Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1302

ตอนที่ 1302

บทที่ 1302 เจอกันอีกครั้ง

แต่ในฐานะผู้ช่วยที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าในใจจะมีข้อสงสัยมากมายเท่าไหร่ หลินหยังก็แค่พยักหน้า จดความต้องการของลู่เซิ่นไว้และไม่เอ่ยปากถามอะไรสักคำ

และเห็นได้ชัดว่าลู่เซิ่นก็ไม่ได้อยากอธิบายอะไรกับหลินหยัง หลังจากสั่งงานเสร็จก็โบกมือให้หลินหยังออกไป

ก่อนที่หลินหยังจะออกจากห้อง ได้แอบมองไปที่ลู่เซิ่นแวบหนึ่ง เห็นเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนกำลังมีความสุขกับข้อความอีกครั้ง

แต่มุมปากของเขายังปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา

รอยยิ้มนี้ทำให้หลินหยังตกตะลึง

เขาลืมไปแล้ว นานแค่ไหนที่ไม่เห็นรอยยิ้มอย่างนี้ของลู่เซิ่น

หนึ่งปีมานี้ลู่เซิ่นเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยที่ติดตามเขาเห็นเขาท่าทางมีความสุขน้อยมาก

ทำยังไงดี แปลกใจขึ้นอีก อีกฝ่ายเป็นเทพองค์ไหนกัน ที่ทำได้มากขนาดนี้?

ถ้าให้เข้าใจได้ง่าย หลินหยังเข้าใจว่า น่าจะเป็นคนรักของลู่เซิ่น

หนึ่งปีมานี้หลินหยังกับลู่เซิ่นแยกจากกันน้อยมาก เขาพยายามคิดและนึกย้อนไปอยู่นาน แต่ก็คิดไม่ออกว่าหนึ่งปีมานี้ลู่เซิ่นไม่ได้รับใครเข้ามาข้างกาย ไม่ต้องพูดถึงคนที่มีอิทธิพลกับลู่เซิ่นได้ขนาดนี้ต้องสนิทสนมใกล้ชิดกันแน่นอน

หรือว่า…จะเป็นเวินจิ้ง?

วินาทีที่หลินหยังคิดชื่อนี้ออกมาได้ สัญชาตญาณของเขาก็ปฏิเสธความคิดนี้

ไม่ ไม่น่าจะใช่เธอ

ครั้นแล้วสมองของหลินหยังก็คิดออกมาอีกหนึ่งชื่อ

ฉินซี

หลังจากคิดได้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ หลินหยังรีบส่ายหน้าอย่างเร็ว

เป็นไปได้ยังไง ลู่เซิ่นไม่ได้ติดต่อกับเธอมานานแค่ไหนแล้ว!

ช่างเถอะ ไปทำงานของตัวเองดีกว่า

หลินหยังลดสายตาลงและก้าวเท้าเดินออกไป

ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าครั้งนี้เขาอยู่ห่างจากคำตอบแค่เพียงก้าวเดียวเท่านั้น

ข่าวคราวที่ลู่เซิ่นได้รับนั้น แน่นอนไม่ใช่ของคนอื่น แต่เป็นฉินซีที่ส่งมา

ตอนฉินซีอยู่ที่สำนักงานใหญ่สัญญาณโทรศัพท์ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ดังนั้นเธอจึงแทบจะไม่ติดต่อกับลู่เซิ่นเลย มีแค่ตอนที่ออกมาจากสำนักงานใหญ่เท่านั้น เธอถึงจะส่งข่าวคราวง่ายๆ ให้ลู่เซิ่น

ข่าวคราวส่วนใหญ่สั้นๆ บอกสถานที่และเวลาที่เธอไปทำภารกิจ

เธอไม่สามารถขยับตารางการเดินทางได้ แต่ลู่เซิ่นทำได้

ดังนั้นหลังจากได้รับข้อความ ลู่เซิ่นมักจะพยายามแก้ไขตารางงานของตัวเอง เพื่อให้มีเวลาได้อยู่กับฉินซีให้มากขึ้นอีกหน่อย

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

สาเหตุที่ลู่เซิ่นอารมณ์ดีมาก ไม่ใช่เพราะอย่างอื่น เพราะสถานที่ที่ฉินซีส่งข่าวมา เป็นที่ที่เขาไปล่องเรือ และเวลา…ก็คือวันนี้

และข่าวที่ทำให้เขาดีใจที่สุด ก็คือฉินซีสามารถอยู่ล่องเรือได้หลายวัน

สิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวมักจะทำให้คนมีความสุขเสมอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้เจอคนรักอีกครั้งหลังจากแยกจากกันไปหนึ่งเดือน

ลู่เซิ่นแทบจะจัดตารางของเขากับฉินซีว่าอีกไม่กี่วันนี้จะทำอะไรบ้าง จะฆ่าเวลาบนเรือได้ยังไงเสร็จภายในไม่กี่นาที

ถึงแม้ฉินซีจะไม่สามารถเปิดเผยใบหน้าได้อย่างเป็นทางการขณะอยู่ข้างตัวลู่เซิ่น แต่ลู่เซิ่นมีวิธีจัดการให้เธอใช้เวลาอย่างมีความสุขภายในไม่กี่วันนี้

กระทั่งจุดประสงค์การมาครั้งนี้ ถูกลู่เซิ่นย้ายไปไว้ท้ายสุด

ธุรกิจต้องคุยอยู่แล้ว ธุรกิจสามารถคุยได้ตลอดเวลา แต่ใช่ว่าจะเจอฉินซีได้ตลอดเวลา

คิดถึงชื่อฉินซีนี้แล้ว มุมปากของลู่เซิ่นก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

เวลาผ่านไปเร็วหน่อยเถอะ

เขาภาวนาในใจ

ยิ่งใกล้ถึงเวลาค่ำ ก็ยิ่งใกล้เวลาที่ได้เจอฉินซีอีกครั้ง

……

ค่ำคืนที่ลู่เซิ่นเฝ้ารอคอยมาถึงแล้ว

ภายใต้การจัดการของหลินหยัง เขาได้ขึ้นเรือแล้ว และยังเข้าพักในห้องพักที่ผู้จัดงานจองไว้ให้

ครั้งนี้ผู้จัดงานได้จองเรือสำราญลำใหญ่ไว้ จึงไม่จำเป็นต้องหยุดที่ท่าเรือเพื่อจัดงานเลี้ยง และเตรียมการล่องเรือสามวัน เพื่อให้ทุกคนสนุกสนานไปกับการล่องเรือ

และเพราะการตัดสินใจครั้งนี้ของผู้จัดงาน ทำให้ฉินซีที่ทำภารกิจเสร็จต้องแล้วกลับทันที จำเป็นต้องอยู่ต่อบนเรือสำราญเต็มๆ อีกสามวัน

ถ้าไม่มีฉินซี สามวันนี้สำหรับลู่เซิ่นจะเป็นเวลาที่ว่างเปล่ามาก แต่เพราะข่าวที่มาเธอจะด้วย ทำให้ลู่เซิ่นมีความคาดหวังขึ้นมา

พูดแล้วน่าสงสาร สามวันที่ได้ใกล้ชิดกัน สำหรับคู่สามีภรรยาที่แต่งกันถูกต้องเหมาะสมแล้ว ภายในเวลาหนึ่งปีนี้ เป็นสถิติที่ยาวที่สุดแล้ว

แต่ลู่เซิ่นไม่ได้วุ่นวายอยู่กับอารมณ์ แต่กลับวุ่นวายกับการรอคอย

เขาส่งเลขห้องพักของตัวเองให้ฉินซีแล้ว ท้องฟ้านอกหน้าต่างค่อยมืดลงเรื่อยๆ น่าแปลกใจ ฉินซีสามารถมาถึงได้ตลอดเวลา

เขาได้จัดตารางงานล่วงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว หลินหยังก็ถูกเขาส่งออกไปแล้ว

ขอแค่ฉินซีปรากฏตัว…

ฉินซีสองคำนี้แทบจะเหมือนเปลวไฟสองกอง ทุกครั้งที่คิดถึง ทำให้หน้าอกของลู่เซิ่นร้อนเป็นไฟจนหาอะไรเทียบไม่ได้

ขณะที่รอเวลาเปลี่ยนเป็นยาวนานยิ่งขึ้น

ขณะที่ลู่เซิ่นดื่มแชมเปญไปสองแก้ว เดินวนรอบห้องไปสองห้อง กำลังจะเดินวนเป็นรอบที่สาม ในที่สุดเสียงกระดิ่งที่หน้าประตูห้องก็ดังขึ้น

ลู่เซิ่นแทบจะพุ่งไปที่ประตู

ถ้ามีคนอื่นเห็นท่าทีที่ไม่มั่นคงของเขา คนอื่นเขาต้องตกใจกันไปใหญ่แน่นอน

แต่ว่าลู่เซิ่นไม่ได้สนใจว่าท่าทางของเขาตอนนี้จะทำให้คนอื่นๆ ตกใจมากแค่ไหน เพราะไม่ได้สนใจแล้ว ขณะที่มองผ่านตาแมวนั้น เขารู้สึกหัวใจเต้นแรงเหมือนกลอง

แต่เมื่อดูคนที่ยืนอยู่ด้านนอกอย่างชัดเจนแล้ว เขาควบคุมรอยยิ้มของตัวเองไม่ได้ในทันที ถอยหลังมาหนึ่งก้าวและดึงประตูให้เปิดออก

ฉินซียืนอยู่ด้านนอก

ไม่กี่วินาทีแรก ทั้งสองคนยืนอยู่ที่เดิมอย่างนั้น มองซึ่งกันและกัน ไม่มีใครขยับตัว

จนกระทั่งฉินซีกะพริบตาเบาๆ

ลู่เซิ่นเหมือนถูกดึงสติกลับมาด้วยอะไรบางอย่าง ในที่สุดเขาก็ขยับตัว

เขายื่นมือออกไปดึงฉินซีเข้ามา

ผู้คนมากมายที่เดินอยู่ตามทางเดิน พวกเขาทั้งสองคนต้องควบคุมสีหน้าและท่าทาง ถ้าคนที่ไม่ได้สนใจมองมา ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนแทบจะไม่คุ้นเคยกัน

แต่เมื่อรอจนประตูปิดลง การแสดงเย็นชาที่ทั้งสองตั้งใจแสดงนั้นก็ถูกทำลายในทันที

ท่าทางลู่เซิ่นเหมือนแทบจะทนรอไม่ไหว ดึงฉินซีมาไว้ในอ้อมกอดทั้งตัว และดันไว้กับประตูด้านหลัง จากนั้นจูบอย่างดุเดือด เหมือนจะเอาความคิดถึงทั้งหมดโยนใส่เข้าไปในจูบนี้

และฉินซีไม่ต่อต้านกับการเคลื่อนไหวที่ที่แทบจะรุนแรงของเขา ตรงกันข้ามตอบรับอย่างอบอุ่นอ่อนโยน เพราะเธอรับรู้ได้ถึงความคิดถึงที่อยู่ซ่อนภายใต้การเคลื่อนไหวที่ร้อนแรงของลู่เซิ่น ที่ต้องการช่องทางการระบายออก

แต่มือของลู่เซิ่นค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ เธอจึงค่อยได้สติกลับมา

“ตอนนี้ไม่ได้” เธอยื่นมือออกไปห้ามการขยับต่อไปของลู่เซิ่น พูดอย่างยากลำบากขณะที่ลู่เซิ่นกำลังจูบ “ฉันยังต้องไปทักทายกับสมาชิกคนอื่นๆ ในองค์กรอีก ให้เวลาฉันอีกหน่อย”

ท่าทางลู่เซิ่นเหมือนไม่ได้ยิน แต่การขยับตัวค่อยๆ ช้าลงแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท