Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1288

ตอนที่ 1288

บทที่ 1288 จ้านเซินกลับมาแล้ว

ด้านฉินซีแน่นอนว่าเธอไม่รู้ลู่เซิ่นทำอะไรบ้างเพื่อเธอ

เธอเพียงแต่เดินตามหลังถังย่าตามเส้นทางที่วางแผนไว้ก่อนเท่านั้น หลบเลี่ยงกล้องวงจรปิด ออกจากบ้านตระกูลลู่

เดินตามกำแพงออกมา แน่ใจว่าตัวเองออกมาพ้นอาณาเขตบ้านตระกูลลู่แล้ว ฉินซีก็หันไปมองแวบหนึ่ง

เธอไวมากพอ แต่ก็ยังถูกถังย่าสังเกตเห็น

ถังย่ากลับไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ส่ายหน้าเบาๆ พูดขึ้น “เหลือเวลาไม่มากแล้ว ไปกันเถอะ”

ฉินซีเป็นคนวางแผนเอง เธอรู้ดีว่าทุกคนน่าจะอยู่ที่จุดนัดหมาย

แม้เธอกับถังย่าจะไม่ได้เข้าร่วมโดยตรงกับคนปฏิบัติงาน แต่ในเมื่อมาแล้ว ก็ต้องเคารพกฎ

ทั้งสองคนจึงไม่รอช้ารีบเร่งฝีเท้า จนในที่สุดก็ไปถึงฐานปฏิบัติการ

แต่ยังไม่ทันก้าวเข้าไป ฉินซีก็รู้สึกว่าบรรยากาศภายในผิดปกติ

เมื่อรู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอรีบรูดแหวนที่ยังสวมเมื่อครู่จากนิ้วมือข้างซ้ายมากำในอุ้งมืออย่างรวดเร็ว แล้วเอื้อมมือไปดึงให้ถังย่าหยุด อยากจะบอกเธอว่าบรรยากาศภายในผิดปกติ ให้เธอระวังตัวหน่อย สังเกตรอบๆ ก่อนค่อยเข้าไป

แต่ถังย่าว่องไวกว่าเธอ ขณะที่เธอเพิ่งจะเอื้อมมือไปจับแขนของถังย่า เท้าข้างหนึ่งของถังย่าก็ก้าวเข้าไปด้านในแล้ว

ฉินซีรู้สึกทันทีว่าถังย่ายืนเกร็งไปทั้งตัว

ลางสังหรณ์ในทางร้ายวาบขึ้นในใจเธอ

ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น…

“พวกเธอไปไหนมา” จ้านเซินน้ำเสียงเหมือนไม่ใส่ใจ แต่สายตาเหมือนเรดาร์ กวาดตามองถังย่ากับฉินซี

ฉินซีอึ้ง

จ้านเซินหรือ

เขามาที่นี่ได้ยังไง

เรื่องอาวุธจัดการเรียบร้อยแล้วหรือ

เหมือนจะรู้ว่าเธอสงสัย จ้านเซินพูดขึ้นเรียบๆ “เรื่องเมื่อวานทีแรกผมจะต้องไปเอง แต่พอเครื่องบินไปได้ครึ่งทางพวกนั้นก็โทรมาบอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว ผมคิดว่าในเมื่อบินออกมาแล้ว กลับไปก็เสียเที่ยวเปล่า สู้มาดูหน่อยพวกคุณทางนี้มีความคืบหน้ายังไงบ้างจะดีกว่า ถ้าเรียบร้อยแล้ว จะได้พาคุณกลับไปด้วยกัน”

ใบหน้าฉินซีไม่แสดงอารมณ์ เพียงแต่พยักหน้ากับคำอธิบายของเขา

แน่นอนว่าเธอไม่มีทางเชื่อคำพูดใดๆ ของจ้านเซินง่ายๆ

ไม่ว่าเขาจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้ว หรือว่าสงสัยเธอถึงได้กลับมา ก็ไม่สำคัญแล้ว

สำคัญที่…ถ้าจ้านเซินเกิดสงสัย…

“ตกลงพวกคุณไปไหนมากันแน่” จ้านเซินถามอีกรอบ มองฉินซีที่จับแขนถังย่า ใบหน้าคล้ายจะยิ้ม “เมื่อก่อนไม่เคยเห็นพวกคุณสนิทกันขนาดนี้ คุยเรื่องความหลังนี่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ขนาดนี้ อึม?”

ฉินซีอึ้ง อ้าปากจะอธิบาย ถังย่ากลับแซงพูดขึ้นก่อน

“เมื่อวานพวกเราไม่มีอะไรทำ คุยเล่นกัน รู้สึกว่าสนุกดีก็แค่นั้น สนิทสนมอะไรกันคะ”

เสียงของถังย่าเป็นธรรมชาติ คล้ายกับความสนิทสนมกับฉินซีเป็นเพียงสิ่งที่จ้านเซินคิดไปเอง

ถ้าเป็นคนอื่น คำพูดของถังย่าอย่างนี้คงจะทำหน้าไม่ถูก แต่ฉินซีเข้าใจความหมายของเธอทันที

เธอจึงปรับอารมณ์ตัวเองเล็กน้อย ดึงมือตัวเองกลับให้เป็นธรรมชาติที่สุด ยิ้มตอบ “ผู้หญิงสองคนคุยกันทั้งคืน ก็ต้องเข้าใจกันมากขึ้นแค่นั้นค่ะ”

สีหน้าของจ้านเซินดูไม่ออกว่าเชื่อหรือไม่ แต่เขาก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ เพียงแต่กวาดสายตามองหน้าทั้งสองคน ราวกับอยากจะมองทะลุความคิดของทั้งสองคน

“งานเลี้ยงกลางวันบ้านตระกูลลู่…ใกล้เลิกแล้วครับ”

สายตาของจ้านเซินถูกคนที่มารายงานข้างๆ ขัดจังหวะ

เขาหันไป มองคนที่มารายงานเย็นชา

คนนั้นรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว

เดิมทีนี่ไม่ใช่ภารกิจสำคัญอะไร เมื่อได้ยินหัวหน้าบอกว่าจ้านเซินจะมาด้วยตัวเอง เขากังวลอยู่ค่อนคืน กระทั่งคืนวานได้ยินจ้านเซินมีธุระกะทันหันไม่อยู่ ค่อยโล่งใจ

นึกไม่ถึง เขาจะกลับมา

…เรื่องนี้มันเป็นยังไงกันแน่

ขณะที่ถูกสายตาของจ้านเซินมอง เขารู้สึกว่าคงไม่มีวันเข้าใจแน่

เวลานี้เองจ้านเซินดึงสายตากลับ

“ไปได้”

เสียงของเขาแผ่วเบา คนนั้นเหมือนได้รับอภัยโทษ รีบร้อนออกไป

จ้านเซินหันกลับมา เห็นว่าถังย่ากับฉินซีเข้ามาในห้อง นั่งบนโซฟาเรียบร้อยแล้ว

โซฟาหนังสำหรับสามคน ที่นั่งของแต่ละคนกว้างขวาง ฉินซีกับถังย่านั่งข้างกัน ไม่ได้นั่งด้วยกัน แต่ก็ไม่ตั้งใจนั่งห่างกันเกินไป สีหน้าแลดูปกติมาก

จ้านเซินขมวดคิ้วนิดๆ

ยิ่งปกติ ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ

แม้ว่าเขาไม่มีหลักฐานใดๆ แต่…สัญชาตญาณกลับบอกว่า ฉินซีกับถังย่ามีอะไรแปลกๆ

จ้านเซินสะกดความสงสัยไว้ ไม่ได้ซักถามต่อ แต่เดินไปข้างๆ ทั้งสองคน นั่งลงตรงโซฟาที่นั่งตรงข้าม

อีกครั้งที่รู้สึกว่าสายตาของจ้านเซินกวาดตามอง ในใจของฉินซีรู้สึกเกร็งอีกครั้ง

เธอพยายามควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าตัวเอง ทำให้สีหน้าของตัวเองดูไม่ออกว่าผิดปกติ

แต่ในหัวของเธอกลับหมุนอย่างรวดเร็ว

ดีที่ก่อนเข้ามา สัญชาตญาณของเธอถอดแหวนออก ไม่อย่างนั้นถ้าจ้านเซินมองเห็นเข้าล่ะก็ ความลับแตกแน่นอน

แต่สุดท้ายก็รีบร้อนไปหน่อย ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่วินาที อาศัยตอนที่จ้านเซินหันไปสนใจคนที่เข้ามารายงาน หย่อนแหวนในมือลงในกระเป๋ากางเกง

แต่ภายใต้แรงกดดันจากสายตาค้นหาความจริงของจ้านเซิน เพราะความกังวลในหัวของเธอจนเกิดความสงสัยอย่างบอกไม่ถูก

หย่อนแหวนลงในกระเป๋าแล้วใช่มั้ย ไม่ได้หล่นลงไปข้างนอกแน่นะ

กางเกงค่อนข้างรัด นั่งแล้วจะเห็นรอยแหวนมั้ยนะ

ความสงสัยพวกนี้ทำให้มือเธอมีเหงื่อเย็นซึมออกมา

เธอไม่กล้าหันไปมองถังย่า กลัวว่าตัวเองทำอะไรบุ่มบ่ามจะทำให้จ้านเซินเกิดสงสัยขึ้นมา และกลัว…ถังย่าแปรพักตร์กะทันหัน

ถ้าเป็นตอนที่เธอเพิ่งกลับมาองค์กร คงจะไม่หวาดหวั่นอะไร

อย่างมากก็ตาย แค่ชีวิตหนึ่ง ถ้าจ้านเซินต้องการปลิดชีวิตเธอ กลับกลายเป็นการปลดปล่อยและมอบอิสรภาพให้เธอเองกับมือ

แต่ตอนนี้เธอจะคิดตื้นๆ อย่างนั้นไม่ได้

เธอแต่งงานกับลู่เซิ่นเป็นคนคนเดียวกันแล้ว พวกเขาเพิ่งสาบานต่อหน้าพระเจ้า เพิ่งกล่าวคำสาบานฉันยินดี

ดังนั้นเธอจะต้องมีชีวิตต่อไป ยืนหยัดต่อไป ถึงจะมองเห็นความหวัง

แต่จ้านเซินไม่รีบเอ่ยปาก สายตาของเขาราวกับมีแก่นแท้ เหมือนตาข่ายผืนหนึ่ง กดแรงๆ ลงบนตัวฉินซี

ความสงสัยตัวเองในหัวฉินซีค่อยๆ เข้ามาครอบครองทั้งสมอง

เขาดูออกหรือไม่นะ

เขารู้แล้วหรือยังนะ

ฉันซ่อนไม่ดีพอหรือเปล่านะ

ถ้าใช่ จะทำยังไงดี

ฉินซีแทบจะได้ยินเสียงที่พรั่งพรูในหัวของตัวเอง

นิ้วมือที่อยู่ข้างตัวหยิกตัวเองอย่างรวดเร็วทีหนึ่ง

มีสติ ฉินซี พูดกับตัวเอง

จ้านเซินกำลังเล่นเกมจิตวิทยา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท