริมวิชาที่ขาดไปให้จบ เพราะท้องข้างตัวก็ไม่มีคนอื่นอีก วิธีที่ใช้กับฉันก็ไม่เคยให้ใครใช้อีก ไม่รู้ว่าเพราะรู้ว่าราคาที่ต้องจ่ายกับความรู้สึกมันมาก หรือว่าเกิดมีจิตสำนึกขึ้นมา ทั้งชีวิตนี้มีจ้านเซินเป็นลูกแค่คนเดียว”

“แต่เรื่องนี้กับความเจ็บปวดที่เขามอบให้คุณมันเทียบกันไม่ได้!” ฉินซีพูดอย่างโมโห

ฟางฟางตกใจและยิ้มออกมาน้อยๆ : “ใช่ ความลำบากของฉันเป็นเพราะเขา ความผิดเล็กน้อยพวกนี้ไม่มีอะไรทดแทนได้ กลับเป็นเครื่องมือที่ทำให้ฉันสงสัยในตัวเองในบางครั้ง สงสัย…ว่าเขาจะมีความลำบากอะไร”

ฉินซีตัดสินใจอ้าปากแก้ไขแต่กลับไปมีเสียงพูดออกมา

เธอไม่ใช่ต้นเรื่อง ความจริงแล้วเธอไม่เข้าใจอะไรเลย

เธอเคยเจอพ่อของจ้านเซิน ถึงอายุยังน้อยแต่เป็นผู้ชายที่หล่อมีรสนิยมแน่นอน

เขาทำให้ฟางฟางใจอ่อนได้ง่ายๆ ทั้งยังทำให้เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา ถ้าอย่างนั้นวิธีการเดียวกันนี้ก็ใช้กับคนอื่นได้ไม่ยาก

แต่เขากลับไม่เคยใช้อีก

ฟางฟางเห็นสีหน้างงงวยของฉินซี จึงหัวเราะเบาๆ : “แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่สงสัยอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าเขาจะรู้สึกกับฉันจริงไหม ตอนนี้เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว”

ฉินซีฟังประโยคนี้ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ : “แปลว่าอะไร?”

ฟางฟางพูดอย่างเรียบเฉย : “ที่ฉันอยู่ที่นี่ก็เป็นเพราะ…เขา”

ฉินซีตกใจตาโต

ครั้งนี้ฟางฟางคงจะมองท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉินซีออกแล้ว ดูตลกและน่าสนใจ จากนั้นจึงหัวเราะและพูดต่อ

“ฉันรู้คุณมีหน้าที่ตรวจสอบ ดังนั้นคุณก็คงรู้ว่าคนที่ลักพาตัวฉันไปครั้งนี้เป็นคนของบริษัทผลิตยาฉางเซิ่ง” ฟางฟางลดสายตาลง “ดังนั้นคุณต้องสงสัยแน่นอนว่าฉันเข้าร่วมการทดลองได้ยังไง และรู้ที่อยู่ของฉันได้ยังไง”

ฉินซีรู้สึกเสียวสันหลัง : “คุณจะบอกว่า…เขาเปิดเผยมัน?”

ฟางฟางไม่ขยับอะไร เพียงแค่พูดอย่างเรียบเฉยว่า : “คุณไม่คิดว่าหลายปีมานี้จ้านเซินดูแลองค์กรอยู่หรือไง?”

ฉินซีพยักหน้าอย่างไม่เข้าใจ

ฟางฟางยิ้ม : “คุณเคยคิดไหมว่าเขายังหนุ่มยังแน่น ทำไมถึงยอมปล่อยอำนาจของตัวเองไปง่ายๆ?”

ฉินซีอ้าปากกว้างไม่รู้จะพูดอะไรดี

ฟางฟางส่ายหน้าเบาและพูดต่อ : “จะบอกว่าไม่วางมือ ก็ไม่ถูก เขาแค่เอาอำนาจส่วนใหญ่ในมือให้จ้านเซิน แต่…อำนาจการตัดสินใจหลักยังอยู่ในมือเขา”

ฉินซีไม่รู้ว่าเธอต้องการพูดอะไร ทำได้แค่พยักหน้า

“ดังนั้น ต้องการซื้อบริษัทผลิตยาฉางเซิ่ง ก็เป็นการตัดสินใจของเขา” ฟางฟางกล่าวเสียงเรียบ

สีหน้าของฉินซีเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เธอแอบเดาในใจ แต่…เธอไม่อยากจะเชื่อ

“การวิจัยยาของบริษัทผลิตยาฉางเซิ่งมาถึงจุดคับขัน แต่ก่อนหน้านี้งานพี่พวกเขาทำนั้นสมบูรณ์แบบ ปรับแก้พื้นฐานนิดหน่อยก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ” ฟางฟางพูดต่อ “แต่สำหรับคนที่ต้องการซื้อบริษัทผลิตยาฉางเซิ่งแล้ว ถ้าพวกเขาวิจัยออกมาได้สำเร็จ หุ้นจะต้องมีราคาสูงขึ้นอีก ถึงเวลานั้นค่อยขาย เม็ดเงินที่ได้ไม่ใช่แค่ไม่กี่เท่าตัว”

“ดังนั้น…เขากำลังสร้างปัญหา?” ฉินซีถามอย่างไม่อยากเชื่อ

แต่ฟางฟางกลับพยักหน้าเบาๆ : “เขาหาวิธีการกระจายข่าวออกไปว่าเกิดข้อผิดพลาดใหญ่ขึ้นระหว่างการวิจัยยา บังคับให้พวกเขาดิ้นรนหาคนมาพิสูจน์ จากนั้นหาโอกาสกระจายเบาะแสของฉันออกไป แม้แต่…คนที่จับฉันไป เขาก็เป็นคนจัดการ”

ข่าวที่สอดคล้องกันนี้ทำให้ฉินซีตกใจจนไม่รู้จะแสดงท่าทียังไง

“ถึงแม้คนของบริษัทผลิตยาฉางเซิ่งจะติดกับแล้ว เงินที่ลงทุนมาหลายปีไม่งอกเงย พวกเขาให้คนไปสืบมาแล้วมาว่าฉันเป็นนักวิจัยด้านนี้และสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ จากนั้นจึงติดต่อกับคณะที่เขาจัดไว้ ขณะที่ฉันกำลังกลับบ้านจึงจับฉันมัดไว้และมาที่นี่” ฟางฟางยิ้มมุมปากแบบเย้ยหยัน “ตอนแรกพวกเขาพูดจาดีพยายามเกลี้ยกล่อมให้ฉันเปิดเผยข้อมูลการพัฒนาการวิจัยขององค์กร แล้วฉันจะได้กลับไปอย่างปลอดภัย แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ยอมร่วมมือก็เลยขังฉันไว้ที่นี่ ให้ข้าวน้ำกินนิดหน่อย เพื่อรอให้ฉันคิดได้เอง”

ฟางฟางหยุดพูดไปสักครู่ และยิ้มออกมาอย่าเห็นได้ชัด

“แต่ฉันไม่ได้โกหกพวกเขา จริงๆ แล้วไม่รู้อะไรเลย”

ฉินซีตกใจและเงยหน้ามองเธอ

“เขาเป็นคนปล่อยข่าว แน่นว่าเขาเองก็ต้องกลัวว่านักวิจัยตัวจริงเมื่อถูกข่มขู่แบบนี้จะเปิดเผยความลับของการวิจัยออกมา ดังนั้นเขาจึงหาคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิจัยมาเป็นเหยื่อแทน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท