Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1228

ตอนที่ 1228

บทที่ 1228 เธอต้องไป

แต่ฉินซีไม่ได้พูดอะไรออกไป เธอเพียงแค่มองไปที่จ้านเซินอย่างเงียบๆโดยไม่คิดจะพูดอะไรต่ออีก พลางเดินเข้าไปในห้องพักอย่างง่ายดาย

จ้านเซินยืนมองเธออยู่ไม่นานก็หันตัวกลับ เดินออกจากฐานวิจัยใต้ดินนี้ไป

กำหนดการของวันพรุ่งนี้เป็นไปตามที่จ้านเซินกล่าวไว้ว่า เกือบทั้งหมดถูกเปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่เรียกว่า “การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา” ซึ่งมันก็คือการล้างสมองฉินซี

แต่แตกต่างจากก่อนหน้านี้ เพราะมีคนมากมายนอกจากพวกเขาในฐานใต้ดินนี้…คือบุคคลที่เพิ่งผ่านการคัดเลือกและต้องการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

คนพวกนี้มีความไว้วางใจและโหยหาองค์กรอย่างไม่อาจจะอธิบายได้ เพราะอย่างนั้นตอนเข้าคลาสเรียนจึงจริงจังเป็นพิเศษ

ซึ่งบรรยากาศนั้นแตกต่างจากคลาสเดี่ยว เพราะคลาสใหญ่เช่นนี้มีพลังในการล้างสมองที่ไม่อาจพรรณนาได้

ดังนั้นต่อให้เป็นฉินซีก็เถอะ เพียงแค่ผ่านไปสองสามวันก็นับว่ายากลำบากอยู่ไม่น้อย

…ความคิดที่เธอมีมาตลอดนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วจริงๆอย่างนั้นเหรอ

เธอเองก็ชักจะสงสัยแล้ว

แต่การแสดงออกของเหยาจ้าวนั้น นับแต่ต้นจนจบกลับไม่มีความผันผวนใดๆเลย เขาหันมองฉินซีด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นก็หันหน้าไปอย่างกำลังครุ่นคิด

สามวันต่อมา ความมุ่งมั่นของฉินซีก็ใกล้จะทลายลงเต็มที

ในใจของเธอไม่มีความรู้สึกหนักแน่นเหมือนเมื่อก่อน เพราะอย่างนั้นจึงถูกคนอื่นชักจูงได้อย่างง่ายดาย

เธอเพียงแค่อาศัยสัญชาตญาณและความเกลียดชังต่อสู้กับการถูกล้างสมอง

และยิ่งเธอแสดงออกว่าต่อต้าน สิ่งที่ได้กลับมาก็คือการล้างสมองที่ทวีคูณความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ช่วงสุดท้ายของวัน ก็ยิ่งหมดเรี่ยวแรง

เธอเดินกลับไปที่หอพักของตนเอง กลับพบกระดาษโน้ตเล็กๆที่ประตู

ฉินซีตื่นตัวขึ้นมาทันที

เธอทำท่าทีเหมือนกับว่าไม่ตั้งใจมองไปรอบๆ หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครพบกระดาษโน้ตนี้ เธอก็แสร้งเตะโน้ตเข้าไปในห้องของตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ

แม้แต่ในห้องก็มีระบบควบคุม ดังนั้นฉินซีจึงพยายามอย่างมากในการนำกระดาษเข้าไปในห้องน้ำอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ในห้องน้ำไม่มีระบบควบคุมติดตั้งไว้ฉินซีจึงกล้าที่จะคลี่โน้ตออกได้อย่างสบายใจ

ที่กระดาษโน้ตคือลายมือของเหยาจ้าว

ยิ่งภักดี ก็ยิ่งมีความหวัง

ฉินซีขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมหลังจากที่อ่านจบ

เมื่อมองแวบแรก กระดาษโน้ตแผ่นนี้ดูเหมือนมุมเล็กๆที่ถูกฉีกออกอย่างไม่ได้ตั้งใจจากบันทึกในคลาสเรียน และบังเอิญอยู่ที่นี่

แต่ฉินซีไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องบังเอิญแบบนี้

เธอหยิบโน้ตขึ้นมาอีกครั้ง จู่ๆก็คิดบางอย่างขึ้นได้ คิ้วของเธอค่อยๆคลายออก

ไม่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ เหยาจ้าวทิ้งไว้โดยไม่รู้ตัว แต่มันคือคำเตือนจากเขาต่างหาก

เช่นเดียวกับครั้งก่อนหน้านี้ สิ่งที่เขาต้องการจะสื่อคือสิ่งเดียวกัน

หากฉินซีแสดงออกว่ายอมจำนนต่อองค์กร ก็จะสามารถลดความระแวงในใจของจ้านเซิน จากนั้นถึงจะสามารถหาวิธีหนีออกไปจากที่นี่ได้

ฉินซีกัดที่ริมฝีปาก เธอกำจัดกระดาษโน้ตนั่นจนเป็นเสี่ยงๆ จากนั้นก็นั่งครุ่นคิดอยู่บนชักโครก

เธอไม่สามารถนั่งรอความตายอยู่แบบนี้ได้แน่นอน หากเป็นอย่างนี้ต่อไป เธอจะสูญเสียหัวใจนักสู้ของตนเองไปจริงๆและมันจะเป็นไปอย่างที่จ้านเซินต้องการ นั่นก็คือกลับคืนสู่องค์กรอีกครั้ง

เธอต้องไป

แต่…ก็เหมือนอย่างที่เหยาจ้าวพูด หากจะไป เธอต้องให้จ้านเซินเห็นความจริงใจของเธอเสียก่อน

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าที่นี่คือใต้ดิน แค่ด้วยทักษะในตอนนี้ของเธอก็ไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีได้ แม้ว่าจะมี แต่อัตราความสำเร็จของเธอ ยังมีชีวิตของเหยาจ้าวอยู่อีกด้วย

และถ้านี่ออกจากที่นี่ได้ แล้วจะหนีออกจากเกาะนี้อย่างไร ถ้าถูกจ้านเซินจับตัวได้บนเกาะ ชะตากรรมที่ต้องเจอจะยิ่งรุนแรงกว่าในตอนนี้

เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่สามารถหนีได้

ฉินซีจำเป็นต้องใช้ทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมในการหลอกลวงทุกคนเมื่อสองปีก่อน แต่เธอยังคงยึดติดกับความคิดของตัวเอง…คือจะไม่ยอมเป็นเครื่องจักรขององค์กร

มันยาก แต่เธอจำเป็นต้องลอง

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉินซีกำมือแน่น เธอได้ตัดสินใจแล้ว

ในคลาสเรียนวันรุ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่าการแสดงออกของฉินซีได้เปลี่ยนไป

ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าหรือท่าทาง ทั้งหมดดูจะผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด

แต่การแสดงออกเช่นนี้ของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เพราะสองสามวันก่อนหน้านี้เธอมีแนวโน้มที่ดูจะลังเลอยู่ เพราะอย่างนั้นครูที่รับผิดชอบคลาสเรียนจึงไม่แปลกใจกับการแสดงออกของเธอ

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา ฉินซีดูแตกต่างจากตอนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ๆโดยสิ้นเชิง

สีหน้าและแววตาของเธอเผยให้เห็นถึงความเฉยเมยที่คนในองค์กรคุ้นเคย ความเฉยเมยที่ราวกับว่าออกมาจากกระดูก ราวกับทำให้ร่างทั้งร่างของเธอเป็นน้ำแข็งที่เย็นยะเยือก

เหล่าครูฝึกยินดีกับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างมาก จึงแจ้งให้จ้านเซินทราบ

จ้านเซินไม่ได้มาหาฉินซีโดยตรง แต่คอยมองเธออยู่ไกลๆ สีหน้าดูจะพอใจอยู่ไม่น้อย เขาโบกมือให้เหล่าครูฝึกพลางพูดว่าให้รวบรวมผลของหลักสูตร

ฉินซีอยู่ในลักษณะนี้ เธอต้องอยู่ในฐานปฏิบัติการล้างสมองที่ใต้ดินนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน

เมื่อถึงสิ้นเดือน ดูเหมือนว่าเธอและถังย่าจะไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย

เป็นแค่หุ่นยนต์ที่เดินได้อย่างอิสระ

เหล่าครูฝึกเข้าประเมินเธอเป็นครั้งสุดท้ายและยืนยันว่าเธอได้เป็นไปอย่างที่พวกเขาต้องการเรียบร้อยแล้ว จึงไปคุยกับจ้านเซินว่าเธอสามารถออกจากฐานปฏิบัติการได้แล้ว

ที่นี่เป็นที่เอาไว้ฝึกคนที่มาใหม่ มีหลายหลักสูตรที่ฉินซีไม่จำเป็นต้องเข้าร่วม ดังนั้นการให้เธอกลับไปที่สำนักงานใหญ่ จึงเป็นการดีที่เธอจะได้แสดงศักยภาพในบทบาทของเธอได้อย่างเต็มที่

หลังจากได้รับรายงานจากเหล่าครูฝึก จ้านเซินก็มาที่ฐานปฏิบัติการด้วยตัวเอง

เขาไม่ได้มาพบฉินซีโดยตรง แต่กลับมาหาเหยาจ้าว

ดังนั้นหลังจากที่ฉินซีเลิกคลาสในวันนี้ จู่ๆ เหยาจ้าวก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ

“ฉินซี” น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ สายตามองไปรอบๆราวกับกลัวว่าจะถูกเจอเข้า “เธออยากหนีไหม”

ทักษะการแสดงของเหยาจ้าวเป็นธรรมชาติมาก จนทำให้ใจของฉินซี ที่เตรียมพร้อมมาแล้วอย่างดีถึงกับสั่นคลอน

…หรือว่าเหยาจ้าวจะมีวิธีหนีไปจากที่นี่แล้วจริงๆ

ฉินซีหรี่ตา มองสำรวจเหยาจ้าวตั้งแต่หัวจรดเท้า

การแสดงออกของเขาไม่มีพิรุธอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ทว่าฉินซีก็ยังคงรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง

เขาคอยบอกตัวเธอเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าต้องการให้เธอแสร้งทำเป็นเชื่อฟัง ใช้วิธีการได้รับความไว้วางใจในการหนีออกไป ตอนนี้จู่ๆกลับมาบอกว่าตัวเองสามารถหนีไปได้ จุดนี้มันขัดแย้งกันเกินไป

ความระมัดระวังค่อยๆเกิดขึ้นในใจของฉินซี

เธอไม่ได้ตอบคำถามของเหยาจ้าว อีกทั้งยังถามกลับด้วยสายตาเย็นชา “คุณคิดจะหนีไปยังไง”

สีหน้าของเหยาจ้าวยังคงเหมือนเดิม ความเร็วในการพูดของเขาเร็วขึ้น “ฐานปฏิบัติการนี้มีเสบียงอาหารมาสัปดาห์ละครั้ง เมื่อถึงเวลาเราจะแฝงตัวไปในทีมจัดหา แบบนี้ก็สามารถหนีไปจากที่นี่ได้แล้ว”

แผนนี้ดูท่าจะเป็นไปได้ แต่ฉินซีตัดสินใจแล้วว่าจะเชื่อความรู้สึกแรกของตนเอง… เหยาจ้าวผิดปกติ

ทำไมจู่ๆเขาถึงมาคุยเรื่องนี้กับเธอ

ทำไมจู่ๆถึงพูดเรื่องที่จะหนีไปกับเธอ

ฉินซีขมวดคิ้วด้วยความสับสน ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาในใจ…หรือว่า เขาถูกบังคับให้มาทดสอบเรา?

ถ้าเป็นเช่นนั้น ทุกอย่างก็จะดูสมเหตุสมผล

อย่างนั้นฉินซีก็ไม่ได้ถูกหลอก

ดังนั้นเธอจึงรอให้พูดจบด้วยสายตาที่เย็นชา ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปและเดินไปทางกล้องวงจรปิดบนกำแพง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท