Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1207

ตอนที่ 1207

บทที่ 1207 กระทบกระเทือนอย่างรุนแรง

“เมื่ออายุได้เพียงยี่สิบต้นๆ จากหญิงสาวตัวเล็กๆ ก็กลายเป็นสาวสะพรั่ง หลังจากที่เธอเข้ามาทำงานในองค์กรสิ่งต่างๆมากมายก็เกิดขึ้น อย่างแรก ผู้อาวุโสที่สำคัญของเธอที่รู้จักกันภายในองค์กรได้จากโลกไป” ถังย่าพูดให้การตายของฟางฟางเป็นเรื่องเล็กน้อย เหมือนจะเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุสำหรับเธอ “แถมยังมีเรื่องภายในบ้านอีก พ่อแม่ของเธอหย่ากัน พ่อเธอไม่เพียงเอาชู้เข้าบ้าน และยังเอาหนี้สินทั้งหมดโยนไปให้แม่ของเธอใช้อีก จนแม่ของเธอทนไม่ไหว ต้องเลือกจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดตึกตาย” แม้ว่าถังย่าจะเล่าเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ แต่น้ำเสียงของเธอก็สงบมากราวกับว่าสิ่งที่กำลังพูดถึงไม่ใช่ชีวิตมนุษย์ แต่เป็นแค่สิ่งไม่สำคัญที่ถูกโยนทิ้งไป

“เพราะเรื่องนี้มันหนักหนาเกินไป จนเธอเกือบจะกระโดดตึก” น้ำเสียงถังย่าดูเปลี่ยนไป แต่ฟังดูตำหนิมากกว่าสงสาร

“องค์กรทนไม่ได้ที่จะให้เธอรู้สึกหดหู่แบบนั้น จึงขอให้หมอปิดกั้นความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านั้นของเธอไว้ชั่วขณะ รอให้เธอดีขึ้นกว่านี้แล้วค่อยเรียกกลับมา” ถังย่าพูดต่อ “แต่ไม่คิด ว่าเธอยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะฆ่าตัวตาย เธอวิ่งไปที่ทะเลสาบที่แม่ของเธอชอบไป เพื่อที่จะกระโดดลงไปตาย แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือโดยบังเอิญ”

พูดมาถึงตรงนี้ถังย่าเงยหน้าขึ้นมองลู่เซิ่น แต่กลับไม่ได้ถามอะไร

ถังย่าเองก็ไม่ได้สนใจเช่นกันเมื่อลู่เซิ่นไม่ตอบ เธอจึงพูดต่อ “พระเอกของเรื่องนี้ก็คือคุณที่กำลังหาคนนั้น คุณฉินซี”

เมื่อเธอพูดจบ ก็ก้มลงไปจิบน้ำ

บรรยากาศพลันเงียบลง

“เรื่องนี้เกี่ยวกับการหายตัวไปของฉินซียังไง?” ลู่เซิ่นพูดออกมาในที่สุด

ถังย่ายิ้มจางๆ แต่ไม่ได้ตอบคำถามของเขาโดยตรง กลับพูดว่า “ฉันเชื่อว่าคุณฟังมาถึงตรงนี้ ไม่เข้าใจคงเป็นไปไม่ได้ การสูญเสียความทรงจำของฉินซีไม่ใช่เพราะถูกกระตุ้นจากการตายของแม่เธอ แต่เป็นเพราะพวกเราทำ มันแสดงให้เห็นถึงอะไรล่ะ? แสดงให้เห็นว่า เธอไม่รู้ว่าตัวตนของเธอเป็นอย่างไร และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอคือใคร เธอได้มาพบคุณภายในสถานการณ์แบบนั้น คนที่คุณรู้จัก ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบทุกอย่างเหมือนเธอหรอก”

ลู่เซิ่นมองไปที่เธอสักพักจากนั้นก็ยิ้มขึ้นมาทันที “ถังย่า อย่าคิดเล่นตุกติก ผมไม่ได้ต้องการให้คุณมาตัดสินวุ่นวายกับความสัมพันธ์ของเราสองคน ผมมีตา ดูเองได้ สิ่งที่คุณต้องทำ คือตอบผมมาว่าฉินซีตอนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่ ”

ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของถังย่า

เธอค่อนข้างแน่ใจว่า ถ้าเปิดเผยอดีตที่ผ่านมาของฉินซีให้ลู่เซิ่นฟังแล้ว จะทำให้คนที่มีทิฐิสูงอย่างเขาโกรธที่ถูกหักหลัง ทนไม่ได้ที่ถูกปกปิดความลับจากฉินซี

ที่เธอพูดเรื่องนี้ เพื่อตั้งใจที่จะยั่วให้ลู่เซิ่นโกรธ แค่เขาพูดอะไรรุนแรงออกมาก็ได้ ถือว่าเป้าหมายของเธอวันนี้สำเร็จ

ไม่คาดคิด ว่าความสนใจทั้งหมดของลู่เซิ่นยังคงอยู่ที่ว่าตอนนี้ฉินซีอยู่ไหน

แต่ความประหลาดใจของถังย่า ก็เกิดขึ้นเสี้ยววินาทีเดียว ก่อนเธอจะพูดตอบกลับไปอย่างเร็ว “ประธานลู่ คุณก็รู้ว่าฉินซีปกปิดคุณมากแค่ไหน ทำไมถึงไม่โกรธ และยังคงสนใจแค่ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน มันเป็นความรักที่ล้ำลึกดั่งท้องทะเลจริงๆ”

ลู่เซิ่นยิ้มบางๆ “ขอบคุณที่ชมครับ แต่ถ้าหากตอนนี้คุณยังไม่บอกผมว่าเธออยู่ไหน ผมจะทำให้รู้ว่าความรู้สึกที่ล้ำลึกเหมือนทะเลมันเป็นยังไง”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ก็เริ่มสัมผัสถึงการคุกคามจากเขาแล้ว

แต่รอยยิ้มของถังย่ากลับล้ำลึกขึ้น “ถ้าหากฉันเป็นแค่เบาะแสเดียวที่คุณหาเจอ คุณก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”

ลู่เซิ่นยักไหล่ “ลองดูไหมล่ะ?”

ท่าทีของเขาดูแข็งกร้าวขึ้นมาถังย่านิ่งไปชั่วครู่

“ประธานลู่ ความทรงจำของฉินซีตอนนี้ถูกบล็อกไว้ก็จริง แต่ยังไงเธอก็ยังเป็นคนขององค์กร ตอนนี้ดูเหมือนสภาพจิตใจของเธอจะดีขึ้นแล้ว พวกเราต้องพาเธอกลับองค์กร” ลู่เซิ่นอดไม่ได้ที่จะขำขึ้นมา “องค์กรพวกคุณจัดการเรื่องกันดีนี่ ผมลงทุนลงแรงอยู่แก้ไขปัญหาทุกอย่างของฉินซี คุณแค่พูดมาคำเดียวแค่ว่า เธอเป็นคนในองค์กรแล้วจะนำเธอไป เห็นเธอเป็นสิ่งของหรือยังไง?”

คราวนี้ถังย่าเม้มริมฝีปากของเธอแน่น “ประธานลู่จะพูดอะไรก็ไม่มีความหมายหรอกค่ะ ถ้าคุณพูดแบบนี้ก็เหมือนจะใช้ประโยชน์จากการที่ฉินซีไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับองค์กร พาเธอกลับไป ใช้ข้ออ้างเรื่องยืมเงินเพื่อให้เธอมาอยู่ข้างๆ แบบนี้มันเรียกว่าคุณธรรมสูงส่งนักหรือคะ?”

ถังย่าเป็นคนฉลาด ลู่เซิ่นยิ้มเยาะ “ผมไม่ได้บังคับให้เธอมาอยู่ข้างกาย ทุกอย่างที่ฉินซีทำเธอทำด้วยความเต็มใจที่จะทำเอง แต่พวกคุณนำตัวเธอไปด้วยยาแบบนี้ เป็นผม ผมไม่ทำหรอกนะ”

เขาโบกผ้าเช็ดหน้าในถุงปิดผนึกไปทางถังย่า

ถังย่ารู้สึกสะอึกไปชั่วขณะแต่ก็สวนอย่างรวดเร็วกลับไป “แต่ว่า ตอนที่พวกเราพาเธอไปก็แค่ใช้แค่วิธีการนี้เท่านั้น ประธานลู่ก็ตรวจสอบแล้วนี่คะ ยานี้ไม่เกิดผลอะไรกับร่างกายในอนาคตแน่นอน พวกเรามีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นในการนำเธอกลับไป ถึงอย่างไรเธอก็จำพวกเราไม่ได้ พาเธอไป มันก็ง่ายแบบนี้”

“พวกคุณพาเธอไปไว้ที่ไหน? แล้วตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง?”ลู่เซิ่นอดไม่ได้ที่จะขัดเธอ

เขาไม่ต้องการพูดคุยประเด็นอะไรกับถังย่าที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับฉินซีอีก

“ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอกค่ะ” ถังย่ายิ้ม “เรานำตัวเธอไปอยู่ที่สำนักงานใหญ่ขององค์กร และดูแลเธอเป็นอย่างดี จะไม่มีอันตรายใดเกิดขึ้นกับเธอหรอกค่ะ”

“สำนักงานใหญ่?”ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว

ถังย่าพยักหน้า “ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่องค์กรเราเป็นความลับค่ะ ขออภัยที่ไม่สามารถเปิดเผยไปมากกว่านี้”

ปากเธอพูดขออภัย แต่บนใบหน้านั้นไม่มีความรู้สึกผิดเลยสักนิด

ลู่เซิ่นรู้ดีว่าสำนักงานใหญ่ขององค์กรต่างๆส่วนใหญ่อยู่บนเกาะที่ไม่มีใครอยู่ และเป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่นที่จะหาที่ตั้งแต่เขาไม่ได้คาดหวังให้ถังย่าบอกเขาโดยตรง

เขาขมวดคิ้วและพูดต่อ “ผมจะมั่นใจได้ยังไงว่าเธอปลอดภัย”

ถังย่าเอียงศีรษะ ก่อนถามว่า “คุณต้องการหลักฐานอะไรล่ะคะ?”

ลู่เซิ่นขอร้องอย่างตรงไปตรงมา “ผมอยากคุยกับฉินซี”

ถังย่ายิ้ม พลางส่ายหัว “ขอโทษที่ฉันทำตามคำขอของคุณไม่ได้”

ก่อนที่ลู่เซิ่นจะพูดอีกครั้ง เธอก็พูดขัดขึ้นมา “เมื่อวานนี้ฉินซีเพิ่งได้รับการสะกดจิต ความทรงจำที่ถูกปิดผนึกไว้ตอนนี้กลับมาแล้ว ตอนนี้เกรงว่าเธอยังคงต้องพักผ่อนสักพัก รอเธอกลับมาฟื้นตัวดีเมื่อไหร่ ฉันจะทำตามความต้องการของคุณนะคะ”

ลู่เซิ่นหัวเราะด้วยความโกรธกับเหตุผลของเธอ

“ให้รอถึงตอนนั้น? ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่า คุณจะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นหรือเปล่า?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท