Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1221

ตอนที่ 1221

บทที่ 1221 ไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไป

เพราะด้วยความคิดแบบนี้ ทำให้ฉินซีไม่สามารถใจจดใจจ่อกับการฝึกได้

การฝึกกายภาพในช่วงบ่าย โดยปกติแล้วเธอจะไม่โดดเรียนเหมือนคลาสตอนเช้า แต่…สุดท้ายเธอก็ใจลอย

การฝึกสบายๆแบบนี้ ง่ายกว่าการฝึกในช่วงเช้า

ไม่ใช่ว่าฉินซีจำแผนการไม่ได้ เพราะแม้แต่สิ่งที่เรียนรู้จากความทรงจำครั้งก่อนก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอ แต่สิ่งที่เธอขาดก็คือกำลังของร่างกาย

เพราะอย่างนั้นการฝึกของเธอจึงเป็นการฝึกขั้นพื้นฐาน

และการฝึกแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ขี้เกียจได้ดีนัก

การเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆที่ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้ปริมาณการออกกำลังกายที่ร่างกายได้รับก็จะลดลง ทั้งยังไม่ทำให้คนรู้สึกผิด

ดังนั้นการฝึกในช่วงบ่ายจึงจบลง โค้ชผู้รับผิดชอบการฝึกกล่าวด้วยสีหน้าดูอึมครึม

ตอนที่จ้านเซินมารับเธอ เขากระซิบกระซาบกับโค้ชอยู่สองสามประโยค จากนั้นก็เดินมาที่ด้านข้างของฉินซีด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

“ฉินซี” น้ำเสียงของจ้านเซินแฝงไปด้วยการระงับความโกรธ “ทำไมเธอถึงไม่ยอมเข้าร่วมการฝึกแบบนี้ล่ะ”

น้ำเสียงของฉินซีฟังดูเหนื่อยหน่าย “ไม่ใช่ไม่ยอม…ใจมันให้แต่กำลังไปไม่ถึงต่างหาก ไม่ได้ฝึกมานานแล้ว ตอนนี้จะไปมีแรงได้ยังไง”

แต่กับจ้านเซินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะโกหกเขา เขาเพียงแค่มองเธอนิ่งๆพลางเอ่ยปาก “พอดีเลย คืนนี้ฉันจัดการให้เธอได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด รอผลตรวจออกมา ฉันก็จะรู้ ว่าขีดจำกัดทางกายภาพของเธอได้ถึงขั้นไหน”

ฉินซีรู้สึกได้ด้วยสัญชาตญาณว่าสิ่งที่เรียกว่า “การตรวจร่างกาย” นั้นต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อเธอกินอาหารเย็นเสร็จและตามจ้านเซินมายังห้องตรวจ รูม่านตาก็อดไม่ได้ที่จะหดตัว

ห้องตรวจอยู่ชั้นสิบสองในความทรงจำของเธอ เธอไม่เคยก้าวเข้ามายังสถานที่แห่งนี้

ดังนั้นที่นี่จึงเป็นที่ต่างถิ่นสำหรับเธอโดยสิ้นเชิง

ยิ่งไปกว่านั้น ห้องตรวจที่อยู่ข้างหน้าในตอนนี้ก็ดู…ใหม่มาก อย่างกับว่าเพิ่งเปิดใช้งาน

มีเตียงหนึ่งหลักวางอยู่กลางห้องขนาดใหญ่ รอบข้างล้อมรอบไปด้วยอุปกรณ์ที่ซับซ้อน

คนที่ยืนอยู่ด้านข้างเตียงและมัวใช้เครื่องมืออยู่นั้น ก็คือคนสวมชุดกาวน์ที่เคยคุ้นเคย

เวลานี้ฉินซีเพิ่งสังเกตได้ว่าถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกประทับใจคนคนนี้อยู่ก็ตาม แต่ตั้งแต่ต้นจนจบเธอยังไม่รู้จักชื่อของเขาเลย อีกทั้งยังไม่ได้ยินคำที่เอาไว้เรียกเขาจากปากจ้านเซินเลยอีกด้วย

แต่จ้านเซินไม่ได้สนใจเธอที่หยุดชะงักฝีเท้า กลับยังคงเดินเข้าไปด้านในไปยังคนสวมชุดกาวน์พลางทักทายเขาด้วยเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นก็กวักมือเรียกให้ฉินซีเดินเข้าไป

ฉินซีไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงเดินเข้าไปใกล้ด้วยสีหน้าระมัดระวัง

“คุณนอนตรงนี้” คนสวมชุดกาวน์พูดขึ้น น้ำเสียงของเขาฟังดูเรียบนิ่ง ราวกับกำลังพูดเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องกังวลอย่างไรอย่างนั้น “ขั้นตอนการตรวจนั้นง่ายมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้ต้องรู้สึกแย่เลย อาจมีไฟฟ้าช็อตที่ชีพจรเล็กน้อย แต่กระแสไฟนั้นอ่อนมาก ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บหรอก”

ฉินซีรู้สึกไว้ใจเขาอย่างน่าประหลาดใจ เธอไม่สงสัยใดๆในคำพูดของเขา

แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะล้มลงนอนบนเก้าอี้อย่างเชื่อฟัง

จ้านเซินสังเกตได้ถึงความลังเลของเธอ จึงหันไปหาฉินซี เขาเม้มปากจากนั้นจึงเอ่ยปากขึ้น “ฉันจะรับประกันความปลอดภัยของเธอเอง”

ฉินซียกมุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชา “ฉันไม่กล้าเชื่อคุณแล้ว”

ถึงจะพูดไปอย่างนั้น แต่สุดท้ายเธอก็ล้มตัวลงนอน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอจะหนีไปได้อย่างไรนั้น ตัวเธอเองก็ยังไม่มีวิธี อีกทั้งในเวลานี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องหักหน้าจ้านเซิน

ยิ่งไปกว่านั้น ยึดตามวิธีการจัดการเรื่องต่างๆของจ้านเซินในก่อนหน้านี้แล้ว หากตัวเองยืนกรานที่จะขัดขืน เขาจะมีวิธีอะไรมารับมือกับตัวเธอ เป็นสิ่งที่ฉินซีไม่อาจคาดเดาได้

เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่มีตัวเลือกอื่น

จ้านเซินเงียบอยู่นานหลังจากที่ถูกเธอพูดตัดบท ส่วนคนสวมชุดกาวน์ก็ดูเหมือนจะเพิกเฉยต่อบทสนทนาระหว่างพวกเขาสองคน ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานของตนเอง

จากนั้นไม่นาน เหนือศีรษะ ที่คอ ข้อมือและข้อเท้าของฉินซี ผิวเกือบทั้งหมดทั่วร่างกายล้วนถูกแปะด้วยแผ่นฟิล์ม

“สบายๆ ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อยแล้ว” เสียงของคนสวมชุดกาวน์ดังขึ้นในหูของฉินซี

ฉินซีมองตรงไปที่เพดานสีขาว ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

ในขณะที่เธอพยายามให้ตัวเองปล่อยวาง แต่ในความคิดกลับปรากฏเพดานสีขาวอีกอันหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ เพดานนั้นคือในห้องนอนของเธอ ที่รีสอร์ทชิงหยวน

ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูก ตอนนี้มันคือห้องนอนของลู่เซิ่นไปแล้ว

ที่แห่งนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธออีกต่อไป

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉินซีก็ขมวดคิ้วตามการตอบสนองของเงื่อนไข ทันใดนั้นเสียงของคนสวมชุดกาวน์ก็ดังขึ้น “ไม่ต้องคิดมาก ปล่อยวางความคิดของคุณ”

ฉินซีมองไปที่ด้านข้างของเขาอย่างไม่รู้ตัว แต่เพราะตำแหน่งของเธอค่อนข้างอยู่ต่ำ ทำให้เธอเห็นเพียงข้อมูลที่ปรากฏบนหน้าจอแสดงผลถูกทำเป็นเครื่องหมายสีแดง

…เพราะนึกถึงลู่เซิ่น อารมณ์ของตัวเองจึงแปรปรวนเช่นนี้

ฉินซีเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย แต่เธอก็รีบหลับตาอย่างรวดเร็วพลางล้างความคิดของตัวเอง

ไม่ว่าในใจของตัวเองจะเกิดพายุโหมกระหน่ำมากแค่ไหน แต่การเปิดเผยต่อหน้าพวกเขาก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเสียเท่าไหร่

ท้ายที่สุดแล้ว หลักการที่องค์กรนี้ยึดถือนั้นก็คือการทำให้ทุกคนกลายเป็นเป็นเครื่องจักรที่ไร้อารมณ์

ฉินซีพยายามอย่างมากที่จะปล่อยวางความคิด โดยการคิดถึงเรื่องต่างๆที่ไม่สำคัญตัวอย่างเช่นคนในเสื้อกาวน์ชื่ออะไรกันแน่ สตูเนื้อคืนนี้รสชาติแย่มาก สู้ไม่ได้เลยสักนิด…

เมื่อรู้ตัวว่าความคิดของตัวเองจะกลับไปคิดถึงรีสอร์ทชิงหยวนอีกครั้ง ฉินซีก็รีบหยุดความคิดอย่างรวดเร็ว รีบเปลี่ยนไปคิดถึงเรื่องอื่น

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เธอเกือบจะผล็อยหลับไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของคนในเสื้อกาวน์ดังเข้ามาในหู

“เรียบร้อย” น้ำเสียงของเขายังคงเฉยเมยเหมือนเช่นเคย “คุณลุกขึ้นได้แล้ว”

ฉินซีรอให้เขาถอดแผ่นโลหะออกจากตัวเอง จากนั้นก็ค่อยลุกขึ้นนั่ง

เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าจ้านเซินยังคงยืนอยู่ไม่ไกล

…นี่เขาไม่ได้ไปไหนเลยอย่างนั้นเหรอ

ฉินซีสงสัย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติ

แต่เพราะเป็นเช่นนั้น เมื่ออยู่ในสายตาคนรอบข้างแล้ว การเคลื่อนไหวของเธอดูจะหยุดนิ่ง เขาจึงเข้าไปพยุงเธอให้ลุกขึ้น

ไม่มีใครบอกว่าเธอต้องทำอะไร ฉินซีเดินสองสามก้าวไปที่อุปกรณ์เครื่องมือที่เธอเห็นเมื่อครู่นี้พลางมองสำรวจ

เธอจนปัญญา เพราะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์พวกนี้ เธอดูอยู่นานและไม่เข้าใจอะไรเลย

คนสวมชุดกาวน์ยังคงวุ่นๆอยู่กับธุระของตนเองโดยไม่สนใจคำถามของเธอ ไม่กี่วินาทีต่อมา ที่เครื่องพรินเตอร์ก็มีเอกสารออกมาสองสามแผ่น เขาหันกลับมาพร้อมกับกระดาษพลางพูดขึ้น “ผลออกมาแล้ว”

ฉินซีเงยหน้าขึ้นมองเขาก็พบว่าเขาไม่ได้กำลังมองมาที่เธอ สายตามองข้ามตัวเธอกำลังจับจ้องไปที่คนที่อยู่ด้านหลัง

ฉินซีหันหน้าไปมองตามสายตาของเขาก็พบว่าจ้านเซินเดินมาอยู่ที่ด้านหลังของเธออย่างเงียบๆ

…เขาเป็นคนที่เดินไปไหนมาไหนได้เงียบเฉียบจริงๆ

ฉินซีนึกย้อนไปถึงหลายๆครั้งที่ได้พบเจอกับจ้านเซินก็สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลนี้เชื่อถือได้

“ทักษะทุกอย่างทางกายภาพเป็นปกติ ร่างกายแข็งแรงมากๆเลยด้วย” น้ำเสียงของคนสวมชุดกาวน์ยังคงเหมือนเดิม เห็นกันโต้งๆว่าฉินซียืนอยู่ต่อหน้าเขา แต่เขากลับยื่นเอกสารเลยเธอไป ส่งให้กับจ้านเซิน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท