Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1174

ตอนที่ 1174

บทที่ 1174 เธอทำได้ยังไง

“นักวิเคราะห์ทางเทคนิคบอกว่า……” หลินหยังรู้สึกได้ว่าสายตาของลู่เซิ่นกำลังจ้องมาที่ตัวเองแล้วเขาก็ได้พูดเร็วขึ้น“เส้นทางที่คุณผู้หญิงผ่านนั้น เลือกเส้นทางได้ดีพอสมควร แทบจะหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดทั้งหมด ส่วนกล้องที่ปั๊มน้ำมันและโรงแรมเล็กๆนั้นพึ่งติดตั้งเสร็จในกลางคืนนี้ คาดว่าจะจับภาพไม่ได้ กล้องวงจรที่มีก่อนหน้านั้น เธอก็หลีกเลี่ยงมันได้สำเร็จ”

เริ่มแรกที่หลินหยังได้ยินข่าวนี้ รู้สึกเหลือเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เขาทำงานให้ลู่เซิ่นมาหลายปีแล้ว ถึงแม้งานรวบรวมข่าวสารและงานเก็บความลับต่างๆจะไม่ใช่หน้าที่ของเขา แต่ก็คลุกคลีกับงานแบบนี้มาไม่น้อย ถึงจะไม่ถือว่าชำนาญแต่ก็พอเข้าใจคร่าวๆ

แต่ถ้าอยากหลีกเลี่ยงกล้องวงวจปิดทั้งหมดได้อย่างสิ้นเชิง แม้แต่เขาเอง ยังรู้สึกยากมากที่จะทำสำเร็จ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง…… ฉินซีซึ่งแทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับงานเหล่านี้เลยนะ?

เธอทำได้ยังไงกัน?

หลินหยังไม่เข้าใจ

และท่าทางของลู่เซิ่นนั้น ก็งงๆเหมือนกัน

เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองกลับมาตรวจสอบที่ประเทศF นั้น อย่างน้อยก็น่าจะได้อะไรบ้าง คิดไม่ถึงว่า เกิดความลึกลับซ่อนเงื่อนขึ้นเรื่อยๆ

ฉินซีจากไปด้วยความสมัครใจเองหรอ?

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มันยังไงกันแน่?แล้วคนที่บุกรุกเข้ามาใส่อะไรเข้าไปในโน๊ตบุ๊ค?แล้วทำไมเธอต้องใช้วิธีหลบซ่อนตัวแบบนี้?ถ้าเธออยู่กับตัวเองต่อไปไม่ได้จริงๆ ก็ควรจะพูดกันดีๆ ลู่เซิ่นคงไม่รั้งเธอไว้ไม่ให้เธอไป ฉะนั้นลู่เซิ่นไม่เข้าใจ อะไรกันแน่ที่ทำให้เธอต้องจากไป บวกกันเรื่องที่หลินหยังพึ่งพูดเมื่อกี๊ ก็มีคำถามเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคำถาม ถ้าเอเป็นคนจากไปเองแล้วรู้ได้ยังว่าควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีกล้องวงจรปิดทั้งหมดนี้ยังไง?

ถ้าหากไม่ใช่แบบนั้น แล้วกระเป๋าเดินทางที่เก็บไว้ล่วงหน้าล่ะ บอกลากับพ่อบ้าน จะอธิบายยังไง?และผู้ที่บีบบังคับเธอหรือวางยาเธอ ต้องการให้เธอทำอะไร?ทำไมต้องเป็นเธอ?

กล้องวงจรขณะที่เธอขับรถ ดูท่าทางสงบนิ่งมาก แล้วเพราะอะไรอีก?

นอกจากปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านี้แล้ว ณ ขณะนี้ยังมีปัญหาที่สำคัญกว่า:เธอไปไหน?

ลู่เซิ่นรู้สึกว่าตัวเองเหมือนถูกด้ายแห่งมูลไร้ซึ่งเหตุผลพันไปมายุ่งเหยิง เขาหาต้นเหตุไม่เจอ แต่กลับจำเป็นต้องแก้ไขมัน

หลินหยังพูดในสิ่งที่ควรพูดหมดแล้ว ลุกขึ้นพร้อมพูดว่า:“ ผมไปดูความคืบหน้าของการติดตามก่อนนะครับ”

ลู่เซิ่นโบกมือ เขาหันหลังและกำลังจะเดินออกไปทันที

ล้อเล่น มีใครบ้างดูไม่ออกว่าลู่เซิ่นเหมือนภูเขาไฟที่เตรียมจะระเบิดออกมาแล้ว สามารถเผาไหม้บริเวณรอบๆเป็นเถ้าถ่านได้ทุกเมื่อ

เขาหลบไปไกลๆดีกว่า

จู่ๆลู่เซิ่นกลับตะโกนเรียกเขาอีก:“ บนโต๊ะฝั่งนั้นมีผ้าเช็ดหน้าอยู่ผืนหนึ่ง เป็นผ้าที่ฉันพึ่งเห็นจากในห้อง นายเอาไปตรวจดูหน่อย ว่ามีคราบของของยาหลงเหลืออยู่บ้างมั้ย”

ครั้งนี้กลับเป็นหลินหยังที่ตกใจ:“ ท่านจะบอกว่า……อยู่ๆก็มีผ้าเช็ดหน้า1ผืนโผล่มาในห้องงั้นหรอ?”

ลู่เซิ่นพยักหน้า:“ ดังนั้น ฉันสงสัยว่าเป็นคนที่บุกรุกเข้ามาทิ้งไว้ และอาจเชื่อมโยงเกี่ยวกับเรื่องที่ฉินซีหายตัวไป”

หลินหยังจริงจังขึ้นมาทันที:“ ได้ครับ ผมจะให้พวกเขาเช็คดูอย่างละเอียด”

เขาเดินไปข้างโต๊ะและหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา แล้วหันหลังเดินออกไป

ในห้องเหลือเพียงลู่เซิ่นคนเดียวอีกครั้ง

เขาตรวจสอบทุกมุมห้องอย่างละเอียด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรอย่างอื่นผิดปกติ แล้วจึงหยุด

หลังจากนั้นเงยหน้าขึ้น เขาเห็นกระดาษที่พับวางอยู่บนโต๊ะ

ครั้งนี้เขาไม่ลังเล ยื่นมือไปเปิดดู

คิดไว้ไม่มีผิด ข้างในเป็นตัวหนังสือของฉินซี

……

“คุณลู่ที่รัก ถ้าหากคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ชั้นคงไปจากที่นี่แล้ว ถือโอกาสตอนนี้ ติดต่อคุณเป็นครั้งสุดท้าย ตลอดระยะเวลา1ปีที่อยู่กับคุณ หลังจากแต่งงานหลายเดือนมานี้ และยังมีหลายอาทิตย์นี้ อาศัยการดูแลของคุณ ฉันสบายดีมาก ขอบคุณที่คุณช่วยเหลือชั้นครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงแต่ว่า หากเราไม่มีวาสนาที่อยู่ร่วมกันต่อไป ฉันก็ไม่อยากรั้งคุณไว้ ก่อนหน้านี้ก็ได้เซ็นข้อตกลงการหย่าไว้แล้วความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนเหลือเพียงหนี้ต่อกันเท่านั้น ฉันทิ้งเงินจำนวนหนึ่งที่เคยยืมจากคุณไว้ในบัตรแล้ว และที่เกินออกมาอีกหลายแสนหยวนถือเป็นดอกเบี้ยนะ

จากนี้ฉันขอกล่าวลาคุณอย่างเป็นทางการเลยละกันนะ ลาก่อน”

หลินยี่แกล้งลากเสียงยาวอย่างกวนประสาท อ่านจดหมายซ้ำต่อหน้าลู่เซิ่นเป็นรอบที่สาม

แต่ลู่เซิ่นก็ไม่ได้หลับมาทั้งวันทั้งคืนแล้ว ตอนนี้อารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด อารมณ์ตรงกันข้ามกับหลินยี่ที่พึ่งเจอน้องสาวมาเมื่อคืนอย่างมีความสุข

แต่เขาก็รู้ดีว่าหลินยี่ไม่ได้ทำด้วยเจตนาร้าย เลยไม่ได้สนใจการกระทำของเขา

ช่วงนี้หลินยี่พักฟื้นได้เร็วดี หมอบอกให้ออกมาเดินรอบๆได้ เขากลับ“เดินรอบๆ”มาถึงรีสอร์ทชิงหยวน แวะมาเยี่ยมลู่เซิ่นที่เมียหนีจากไป

เขากับลู่เซิ่นเป็นพี่น้องกันมาหลายปี ระหว่างทั้งสองก็สนิทกัน ก็เลยไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เดินตรงไปที่ห้องลู่เซิ่น เคาะประตูแล้วเดินเข้าไป

เมื่อวานลู่เซิ่นนั่งอ่านจดหมายของฉินซีบนโซฟาหลายสิบรอบ เผลอหลับบนโซฟาอย่างสะลึมสะลือจดหมายก็ลอยหล่นลงมาข้างโซฟา จะไม่ให้หลินยี่มองก็คงยาก

ดังนั้นตอนเขาลืมตาขึ้นมา หลินยี่ก็ได้อ่านจดหมายของฉินซีหมดแล้ว

ดีที่เนื้อหาด้านในไม่ได้เขียนสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ หลินยี่อ่านจบแล้ว ยังให้ลู่เซิ่นได้มีที่ระบายบ้าง

“เมียนายนี่มัน……มีความคิดที่ดีนะ” หลินยี่อ่านทวนเนื้อหาจดหมายอีกครั้งจนจบ ทำเสียงกิ๊กิ๊ วิจารณ์ราวกับว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ

ลู่เซิ่นเม้มปาก:“ พอแล้วมั้ง”

จดหมายของฉินซีเขียนได้สั้นมาก เขานั่งดูทั้งคืนก็ดูไม่ออกว่ามีอะไรพิเศษนอกเหนือจากนี้

ถ้าฉินซีถูกลักพาตัวไปจริงๆ เขาเชื่อในความคิดของฉินซีดี ถ้ามีโอกาสที่จะทิ้งจดหมายฉบับนี้ไว้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เขียนเบาะแสอะไรไว้เลย

จดหมายบอกลาฉบับนี้ ดูยังไงก็เหมือนกับ……เธอได้ไตร่ตรองเรื่องที่จะจากไปไว้ก่อนแล้ว

ว่าเธอจะไปเอง

ลู่เซิ่นตบผมตัวเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

หลินยี่ก็ดูจดหมายนั้นอีกครั้ง พับเก็บ แล้ววางกลับที่โต๊ะ หันมองลู่เซิ่น

“ดังนั้นแม้แต่เธอจะจากไปด้วยตัวเองรึป่าว นายก็ไม่รู้ใช่มั้ย?”

ลู่เซิ่นมองเขาด้วยสายตาที่โกรธ:“ ใช่ !”

เดิมทีเห็นผ้าเช็ดหน้าแปลกๆผืนหนึ่ง เขามั่นใจเลยว่าฉินซีถูกลักพาตัวไป แต่ว่าตอนนี้พอเห็นจดหมายและบัตรธนาคารนี้ เขาก็ชักจะไม่แน่ใจอีกครั้ง

หลินยี่ยักไหล่:“แต่จะปล่อยเธอไปง่ายๆแบบนี้ นี่ไม่ใช่สไตล์นายหนิ”

ลู่เซิ่นหัวเราะอย่างเย็นชาทีนึง:“ ฉันไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยเธอไปแบบนี้ ไม่ว่าจะต้องลงทุนแค่ไหนก็ตาม ฉันจะตามเธอกลับมาให้ได้”

หลินยี่ไม่ได้ตอบกลับทันที ยื่นไปเคาะบัตรธนาคารสองสามที แล้วถามว่า:“ ถ้าเกิด……เธอหลบซ่อนด้วยตัวเอง ไม่ให้นายหาเธอเจอล่ะ?”

ลู่เซิ่นไม่ได้มองเขา ยื่นมือไปหยิบบัตรธนาคารกลับมา

“งั้นฉันก็จะหาเธอให้เจอ ฟังจากปากเธอเองว่าทำไมต้องไปจากฉัน และพูดให้ชัดเจน ฉันจึงจะปล่อยมือเธอไป”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท