Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1311

ตอนที่ 1311

บทที่ 1311 เรื่องที่ไม่ดีปิดบังซ่อนไว้

เมื่อฉินซีฟังมาถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจโล่งอกเบาๆ : “พาฉันไปพบเขาหน่อย”

ใบหน้าของหลินหยังเกิดความลำบากใจขึ้นแวบหนึ่ง แต่ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี

คนหนึ่งเดินนำ คนหนึ่งเดินตามเข้าไปในลิฟต์ แล้วทั้งคู่ก็เดินออกมาอยู่ที่ชั้นอายุรกรรม

ฉินซีไม่รู้สึกผิดสังเกตในตอนแรก แต่ว่าเมื่อยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ

“แผนกโรคระบบทางเดินอาหารเหรอ” เมื่อเดินตามหลินหยังไปสักพัก ฉินซีก็อดไม่ได้จึงได้เรียกเขาขึ้น “เดินผิดทางหรือเปล่า ทำไมถึงมาที่นี่”

โดยทั่วไปแล้วส่วนที่ได้รับแรงกระทบจากระเบิดมักจะเป็นส่วนที่เปราะบางที่สุดอย่างม้ามและตับ แต่ถ้ากระทบไปถึงส่วนกระเพาะเมื่อไร ก็มักจะส่งผลที่ร้ายแรงกว่า

หลินหยังเพิ่งบอกเองว่าลู่เซิ่นไม่เป็นไร แต่ทำไม…..ถึงพามาที่แผนกโรคระบบทางเดินอาหาร

หลินหยังกลับไม่มีคำอธิบายใดๆให้กับเธอ เพียงแค่พยักหน้าเพื่อสื่อให้ฉินซีนั้นเดินตามตัวเองเข้าไป แล้วมายืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง

ประตูห้องผู้ป่วยปิดอยู่ มีเสียงเบาๆดังมาจากด้านใน ที่ฟังจับไม่ได้ใจความ

ฉินซีขมวดคิ้วขึ้นแน่น กำลังจะอ้าปากถามหลินหยังว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ๆก็มีเสียงเดินโซเซมาจากด้านหลัง

“คุณนาย!”

ฉินซีจึงหันขวับไปดู จึงเห็นพ่อบ้านที่ไม่ได้เจอกันมานาน

ทั้งๆที่ทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว แต่ตลอดปีมานี้กลับไม่เคยเห็นหน้าเธอ แม้พ่อบ้านจะมีการตอบสนองที่เชื่องช้า แต่ก็พอจะรู้ว่าระหว่างลู่เซิ่นกับฉินซีมีบางอย่างที่ไม่สามารถบอกกับคนรอบข้างได้

ในฐานะที่เป็นพ่อบ้าน เขาไม่เคยที่จะยุ่มย่ามหรือถามก้าวก่าย เพียงแต่เฝ้ามองลู่เซิ่นที่พยายามสู้สุดพลังอย่างเงียบๆในตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา

พ่อบ้านนั้นรู้ดีและเฉียบแหลมกว่าหลินหยัง พอจะเดาออกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของลู่เซิ่นนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการจากไปของฉินซี

แต่ว่าลู่เซิ่นเป็นคนเขาที่เห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต เรื่องบั่นทอนร่างกายตัวเองเช่นนี้ พ่อบ้านได้แต่ทุกข์ใจ กลับไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้

ถ้าหากฉินซีอยู่ อะไรๆก็คงจะดีกว่านี้

พ่อบ้านมักจะคิดเช่นนี้เป็นประจำ

เพราะฉะนั้นวินาทีแรกที่เห็นฉินซีที่โรงพยาบาล เขาราวกับเห็นความหวังที่จะทำให้ลู่เซิ่นนั้นดูแลตัวเองอีกครั้ง

หนึ่งปีที่ไม่ได้เจอ พ่อบ้านนั้นดูชราขึ้น มือทั้งสองจับมือของฉินซีไว้แน่น น้ำเสียงที่เต็มไปการถอนหายใจ “ในที่สุด…..ในที่สุดก็ได้เจอคุณ…..”

ฉินซีอยากจะอ้าปากตอบ แต่ประตูห้องผู้ป่วยกลับเปิดขึ้นทันใด

มีแพทย์สองคน หญิงหนึ่งชายหนึ่ง ทั้งคู่ได้เดินออกมาจากห้องผู้ป่วย

แพทย์ชายเห็นหลินหยังที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด จึงเอ่ยปากพูดขึ้น “ ได้ตรวจอาการเสร็จแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนโรคกระเพาะกำเริบนั้น พักผ่อนสองสามวันก็จะดีขึ้นเอง”

เมื่อพูดจบ ฉินซีกับพ่อบ้านก็พยักหน้าทักทาย แล้วก็จากไป

แพทย์หญิงที่เดินตามอยู่ด้านหลังไม่ได้พูดจาใดๆ เพียงแค่พยักหน้าทักทายแล้วก็จากไปพร้อมกัน

ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง ฉินซีรู้สึกว่าสายตาของแพทย์หญิงคนนั้นเพิ่งมาที่เธอนั้นนานกว่าปกติ

สายตาของเธอจึงมองตามร่างของแพทย์หญิงคนนั้น ที่ให้ความรู้สึกที่คุ้นตา

…..คือใครกันนะ

ฉินซีนึกไม่ออกในวินาทีนั้น จึงได้ส่ายหัวไปมา และก็ไม่พยายามนึกต่อไปอีก จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าไปยังห้องผู้ป่วย

ลู่เซิ่นไม่ได้นอนอยู่บนเตียง กลับนั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่ขาวซีด แต่ดวงตานั้นเป็นประกายวับ

เขาไม่มีการพูดการจา เพียงแค่ตบเบาๆไปเบาะนั่งข้างๆ

ฉินซีรับทราบแล้วก็เดินไปนั่งลงข้างๆเขา

ฉินซีชิงพูดขึ้นก่อนโดยไม่รอให้เขาเปิดปาก : “เมื่อสักครู่ฉันได้ยินคุณหมอบอกด้านนอกว่าโรคกระเพาะคุณกำเริบ คุณเป็นโรงกระเพาะตั้งแต่เมื่อไร”

แววตาลู่เซิ่นประกายวับขึ้น หันไปมองจิกหลินหยังแวบหนึ่ง

หลินหยังได้แต่ก้มหน้า ไม่พูดไม่จา

“ปี…..นี้” เผชิญหน้ากับสายตาของฉินซี ลู่เซิ่นไม่สามารถจะโกหกได้ จึงทำได้เพียงถอนหายใจเบาๆ แล้วก็พูดออกมา

ฉินซีหยีตาขึ้น : “ปีนี้เหรอ”

เธอโยงเรื่องที่ลู่เซิ่นเป็นโรคกระเพาะกับเรื่องที่เขาพยายามอย่างไม่คิดชีวิตมาตลอดทั้งปีเข้าด้วยกัน

“คุณ…..” เธอพยายามอ้าปากเพื่อจะพูดบางสิ่ง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นแค่เพียงเสียงถอนลมหายใจ

ท่ามกลางห้องที่เงียบสงบ แค่เพียงเสียงถอนลมหายใจก็ได้ยินได้อย่างชัดเจน

เป็นเรื่องที่เห็นได้ไม่บ่อยที่ลู่เซิ่นนั้นไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรดี จึงทำได้เพียงเอื้อมมือไปคว้าฉินซีมากอดไว้ในอ้อมแขน แล้วเปลี่ยนเป็นพูดเรื่องอื่นแทน : “เรื่องอุบัติเหตุบนเรือนั้นได้ทำการตรวจสอบแล้ว”

เขาเปลี่ยนเรื่องได้เหมาะเจาะพอดี เบี่ยงเบนความสนใจของฉินซีได้ในทันที แล้วพูดขึ้น : “เกิดอะไรขึ้น”

น้ำเสียงลู่เซิ่นเคร่งขรึม : “มีบุคคลบนเรือทำธุรกิจไม่ใสสะอาด อาศัยบนเรือมีผู้คนพลุกพล่านเพื่อทำการแลกเปลี่ยนสินค้า แต่เล่นตุกติก โดยคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายนั้นก็ไม่กระจอกงอกง่อย มีทำการเตรียมระเบิดไว้ตั้งแต่แรก เมื่อเห็นว่าเขาไม่อยู่ในกติกา จึงได้ทำการระเบิดสินค้าทันที”

ฉินซีขมวดคิ้วขึ้นแล้วถามต่อ : “แล้วบนลานจอดเครื่องบินคืออะไร”

ลู่เซิ่นยิ้ม : “นั่นเป็นกับดักที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ตั้งแต่แรก หลังจากระเบิดสินค้าแล้ว อีกฝ่ายย่อมไม่ยอมหยุดอย่างง่ายๆแน่นอน ดังนั้นพวกเขาได้จัดคนไปรอขวางที่ลานจอดเครื่องบิน พวกเราโชคร้ายที่ไม่รู้อิโหน่อิโหน่ จึงพลอยซวยไปด้วย”

ในที่สุดฉินซีก็เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าเป็นมาอย่างไร

การเล่นตุกติกนั้น ไม่ว่าจะสมัยไหนๆก็มักจะเป็นเรื่องที่พบเจอบ่อยๆ

อีกฝ่ายใช้เรือสำราญสุดอลังการลำนี้เป็นที่กำบังเพื่อจะทำเรื่องแบบนี้ ตัวเอง…..ก็กำลังทำเรื่องแบบนี้อยู่ไม่ใช่หรือ

เรือสำราญที่สุดแพงเช่นนี้ มีผู้คนที่ภายนอกแต่งตัวดูดี ลึกๆแล้วมีเรื่องที่ไม่ดีปิดบังซ่อนไว้มากแค่ไหนกัน

ฉินซีสะอิดสะเอียนในใจถึงสิ่งที่ตัวเองกระทำ และสิ่งจอมปลอมที่เรียกว่า “สังคมชั้นสูง”

ไม่รู้ว่าลู่เซิ่นนั้นอ่านความคิดเธอออกหรือเปล่า แต่เขาเงียบไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่จับมือฉินซีไว้อย่างเงียบๆ

โชคดีที่ทั้งคู่นั้นไม่เป็นอะไร

แต่ต่อให้ทั้งคู่จะปลอดภัยดี ก็ไม่ได้หมายความว่าลู่เซิ่นจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สำหรับเรื่องที่เขาจะจัดการกับคนพวกนี้อย่างไร ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉินซีจำเป็นต้องทราบ

เมื่อสมองของฉินซีได้ทบทวนต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ความคิดของเธอก็ได้วกกลับมาที่ตัวของลู่เซิ่นอีกครั้ง

เธอเม้มริมฝีปาก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน :“ต่อไป…..อย่าเสี่ยงแบบนี้อีกได้ไหม”

ลู่เซิ่นหันไปสบสายตากับเธอ เขารู้ดีว่าฉินซีหมายถึงโรคกระเพาะของเขา

เขาอยากจะบอกว่าถ้าไม่เสี่ยงแบบนี้ จะทำให้คุณออกจากที่นั่นได้อย่างไร

แต่อยู่ภายใต้แววตาของฉินซี ทำให้เขาไม่อาจจะปฏิเสธได้ จึงได้พยักหน้ารับ

ขณะที่ฉินซีเหมือนกำลังอยากจะพูดบางอย่าง โทรศัพท์ของเธอได้ดังขึ้นในทันใด

ฉินซีหยิบออกมาดู แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปฉับพลัน

ลู่เซิ่นไม่ได้ตั้งใจหันไปมอง แต่หางตาแอบเหลือบไปดูชื่อของสายที่โทรเข้ามา

—— จ้านเซิน

มือซ้ายของเขากำหมัดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ฉินซีนั้นตกอยู่ในความตระหนกอยู่ชั่วขณะ

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ทำให้เธอลืมองค์กรไปอย่างสนิท ลืมเรื่องที่องค์กรส่งคนมารับเธอที่ท่าเรือ

ตอนที่เธอติดเครื่องบินของตระกูลลู่จากมานั้น จิตใจก็ห่วงพะวงแต่ลู่เซิ่นนั้นจะได้รับบาดหรือไม่ จนทำให้ลืมเรื่องอื่นไปอย่างสนิท

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท