บทที่ 1340 จ้านเซินปรากฏตัว
ลู่เซิ่นรอให้ฉินซีพูดจบ ก่อนพูด “ยานั่น คุณไปถามโจวเอ้อเลย เขามีแน่”
ฉินซีพยักหน้า “โอเค”
ทั้งสองคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกันสักพัก ลู่เซิ่นเชื่อใจในฝีมือฉินซี แต่ยังไงเขาก็คงมีความกังวลใจเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะกำชับเธอ “ถ้าถูกคนของมู่วี่สิงจับตัว คุณต้องเอาเวินจิ้งไปด้วย มู่วี่สิงไม่ทำร้ายเวินจิ้งแน่”
ฉินซียิ้ม “แค่บอดี้การ์ดของตระกูลมู่ จะจับฉันได้อย่างนั้นเหรอ?”
รอยยิ้มของเธอดูเย่อหยิ่งเล็กน้อย “แน่นอนว่าผมเชื่อในตัวคุณ แต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี”
ฉินซีรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของเขา เธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “… ฉันจะระวัง”
เมื่อเห็นว่าในที่สุดเธอก็ตอบตกลง ลู่เซิ่นก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ทั้งสองคุยกันสักพักก่อนจะวางสาย
ในที่สุดฉินซีก็ลุกขึ้นจากเตียง เธอแต่งตัว และร่างแผนบนคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง ก่อนจะลบไฟล์และยืนขึ้น
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องลงมือ เธอยังไม่ต้องรีบร้อน
สำหรับวันหยุดที่ว่างนี้ … เธอไม่ได้กลับเมืองหนานมาสักพักแล้ว แถมตารางงานยังรัดตัวอีก
พอมีโอกาส ก็ออกไปเดินเล่นดีกว่า
หลังจากตัดสินใจ ฉินซีก็เก็บกระเป๋าของตัวเอง เตรียมออกไปข้างนอก
แต่ทันทีที่เธอเดินลงมาจากบันได เธอก็พบว่า … มีคนอยู่ที่ชั้นล่าง
ฉินซีเพ่งมองสักพัก แต่เมื่ออีกฝ่ายหันหน้ามา ใจเธอก็ตกลงไปที่ตาตุ่ม
– จ้านเซิน
เขานั่งอยู่ในห้องรับแขก ราวกับว่ามันเป็นบ้านตัวเอง
ฉินซีไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆเขาถึงมาที่นี่อย่างกะทันหัน และไม่ได้บอกเธอล่วงหน้า
ธุระของบริษัท?เรื่องส่วนตัว?รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับลู่เซิ่น… หรือเรื่องอื่นกัน?
สมองของฉินซีทำงานอย่างรวดเร็ว เธอคิดจะถอยหลังและแสร้งทำเป็นไม่เห็นจ้านเซิน แต่ยังไงก็ต้องลงไปอยู่ดี
ทั้งสองมองหน้ากัน ฉินซีถอนหายใจ ยังไงก็ต้องเดินลงไปอยู่ดี
“ทำไมคุณถึงมาที่นี่” ฉินซียิ้มสุภาพ”ไม่บอกกันล่วงหน้า วันนี้ทุกคนไม่อยู่หรอก ไม่มีใครมาต้อนรับคุณด้วย”
จ้านเซินมองไปยังฉินซีด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง เขาไม่ได้ตอบอะไรออกไปทันที
เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่เธอออกจากสำนักงานใหญ่
สี่สัปดาห์ ยี่สิบแปดวัน
เขาปฏิบัติตามคำแนะนำของถังย่า เขาให้อิสระแก่ฉินซี เขาไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ไม่เฝ้าดูโทรศัพท์มือถือของเธอ ไม่ได้เจาะเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบและไม่ให้เหล่าหวางรายงานความเป็นไปของเธอ
ถังย่าบอกว่าฉินซีต้องการอิสระ และแพทย์ในแผนกยังบอกอีกว่า ฉินซีมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าถ้าเขาไม่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เธอทันที
เมื่อเธอมีอิสระ เธอจะมีความสุขและได้รับการเยียวยา… แต่ดูเขาสิ
ด้วยความคาดหวังเช่นนี้ จ้านเซินจึงกัดฟันและปล่อยให้ฉินซีจากไป
ตลอดยี่สิบแปดวันที่ผ่านมานี้ เขาไม่รู้ว่าตัวเองใช้ชีวิตแบบไหน การเฝ้าติดตามฉินซีเกือบจะกลายเป็นสัญชาตญาณของเขา และเพื่อระงับสัญชาตญาณนี้ ในตอนนี้ไม่มีใครสามารถเข้าใจความเจ็บปวดของเขาได้
แต่เห็นได้ชัดว่าฉินซีเมื่อได้รับอิสรภาพที่เธอต้องการ เธอดูมีความสุขมาก
ใบหน้าของเธอไม่มีความซีดเซียวที่ไร้ชีวิตอีกต่อไป ใบหน้าเธอสดใสขึ้น ดวงตาไม่มีแต่ความว่างเปล่า ดูมีชีวิตชีวา
… เมื่อเห็นแบบนี้ มันเหมือนได้ฉินซีคนที่เขาตกหลุมรักกลับคืนมา
เมื่อได้เผชิญหน้ากับตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเธอดูมีความระวังตัว แม้ว่าเธอจะทำตัวตามสบาย แต่มันก็ชัดเจนในดวงตาของเธอ จ้านเซินมองออกทั้งหมด
… ฉันให้อิสระกับเธอมากขนาดนี้ เธอยังจะระวังฉันอีกเหรอ?
จ้านเซินเกือบจะไม่พอใจ แต่ในที่สุดเขาก็ต้องกลืนอารมณ์ลงไป ก่อนตอบเธอด้วยน้ำเสียงปกติ “ไม่ต้องต้อนรับหรอก ฉันแค่มาดูเธอ”
เขาต้องการให้น้ำเสียงของตัวเองอ่อนโยนกว่านี้ แต่จ้านเซินก็เหมือนเกิดมาพร้อมกับขาดเซลล์ที่โรแมนติก ประโยคนี้ที่เขาพูด มันเหมือนกับสอบปากคำนักโทษ
ทำให้สีหน้าของฉินซีดูจริงจังขึ้นมาหลายส่วน “ดูฉัน? ฉันก็สบายดีนี่ ที่เมืองหนานก็มีเรื่องวุ่นวายทุกวัน ถ้าคุณอยากจะดูตารางงาน ฉันจะไปหยิบให้”
“ฉินซี” เมื่อเห็นว่ามันจะเริ่มไปเรื่องงาน เขาก็ไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้น จึงรีบพูดขัดเธอ “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อถามเธอเรื่องงาน”
“แล้วมาทำไม?” ฉินซีไม่เข้าใจจริงๆ
จ้านเซินหลับตาลง ขี้เกียจจะอธิบาย เขาเปลี่ยนเรื่อง “คุณกำลังจะไปไหน”
เขามองไปยังฉินซี
ฉินซีโง่เง่า
เธอคิดว่าไม่ได้ออกไปข้างนอกมานานแล้ว แม้ว่าจะอยู่คนเดียว แต่เธอก็แต่งตัวเสียสวยงาม
ถ้าเธอรู้ว่าจ้านเซินจะมาที่นี่ เธอจะไม่แต่งตัวแบบนี้แน่นอน
เป็นไปไม่ได้แล้วที่จะบอกว่า เธอแค่จะลงมาแค่ข้างล่าง…
ฉินซีทำได้แค่ยิ้ม “ฉันจะออกไปซื้ออาหารเช้า ฉันยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย”
จ้านเซินลุกขึ้นยืน “พอดีเลย ฉันก็ยังไม่ได้กิน เราไปด้วยกันเถอะ”
ฉินซีปฏิเสธไม่ได้ ทำได้เพียงแค่พยักหน้า
ที่จินตนาการถึงเดินเล่นมีความสุขรอบๆ เมืองหนานคนเดียวกลายเป็นต้องมาทรมานกับจ้านเซิน
ฉินซีล้มเลิกแผนการก่อนหน้า เดินตรงไปยังแผงขายอาหารหน้าประตู
—— คนอย่างจ้านเซิน คงรับไม่ได้กับแผงขายอาหารแบบนี้ใช่ไหม?
ฉินซีมองไปยังอาหารอมน้ำมันบนโต๊ะขาย ในใจคิดไปถึง
ตัวเองมาทานอาหารถึงที่นี่ เขากินไม่ได้หรอก
ถ้าเขาเสนอที่จะไปที่อื่น เธอก็สามารถหาข้ออ้างเพื่อแยกกับเขาได้
ฉินซีโห่ร้องในใจ แต่แล้วทำไมเขาเข้าไปก่อนเธออีกล่ะ
ก่อนนั่งลง เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร สุดท้ายก็ต้องนั่งลงไปอยู่ดี
ฉินซีประหลาดใจ แต่ไม่มีวิธีอื่นนอกจากกวักมือเรียกพนักงาน และสั่งอาหารเช้า
แม้เธอจะมองจ้านเซินไม่ออก แต่เธอก็คิดว่าสามารถรับมือกับเขาได้
เป็นเวลากว่าสิบนาทีที่ทั้งสองไม่คุยอะไรกันเลยระหว่างทานอาหาร
จ้านเซินกินเร็วกว่าฉินซี เขารอให้ฉินซีกินเสร็จอย่างเงียบๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปจ่ายเงิน
เธอมองไปที่แผ่นหลังของจ้านเซิน ฉินซีมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ไม่สามารถบอกได้
ทั้งสองเดินเคียงกันออกมาจากแผงขายอาหาร จ้านเซินพูดขึ้นมาว่า “วันนี้คุณจะทำอะไรบ้าง”
ฉินซีคิดอย่างรอบคอบสักพัก ก่อนจะพูดออกมา “ไม่มีเลย ฉันจะกลับไปนอนต่อ”
จ้านเซินขมวดคิ้วออกมา แต่พยายามทำตัวปกติ ก่อนจะรีบพูดต่อ “วันนี้อากาศดีมากเลยนะ ทำไมคุณไม่ออกไปเดินเล่นล่