Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1155

ตอนที่ 1155

บทที่ 1155 ยังไม่พอสมควร

ไม่สนใจว่าตอนนี้ภายในใจของฉินซีจะเต็มไปด้วยความอันตรายมากมาย แต่ฉินซีในตอนนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนตรงหน้าเลยสักนิด

เธอตกใจที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถจ่ายเงินได้อย่างง่ายดาย แทบจะไม่ดูรถให้ละเอียดเลย และจัดการดำเนินการ กระทั่ง…จ่ายเงินเต็มจำนวน

ฉินซีเห็นในบัญชีของตัวเองมีเงินเพิ่มขึ้นมาหลายล้าน รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย

ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะยุ่งมาก หลังจากจัดการส่งมอบเสร็จก็รีบออกไป ปล่อยให้ฉินซีกับอานหยันอยู่ที่เดิม

ดูเหมือนอานหยันจะตื่นเต้นกว่าฉินซีเล็กน้อย เธอหันไปทางฉินซีเหมือนนึกอะไรขึ้นได้และรีบพูดออกมา : “ยังมีข่าวดีอีกหนึ่งอย่างฉันลืมบอกคุณ! ผลงานของคุณขายได้แล้วน่ะ เป็นบรรณาธิการที่ฉันคุ้นเคยคนหนึ่ง ให้ราคาสมเหตุสมผล คิดว่าเงินจะโอนมาให้บัตรไม่กี่วันนี้”

ฉินซีถอนหายใจอย่างโล่งอก : “ขอบคุณมากๆ”

อานหยันตบไหล่เธออย่างสบายๆ : “ระหว่างพวกเราจะขอบคุณอะไร เขายังบอกว่า พวกเขาอยากจะถ่ายภาพทัศนียภาพของประเทศT ค่าเดินทางเบิกได้ ไปกลับน่าจะใช้เวลา 1วัน เขาสนใจรูปของคุณมาก ให้ฉันถามว่าคุณมีเวลาว่างไปไหม”

ฉินซีนึกถึงสภาพจิตใจของเหยาหมิ่น ลังเลอยู่สักครู่และไม่ได้ตอบตกลงในทันที : “ฉันต้องดูแลแม่…คุณก็รู้ หลายวันมานี้สภาพจิตเธอไม่ดีเลย”

อานหยันพยักหน้าเข้าใจ : “ได้ ฝั่งนั้นไม่รีบร้อน ยังรอเธอได้อีกหลายวัน”

ฉินซีอยากจะพูดอะไรอีก อานหยันโบกมือ ยังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงโทรก็ดังขึ้น

เขาไปรับโทรศัพท์อีกด้านหนึ่ง และกลับมาขมวดคิ้ว : “นิตยสารสังคมมีปัญหานิดหน่อย ฉันต้องกลับไปจัดการ คุณจะไปไหน? ฉันไปส่ง”

ฉินซีส่ายหน้า : “ฉันไม่รีบกลับ จะไปเดินเล่นตากลมหน่อย”

อานหยันไม่ได้บังคับอะไร จึงพยักหน้าจะเดินจากไป

ฉินซีเดินวนไปรอบๆ อย่างไร้จุดหมาย จึงขึ้นรถและวนไปรอบๆ รีสอร์ทชิงหยวน

หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น จริงๆ แล้วเธอรู้ดี

เธออยากไปดูที่ถนนเล็กๆ ตรงประตูหลังของรีสอร์ทชิงหยวน กลับได้เจอลู่เซิ่น เป็นเพราะหกล้มจนทำให้เสื้อผ้าเปียก ลู่เซิ่นพาเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คฤหาสน์ ใส่ยาที่เท้าให้ จากนั้นจึงส่งเธอกลับไป

ที่ทำให้ฉินซีประหลาดใจ ถ้าคิดถึงตอนนั้นจริงๆแล้วตอนนั้นเธอจำลู่เซิ่นไม่ได้เลย

เป็นเพราะตอนนั้นจิตใจเธอรู้สึกหดหู่เกินไปและไม่คิดจะสังเกตคนข้างตัว ยิ่งตอนนั้นที่เธอหวั่นใจต่อลู่เซิ่นในระยะเวลาสั้นๆ ก็โดนจ้านเซินสังเกตเห็น เธอถูกสะกดจิตพาตัวกลับ ดังนั้นจึงมองลู่เซิ่นโดยไม่รู้สึกคุ้นเคยเลยแม้แต่นิด

ความทรงจำช่วงนี้น่าจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่เธอเคยชิน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉินซีได้สติกลับมา รถที่ลู่เซิ่นให้มาส่งเธอก็มาจอดอยู่ตรงหน้าอพาร์ทเมนท์ที่พวกเขาอยู่แล้ว

ฉินซีลงจากรถ บอกลาคนขับรถอย่างสุภาพ ขณะที่กำลังจะเดินไปด้านใน สัมผัสที่หกก็รู้สึกถึงความอันตรายได้อย่างรวดเร็ว

“ใคร!” เธอหันหลังกลับ มองไปทางทางเดินที่ว่างเปล่าและตะโกนออกไป

ไม่มีใครตอบกลับมา แต่เธอกลับยืนอยู่ตรงที่หน้าประตูใหญ่ด้านนอก ไม่ยอมเดินเข้าไปด้านใน

ทั้งสองฝ่ายยืนอยู่ตรงนั้นไม่นาน ในที่สุดก็มีเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา : “ไม่เลวนิ ฉันคิดว่าพี่น้องของเราจะซ่อนตัวได้ไม่เลวเสียอีก”

ฉินซีไม่สนใจคำพูดของเขาและมองฝ่ายตรงข้ามอย่างเย็นชา

ผู้ชายร่างกายสูงใหญ่ 5 คน สวมเสื้อสูทสีดำ แต่คุณภาพของชุดกลับด้อยจนเห็นได้ในทันที บางคนบนข้อมือและคอใส่ทองเส้นหนา ท่าทีดูเหยียดหยาม

ผู้ชายทั้ง5คนปิดทางเดินบันไดได้สนิท และค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาฉินซี

เธอดีใจที่ไม่ได้ผลีผลามเดินเข้าไปพลางเดินถอยหลังไปอีกก้าว จนกระทั่งถอยไปจนถึงสวนเขียวนอกอาคาร จึงหยุดลง

“วิ่งทำไม พวกเราไม่ได้จะกินคุณ” ผู้ชายที่อยู่ตรงกลางพูดพลางมองฉินซี สายตาที่มองมานั้นให้ฉินซีรู้สึกอึดอัด

แต่ถ้าจะทำให้เธอกลัว พวกเรายังทำไม่ได้

“พวกคุณมาทวงหนี้จากตระกูลไหน?” เธอเงยหน้าอย่างเย็นชา เผชิญหน้ากับผู้ชายตรงหน้าอย่างมุ่งมั่น

คนคนนั้นดูประหลาดใจเล็กน้อยกับท่าทีที่แข็งกระด้าง น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และยักคิ้วไปมา : “ยังรู้ว่าติดเงินอยู่สิน่ะ? ฉันคิดว่าพวกคุณจะแกล้งตายจนถึงที่สุดไปเสียแล้ว”

ประโยคนี้ของเขา ทำให้ฉินซีมั่นใจ กลุ่มคนตรงหน้านี้ต้องเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มาเคาะประตูเมื่อสองวันก่อน

แต่อารมณ์ของเธอยังไม่อ่อนลง และยิ้มมุมปาก : “ไม่มีเงินจะเปิดประตูทำไม รอให้พวกนายมาแย่งของไปรึไง?”

ท่าทางที่ไม่เกรงกลัวของเธอทำให้คนเหล่านั้นหงุดหงิด และไม่เสแสร้งทำเป็นใจดีอีกต่อไปแต่กลับทำสีหน้านิ่ง : “ได้ ไม่ว่าคุณจะพูดยังไง แต่ตอนนี้คนอยู่ในมือฉันแล้ว ไม่มีอะไรต้องพูด เอาเงินมาสิ”

ฉินซียิ้ม : “บอกให้ฉันจ่ายก็จ่ายนี้น่ะ? ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านายเป็นคนของใคร ถ้าเป็นการขู่กรรโชกล่ะ ฉันโดนหลอกเอาเงินไปล่ะ จะไปร้องไห้กับใคร?”

คนคนนั้นที่ถูกฉินซียิ้มเยาะ ยื่นมือโยนสัญญาฉบับหนึ่งมาตรงหน้าฉินซี : “คุณลืมตาดูให้ชัดๆ บนสัญญายืมเงินนี้เขียนชื่อของพ่อเธอชัดๆ และยังมีสัญญาอีกใบที่พ่อของเธอผลักภาระให้แม่ของเธอ ในเมื่อเธออยู่กับแม่ ท่าทางเธอก็แสดงออกว่าอยากจะช่วยเธอไม่ใช่รึไง? อยากช่วยเธอ ก็คืนเงินมา!”

ฉินซีเม้มปากและหยิบสัญญาขึ้นมาดู

วันก่อนที่ตรวจสอบเอกสารดู มีสัญญาเงินกู้นี้จริง

และก็เป็นหนึ่งในสัญญาที่มีดอกเบี้ยสูงเกินความจำเป็น

ฉินซึ่งเทียนกู้เงินจากที่นี่มาเป็นระยะๆ รวมแล้วเกือบ30ล้าน ทุกเดือนดอกเบี้ยราวๆ 800,000 ยิ่งไม่ต้องพูดถึง…นี้คือวิธีการทำกำไร

ฉินซีกัดฟันแน่น เอาชนะตัวเอง ปิดสัญญาลงและเงยหน้ามองผู้ชายคนนั้น : “ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้น”

ผู้ชายคนนั้นยิ้ม : “ไม่มีเงินต้นมาคืน จ่ายดอกเบี้ยสักหน่อยก็ยังดี ไม่งั้น…จะใช้อย่างอื่นจ่ายก็ได้”

พูดจบ เขาก็มองสำรวจฉินซีอีกครั้ง : “ฉันว่า ถ้าเอาเธอไปขาย มั่นใจได้เลยว่าคืนเงินได้ไม่มีปัญหา”

ฉินซีขนลุกกับคำพูดที่น่ารังเกียจของเขา

จะให้เธอขายตัว ฆ่าเธอให้ตายดีกว่า

แต่เธอรู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้แสดงความกลัวออกมาไม่ได้ มองไปอย่างใจเย็นและไม่ยิ้ม : “คืนดอกเบี้ยไปแล้ว จะไม่มาเคาะประตูตอนเช้าไหม? เสียงดังจนนอนไม่หลับ”

ผู้ชายคนนั้นตื่นเต้นกับน้ำเสียงของเธอ จนลืมไปว่าตัวเองกำลังจะพูดอะไร จึงพ่นลมออกจากจมูกนิดหน่อย : “ปากกล้าดี คุณคืนดอกเบี้ยมาก่อน ฉันสัญญาว่าเดือนนี้จะไม่มารบกวนคุณ”

ฉินซีรอประโยคนี้จากเขา จึงรีบพูดออกไป : “นี่คุณพูดเองน่ะ ดอกเบี้ยเดือนนี้เท่าไหร่?”

ผู้ชายคนนั้นเพิ่งจะรู้ตัวว่าตกลงไปในกับดักของฉินซีแล้ว แต่จะเสียหน้าไม่ได้ จึงพูดมาว่า : “คืนมาก่อน780,000 แล้วค่อยมาคุยเงื่อนไขกับฉัน”

ฉินซีเพิ่งจะขายรถไป และยังได้เงินค่าถ่ายรูปมาแล้ว 780,000 ใช่ว่าจะจ่ายไม่ไหว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท