Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1258

ตอนที่ 1258

บทที่ 1258 แค่พริบตาเดียวก็ไปแต่งงานกับคนอื่น

ตอนที่รถของลู่เซิ่นขับเข้าไปในรีสอร์ทชิงหยวนนั้น พ่อบ้านก็ยังเผยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อออกมาหลายส่วน

นับตั้งแต่ฉินซีหายตัวไป จำนวนครั้งที่ลู่เซิ่นจะกลับมารีสอร์ทชิงหยวนนั้นน้อยลงในทันที แทบจะไม่ค่อยปรากฏตัวที่นี่เท่าไร

พ่อบ้านรู้ดีแก่ใจว่า ลู่เซิ่นไม่ยินยอมกลับมาที่นี่ เพราะว่าไม่อยากเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าฉินซีหายตัวไป

ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแค่รับผิดชอบหน้าที่ดูแลรีสอร์ทชิงหยวนให้ดีอย่างซื่อสัตย์ รอลู่เซิ่นกลับมา

คิดไม่ถึงเลยว่า ผ่านไปได้ไม่นาน กลับได้ยินข่าวว่าลู่เซิ่นจะแต่งงานแล้ว

ฉินซีก็ยังไม่กลับมาเลย ลู่เซิ่นหาใครมาแต่งงานด้วยกัน

หลังจากที่พ่อบ้านพยายามสอบถามทุกวิถีทางจนทราบชื่อแล้ว ก็ยังยืนยันอยู่หลายรอบ ถึงมั่นใจว่า คู่แต่งงานของลู่เซิ่นนั้น ไม่ใช่ฉินซีจริงๆ

ชั่วพริบตาเขากลับไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถพูดอะไรได้

เห็นอยู่ชัดๆว่าลู่เซิ่นดูแล้วลืมฉินซีไม่ลง ทำไมแค่พริบตาเดียวก็ไปแต่งงานกับคนอื่นเสียอย่างนั้นล่ะ

เขาไม่สามารถจะเข้าใจได้

แต่ว่า……ไม่ว่าเขาจะไม่เชื่ออย่างไร ก็ไม่มีวิธีที่จะเปลี่ยนการตัดสินใจของลู่เซิ่นได้

เพราะว่าลู่เซิ่นแทบจะไม่กลับรีสอร์ทชิงหยวนเลย ในฐานะพ่อบ้าน เขาไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไปรบกวน

เดิมเขาเตรียมตัวเตรียมใจเรียบร้อยแล้วว่า ลู่เซิ่นจะไม่กลับมารีสอร์ทชิงหยวนอีก

สุดท้ายแล้ว……ถ้าหากว่าแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นแล้วจริงๆ บริษัทลู่ซื่อก็ไม่ได้ขาดบ้าน ฝ่ายตรงข้ามน่าจะยอมรับการมาใช้ชีวิตที่นี่ได้ยากมาก

ดังนั้นตอนที่เห็นว่าคนที่ลงจากรถเป็นลู่เซิ่นจริงๆแล้ว พ่อบ้านก็ยืนค้างอยู่ที่เดิมหลายวินาที ไม่ได้ก้าวเข้ามาต้อนรับทันทีอย่างเห็นได้น้อย

“ทำไมหรือ” ลู่เซิ่นหันมาเอ่ยกับพ่อบ้านไกลๆ “ไม่ได้กลับมาไม่กี่เดือน กระทั่งฉันก็ไม่รู้จักแล้วหรือ”

พ่อบ้านรีบก้าวขึ้นไปด้านหน้า รับเสื้อคลุมของเขามา “ไม่ครับ……ผมแค่ประหลาดใจเล็กน้อยที่คุณเลือกกลับมาในวันนี้เท่านั้นเอง”

ลู่เซิ่นไม่ได้ตอบกลับประโยคนี้ของเขา แต่เดินตรงเข้าไปด้านใน

เขาไม่ได้กลับมาเดือนกว่า รีสอร์ทชิงหยวนยังคงถูกจัดการดูแลอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่แตกต่างอะไรจากตอนที่เขาจากไป

แต่คนที่เคยอยู่ข้างกายและดูทิวทัศน์เหล่านี้กับเขาด้วยกันนั้นไม่อยู่ที่นี่แล้ว

ลู่เซิ่นหลุบตาลง ยับยั้งตัวเองไม่ให้คิดต่ออีก

เพราะลู่เซิ่นกลับมาโดยไม่ได้คาดหมาย หลังจากที่ทั้งบนและล่างของรีสอร์ทชิงหยวนเข้าสู่สภาพความตื่นเต้นแล้ว พ่อครัวก็รีบเพิ่มอาหารหลายเมนู คล้ายกับว่าอยากจะใช้อาหารมาดึงรั้งลู่เซิ่นเอาไว้

แต่ลู่เซิ่นกลับเดินตรงไปยังห้องของตัวเอง

กระทั่งภายในห้องก็ยังคงสภาพตอนที่เขาจากไปเอาไว้

ลู่เซิ่นมองไปรอบๆครั้งหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยปากถามว่า “ชุดแต่งงานล่ะ”

ชุดที่เขาพูดย่อมเป็นชุดที่สั่งตัดตามรูปร่างของฉินซีชุดนั้น

พ่อบ้านตะลึงค้าง “ทางบ้านตระกูลลู่ให้คนมาเอาไปแล้ว…….ไม่ถูกต้อง ยังไม่ได้เอาไปครับ”

เขาคิดขึ้นมาได้ในทันที

หลายวันก่อนหน้านี้มีคนติดต่อเขามาจริงๆ พูดว่าลู่เซิ่นล้วนเก็บชุดแต่งงานและแหวนไว้ที่รีสอร์ทชิงหยวน รบกวนให้เขาจัดเตรียมให้เรียบร้อย บริษัทผู้ช่วยจัดงานแต่งงานจะให้คนมารับไป

พ่อบ้านจัดเตรียมตามคำบอกแล้ว ทางนั้นกลับไม่มารับไปสักที

ที่จริงแล้วก็ไม่อาจโทษบริษัทผู้ช่วยจัดงานแต่งงานได้ พวกเขาเอ่ยถามก่อนแล้ว แต่ลู่เซิ่นแสดงให้เห็นว่า เขาเตรียมชุดแต่งงานและแหวนเรียบร้อยหมดแล้ว ดังนั้นทางบริษัทจึงไม่ได้ให้ความสำคัญ

อ้างอิงจากลำดับขั้นตอนปกติของพวกเขาแล้ว อย่างน้อยก่อนงานแต่งต้องมีการซักซ้อมลำดับขั้นตอนงานแต่งงานก่อนครั้งหนึ่ง ตอนนี้จึงจำเป็นต้องนำชุดแต่งงานและแหวนออกมา แต่ลู่เซิ่นปฏิเสธการซักซ้อม พวกเขาย่อมลืมเรื่องนี้เป็นธรรมดา

ลู่เซิ่นไม่ได้เผยสีหน้าตำหนิออกมา สีหน้าเขาเรียบเฉย น้ำเสียงฟังไม่ออกว่าดีใจหรือโกรธ “เอามาให้ฉันดูหน่อย”

พ่อบ้านรีบรับคำ ชุดแต่งงานที่ห่อเรียบร้อยแล้วถูกส่งมาห้องของลู่เซิ่นอย่างรวดเร็ว

“ถึงเวลาทานอาหารค่อยเรียกฉัน” ลู่เซิ่นที่สายตาจับจ้องชุดแต่งงานที่วางอยู่บนเตียง เอ่ยปากพูด

พ่อบ้านรู้ว่านี่หมายความว่า เขาจะอยู่กับตัวเองครู่หนึ่ง ดังนั้นจึงออกจากห้องไปอย่างรู้ความ

ประตูห้องปิดลง ในที่สุดก็เหลือเพียงแค่ลู่เซิ่นคนเดียว เขาจึงไม่จำเป็นต้องฝืนรักษาความรู้สึกสงบเยือกเย็นของตัวเองเอาไว้

ก้าวที่หนึ่ง ก้าวที่สอง เขาค่อยๆเดินไปที่เตียง เคลื่อนไหวมือออกไปอย่างช้าๆ สัมผัสกับขอบชุดแต่งงาน

ถ้าหากว่าฉินซีสวมมันล่ะก็ จะต้องงดงามมากแน่นอน

แต่ว่า……ถึงตอนนี้แล้ว เธอยังคงไม่ปรากฏตัวออกมา นั่นจะหมายความว่า……ใช่หรือไม่

ลู่เซิ่นหลับตาลง ไม่ได้คิดต่อไปอีก

เขาสามารถหยิบเอาผลประโยชน์ของคนอื่นมาเล่นบนฝ่ามือได้ เงินก้อนใหญ่เข้าและออกโดยไม่ทันได้กระพริบตา การลงทุนและแผนการกลยุทธ์ที่ในสายตาของคนอื่นดูแล้วเสี่ยงเป็นอย่างมาก แต่เขากลับมีการตระเตรียมความพร้อม สร้างความมั่นใจโดยการคิดอ่านวางแผนอย่างรอบคอบมาก่อนหน้านี้แล้ว

แต่ว่าการตัดสินใจทั้งหมดที่มีความเกี่ยวข้องกับฉินซี แม้ว่าจะเป็นตัวเขาเอง ก็ไม่มีความมั่นใจที่แน่นอน

ลู่เซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองจ้องมองชุดแต่งงานชุดนี้นานแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งพ่อบ้านเคาะประตู เขามองชุดแต่งงานเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป

…………

อีกด้านหนึ่ง ภายในฐานที่มั่นขององค์กร

ฉินซีนอนกลางวันยาวนานมาก รอจนใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว ถึงค่อยๆตื่นขึ้นมา

เมื่อเธอเดินออกไปนอกประตู ถึงพบว่าคนที่รออยู่ด้านนอกเปลี่ยนไปคนหนึ่ง

“ถังย่าหรือ” ฉินซีรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง “ทำไมถึงเป็นเธอกัน”

ถังย่ายิ้มจางๆ “ทำไม เป็นฉันไม่ได้หรือ”

เห็นรอยยิ้มสุภาพของเธอจนชินตาแล้ว ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอกะทันหัน ฉินซีก็รู้สึกไม่คุ้นชินอยู่บ้าง

เธอส่ายหน้า “ไม่ ที่จริงแล้วเมื่อเป็นเธอ ฉันก็รู้สึกว่าปกติมาก

หลังจากถูกพากลับไปที่สำนักงานใหญ่แล้ว มากน้อยอย่างไร ฉินซีก็ยังได้ยินข่าวคราวของถังย่าอยู่บ้าง บอกว่าบริษัทพีอาร์ที่เป็นฐานที่มั่นก่อนหน้านี้ถูกถอดถอนออกไปแล้ว กลับไม่ได้รับการลงโทษอะไร จ้านเซินเพียงแค่ให้เธอเปลี่ยนบริษัทใหม่แห่งหนึ่ง ทั้งยังไม่จำเป็นต้องให้เธอออกหน้าจัดการธุรกิจด้วยตัวเองอีกแล้ว

แม้ว่าคนในสำนักงานใหญ่จะถูกฝึกอบรมให้ไม่ต่างอะไรจากหุ่นยนต์ แต่ว่าสัญชาตญาณในการซุบซิบนินทากลับยังไม่ถูกทำให้หายไป

ที่ประเทศF เดิมฐานที่มั่นของถังย่าเป็นฐานที่มั่นที่พัฒนาได้ดีมากที่สุดแห่งหนึ่ง ทำหายไปทั้งแบบนี้ เธอกลับไม่ถูกทำโทษหรือ

ภายในองค์กรมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ค่อนข้างมาก แต่ฉินซีได้ยินการคาดการณ์มากมาย รวมถึงการคาดการณ์ถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติระหว่างจ้านเซินและถังย่าด้วย

—— “ทำผิดพลาดในเรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้กลับไม่ถูกลงโทษเลยแม้แต่น้อย คุณไม่รู้สึกว่ามันแปลกหรือ”

——“ไม่ได้บอกว่า เธอไปหาเสี่ยวA มารอบหนึ่งหรอกหรือ”

——“ลงโทษระดับ A หรือ ล้อเล่นใช่ไหม”

——“ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาสองคนมีความสัมพันธ์อะไรกันล่ะ”

แรกเริ่มฉินซีแค่ยิ้มอย่างไม่ยี่หระกับข่าวลือพวกนี้เท่านั้น

เธอเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ที่รู้ดีที่สุดถึงสาเหตุที่ว่า ทำไมถึงไม่สามารถใช้ฐานที่มั่นของถังย่าแห่งนั้นได้อีก

เป็นเรื่องที่ตัวจ้านเซินก่อขึ้นมาเอง แน่นอนว่าถังย่าไม่ต้องถูกลงโทษ

แต่ว่าในภายหลัง เมื่อได้ยินรายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็ค่อยๆเกิดความแคลงใจขึ้นมาเล็กน้อย

—— “ได้ยินหรือยังว่า การลงโทษระดับ A ของถังย่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยื่นเรื่องไปทำการบำบัดด้วยการสะกดจิตด้วยตัวเองแล้ว”

—— “บำบัดด้วยการสะกดจิต อย่างนั้นไม่ใช่ว่า……..”

—— “ชู่! ฉันว่านะ ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าตัวเองรู้สึกผิด! ถ้าไม่ไปบำบัดอีกแล้วถูกคนพบเข้า อย่างนั้นก็ตายสถานเดียว”

แน่นอนว่าฉินซีรู้ดีมากว่า “การบำบัดด้วยการสะกดจิต” ที่สำนักงานใหญ่เรียกกันคืออะไร

สำหรับสมาชิกภายในองค์กร ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีหนทางที่จะควบคุมตัวเองจากหลักสูตรล้างสมองได้ พวกเขาล้วนเป็นฝ่ายยื่นเรื่องดำเนินการสะกดจิต ปิดตายความคิดบางอย่างที่ตัวเองไม่ควรมีเอาไว้ หรือทำให้ลืมไป

กระทั่งตัวฉินซีเองก็เคยมีประสบการณ์มาแล้วครั้งหนึ่ง……นั่นก็คือหลังจากที่เธอกลับมาจากการพบกับลู่เซิ่นเป็นครั้งแรกที่หอศิลป์เมืองหนาน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท