Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1286

ตอนที่ 1286

บทที่ 1286 ปกป้อง

“คุณชายลู่ไม่ให้ใครขึ้นไป น่าเสียดายจัง” อีกคนหนึ่งพูดขึ้น “ถ้าขึ้นไปดูในห้องแต่งตัวได้ คงจะรู้ว่ามีแผนอะไรกันแน่”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป ทุกคนในที่นั้นพากันเงียบ

คนรับใช้แม้ว่าจะแปลกใจมากแค่ไหน แต่ทุกคนต่างก็รู้ดี ความแปลกใจนี้จะต้องเก็บไว้ในใจตัวเองให้ลึกที่สุด

ถ้ายื่นมือไปลองสัมผัสโดยไม่รู้ตื้นลึกจริงๆ จะมีผลอย่างไรตามมา…

พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด

ทุกคนจึงเงียบไปครู่หนึ่ง ค่อยเริ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

เพียงแต่ความคิดนี้สุดท้ายแล้วยังคงอยู่ในใจทุกคน

ขณะที่ทุกคนรู้สึกว่าวันนี้คงจะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เวินจิ้ง ทันใดนั้นคำสั่งของลู่เซิ่นก็ทำให้พวกเขาตื่นตัวขึ้นมา

“เวินจิ้งน่าจะอยู่ในห้องแต่งตัวนานแล้ว” ลู่เซิ่นถือแก้วแชมเปญในมือ หันจากกลุ่มคนที่กำลังกินดื่มสนุกสนาน มาสั่งคนรับใช้ “ให้คนไปเรียกเธอหน่อย ถ้าหลบหน้าตลอดคงจะไม่ดี”

โอกาสทองที่ยากจะมาถึง คนรับใช้หลายคนที่แปลกใจมากที่สุดรีบอาสาไปทำตามคำสั่ง จึงไม่มีคนเห็นตอนที่ลู่เซิ่นหันไป ส่งสายตาที่มีความหมายลึกล้ำกับหลินยี่

ขณะที่คนรับใช้ขึ้นไปอย่างตื่นเต้นดีใจ ย่อมไม่ได้ข่าวใดๆ แม้แต่คนรับใช้สองคนที่ไปจัดการชุดแต่งงานก็แอบตรวจสอบ แต่ก็ไม่พบอะไรเป็นพิเศษ

พวกเขามาครั้งนี้ นอกจากจะยืนยันว่าเจ้าสาวคือเวินจิ้ง ก็ไม่ได้คำตอบอะไรอย่างอื่น

…นี่คงจะเป็นโลกของคนมีเงินกระมัง พวกเขาคงไม่มีวันเข้าใจ

คนรับใช้หลายคนต่างคิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย

แต่การกระทำเช่นนี้ แน่นอนว่าลู่เซิ่นวางแผนเป็นพิเศษ

เจ้าสาวที่คลุมผ้าคลุมศีรษะตลอด ย่อมทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นไม่สิ้นสุด อยากรู้เกี่ยวกับเจ้าสาวให้ชัดเจน

ความอยากรู้อยากเห็นนี้เป็นสิ่งที่ลู่เซิ่นไม่อยากเห็นมากที่สุด

หลังจากรู้ว่าถ้าฉินซีอยู่ที่นี่ต่อไปจะเป็นอันตรายถึงชีวิต เขาก็เข้าใจยิ่งขึ้น ถ้าข่าวฉินซีเป็นเจ้าสาววันนี้แพร่ออกไป ไม่มีทางรับประกันความปลอดภัยของฉินซีได้แน่

ดังนั้น เขาต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นหลายเท่า ถึงได้วางแผนให้ปลอดภัยเป็นพิเศษ

ให้คนรับใช้ในบ้านไปยืนยันด้วยตัวเองว่าเจ้าสาวคือเวินจิ้ง จากนั้นต่อหน้าทุกคน แกล้งทำเป็นเรียกให้เธอลงมา

แน่นอน ในเมื่อก่อนหน้านี้ปิดบังรัดกุม ตอนนี้จะแตกต่างมากเกินไปไม่ได้ ปล่อยให้เธอออกมาพบทุกคนง่ายๆ จึงต้องให้เธอแอบไปห้องรับแขกเล็ก ให้ทุกคนเห็นหน้าเพียงด้านข้างรางๆ

รายละเอียดต้องทำอย่างไร หลินยี่บอกเวินจิ้งไว้หมดแล้ว ลู่เซิ่นเชื่อใจเขา

ดังนั้นใจเขาจึงนิ่งเฉย หยิบแก้วเหล้ามาชนแก้วต่อไป ดูไม่ออกสักนิดว่าใส่ใจเรื่องที่เจ้าสาวจะปรากฏตัว

ท่าทางเขาเช่นนี้ แขกเหรื่อไม่กล้าแสดงความประหลาดใจ ได้แต่ส่งสายตากัน แกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เวินจิ้งเดินลงมาอย่างมั่นคงท่ามกลางเหตุการณ์ที่เป็นภาพลวง

ขณะที่เธอเดินลงมาจากชั้นบน ราวกับทั้งห้องโถงใหญ่เงียบสงัด

คนรับใช้ล้อมรอบตัวเธอ แขกเหรื่อในงานไม่มีทางไม่รู้ว่าคนผู้นี้คือใคร

สายตาของทุกคนในห้องรับแขกราวกับถูกเชือกล่องหนดึงเข้าไปหาเวินจิ้ง

แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้อง ยังคงก้มหน้าเดินไม่เร็วไม่ช้า ลงบันไดทีละก้าว

บรรดาแขกแทบจะยื่นคอไปดูหน้าเธอให้ชัดๆ

แต่พวกเขาก็ต้องผิดหวัง

คนรับใช้ที่ล้อมรอบเวินจิ้งเหมือนฉากกั้น ทำให้พวกเขาเห็นเค้าโครงของเวินจิ้งแวบๆ แต่ไม่มีทางเห็นเธอชัดเจน

กระทั่งเธอเดินลงบันไดมา ก็ถูกคนรับใช้ห้อมล้อมไว้หมด แขกที่มาร่วมงานได้แต่สังเกตเวินจิ้งผ่านช่องเล็กๆ เท่านั้น

…ยังคงปกป้องอย่างรัดกุม

เมื่อนึกถึงพิธีแต่งงานที่ไม่ให้คนนอกเข้าร่วม และเจ้าสาวยังไม่ถอดผ้าคลุมศีรษะออก พวกแขกเหรื่อจึงไม่เห็นว่านี่เป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด

ได้เห็นแค่เสี้ยวของใบหน้าด้านข้างของเวินจิ้ง เท่านี้ก็ถือว่าช่วยคลายความอยากรู้อยากเห็นแล้ว

ด้านเวินจิ้งราวกับไม่รู้สึกถึงสายตาของทุกคน ท่ามกลางคนรับใช้ที่รุมล้อม เดินตรงไปยังมุมหนึ่งของห้องใหญ่

ลู่เซิ่นเห็นปฏิกิริยาของทุกคน ยิ้มอยู่ในใจ มองไปทางแขกพยักหน้าขอตัว วางแก้วลงแล้วเดินตามไป

สายตาทุกคู่ตามเพ่งมองที่มุมนั้น

ตรงนั้นมีห้องรับแขกเล็ก

บรรดาแขกเข้าใจ คู่บ่าวสาว คงจะเข้าไปยกน้ำชากระมัง

ลู่เซิ่นไม่ได้พูดอะไร เวินจิ้งไม่ทักทายแม้แต่คำเดียว แขกเหรื่อต่างจินตนาการบทละครในหัวกันแล้ว

จังหวะฝีเท้าของทั้งสองคนไม่รีบร้อน เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู คนรับใช้ช่วยเปิดประตูให้ ลู่เซิ่นยืนบังประตูให้เวินจิ้งอย่างสุภาพบุรุษ ปล่อยให้เธอเดินเข้าไปก่อน ตัวเองเดินตามเข้าไป

ประตูห้องรับแขกเล็กค่อยๆ ปิดลงต่อหน้าทุกคน

ในที่สุดสายตาของแขกทุกคนก็ละจากตรงนั้น

ทุกคนต่างหันมาประสานสายตากัน หลังจากความเงียบครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็มีคนร้องขึ้นมาอย่างเสียดายเป็นคนแรก “นี่ถือว่าเห็นเจ้าสาวแล้ว”

ความเงียบถูกทำลาย ทั้งห้องโถงใหญ่นั้นก็อภิปรายกันไปต่างๆ นานา

มีคนแน่ใจว่าตัวเองเห็นเวินจิ้งชัดเจน “นึกไม่ถึง ประธานลู่จะชอบแบบนี้…จะบอกว่าสวยก็ไม่ถึงกับสวย แต่อ่อนโยนมาก”

มีบางคนพยายามนึกว่าตัวเองเคยเห็นเธอที่ไหน “ฉันรู้สึกเธอคุ้นหน้า จะต้องเคยเจอที่ไหนแน่”

แต่ไม่ช้าก็มีคนเห็นแย้ง “เจ้าสาวไม่ใช่คนประเทศ F เขาบอกแล้วเป็นคนเมืองหนานไม่ใช่หรือ คุณจะมีโอกาสเคยเห็นได้ยังไง”

และยังมีคนที่ละเอียดหน่อย พบข้อสงสัย “ทำไมฉันรู้สึก…ตอนที่โยนดอกไม้ เจ้าสาวดูแล้วสูงโปร่งกว่าตอนนี้มากล่ะ”

ถึงแม้จะเป็นคนที่จินตนาการเก่งที่สุด ก็นึกไม่ถึงว่าลู่เซิ่นจะเล่นละครสลับตัวเจ้าสาว จึงมีคนอธิบายขึ้น “น่าจะเป็นเพราะตอนนั้นพวกเรายืนอยู่ข้างล่าง มุมมองต่างกัน ถึงได้เห็นไม่เหมือนกัน อีกอย่าง ส้นรองเท้าเจ้าสาวต่างกัน ความสูงก็จะต่างกันด้วยนะ”

พวกคนที่สงสัยต่างพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจทันที

แต่ประตูห้องรับแขกเล็กกั้นการถกเถียงของทุกคนไว้เพียงภายนอก

สถานการณ์ในห้องรับแขกเล็กแตกต่างจากที่ภายนอกจินตนาการอย่างสิ้นเชิง

ลู่เหวยกับสูหยิงนั่งที่โซฟา ลู่เซิ่นกับเวินจิ้งยืนตรงหน้า ส่วนหลินยี่ยืนพิงประตู

ถ้าดูสีหน้าของคนทั้งห้า คงไม่มีใครคาดคิดว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของลู่เซิ่น

“ทำเรื่องวุ่นขนาดนี้ แล้วจะหาทางจบยังไงดีล่ะ” ลู่เหวยย่นคิ้ว มองลู่เซิ่นอย่างไม่เห็นด้วย

ลู่เซิ่นยักไหล่ “งั้นก็ปล่อยไป ทำไมต้องหาทางจบด้วยครับ”

น้ำเสียงของเขาไม่ใส่ใจ ไม่มีความหมายของความเร่งด่วนสักนิด

ลู่เหวยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ลู่เซิ่น ก่อนหน้านี้แกให้เวินจิ้งเป็นโล่กำบัง พ่อเข้าใจได้ แต่ตอนนี้แกแต่งงานกับฉินซีแล้ว ยังให้เวินจิ้งมาแกล้งทำเป็นภรรยา แกต้องการทำอะไรกันแน่

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท