Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1340

ตอนที่ 1340

บทที่ 1340 จ้านเซินปรากฏตัว

ลู่เซิ่นรอให้ฉินซีพูดจบ ก่อนพูด “ยานั่น คุณไปถามโจวเอ้อเลย เขามีแน่”

ฉินซีพยักหน้า “โอเค”

ทั้งสองคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกันสักพัก ลู่เซิ่นเชื่อใจในฝีมือฉินซี แต่ยังไงเขาก็คงมีความกังวลใจเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะกำชับเธอ “ถ้าถูกคนของมู่วี่สิงจับตัว คุณต้องเอาเวินจิ้งไปด้วย มู่วี่สิงไม่ทำร้ายเวินจิ้งแน่”

ฉินซียิ้ม “แค่บอดี้การ์ดของตระกูลมู่ จะจับฉันได้อย่างนั้นเหรอ?”

รอยยิ้มของเธอดูเย่อหยิ่งเล็กน้อย “แน่นอนว่าผมเชื่อในตัวคุณ แต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี”

ฉินซีรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของเขา เธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “… ฉันจะระวัง”

เมื่อเห็นว่าในที่สุดเธอก็ตอบตกลง ลู่เซิ่นก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ทั้งสองคุยกันสักพักก่อนจะวางสาย

ในที่สุดฉินซีก็ลุกขึ้นจากเตียง เธอแต่งตัว และร่างแผนบนคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง ก่อนจะลบไฟล์และยืนขึ้น

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องลงมือ เธอยังไม่ต้องรีบร้อน

สำหรับวันหยุดที่ว่างนี้ … เธอไม่ได้กลับเมืองหนานมาสักพักแล้ว แถมตารางงานยังรัดตัวอีก

พอมีโอกาส ก็ออกไปเดินเล่นดีกว่า

หลังจากตัดสินใจ ฉินซีก็เก็บกระเป๋าของตัวเอง เตรียมออกไปข้างนอก

แต่ทันทีที่เธอเดินลงมาจากบันได เธอก็พบว่า … มีคนอยู่ที่ชั้นล่าง

ฉินซีเพ่งมองสักพัก แต่เมื่ออีกฝ่ายหันหน้ามา ใจเธอก็ตกลงไปที่ตาตุ่ม

– จ้านเซิน

เขานั่งอยู่ในห้องรับแขก ราวกับว่ามันเป็นบ้านตัวเอง

ฉินซีไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆเขาถึงมาที่นี่อย่างกะทันหัน และไม่ได้บอกเธอล่วงหน้า

ธุระของบริษัท?เรื่องส่วนตัว?รู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับลู่เซิ่น… หรือเรื่องอื่นกัน?

สมองของฉินซีทำงานอย่างรวดเร็ว เธอคิดจะถอยหลังและแสร้งทำเป็นไม่เห็นจ้านเซิน แต่ยังไงก็ต้องลงไปอยู่ดี

ทั้งสองมองหน้ากัน ฉินซีถอนหายใจ ยังไงก็ต้องเดินลงไปอยู่ดี

“ทำไมคุณถึงมาที่นี่” ฉินซียิ้มสุภาพ”ไม่บอกกันล่วงหน้า วันนี้ทุกคนไม่อยู่หรอก ไม่มีใครมาต้อนรับคุณด้วย”

จ้านเซินมองไปยังฉินซีด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง เขาไม่ได้ตอบอะไรออกไปทันที

เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่เธอออกจากสำนักงานใหญ่

สี่สัปดาห์ ยี่สิบแปดวัน

เขาปฏิบัติตามคำแนะนำของถังย่า เขาให้อิสระแก่ฉินซี เขาไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ไม่เฝ้าดูโทรศัพท์มือถือของเธอ ไม่ได้เจาะเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบและไม่ให้เหล่าหวางรายงานความเป็นไปของเธอ

ถังย่าบอกว่าฉินซีต้องการอิสระ และแพทย์ในแผนกยังบอกอีกว่า ฉินซีมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าถ้าเขาไม่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เธอทันที

เมื่อเธอมีอิสระ เธอจะมีความสุขและได้รับการเยียวยา… แต่ดูเขาสิ

ด้วยความคาดหวังเช่นนี้ จ้านเซินจึงกัดฟันและปล่อยให้ฉินซีจากไป

ตลอดยี่สิบแปดวันที่ผ่านมานี้ เขาไม่รู้ว่าตัวเองใช้ชีวิตแบบไหน การเฝ้าติดตามฉินซีเกือบจะกลายเป็นสัญชาตญาณของเขา และเพื่อระงับสัญชาตญาณนี้ ในตอนนี้ไม่มีใครสามารถเข้าใจความเจ็บปวดของเขาได้

แต่เห็นได้ชัดว่าฉินซีเมื่อได้รับอิสรภาพที่เธอต้องการ เธอดูมีความสุขมาก

ใบหน้าของเธอไม่มีความซีดเซียวที่ไร้ชีวิตอีกต่อไป ใบหน้าเธอสดใสขึ้น ดวงตาไม่มีแต่ความว่างเปล่า ดูมีชีวิตชีวา

… เมื่อเห็นแบบนี้ มันเหมือนได้ฉินซีคนที่เขาตกหลุมรักกลับคืนมา

เมื่อได้เผชิญหน้ากับตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเธอดูมีความระวังตัว แม้ว่าเธอจะทำตัวตามสบาย แต่มันก็ชัดเจนในดวงตาของเธอ จ้านเซินมองออกทั้งหมด

… ฉันให้อิสระกับเธอมากขนาดนี้ เธอยังจะระวังฉันอีกเหรอ?

จ้านเซินเกือบจะไม่พอใจ แต่ในที่สุดเขาก็ต้องกลืนอารมณ์ลงไป ก่อนตอบเธอด้วยน้ำเสียงปกติ “ไม่ต้องต้อนรับหรอก ฉันแค่มาดูเธอ”

เขาต้องการให้น้ำเสียงของตัวเองอ่อนโยนกว่านี้ แต่จ้านเซินก็เหมือนเกิดมาพร้อมกับขาดเซลล์ที่โรแมนติก ประโยคนี้ที่เขาพูด มันเหมือนกับสอบปากคำนักโทษ

ทำให้สีหน้าของฉินซีดูจริงจังขึ้นมาหลายส่วน “ดูฉัน? ฉันก็สบายดีนี่ ที่เมืองหนานก็มีเรื่องวุ่นวายทุกวัน ถ้าคุณอยากจะดูตารางงาน ฉันจะไปหยิบให้”

“ฉินซี” เมื่อเห็นว่ามันจะเริ่มไปเรื่องงาน เขาก็ไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้น จึงรีบพูดขัดเธอ “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อถามเธอเรื่องงาน”

“แล้วมาทำไม?” ฉินซีไม่เข้าใจจริงๆ

จ้านเซินหลับตาลง ขี้เกียจจะอธิบาย เขาเปลี่ยนเรื่อง “คุณกำลังจะไปไหน”

เขามองไปยังฉินซี

ฉินซีโง่เง่า

เธอคิดว่าไม่ได้ออกไปข้างนอกมานานแล้ว แม้ว่าจะอยู่คนเดียว แต่เธอก็แต่งตัวเสียสวยงาม

ถ้าเธอรู้ว่าจ้านเซินจะมาที่นี่ เธอจะไม่แต่งตัวแบบนี้แน่นอน

เป็นไปไม่ได้แล้วที่จะบอกว่า เธอแค่จะลงมาแค่ข้างล่าง…

ฉินซีทำได้แค่ยิ้ม “ฉันจะออกไปซื้ออาหารเช้า ฉันยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย”

จ้านเซินลุกขึ้นยืน “พอดีเลย ฉันก็ยังไม่ได้กิน เราไปด้วยกันเถอะ”

ฉินซีปฏิเสธไม่ได้ ทำได้เพียงแค่พยักหน้า

ที่จินตนาการถึงเดินเล่นมีความสุขรอบๆ เมืองหนานคนเดียวกลายเป็นต้องมาทรมานกับจ้านเซิน

ฉินซีล้มเลิกแผนการก่อนหน้า เดินตรงไปยังแผงขายอาหารหน้าประตู

—— คนอย่างจ้านเซิน คงรับไม่ได้กับแผงขายอาหารแบบนี้ใช่ไหม?

ฉินซีมองไปยังอาหารอมน้ำมันบนโต๊ะขาย ในใจคิดไปถึง

ตัวเองมาทานอาหารถึงที่นี่ เขากินไม่ได้หรอก

ถ้าเขาเสนอที่จะไปที่อื่น เธอก็สามารถหาข้ออ้างเพื่อแยกกับเขาได้

ฉินซีโห่ร้องในใจ แต่แล้วทำไมเขาเข้าไปก่อนเธออีกล่ะ

ก่อนนั่งลง เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร สุดท้ายก็ต้องนั่งลงไปอยู่ดี

ฉินซีประหลาดใจ แต่ไม่มีวิธีอื่นนอกจากกวักมือเรียกพนักงาน และสั่งอาหารเช้า

แม้เธอจะมองจ้านเซินไม่ออก แต่เธอก็คิดว่าสามารถรับมือกับเขาได้

เป็นเวลากว่าสิบนาทีที่ทั้งสองไม่คุยอะไรกันเลยระหว่างทานอาหาร

จ้านเซินกินเร็วกว่าฉินซี เขารอให้ฉินซีกินเสร็จอย่างเงียบๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปจ่ายเงิน

เธอมองไปที่แผ่นหลังของจ้านเซิน ฉินซีมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ไม่สามารถบอกได้

ทั้งสองเดินเคียงกันออกมาจากแผงขายอาหาร จ้านเซินพูดขึ้นมาว่า “วันนี้คุณจะทำอะไรบ้าง”

ฉินซีคิดอย่างรอบคอบสักพัก ก่อนจะพูดออกมา “ไม่มีเลย ฉันจะกลับไปนอนต่อ”

จ้านเซินขมวดคิ้วออกมา แต่พยายามทำตัวปกติ ก่อนจะรีบพูดต่อ “วันนี้อากาศดีมากเลยนะ ทำไมคุณไม่ออกไปเดินเล่นล่

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท