Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1259

ตอนที่ 1259

บทที่ 1259 ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องจริง

เดิมครั้งนี้ จ้านเซินก็ตั้งใจจะใช้การบำบัดด้วยการสะกดจิตเช่นกัน

โชคดีที่มีเหยาจ้าว

เขาบอกว่าฉินซีเพิ่งจะผ่านการสะกดจิตให้นึกถึงความทรงจำในส่วนที่ขาดหายไปสิบกว่าปีในอดีตของตัวเอง สมองเปราะบางมากแล้ว ถ้าหากว่าฝืนใช้การสะกดจิตเพื่อปิดผนึกความรู้สึกที่ฉินซีมีต่อลู่เซิ่นอีก เกรงว่าจะสร้างความเสียหายที่ไม่อาจต้านทานได้ให้กับสมองของฉินซี

จ้านเซินถึงได้ยกเลิก

สำหรับที่ว่าทำไมถังย่าถึงต้องไปสะกดจิตนั้น…….

ฉินซีคิดว่าถังย่าที่มีรอยยิ้มเหมือนหุ่นยนต์ประดับอยู่นั้น ก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นเพราะว่า เธอเป็นคนที่ทำความรู้สึกหล่นหายไปตั้งแต่กำเนิดถึงจะถูก

ถ้าหากมีคนสามารถทำให้เธอสูญเสียการควบคุมได้……ในสมองของฉินซีนั้นมีเพียงแค่ชื่อจ้านเซินเพียงชื่อเดียวเท่านั้น

นับตั้งแต่ที่เธอฟื้นฟูความทรงจำเมื่อหลายปีนี้มาได้ ระยะเวลาที่ถังย่าและจ้านเซินรู้จักกันนั้นยังนานกว่าที่จ้านเซินรู้จักกับตัวเอง ถังย่าเป็นคนที่จ้านเซินให้ความไว้วางใจมากมาโดยตลอด ดังนั้น แม้ว่าภารกิจในเมืองA ครั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์ที่จ้านเซินไม่สามารถอยู่ข้างกายตัวเองได้ การจัดการให้ถังย่ามาสอดส่องฉินซี ก็เป็นเรื่องธรรมชาติ

“นั่งเถอะ” ถังย่าเชิดคางขึ้น “สั่งอาหารเดลิเวอรี่มาเติมท้องสักหน่อย”

ในละแวกอันใกล้นี้ล้วนเป็นบ้านเก่าๆ อาหารเดลิเวอรี่ที่สามารถสั่งได้ก็ไม่ใช่ของที่ดีอะไรนัก ฉินซีเห็นกล่องอาหารมันเลี่ยนแล้ว ก็ไม่มีความอยากอาหาร แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่ตัวเองต้องทำในคืนนี้ ก็ทำได้เพียงแค่ฝืนตัวเองให้กลืนลงไป

ถังย่านั่งลงตรงข้ามเธอ และหักตะเกียบคู่หนึ่ง

ทั้งสองคนกินอาหารเงียบๆจนเสร็จ ถังย่าก็วางตะเกียบไว้อีกด้าน และเอ่ยปากพูดในที่สุด

“ฉันได้ยินมาว่า เมื่อวานนี้ จ้านเซินใช้เครื่องบินส่วนตัวของเขามาส่งเธอด้วยตัวเอง”

ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ ท้องฟ้าด้านนอกค่อยๆมืดลง ฉินซีจึงมองเห็นสีหน้าความรู้สึกของถังย่าไม่ชัด

อาศัยเพียงแค่การฟังน้ำเสียงของเธอก็เกือบจะไม่พบอะไรที่ไม่ถูกต้อง แต่ฉินซีกลับรู้สึกถึงความเป็นศัตรูหลายส่วนแปลกๆ

เธอคิดถึงว่าคืนนี้ตัวเองยังมีแผนการ ไม่สามารถทำให้ถังย่ามีโทสะได้ จึงตอบคำถามอย่างระมัดระวัง “อย่างนั้นหรือ ฉันไม่รู้”

แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่า คำตอบแบบนี้ของตัวเองไปกระแทกโดนเส้นประสาทเส้นไหนของถังย่า น้ำเสียงของเธอดุร้ายขึ้นมาทันที

“เธอไม่รู้หรือ แต่ไหนแต่ไร เธอก็มักจะพูดว่าตัวเองไม่รู้อะไรทั้งนั้น!” ดวงตาของถังย่าเบิกโตขึ้นเพราะโทสะ “พูดแสร้งโกหกว่าไม่รู้แบบนี้ จากนั้นก็มองคนอื่นทำทุกอย่างเพื่อเธอ แล้วยังจะสบายใจได้อีก!”

ฉินซีกลับสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย “เธอ…..นี่เธอกำลังพูดถึงฉันหรือ”

“ไม่อย่างนั้นล่ะ!” น้ำเสียงของถังย่าดุร้ายมากขึ้น หัวเราะเสียงเย็น “เธอยังไม่รู้จักข้อบกพร่องของตัวเองจริงๆ!”

ฉินซีมองไปรอบด้านรอบหนึ่ง ตอนที่กำลังจะเอ่ยถามอะไร ถังย่าก็เอ่ยปากตอบออกมาเองแล้ว

“ไม่ต้องดูแล้ว ที่นี่เป็นฐานที่มั่นเดียวในเมืองที่ไม่มีกล้องวงจรปิดและเครื่องดักฟัง” ถังย่ายิ้ม “ฉันจัดการเป็นพิเศษ”

เธอตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา ฉินซีกลับระแวดระวังขึ้นมาทันที

ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ในช่วงเช้า ก็พบปัญหานี้แล้ว

เทียบกับสำนักงานใหญ่ที่เกือบจะพบเห็นกล้องวงจรปิดได้ทุกแห่งแล้ว ภายในฐานที่มั่นแห่งนี้แทบจะไม่เห็นกล้องเลยสักตัว

เดิมฉินซีคิดว่าเป็นเพราะที่แห่งนี้คือบ้านส่วนตัว จึงซ่อนกล้องวงจรปิดเอาไว้ คิดไม่ถึงเลยว่า…..ถ้าเป็นอย่างที่ถังย่าพูดจริงๆ ที่นี่ก็ไม่มีกล้องวงจรปิดเลยสักตัวหนึ่ง กระทั่งเครื่องดักฟังก็ไม่มี

ทำไมเธอจะต้องจัดสถานที่แบบนี้เป็นพิเศษด้วย

ทำไมต้องหลบเลี่ยงกล้องวงจรปิดและเครื่องดักฟัง

เธอคิดจะทำอะไรกันแน่

ฉินซีถูกถังย่าหลอกมาครั้งหนึ่งแล้ว จึงไม่มีทางที่จะเกิดความไว้วางใจต่อเธอ กระทั่งเต็มไปด้วยความสงสัย

“ไม่ต้องกลัว” เหมือนกับว่าถังย่ามองออกถึงความคิดของเธอ จึงหัวเราะเสียงเบา พลางเอ่ย “ฉันไม่กล้าจะทำอะไรเธอหรอก สาเหตุที่เลือกที่นี่ ก็แค่อยากจะหาโอกาสที่สามารถพูดคุยกับเธอดีๆสักครั้งเท่านั้นเอง”

แน่นอนว่าฉินซีไม่อาจจะเชื่อคำพูดของเธอได้ทั้งหมด จึงไม่ได้ส่งเสียงออกไป เพียงแค่มองเธอเท่านั้น

“ฉันชอบจ้านเซิน” เหมือนกับว่าถังย่าต้องการจะลบล้างความกังวลของฉินซี แรกเริ่มก็เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกับโยนระเบิดลงมาประโยคหนึ่ง

แม้ว่าจะเป็นฉินซี แต่ก็ยังถูกประโยคนี้ของเธอทำให้พูดไม่ออก ตะลึงไปหลายวินาที

เธอกับถังย่าล้วนชัดเจนดีว่า เมื่ออยู่ภายใต้องค์กร การยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเองชอบคนคนหนึ่ง ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ล้วนเป็นเรื่องที่อันตรายมากเรื่องหนึ่ง

ถังย่ายอมรับว่าตัวเองชอบจ้านเซิน ก็หมายความว่า เธอฝ่าฝืนกฎระเบียบข้อบังคับขององค์กร

ถังย่านั้นคล้ายกับว่าไม่ใส่ใจความเงียบงันของเธอ เอ่ยปากพูดต่อไปว่า “ฉันอาศัยโอกาสตอนที่เขาไปจากสำนักงานใหญ่เพราะมีธุระ ไปหาคนที่สำนักงานใหญ่เพื่อทำการสะกดจิต คิดจะปิดผนึกความทรงจำบางส่วน แต่ว่า……การบำบัดนี้ไม่สำเร็จ คุณหมอพบว่า ความทรงจำที่ฉันจำเป็นต้องปิดผนึกนั้นมีมากเกินไป จำเป็นต้องใช้เวลามากมาย ฉันไม่กล้ารบกวนเขา ดังนั้นจึงไม่ได้บำบัดรักษาจนครบหลักสูตรก็จากมาแล้ว”

ฉินซีคิดถึงเรื่องซุบซิบที่ตัวเองได้ยินตอนอยู่สำนักงานใหญ่เหล่านั้น

……..ที่แท้เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความจริง

ถังย่าหัวเราะเยาะตัวเอง “การบำบัดรักษาอย่างครึ่งๆกลางๆนั้นไม่ได้ผลอะไร กลับกัน ยิ่งทำให้ฉันได้รู้ว่า ฉันชอบเขามานานมากแล้ว นานจนถึงตอนที่เธอยังไม่ปรากฏตัวขึ้นมา ฉันก็น่าจะหวั่นไหวแล้ว มิเช่นนั้น ก็คงไม่เหมือนกับที่คุณหมอพูดแบบนั้น ความทรงจำส่วนแรกที่ฉันจำเป็นต้องปิดผนึกก็คือ ตอนที่ฉันเข้ามาในองค์กร แล้วพบเขาเป็นครั้งแรก”

ฉินซีฟังถังย่าสารภาพเงียบๆ โดยไม่ส่งเสียงออกมา

เธอมีลางสังหรณ์อย่างหนึ่งว่า เรื่องราวที่ตัวเองได้ฟังน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่มีความสุขเรื่องหนึ่ง

“ฉันผ่านการอบรมหลักสูตรทั้งหมดแล้วภายใต้คะแนนสูง วันแรกที่เข้าสู่องค์กรอย่างเป็นทางการนั้น ถึงได้พบกับเขา” น้ำเสียงของถังย่าแฝงไปด้วยความคิดถึงเล็กน้อย “แต่ก่อนฉันไม่เชื่อเรื่องรักแรกพบอะไรนั่น ผ่านการฝึกอบรมมานานหลายปีขนาดนั้น และก็นึกว่าตัวเองจะทิ้งอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดไปได้แล้ว แต่ตอนที่ได้พบกับเขานั้น ทฤษฎีและความเชื่อทั้งหมด ล้วนสลายกลายเป็นฟองไปหมด”

ฉินซีนึกถึงภาพตอนที่ตัวเองได้พบกับลู่เซิ่นขึ้นมาทันที

เธอในตอนนั้น ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ

เธอผ่านการฝึกอบรมที่เข้มงวดมาหลายปี กระทั่งผ่านการฝึกฝนในภารกิจมากมาย รู้สึกว่าตัวเองเริ่มละทิ้งความรู้สึกเหล่านั้นของมนุษย์ได้แล้ว กลับอดไม่ได้ที่จะใจเต้นในตอนที่ได้พบกับลู่เซิ่น

“แต่ว่าฉันในตอนนั้นไม่ได้ค้นพบความคิดของตัวเองชัดเจน” ถังย่าหัวเราะเยาะตัวเอง “หรือไม่ก็ ฉันจงใจแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่า ตัวเองโอบกอดความรู้สึกที่มีต่อเขาเอาไว้ ฉันคิดว่า ท้ายที่สุดแล้วในองค์กรก็ไม่อนุญาตให้มีความรัก ฉันมองเขาเฉยๆแบบนี้ ก็ไม่มีข้อแตกต่างอะไร”

ฉินซีพยักหน้าคล้อยตามเธอ

“แต่ว่าเธอก็ปรากฏตัวขึ้นมา” ถังย่าหันหน้ามา จ้องมองฉินซีภายใต้แสงไฟสลัว “ตอนนี้เธอน่าจะฟื้นฟูความทรงจำแล้ว อะไรก็ล้วนรู้หมดแล้วสินะ”

ฉินซีพยักหน้าเงียบๆ

เธอสามารถเข้าใจความคิดของถังย่าได้

ถังย่าหัวเราะเสียงเบาอีกครั้ง “นับตั้งแต่ที่เขาปรากฏตัวขึ้นในทีมของฉัน และพาเธอไปในตอนนั้น ฉันก็มีลางสังหรณ์อันเลือนรางอย่างหนึ่งว่า การปรากฏตัวของเธอคนนี้ จะเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย”

ท้องฟ้านอกหน้าต่างมืดสนิทแล้ว

ถังย่าหยุดชะงักไปหลายวินาทีภายใต้ความมืด ค่อยเอ่ยต่อว่า “เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในภายหลังนั้น พิสูจน์แล้วว่า การคาดการณ์ของฉัน ไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท