Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1296

ตอนที่ 1296

บทที่ 1296 การมาเยือนของถังย่า

เนื่องจากตำแหน่งที่สูงขึ้น เวลาของถังย่าที่ต้องอยู่ในสำนักงานใหญ่ก็เป็นเวลานานขึ้นด้วย

ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับการได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้กลับไปดำรงตำแหน่งรองประธานสำนักงานใหญ่แทนที่จะเป็นผู้จัดการภูมิภาคในประเทศ F ก่อนหน้านี้

แต่ไม่ใช่เพราะเหตุนี้ที่เธอต้องติดต่อกับฉินซีบ่อยขึ้น

ถึงอย่างไรเสีย อยู่ในสำนักงานใหญ่โดยมีกล้องวงจรปิดและดวงตาที่จับจ้องอยู่ทุกที่ ฉินซีก็รู้ด้วยว่าถ้าเธอแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกับถังย่า ก็จะถูกจ้านเซินจับผิดทันที

ดังนั้นเมื่ออยู่ข้างนอก เธอก็ทำได้แค่พยักหน้าทักทายถังย่าเท่านั้น

ถังย่าก็คิดแบบเดียวกับเธอ ดังนั้นจึงมาหาฉินซีไม่บ่อยนัก ถ้าหากมีเรื่องอะไรพวกเธอจะคุยผ่านโทรศัพท์กันมากกว่า แต่ถึงอย่างไรหอพักของฉินซีก็ดูเหมือนจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้วในองค์กรแห่งนี้ ดังนั้นหากต้องพูดคุยแบบเห็นหน้าถังย่ามักจะมาหาด้วยตัวเองที่นี่

ครั้งนี้ก็เช่นกัน

เมื่อประตูหอพักปิดลง ใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งของคนทั้งคู่ก็ค่อยๆละลายลง

ถังย่ายกถุงพลาสติกสองใบขึ้นในมือไปทางฉินซี “กั้งที่เธอพูดถึงเมื่อครั้งที่แล้ว ฉันเอามาให้”

ดวงตาของฉินซีเป็นประกายทันที “จริงเหรอ?”

ถังย่าไม่ตอบ แต่ก้มลงวางถุงอาหารสองถุงลงบนโต๊ะ ก่อนจะเปิดมันออก กลิ่นหอมของกั้งลอยตลบออกมาทันที

ฉินซีถึงกับทนไม่ไหว ด้วยเพราะทั้งวันไม่ได้กินอะไร

เธอค้นในถุงอาหารเพื่อจะเอาถุงมือ ก่อนจะโยนให้ถังย่าหนึ่งคู่ เธอขยับเข้าไปกินโดยเร็ว ไม่มีคำพูดไร้สาระ ทำเพียงแค่ก้มหน้าก้มตากินเท่านั้น

ถังย่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นท่าทางตรงหน้า และเข้าร่วมมื้ออาหารตรงหน้า

ทั้งสองตั้งใจแกะและกินกั้งตรงหน้าโดยไร้เสียง จนกระทั่งกล่องที่สองหมดเกลี้ยง ฉินซีถอดถุงมือ เงยหน้ามองถังย่าอย่างซาบซึ้งใจ “ฉันมีความสุขมากเลย”

ถังย่าก็กินเยอะเช่นกัน ตอนนี้เธอใช้กระดาษเช็ดมุมปาก เมื่อได้ยินคำพูดนั้นเธอเพียงแค่ยิ้มจางและไม่ได้ตอบอะไร

แม้ว่าสำนักงานใหญ่ขององค์กรจะอยู่ติดชายทะเล แต่ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ากั้งและครัวใหญ่ก็ไม่ได้สนใจที่จะทำ เมื่อไม่กี่วันก่อนฉินซีแอบส่งข้อความหาถังย่าในตอนดึกว่าอยากกิน ไม่คิดว่าวันนี้จะได้กินเลย

“เพิ่งกลับมาเหรอ?” ฉินซีเปิดปากถามอย่างสบายๆ

ถังย่าเพียงพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร

ภายในองค์กรใครก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจ จะไม่มีสิทธิ์รู้เกี่ยวกับเนื้อหา

ดังนั้นฉินซีเลยไม่ได้ถามต่อ

หลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน และฉินซีเองก็ไม่ได้พักผ่อนเลย ความง่วงที่เพิ่มขึ้นหลังจากกินอิ่ม ทำให้เธอหาวหวอด เคลิ้มจะหลับ ทว่าจู่ๆถังย่าก็ถามขึ้นมา “เธอรับภารกิจไปสำรวจแหล่งน้ำมันใช่ไหม?”

ฉินซีที่กำลังอ้าปากหาว ปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังทันที

เธอไม่รู้ว่าทำไมถังย่าจึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอไม่กล้าตอบ

ถ้าหากถังย่าเป็นหนึ่งในสมาชิกของภารกิจนี้ด้วย ฉินซีก็คงรู้ไปนานแล้ว และงานระดับความยากแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องให้เธอและถังย่าทำร่วมกัน

แต่ถ้าเธอไม่ใช่ … เธอจะรู้เนื้อหาของภารกิจได้ยังไง?

เห็นได้ชัดเลยว่า เธอไม่รู้อะไรเลย

ฉินซีจึงทำได้เพียงถามกลับไป “ทำไมถึงถามล่ะ?”

ถังย่ายิ้มจางๆ “ดูเหมือนจะใช่นะ”

จากขอบเขตอำนาจของเธอตอนนี้ จริงๆแล้วเธอสามารถเห็นอะไรได้หลายอย่างมากกว่าฉินซี

เธอรู้ถึงการมีอยู่ของภารกิจนี้ รู้แม้กระทั่งเนื้อหาของภารกิจที่วางอยู่บนเตียงของฉินซี เนื้อหาทั้งหมดผ่านตาเธอมาแล้ว

สิ่งเดียวที่เธอไม่รู้คือจ้านเซินจะให้ใครทำภารกิจ

แต่เธอมีความรู้สึกว่าจ้านเซินจะให้ฉินซีทำงานนี้

อันที่จริงมันไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นสัญชาตญาณ มันเป็นเพียงแค่กฎในช่วงระยะนี้

ภารกิจของฉินซีก็เหมือนเมื่อก่อน จ้านเซินเป็นคนจัดการให้

ภายในหนึ่งปีมานี้ ฉินซีอาจจะไม่รู้ตัวว่าภารกิจทั้งหมดของเธอได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีโดยเขา

ไม่อันตรายเกินไป ไม่ให้ยุ่งกับคนอื่นมากเกินไป ไม่ให้ยากเกินไป

ภารกิจที่เขาเหลือไว้ให้ทำ มันค่อนข้างปลอดภัยแต่ไม่ได้ทำให้ความสามารถของฉินซีเสียหายไป

ถังย่าไม่ได้รู้สึกอิจฉาแล้ว แต่เมื่อเห็นจ้านเซินใส่ใจฉินซีขนาดนี้ มันก็อดไม่ได้ที่จะสะเทือนใจ

แต่สิ่งที่เธอไม่ได้บอกฉินซีก็คือ ก่อนที่เธอจะมาที่นี้ เธอใช้อำนาจของตัวเองในการตรวจดูฉินซีผ่านบันทึก

แน่นอนว่าเธอไม่สามารถตรวจสอบความเป็นส่วนตัวของจ้านเซินได้ แต่ถ้าภายในองค์กร ระดับเธอสูงกว่าฉินซี ถ้าหากต้องการจับตาดู เธอทำได้

เมื่อเช้านี้ฉินซีได้รับข้อความจากจ้านเซิน เธอรู้

ด้วยวิธีนี้ทำให้ถังย่าเกือบจะมั่นใจว่าจ้านเซินมอบงานนี้ให้ฉินซี

และการมาหาของเธอครั้งนี้ไม่ใช่แค่มาเพื่อส่งกั้งให้ฉินซีเท่านั้น

“ข้อมูลของภารกิจที่จ้านเซินให้เธออันนั้น มันไม่ครบ” เมื่อถังย่าพูดออกไป ท่าทางของฉินซีก็เกร็งตัวขึ้น

“ไม่ … ไม่ครบ?” ฉินซีขมวดคิ้ว เธองุนงงเล็กน้อย “ไม่ครบระดับไหน?”

ถังย่ายิ้ม “ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก เขาไม่ได้ให้รายชื่อแขกกับเธอไป”

ฉินซีพยักหน้า ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความสงสัย “ฉันคิดว่าฉันควรหาด้วยตัวเอง”

แท้จริงแล้ว รายละเอียดเล็กๆน้อยๆนี้ถ้าให้ตัวเองไปหา ไม่แน่ว่า อาจจะหาไม่เจอ

ถังย่ายิ้มจาง ก่อนส่ายหัว “เธอไปหารายชื่อด้วยตัวเอง ก็คงหาไม่เจอ”

เมื่อฉินซีมองไปที่สีหน้าของเธอ จู่ๆก็เกิดลางสังหรณ์บางอย่าง “มันคงไม่ใช่… ”

ถังย่ามองไปทางเธอ ก่อนจะพยักหน้า ทำปากโดยไม่มีเสียงออกมา “ลู่เซิ่น”

ฉินซีรู้สึกราวกับร่างกายถูกซัดสาดด้วยคลื่นแห่งความสุข เธอใช้เวลาสักพักในการควบคุมสติอารมณ์ของตัวเอง “แต่ … ทำไมเขาถึงไม่อยู่ในรายชื่อแขก”

ถังย่ากระพริบตาถี่ “น้ำมันของเมืองหนาน เธอไม่คิดถึงตรงจุดนี้สักนิดเลยเหรอ?”

การคาดเดามาทั้งหมดของวันนี้ก็เป็นจริง ฉินซีนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะกล้าพูดขึ้นมาว่า “ลู่เซิ่นคือ … หุ้นส่วนของเขา”

เธอพูดคำว่า “ลู่เซิ่น” ด้วยเสียงเครือ แต่ถังย่ายังคงเข้าใจ เธอยิ้มและพยักหน้า “ใช่”

ความปีติยินดีในหัวใจของฉินซีเพิ่มขึ้น ทันใดนั้นก็ลดฮวบลง

ถ้าลู่เซิ่นเป็นเป้าหมายการค้าของฝ่ายตรงข้าม ถ้าอย่างนั้นแผนที่สำรวจน้ำมันที่ตัวเองถือไป ก็คงเป็น…

“เอาเป็นว่า คุณต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ มันจะทำให้สามีคุณเสียเงินฟรีโดยเปล่าประโยชน์” น้ำเสียงของถังย่าติดตลกเล็กน้อย ทว่าท่าทางกลับดูจริงจัง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท