Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1344

ตอนที่ 1344

บทที่ 1344 ปฏิเสธ

เมื่อชายหญิงมีความสัมพันธ์กัน แน่นอนว่าจะมีความเชื่อมั่นในตนเอง เชื่อมั่นในอีกฝ่าย

แต่แค่เพียงมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่หวั่นไหว แน่นอนว่าเป็นการหลงตัวเอง

จ้านเซินแทบจะไม่รู้อะไรเรื่องนี้เลย มองเข้าไปในดวงตาของฉินซีเขียนคำว่า “ฉันรู้ว่าเธอจะไม่ปฏิเสธฉัน”

สมองของเธอหมุนติ้วอย่างรวดเร็ว

จะโพล่งคำปฏิเสธออกมาอีกครั้งหรอ?

ฉินซีไม่ได้กลัวว่าจะทำลายความสัมพันธ์กับจ้านเซินโดยสมบูรณ์ เธอไม่สนใจอย่างยิ่งว่าจ้านเซินจะคิดกับเธออย่างไร

สิ่งที่เธอกลัวคือ…..

ทั้งห้องว่างเปล่า มีเพียงพวกเขาสองคน ห้องรับรองปิดม่านลง แสงมืดมิด มีแค่ฉินซีกลับจ้านเซิน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง

ฉินซีมองเห็นถึงความกระหายที่กระตือรือร้นในสายตาของจ้านเซิน

สัญชาตญาณของผู้ชาย

ถ้าตอนนี้เธอปฏิเสธไป จ้านเซินภายใต้การกระตุ้น จะโผเข้ามาทำอะไรอย่างไม่สนอกสนใจไหม?

ฉินซีไม่กล้าลอง

ทักษะการต่อสู้ของเธอฟื้นตัวได้ดีหลังจากการพักฟื้นเป็นเวลานาน แต่อยู่ต่อหน้าจ้านเซิน มีแต่ความไม่เพียงพอ

ถ้าเขาจะทำอะไรตนขึ้นมาจริงๆ ฉินซีไม่อาจแน่ใจได้ว่าตนเองจะหนีได้

ในกรณีที่หนีไม่ได้…..

นึกถึงผลลัพธ์แบบนี้ ฉินซีก็รู้สึกตัวเย็น

ตอนนี้เธอมีลู่เซิ่น ไม่อาจกระทำเรื่อง ไม่สามารถทำเรื่องที่อาจเกินการควบคุมได้

ดังนั้นฉินซีจึงปล่อยความคิดที่จะปฏิเสธจ้านเซินไป

แต่มีวิธีอะไร จะไม่ทำให้จ้านเซินโมโห แล้วยังปฏิเสธได้อีก?

คิ้วของฉินซีขมวดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

จ้านเซินราวกับพบท่าทางสับสนของเธอแล้ว ยิ่งเดินหน้าเข้าใกล้อีก

ฉินซีรู้ว่าตนไม่อาจไม่พูดอะไรได้แล้ว

“จ้านเซิน” เธอถอนหายใจเบาๆ “ไม่ว่ายังไง อย่างแรกเลยฉันเป็นคนคนหนึ่ง”

จ้านเซินชะงักไปสองสามวินาที ใบหน้ามีความสับสนเขียนอยู่ “หมายความว่ายังไง?”

ฉินซีเม้มปาก “ถึงแม้นายจะยอมรับการขัดขืนและความไม่ชอบของฉันได้ แต่ฉันรับไม่ได้”

ทันใดนั้นสีหน้าของจ้านเซินก็จมดิ่งลง

แต่ก่อนที่เขาจะเปิดปาก ฉินซีรีบพูดเสริม “ฉันไม่สามารถตอบรับความใกล้ชิดของนายได้ในทันที”

สายตาของจ้านเซินเป็นประกาย เหมือนจับช่องโหว่อะไรได้ เอ่ยปากพูด “ไม่สามารถทำได้ทันที….ก็แปลว่าหลังจากนี้ทำได้”

แต่ไหนแต่ไรเขาไม่ชอบใช้ประโยคคำถาม ในทุกๆท้ายประโยคล้วนเป็นน้ำเสียงที่เด็ดขาด ทำให้ฉินซีไม่มีโอกาสที่จะหักล้าง

มุมปากของเธอยืดเป็นเส้นตรง ไม่ได้ตอบ

ใบหน้าของจ้านเซินกลับเผยรอยยิ้มออกมาช้าๆ

“ฉันจะให้เวลาเธอปรับตัว แม้ว่าตอนนี้เธอปรับตัวเข้ากับฉันไม่ได้ ก็จะยอมรับฉันได้อย่างช้าๆ”

ตอนที่เขาพูดคำนี้ไม่ได้มองไปที่ฉินซี เป็นธรรมดาที่จะมองไม่เห็นความรังเกียจที่แวบขึ้นบนใบหน้าของเธอ

เธอรังเกียจน้ำเสียงที่มั่นใจในตัวเองแบบนี้ของจ้านเซิน รังเกียจท่าทีที่จ้านเซินกำเธอไว้กลางฝ่ามือ

ความรักคือเรื่องทั้งสองคน เป็นกระทั่งการร่วมมือซึ่งกันและกัน และอย่างน้อยก็เคารพซึ่งกันและกัน

แต่ในด้านของจ้านเซิน เห็นได้ชัดว่าไม่มีความคิดนี้อยู่

เขาเพียงแต่พูดเองเออเอง ก็ตัดสินใจแล้ว “แต่ถ้าจะให้เธอปรับตัว ผมก็ต้องมาหาเธอบ่อยๆใช่ไหม? ผมเช็คดูกำหนดการช่วงสองสามวันนี้—-“

“จ้านเซิน” ในที่สุดฉินซีก็ทนไม่ไหวแล้ว ขึ้นเสียงตัดบทเขา “ฉันต้องการการเตรียมพร้อมของจิตใจ นายไม่อยู่จะดีกว่าหน่อย”

สัญชาตญาณของจ้านเซินรู้สึกไม่ถูกต้อง แต่มองดูท่าทีเลิกคิ้วของฉินซี ชั่วขณะหนึ่งไม่ได้หักล้างในทันที มีเพียงแค่ความสับสน พูดทวนอีกรอย “ฉันไม่อยู่…..จะดีกว่าหน่อย?”

ใจของฉินซีหงุดหงิดไม่น้อย น้ำเสียงก็ไร้ความหนักเบา เดินไปทางประตูแล้วออกไป “ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก”

พูดจบ ก็ไม่มองสีหน้าของจ้านเซิน เดินออกไปทางด้านนอก

จ้านเซินเดินตามไปสองก้าวด้วยสัญชาตญาณ แต่ก็กำหมัดโดยอธิบายไม่ได้ให้ตนเองหยุดขาลง

…..แผ่นหลังของฉินซีดูเหมือน มีความหมายของความเด็ดขาด

ถ้าตนเดินตามไป เธอน่าจะโกรธหรือเปล่า?

จ้านเซินใช้ชีวิตมานานขนาดนี้ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยสนใจว่าความรู้สึกของผู้อื่นจะเป็นยังไง ตอนนี้กลับตัดสินใจไม่ไล่ตามไปอย่างอธิบายไม่ได้

ถึงอย่างไรก็อยากให้เธอปรับตัวเข้ากับตน จ้านเซินคิด จะดีกว่าถ้าไม่ทำให้เธอโมโห

……

ฉินซีก้าวเดินอย่างรวดเร็ว

เธอเตรียมตัวพร้อมสำหรับจ้านเซินเดินตามออกมา ดังนั้นจึงวางแผนว่าก่อนที่เขาจะออกมาจะกลับไปที่ห้องของตน

หลังจากปิดประตู คงไม่หนังหน้าหนาตามเข้ามาอีกหรอกนะ!

แต่เหนือความคาดหมาย จ้านเซินไม่ได้ตามออกมา

ฉินซีถอนหายใจเบาๆ แต่ก็ยังล็อกประตูห้อง

นั่งลงบนโซฟา เธอยกมือขึ้นจับขมับตนเอง

—-ทำไมจู่ๆเรื่องมันถึงกลายมาเป็นแบบนี้?

เธอรู้ว่าตนเองไม่มีวันที่จะยอมรับการใกล้ชิดระดับใดก็ตามของจ้านเซินได้เด็ดขาด

ไม่ต้องพูดถึงที่เธอมีลู่เซิ่นอยู่แล้ว เพียงแค่คนอย่างจ้านเซิน ก็ทำให้ฉินซียอมรับไม่ได้

แต่ว่า…..ตอนนี้พูดออกมาเป็นแบบนี้ รอบต่อไปเธอควรจะออกสนามอย่างไร?

การปฏิเสธรอบต่อไป ควรจะอยู่ในสถานการณ์ไหนถึงพูดออกมาได้?

ฉินซีรู้สึกปวดหัวทันที มือเอื้อมไปที่โทรศัพท์มือถือ

เธออยากโทรไปหาลู่เซิ่น

แม้ว่าจะไม่พูดอะไร แค่ได้ฟังเสียงของลู่เซิ่น ก็เพียงพอให้เธอสงบลงได้บ้าง

หมายเลขก็กดไปเรียบร้อยแล้ว เธอเงยหน้ามองเวลา ยังคงไม่ได้ต่อสายไป

เธอไม่แน่ใจว่าลู่เซิ่นตอนนี้อยู่ที่ไหน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าโทรไปหาตอนนี้จะรบกวนเขาหรือเปล่า

นอกจากนี้…..พวกเขาสองคนมักจะโทรคุยกันในตอนเช้ากับตอนเย็น ถ้าตอนนี้จู่ๆฉินซีโทรไปหา ลู่เซิ่นจะต้องพบจุดที่ผิดปกติได้แน่นอน

…..ฉินซียังไม่อยากพูดกับลู่เซิ่นเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ไปสักระยะ

ในใจของเธอยังคงสับสน ไม่แน่ใจว่าสามารถอธิบายให้ลู่เซิ่นฟังอย่างชัดเจนได้ไหม

มองไปที่บานประตู ด้านนอกนั่นคือจ้านเซิน

คิ้วของฉินซีขมวดแน่น

หลบอยู่ที่นี่ได้เพียงครู่เดียวไม่อาจหลบไปตลอดได้

รอตนออกไปแล้ว จะจัดแจงคำพูดยังไง?

ฉินซีสับสนขึ้นมาอีกครั้ง

แต่รอได้ไม่นาน ทันใดนั้นก็มีเสียงดังสะท้อนมาจากประตูใหญ่ชั้นล่าง ตามมาด้วยเสียงสตาร์ทรถ

ฉินซีชะงัก ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง

…..รถคันนั้นที่จอดอยู่หน้าประตูค่อยๆขับออกไปที่มุมถนน

จ้านเซินไปแล้ว?

ทำไมเขาถึงจากไปง่ายดายแบบนี้?

ในตอนที่ฉินซีกำลังสงสัย มือถือก็สั่นขึ้นเบาๆ

เธอก้มหน้าลงมอง เป็นข้อความหมายหนึ่งข้อความ

ผู้ส่งคือจ้านเซิน

“ฉันให้เวลาเธอ คิดให้ดีๆ”

เป็นแค่คำไม่กี่คำแท้ๆ แต่ฉินซีกลับแทบจะรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงของจ้านเซินผ่านข้อความนี้

ในตอนนั้นมือของเธอก็กำแน่นทันที ขบฟันแน่นโดยไม่รู้ตัว

ข้อความนี้ของจ้านเซิน ต่างยังไงกับการคุกคาม?

คิ้วของฉินซีขมวดเข้าหากันแน่น สีหน้าจมดิ่ง

……

ถูกจ้านเซินก่อกวนขนาดนี้ จิตใจที่อยากออกไปเดินเล่นของฉินซีก็ไม่มีแล้ว อาหารกลางวันก็กินไปแค่นิดหน่อย ไม่มีความอยากอาหาร

เธอนั่งอยู่ในห้อง อยากที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของตนเอง แต่กลับอดไม่ได้ที่จะคิด—-

ท้ายที่สุดแล้วฉันควรทำยังไง?

ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง ฉินซีกลับได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

คิ้วของเธอกระตุกขึ้นทันที ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง

—-จ้านเซินกลับมาแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท