Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1158

ตอนที่ 1158

บทที่ 1158 อดทนต่อไม่ได้

เหมือนฉินซีจะอดทนต่อไปไม่ไหว เซถอยหลังจากจุดที่ยืนไปหลายก้าว

จริงแล้วเธอเห็นตัวอักษรที่ฟางฟางใช้เลือดเขียนทิ้งไว้อย่างชัดเจน

เขียนไม่เยอะ แต่ทุกตัวอักษรบอกถึงวิธีการลักพาตัวและทำร้ายเธอ

ในที่สุดฉินซีก็เข้าใจประโยคที่ฟางฟางพูดกับเธอแล้ว “ฉันจะทำเพื่อองค์กรครั้งสุดท้าย” คืออะไร

เธอติดต่อกับนักข่าวไว้เรียบร้อย และกระโดดตึกลงมาต่อหน้ากล้อง เขียนวิธีการตายของตัวเองไว้ และยังทิ้งข่าวที่น่าสะเทือนใจไว้อีกด้วย

ตัวอักษรที่ใช้เลือดเขียนนั่น เป็นอีกจุดดึงดูดความสนใจของผู้คน

สองเรื่องรวมกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องการกระโดดตึกฆ่าตัวตายของเธอจะไม่ใช่แค่การพาดหัวของวันพรุ่งนี้ แต่จะกระจายทั่วทั้งโซเชียลมีเดีย

และโซเชียลมีเดียจะไม่หยุดแค่การเศร้าเสียใจจากการตายของเธอเท่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขารักที่สุด คือการขุดหาสาเหตุต้นตอ

ดังนั้นพวกเขาต้องตรวจสอบได้แน่นอนถึงสาเหตุที่ฟางฟางถูกขังไว้ที่นี่

และบริษัทผลิตยาฉางเซิ่งก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

ข่าวอื้อฉาวแบบนี้ หุ้นของบริษัทต้องตกดิ่งลงแน่ และต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาได้อีก

นี้คือสิ่งที่พ่อของจ้านเซินต้องการ เวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อ

ทั้งหมดถูกจัดไว้อย่างดี ถ้าฉินซีเป็นคนที่เห็นแค่ผลประโยชน์ขององค์กร เธอจะต้องรู้สึกขอบคุณฟางฟางและช่วยจัดการ

แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่ใช่

สำหรับเธอแล้วฟางฟางมีความหมายมากที่เธอคิด

ไม่งั้นเธอคงไม่กล้าไปพบเธอ และคงไม่กล้าที่จะไปบอกลาเธอ

เธอรู้ดีว่าในใจเธอเองยังมีความหวังริบหรี่ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ราวกับว่าตัวเองไม่ได้บอกลากับเธอ ฟางฟางไม่ได้จากไปไหน

เธอแค่ไปแอบอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งของโลก ที่ทำให้ตัวเองหาไม่เจอ ไม่พบร่องรอยอะไรเท่านั้น

แต่จ้านเซินยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ที่เดิม ราวกับตกอยู่ในฝันร้าย จ้องมองโทรศัพท์ตรงหน้า

“ในเมื่อ…เธอไม่อยากอยู่ขนาดนี้” จ้านเซินพึมพำ “ต่อให้ต้องตาย ก็ไม่ยอมกลับมา”

ฉินซีไม่รู้จะอธิบายกับจ้านเซินยังไง จึงไม่ได้พูดอะไรออกไป

“นักข่าวคนนั้นขึ้นไปถ่ายรูป ถ่ายรูปข้อมูลทั้งหมดที่จะถ่ายได้ และลงมาด้านล่าง พ่อของฉันยังยืนอยู่ที่เดิม มองร่างไร้วิญญาณของฟางฟางอย่างว่างเปล่า” จ้านเซินยิ้มออกมาอย่างน่ากลัวในทันที “แต่เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของนักข่าว พ่อของฉันก็ดึงสติกลับมาได้ในทันที ตรวจสอบข้อมูลที่นักข่าวถ่ายไว้ และยังปรึกษากันอีกด้วยว่าจะรายงานยังไงให้ได้ผลดีที่สุด รอจนนักข่าวกลับไปหมดแล้ว ถึงจะโทรหาฉัน บอกข่าวที่ฟางฟางกระโดดตึกลงมาตรงหน้าเขา”

ฉินซีเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง

ครั้งที่สองแล้ว

เธอเจอคนแบบนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว

ฉินซึ่งเทียน พ่อของจ้านเซิน เหมือนกันทั้งหมด

ในใจของพวกเขามีแต่ผลประโยชน์ มีแค่ตัวเอง ผลประโยชน์ทั้งหมดก็เพื่อตัวเอง คนแรกเอาสิ่งสกปรกทั้งหลายสาดใส่อดีตภรรยา เอากระดาษสัญญาแผ่นเดียวโอนหนี้มาให้ คนที่สองปล่อยให้แม่ของลูกตัวเองนอนบนพื้นเย็นๆ รอให้ตัวเองจัดการธุระเสร็จ ค่อยไปจัดการกับร่างของเธอ

ฉินซีไม่เข้าใจคนพวกนี้เลย

ในตัวของพวกเขาจะมีหัวใจที่กำลังเต้นอยู่จริงไหม? ในสมองของพวกเขาจะมีสิ่งที่เรียกมโนธรรมอยู่ไหม?

ถ้ามีอยู่จริง ทำไมถึงทำเรื่องโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ร้ายได้?

จ้านเซินมีท่าทีดูสะเทือนใจอย่างยิ่ง ดูสูญเสียการควบคุมตัวเอง เขายังคงนั่งคุกเข่าบนพื้นและพึมพำ : “เขาไม่แม้แต่จะรอให้ฉันมาถึง ก็เดินทางออกไปแล้ว ตอนที่ฉันมาถึง มีคราบเลือดในที่เกิดเหตุ ฟางฟางนอนจมหลับตาปิดสนิท แต่มีรอยยิ้มที่ปากอยู่ในกองเลือด หรือสำหรับเธอแล้วการจากไป คือการปลดปล่อยอย่างหนึ่งสิน่ะ”

“คุณ…” ฉินซีทนดูต่อไปไม่ไหว ท่าทีของจ้านเซินตอนนี้ดูแปลกเกินไป เธอลังเลอยู่ไม่กี่วินาที จึงพูดออกไป “คุณลุกขึ้นมาก่อนเถอะ”

จ้านเซินยิ้มจางๆ และลุกขึ้น : “ฉันอยากจะบอกลากับเธอดีๆ จึงส่งเธอมาที่นี่ ฉันเดาว่า…ฉันคิดว่าคุณก็คงอยากจะบอกลาเธอจริงๆ จังๆ โดยไม่โดนคนอื่นรบกวน จึงเรียกคุณมา”

ฉินซีขมวดคิ้วและหันหน้ามองเขา

เธอรู้สึกรางๆ ว่าคำพูดของจ้านเซินจะมีความหมายอื่นซ่อนอยู่

“ตอนที่ฉันเก็บร่างของฟางฟาง พ่อฉันโทรหาฉัน” จ้านเซินแสดงสีหน้าลังเลและหยุดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หยุดไม่นาน “เขา…บอกการจัดการหลังจากนี้แบบคร่าวๆให้ฉันฟัง พรุ่งนี้เช้า ข่าวที่ตัดต่อเสร็จแล้วจะออกประกาศในทุกช่องรายการโทรทัศน์ข่าวเช้า จะเป็นการค้นหายอดนิยมในทุกแพลตฟอร์มโซเชียล เขาไม่ยอมเสียดายการตายของฟางฟาง ดังนั้นต้องทำให้เรื่องนี้ใหญ่ที่สุด ให้เธอเป็นภาพพจน์หนึ่งเดียวของการอุทิศตนเพื่อวิทยาศาสตร์ ใช้วิธีการที่ดีที่สุดนี้มากดดันบริษัทผลิตยาฉางเซิ่ง ตำรวจก็จะเข้าแทรกแซงด้วย เขาจะแถลงผลการตรวจสอบของตำรวจโดยเร็วที่สุด หลังแถลงผลการตรวจสอบ ราคาหุ้นของบริษัทผลิตยาฉางเซิ่งจะดิ่งลงอย่างแน่นอน หลังจากตกลงมาจนถึงจุดที่พวกเราตั้งไว้ ฉันถึงจะต้องออกหน้าไปเจรจากดราคาลงไปอีก และซื้อบริษัทผลิตยาฉางเซิ่งมา”

ฉินซีอดไม่ได้ที่แสดงรอยยิ้มน่าขบขัน

จริงๆ เลย ไม่ยอมที่จะเสียดายการตายของฟางฟางแม้แต่นิด

แบบนี้แหละที่จะทำให้คนที่ตายไปดูมีคุณค่าที่สุด และก็เหมาะสมกับจิตวิญญาณขององค์กร

แต่ฉินซีอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

“คุณจะทำตามความต้องการของเขาไหม?” เธอทนจนทนไม่ไหว เงยหน้ามองจ้านเซิน

ร่องรอยของความสับสนปรากฏบนใบหน้าของจ้านเซิน แทบจะไม่เข้าใจว่าทำไมฉินซีถึงถามคำถามนี้ : “การจัดการนี้…จะมีปัญหาอะไรไหม?”

ฉินซีไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ : “ทำตามแผนการต่อไป งานศพของฟางฟางคงต้องรออีกนานใช่ไหม?”

จ้านเซินหลบสายตาเธอ : “งานศพ…คุยกันตอนนี้ยังเร็วไปหน่อย ร่างกายฟางฟางต้องผ่านการตรวจสอบทางนิติวิทยา รอผลการตัดสินขั้นสุดท้าย ถึงจะมีโอกาสจัดงานศพได้ ถึงเวลานั้น ความคิดเห็นของประชาชนก็น่าจะไม่มีอะไรมากแล้ว น่าจะมีคนไม่น้อย…ที่จะมาส่งเธอ”

ตอนนี้เองฉินซีไม่มีแม้แต่แรงจะยิ้ม : “แล้วคุณตั้งใจเรียกฉันมาเพื่ออะไร?”

จ้านเซินเงยหน้ามองเธอแวบหนึ่ง : “วันนี้ฉันติดสินบนตำรวจ ให้พวกเขาเอาร่างไร้วิญญาณของฟางฟางวางไว้ที่นี่หนึ่งคืน กลัวว่า…หลังจากนี้จะไม่โอกาสได้เข้าใกล้ร่างของเธออีก กระทั่งงานศพ ก็น่าจะมีนักข่าวหลายสำนัก ฉันกลัวจะไม่มีโอกาสได้บอกลาเธอดีๆ สักครั้ง เลย…เรียกเธอมา”

ฉินซีถอนหายใจ

ที่จ้านเซินทำทั้งหมด ทำให้เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

ตำแหน่งของเขาน่าอึดอัดกว่าตัวเอง ดังนั้นพฤติกรรมก็จะค่อนข้างแบ่งแยก

ดูราวกับว่าเป็นหุ่นยนต์ที่อยากจะเป็น “มนุษย์” จริงๆ ที่พยายามเข้าใจความคิดของมนุษย์ และเลียนแบบท่าทางทั้งหมด

แต่จากก้นบึ้งของหัวใจ พฤติกรรมของเขาทั้งหมดยังคงทำตามผลประโยชน์

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท