Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1209

ตอนที่ 1209

บทที่ 1209 ปกปิด

“คุณก็รู้ว่าตอนนี้ที่คุยกับผม มันไม่มีความเสี่ยงหรืออันตรายสักนิด” ลู่เซิ่นเห็นความลังเลที่ในแววตาของถังย่าก่อนพูดต่อ “เราทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้ดี หัวหน้าของคุณจะไม่รู้อะไรเลยจริงๆ หรือ แต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะส่งคุณมาหาผม ใช่ไหมล่ะ”

ถังย่านั่งตัวตรงอีกครั้ง เธอเงยหน้าขึ้นไปมองยังลู่เซิ่น “คุณพยายามจะสื่ออะไรกันแน่คะ ประธานลู่?”

ลู่เซิ่นยักไหล่ “ผมไม่ได้มีความหมายอื่นเลย ก็แค่ปลงเท่านั้น ถังย่า คุณกับหัวหน้าองค์กรมีความสัมพันธ์กันแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้นหรือ?”

เขาไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะได้เห็นปฏิกิริยาอะไร แต่หูของถังย่ากลับปรากฏสีแดงขึ้น

เขาแค่อยากจะกวนประสาท ถังย่าให้มากที่สุด เพราะเมื่อคนๆ หนึ่งสูญเสียการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจัดการ

แต่เขาไม่คาดคิด … ว่าเขาจะจับพลัดจับผลูตีความเรื่องในใจของเธอถูก

“ประธานลู่ นี่มันเป็นเรื่องของฉัน ไม่ต้องใส่ใจหรอกค่ะ” ถังย่ารู้ตัวแล้วว่าตอนนี้เธอกำลังเสียท่า เธอคว้ากระเป๋าตัวเอง เตรียมจะไป “ฉันมีธุระต้องทำ ขอตัว——”

“คุณเห็นคนที่ตัวเองชอบ ชอบคนอื่น ทนไหวเหรอ?”ลู่เซิ่นไม่ให้โอกาสเธอจาก เขาพูดขัดจังหวะเธอ

ถังย่าตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ท่าที่จะลุกขึ้นยืนก็แช่ค้างอยู่ท่าเดิมเช่นกัน ทันใดเธอก็ล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้ เธอมองไปที่ลู่เซิ่นอย่างคาดไม่ถึง “คุณรู้?”

ลู่เซิ่นทำสีหน้าเรียบนิ่ง “ผมรู้”

ในความเป็นจริง ข้างในใจเขาไม่ได้สงบเหมือนสีหน้าที่แสดงออกมาตอนนี้สักนิด

ความคิดของเขาทั้งหมดของเพียงแค่มาจากการคาดเดาเท่านั้น

อย่างไรเสีย คนที่ใครต่างก็เรียกว่าผู้นำคนนั้นก็เหมือนจะชอบฉินซี

ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะเดาถูกหมด

“คุณก็รู้ว่าจ้านเซินชอบฉินซีขนาดนี้ แต่ก็ยังปฏิบัติกับเธออย่างดี?” ถังย่าดูเหมือนจะประหลาดใจมาก ถึงขึ้นอดที่จะพูดขึ้นมาด้วยเสียงอันดังไม่ได้

ลู่เซิ่นเลิกคิ้วขึ้นในใจ

… ปรากฏว่าผู้นำ มีชื่อว่า จ้านเซิน

ถังย่าดูเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าเธอพูดชื่อจ้านเซินขึ้นมา เธอแค่มองจ้องไปที่ลู่เซิ่นอย่างรอคำตอบ

ลู่เซิ่นสงบสติอารมณ์ของตัวเอง พยายามเรียบเรียงข้อมูลที่ได้จำมา ก่อนทำสีหน้าเรียบเฉยและพูด “จ้านเซินจะชอบหรือไม่ชอบฉินซี หรือผมจะชอบหรือไม่ชอบฉินซี มันเกี่ยวอะไรกัน? จ้านเซินชอบเธอ ผมชอบบ้างไม่ได้เหรอ? แล้วฉินซีชอบใคร ก็ยังไม่รู้”

อันที่จริงเขาแอบพูดในใจว่าคนที่ฉินซีชอบต้องเป็นเขา

ถ้าหากเธอชอบผู้นำองค์กรที่ชื่อ จ้านเซินจริงๆ จ้านเซินก็สามารถพาเธอกลับไปแบบไม่ใช่ยาด้วยซ้ำ

ถังย่าค่อยๆสงบลงเล็กน้อย ในตอนนี้ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวว่าเธอเสียอาการเพียงใดเธอกระแอมไอแก้ขัดเล็กน้อย ก่อนจะรักษาความนิ่งสงบ “ในเมื่อคุณรู้แล้ว ฉันก็จะพูดเลยแล้วกัน ครั้งนี้ที่จ้านเซินพาฉินซีกลับไป ไม่เพียงแต่เธอยังไม่ได้ทิ้งองค์กรไป อีกสาเหตุหนึ่งคือ เขาตัดใจจากฉินซีไม่ได้ ”

นี่คือสิ่งที่ลู่เซิ่นคาดไว้ก่อนหน้า ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจ แต่พยักหน้า “งั้นเหรอครับ?”

ถังย่าไม่สนใจสิ่งที่เขาตอบเธอ ดูเหมือนเธอจะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เธอหลบตาลงต่ำ ก่อนพูดด้วยเสียงเรียบๆ “อันที่จริงฉันรู้มาตลอดว่าฉินซี เธอเป็นคนพิเศษ ฉินซีเข้ามาอยู่ในองค์กรได้ ก็เป็นเพราะเขาเลือก ในระหว่างการฝึกสามปีนั้น เขาอยู่กับเธอเกือบทุกขั้นตอน หลังจากที่ฉินซีผ่านหลักสูตรทั้งหมดแล้ว งานทุกอย่างที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการของเธอจะถูกกำหนดโดยจ้านเซินเอง แม้ว่าเธอจะออกจากองค์กร แต่เขาก็เฝ้าติดตามฉินซีมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว… จู่ๆเขาก็บอกว่าเขาต้องการให้เธอกลับมา”

เมื่อเธอพูดจบ ก็เหมือนมีความครุมเครือบางๆ มันเหมือนกับอดีตมีอะไรถูกบังไว้อยู่

เพียงแค่ว่าลู่เซิ่นไม่ได้สังเกตขนาดนั้น

ถังย่าพูดข้อมูลมามากเกินไป มันทำให้เขาเข้าใจอะไรไม่ค่อยทันนัก

เขาแค่คิดว่า จ้านเซินจะแค่สนใจฉินซี แต่เขาไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรลึกซึ้งระหว่างสองคนนั้น

เขาคิดว่าเขาหึงนิดหน่อย

ในช่วงหลายปีที่พลาดไป ที่เขาไม่ได้อยู่ข้างฉินซี กลับมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่กับเธอเสมอ

และตอนนี้คนนั้นก็ยังคงอยู่กับฉินซี

เขาเอื้อมมือไปหาแก้วน้ำเพื่อนำมาจิบ พลางจัดการสงบสติอารมณ์ตัวเอง

ถังย่าเหมือนจะกลับมาจัดการอารมณ์ของตัวเองให้นิ่งได้แล้ว ดูเหมือนเธอจะพูดอะไรบางอย่างออกไปทำให้ลู่เซิ่นดูตื่นตระหนกเล็กน้อย

ลู่เซิ่นมองไปที่เธออย่างเฉยเมย ทันใดก็พูดขึ้นมา “ในเมื่อคุณชอบเขา แล้วยังจะนำคนที่เขาชอบให้กลับไปหาเขา ไม่รู้สึกทรมานหรือไง?”

รอยยิ้มขมขื่นปรากฏบนใบหน้าของถังย่า หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ส่ายหัว ไม่ได้พูดอะไร

เขารู้สึกว่าคืนนี้ได้รู้อะไรมาเยอะมากจากถังย่า อย่างน้อยฉินซียังปลอดภัย

อาจจะทรมานจากการสะกดจิตเพื่อคืนความทรงจำ แต่อย่างน้อย … ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นจุดจบที่น่ากลัวที่สุด

รู้ว่ามีองค์กรนี้ดำรงอยู่ และรู้ว่าถังย่าก็เป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กรเช่นกัน

แถมยังได้รู้อีกว่า … ผู้นำขององค์กรคนที่ดูจะสนใจฉินซีชื่อว่า จ้านเซิน

รู้มากขนาดนี้ เขาก็อดห่วงไม่ได้

แต่ยิ่งกังวลมากเท่าไหร่ ก็จะไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ

ลู่เซิ่นตระหนักถึงข้อนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรถังย่าอีก หลังจากรอให้จิตใจเธอสงบ เขาก็เปิดปากถาม “นี่ก็ดึกมากแล้ว ให้ผมไปส่งคุณไหม?”

ถังย่าส่ายหัว “คืนนี้ฉันไม่ได้ดื่ม คืนนี้ฉันขับรถมาค่ะ”

ลู่เซิ่นไม่ได้บังคับ เขาแค่มองเธอเดินออกไปจากร้านอาหาร

เขาไม่ได้ลุกขึ้นในทันที ใบหน้าค่อยๆปรากฏรอยยิ้มเย็นชา

ถังย่า… เป็นคนที่น่าทึ่งจริงๆ

เธอคิดว่าเขาดูไม่ออกหรือ ว่ามันเป็นการแสดงตั้งแต่ต้นจนจบ

ตามความรู้ความสามารถของถังย่าแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เธอไขว้เขวเพียงเพราะประโยค “คุณไม่ใช่ไม่ชอบสงครามที่มันล้ำลึกหรือ?”

ดังนั้น คำสารภาพทันทีทันใดและเรื่องราวของเธอ มันไม่ได้เกิดจากการที่เธอควบคุมความรู้สึกไม่ได้

กลับกัน มันเป็นสิ่งที่เธอเตรียมมาหมดแล้ว

คงเป็นจ้านเซินที่เตรียมอะไรแบบนี้

จ้านเซินต้องการให้เขารับรู้ผ่านเธอ ว่าตัวเองและฉินซี เป็นคู่รักกันมานาน

จ้านเซินรู้ดีว่าความเป็นเจ้าของของผู้ชายคนหนึ่งมันเข้มข้นแค่ไหน ดังนั้นจึงใช้วิธีนี้ทิ่มแทงเขา

ถ้าเกิดทำให้ตัวลู่เซิ่นสงสัยในฉินซี เขาก็ชนะแล้ว

แต่น่าเสียดาย เขาประเมินลู่เซิ่นน้อยไปหน่อย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท